การกำกับดูแล OTT ในไทยยังขาดความชัดเจน โดย OTT ต่างชาติไม่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเดียวกับบริษัทไทย ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างการควบคุมของ OTT ไทยและต่างชาติ เช่น การควบคุมโฆษณา OTT ไทย เช่น True ID, AIS Play ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของ กสทช. ที่ควบคุมโฆษณา หรือเนื้อหาที่โฆษณา ส่วน OTT ต่างชาติ เช่น Netflix, YouTube ไม่มีข้อบังคับในการควบคุมโฆษณา ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มเหล่านี้มีนำเสนอโฆษณาและสร้างรายได้

แพลตฟอร์ม OTT กลายเป็นภัยคุกคามต่อธุรกิจสื่อดั้งเดิมในไทย เพราะมันเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรายได้ที่เคยได้มาจากโฆษณาและค่าสมาชิก ขณะที่ผู้ประกอบการ OTT ไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงจากบริษัทต่างชาติที่มีทุนมหาศาลและเนื้อหาระดับสากล ซึ่งทำให้ OTT ต่างชาติมีข้อได้เปรียบในหลายด้าน เช่น งบประมาณในการลงทุน  ขนาดของตลาด ง และการไม่ต้องเผชิญกับข้อบังคับทางกฎหมายในประเทศไทย

หลายๆช่องทางก็มีข้อเสนอในการแก้ไขปัญหานี้คือ:
- กำหนดกฎเกณฑ์ที่เป็นธรรมในการกำกับดูแล OTT ทั้งในและต่างประเทศ เช่น การให้ OTT ต่างชาติที่ทำเงินในไทยต้องเสียภาษีและปฏิบัติตามกฎเดียวกับ OTT ไทย
- ส่งเสริมการสนับสนุน OTT ไทย เช่น การให้เงินสนับสนุนหรือการลดภาษี เพื่อช่วยเรื่องการแข่งขัน
- สร้างมาตรฐานในการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น การจัดประเภทเนื้อหาและการควบคุมโฆษณา
- ส่งเสริมการลงทุนจาก OTT ต่างชาติในอุตสาหกรรมสื่อไทย เพื่อพัฒนาเนื้อหาท้องถิ่น

ต้องดูกันต่อไปกับการกำกับดูแล OTT ที่ควรสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมการเติบโตของ OTT ไทย และการควบคุม OTT ต่างชาติอย่างเป็นธรรม
เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมสื่อไทยและสร้างโอกาสใหม่ในยุคดิจิทัล และจะมีประโยชน์กับผู้ทำสื่อ และคนดูต่อไปในอนาคต

บทสัมภาษณ์จาก : https://web.facebook.com/watch/?v=3901025606825175