เนื่องจากวันนี้แต่งตัว หน้า ผม พร้อมไปงานแต่งงานเพื่อน แต่ว่า...ผิดวัน เพื่อนแต่งพรุ่งนี้
และด้วยความที่อยากทานลาซานญ่าขึ้นมาซะงั้น คุณสามีเลยแนะนำร้านไม่ไกลจากโรงแรม ที่เคยมีคนแนะนำมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยลอง
ร้าน Chilli La Roni เป็นร้านอิตาเลี่ยน บรรยากาศ out door สบาย ๆ ร่มรื่น (ไปถึง 6 โมงกว่า ๆ) อากาศวันนี้ไม่ร้อน นั่งชิว ๆ เลย
ที่จอดรถหน้าร้านได้ประมาณหนึ่งค่ะ ก็พอเพียงในช่วงหัวค่ำ
เดินเข้าร้านปุ๊บ ก็มีหนุ่มหน้ามนมาถามเลยว่า
Good evening mam
เราก็นิ่งไปนิด แต่ก็ตอบไปงาม ๆ
table for 2 please
สนทนากันพองาม ก่อนจะถูกพาไปนั่งข้างห้องไวน์ตามภาพด้านล่างค่ะ
(มีพนักงานเสริฟทั้งภาคภาษาไทยมารับออเดอร์ค่ะ)
ห้องเก็บไวน์ค่ะ เราได้นั่งตรงนี้พอดี โต๊ะเล็ก ๆ มุมสงบ ๆ สำหรับสองคน (สามชีวิต รวมเบบี๋ในท้องด้วย)
หลังจากนั่งดูเมนูซักพัก โน่นนี่นั่น ล้วนน่าทานจัดไป (ไม่น่าเชื่อว่ามากันแค่ 2 คน)
รออาหารไม่นาน Complementary จากทางร้านมาถึงก่อนเลย
ขนมปังกรอบกำลังดี ไม่แข็งเลย มีสองรส แต่เราชอบอันที่เหมือนโฮลวีทมากกว่า ไม่ต้องใส่ซอสก็อร่อยแล้ว แต่แนะนำว่า balsamic กับ น้ำมันมะกอกก็หอม นุ่ม ลองเหยาะดูก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ
ตามมาติด ๆ ด้วย Bruschetta ขนมปังไม่ได้ทำให้ฟินไปกว่าเดิม เพราะประทับใจจานแรกไปแล้ว
มาพร้อมกับซอส 3 แบบ
มะเขือเทศ basil - หอม ๆ เบา ๆ รู้สึกสดชื่นดีจริง ๆ (ขอเรียก basil เพราะมันไม่เหมือนโหรพาแถวบ้าน แต่เหมือนเวลาไปกินกะเพราร้านไทย เมืองนอกมากกว่า)
ตามด้วยกระเทียมย่างทั้งหัว ชุ่มมาในน้ำมันมะกอก - นุ่ม หอม สุกกำลังดี ติดที่เบบี๋ไม่ชอบผักมีกลิ่น จัดไปได้แค่กลีบเดียว ที่เหลือสามีจัดเรียบ
ซอสที่สามเป็นผักรวม ซูมชัด ๆ ตามภาพด้านล่าง อารมณ์เบา ๆ หอมอ่อน ๆ
ของเบา ๆ เริ่มทำให้หายหิว main ก็เริ่มทยอยมาอย่างรวดเร็ว (เร็วมาก เพราะ entrée ยังไม่หมด main มา โต๊ะเล็ก ๆ ของเราก็เต็มเลยทีเดียว)
ตามมาด้วย Ravioli ไส้เห็ด ราดด้วยซอสครีมชีส
ชิ้นใหญ่มาก เอาจริง ๆ ชอบชิ้นเล็กมากกว่า แต่ต้องยอมรับว่าไส้เห็ด (สด) อร่อยมาก
เครื่องปรุงสดจริง ๆ ยังหอมกลิ่นเห็ดอ่อน ๆ ช่วยให้ครีมข้น ๆ (หอม มัน นุ่ม ไม่เลี่ยนเลย) กลมกล่อมขึ้นมาอีกได้
ไส้กรอกรวมจานยักษ์ เป็นจานต่อมา
เสริฟคู่กับมันบด ผักดอง และซอสมัสตาร์ด
ไส้กรอกอร่อยมากทุกชิ้น แต่ชนะเลิศขอยกให้ไส้กรอกชีส (ชิ้นเล็ก ๆ สั้น ๆ ที่ตั้งอยู่) นุ่ม หอม
ทุกชิ้นได้กลิ่นหอมจากการย่างอ่อน ๆ ทำให้ไส้กรอกที่นุ่ม ๆ หนับ ๆ อยู่แล้ว ครบรสมากขึ้น
มันบดเนียนนุ่มมาก ผักดองพอใช้ได้ (ถ้าคนชอบพริกไทยดำ น่าจะชอบกว่า เพราะมาเป็นเม็ด)
ซอสมัสตาร์ดหอม นุ่ม อร่อยมาก แต่ด้วยความที่ไส้กรอกรสชาติดีอยู่แล้ว เลยแทบไม่ได้จิ้มเลย
พิซซ่า signature ของร้าน (ตอนแรกจะสั่งลาซานญ่า แต่ถาดนี้ทำให้เปลี่ยนใจ และอดลาซานญ่าไป)
แป้งบาง กรอบ หอมเตาถ่าน ทุกอย่างลงตัวมาก
ชีส กับซอส เข้ากันมาก ค่อนข้างรสจัด (เหมาะกับคนชอบทานเผ็ด)
แฮมบาง ๆ ที่ใส่มา หอม นุ่ม ลงตัวมาก ทำให้คุณชายจัดพิซซาสถาดใหญ่ 8 ชิ้น ไม่มีเหลือเลย (เราทานไป 2 ชิ้น)
ตอนแรกขอตะกร้าซอสมาด้วย เพราะเป็นคนติด ออริกาโน่ เวลาทานพิซซ่า แล้วถ้าเลี่ยนต้องใส่พริกป่นตลอด
แต่ถาดนี้ ทำให้ลืมตะกร้าซอสไปเลย ไม่ได้ใส่อะไรเลย เพราะทำมาลงตัวดีอยู่แล้ว
ตอนแรกว่าจะสั่งเค้กมาตบท้าย แต่วันนี้ ทีรามิทซุ หมด เลยไม่ได้ลอง
คุณแฟนเลยสั่ง อเมริกาโน่เย็นมาตบท้าย ไม่ผิดหวังเลยค่ะ คุณชายปลื้มปริ่มว่าหอม ขม กำลังดี
ขอปิดท้ายด้วยบรรยากาศร้านชิว ๆ กับครัวเปิด (มีกระจกใสกั้น) เห็นเชฟทำอาหารอย่างขันแข็ง ตามด้วยเตาถ่านอบพิซซ่า
พระเอกของงานที่ทำให้ทั้งพิซซ่า ขนมปัง มันช่างหอมหวนยิ่งนัก
[CR] Chilli La Roni อิตาเลียนอร่อยที่ไม่ได้ฟินแบบนี้มานาน
และด้วยความที่อยากทานลาซานญ่าขึ้นมาซะงั้น คุณสามีเลยแนะนำร้านไม่ไกลจากโรงแรม ที่เคยมีคนแนะนำมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยลอง
ร้าน Chilli La Roni เป็นร้านอิตาเลี่ยน บรรยากาศ out door สบาย ๆ ร่มรื่น (ไปถึง 6 โมงกว่า ๆ) อากาศวันนี้ไม่ร้อน นั่งชิว ๆ เลย
ที่จอดรถหน้าร้านได้ประมาณหนึ่งค่ะ ก็พอเพียงในช่วงหัวค่ำ
เดินเข้าร้านปุ๊บ ก็มีหนุ่มหน้ามนมาถามเลยว่า
Good evening mam
เราก็นิ่งไปนิด แต่ก็ตอบไปงาม ๆ
table for 2 please
สนทนากันพองาม ก่อนจะถูกพาไปนั่งข้างห้องไวน์ตามภาพด้านล่างค่ะ
(มีพนักงานเสริฟทั้งภาคภาษาไทยมารับออเดอร์ค่ะ)
ห้องเก็บไวน์ค่ะ เราได้นั่งตรงนี้พอดี โต๊ะเล็ก ๆ มุมสงบ ๆ สำหรับสองคน (สามชีวิต รวมเบบี๋ในท้องด้วย)
หลังจากนั่งดูเมนูซักพัก โน่นนี่นั่น ล้วนน่าทานจัดไป (ไม่น่าเชื่อว่ามากันแค่ 2 คน)
รออาหารไม่นาน Complementary จากทางร้านมาถึงก่อนเลย
ขนมปังกรอบกำลังดี ไม่แข็งเลย มีสองรส แต่เราชอบอันที่เหมือนโฮลวีทมากกว่า ไม่ต้องใส่ซอสก็อร่อยแล้ว แต่แนะนำว่า balsamic กับ น้ำมันมะกอกก็หอม นุ่ม ลองเหยาะดูก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ
ตามมาติด ๆ ด้วย Bruschetta ขนมปังไม่ได้ทำให้ฟินไปกว่าเดิม เพราะประทับใจจานแรกไปแล้ว
มาพร้อมกับซอส 3 แบบ
มะเขือเทศ basil - หอม ๆ เบา ๆ รู้สึกสดชื่นดีจริง ๆ (ขอเรียก basil เพราะมันไม่เหมือนโหรพาแถวบ้าน แต่เหมือนเวลาไปกินกะเพราร้านไทย เมืองนอกมากกว่า)
ตามด้วยกระเทียมย่างทั้งหัว ชุ่มมาในน้ำมันมะกอก - นุ่ม หอม สุกกำลังดี ติดที่เบบี๋ไม่ชอบผักมีกลิ่น จัดไปได้แค่กลีบเดียว ที่เหลือสามีจัดเรียบ
ซอสที่สามเป็นผักรวม ซูมชัด ๆ ตามภาพด้านล่าง อารมณ์เบา ๆ หอมอ่อน ๆ
ของเบา ๆ เริ่มทำให้หายหิว main ก็เริ่มทยอยมาอย่างรวดเร็ว (เร็วมาก เพราะ entrée ยังไม่หมด main มา โต๊ะเล็ก ๆ ของเราก็เต็มเลยทีเดียว)
ตามมาด้วย Ravioli ไส้เห็ด ราดด้วยซอสครีมชีส
ชิ้นใหญ่มาก เอาจริง ๆ ชอบชิ้นเล็กมากกว่า แต่ต้องยอมรับว่าไส้เห็ด (สด) อร่อยมาก
เครื่องปรุงสดจริง ๆ ยังหอมกลิ่นเห็ดอ่อน ๆ ช่วยให้ครีมข้น ๆ (หอม มัน นุ่ม ไม่เลี่ยนเลย) กลมกล่อมขึ้นมาอีกได้
ไส้กรอกรวมจานยักษ์ เป็นจานต่อมา
เสริฟคู่กับมันบด ผักดอง และซอสมัสตาร์ด
ไส้กรอกอร่อยมากทุกชิ้น แต่ชนะเลิศขอยกให้ไส้กรอกชีส (ชิ้นเล็ก ๆ สั้น ๆ ที่ตั้งอยู่) นุ่ม หอม
ทุกชิ้นได้กลิ่นหอมจากการย่างอ่อน ๆ ทำให้ไส้กรอกที่นุ่ม ๆ หนับ ๆ อยู่แล้ว ครบรสมากขึ้น
มันบดเนียนนุ่มมาก ผักดองพอใช้ได้ (ถ้าคนชอบพริกไทยดำ น่าจะชอบกว่า เพราะมาเป็นเม็ด)
ซอสมัสตาร์ดหอม นุ่ม อร่อยมาก แต่ด้วยความที่ไส้กรอกรสชาติดีอยู่แล้ว เลยแทบไม่ได้จิ้มเลย
พิซซ่า signature ของร้าน (ตอนแรกจะสั่งลาซานญ่า แต่ถาดนี้ทำให้เปลี่ยนใจ และอดลาซานญ่าไป)
แป้งบาง กรอบ หอมเตาถ่าน ทุกอย่างลงตัวมาก
ชีส กับซอส เข้ากันมาก ค่อนข้างรสจัด (เหมาะกับคนชอบทานเผ็ด)
แฮมบาง ๆ ที่ใส่มา หอม นุ่ม ลงตัวมาก ทำให้คุณชายจัดพิซซาสถาดใหญ่ 8 ชิ้น ไม่มีเหลือเลย (เราทานไป 2 ชิ้น)
ตอนแรกขอตะกร้าซอสมาด้วย เพราะเป็นคนติด ออริกาโน่ เวลาทานพิซซ่า แล้วถ้าเลี่ยนต้องใส่พริกป่นตลอด
แต่ถาดนี้ ทำให้ลืมตะกร้าซอสไปเลย ไม่ได้ใส่อะไรเลย เพราะทำมาลงตัวดีอยู่แล้ว
ตอนแรกว่าจะสั่งเค้กมาตบท้าย แต่วันนี้ ทีรามิทซุ หมด เลยไม่ได้ลอง
คุณแฟนเลยสั่ง อเมริกาโน่เย็นมาตบท้าย ไม่ผิดหวังเลยค่ะ คุณชายปลื้มปริ่มว่าหอม ขม กำลังดี
ขอปิดท้ายด้วยบรรยากาศร้านชิว ๆ กับครัวเปิด (มีกระจกใสกั้น) เห็นเชฟทำอาหารอย่างขันแข็ง ตามด้วยเตาถ่านอบพิซซ่า
พระเอกของงานที่ทำให้ทั้งพิซซ่า ขนมปัง มันช่างหอมหวนยิ่งนัก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น