สวัสดีครับ  
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณข้อมูลต่างๆใน pantip ที่คอยช่วยเหลือผมในทุกๆทริปที่ผ่านมา วันนี้มีโอกาสเลยจะมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวของอเมริกาครับ ส่วนใหญ่ผมก็หาข้อมูลใน pantip นี่แหละครับ แต่ที่พบส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ทำงานแล้ว มีรายได้แล้ว ยังไม่ค่อยเห็นมีของนักศึกษาซักเท่าไหร่ครับ เลยคิดว่ากระทู้นี้อาจจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆนักศึกษาที่อยากขอวีซ่าท่องเที่ยวไปอเมริกาครับ อ่อๆผมเรียนปริญญาโทนะครับ แต่คิดว่าเรียนระดับชั้นไหนหลักการน่าจะเหมือนๆกันครับ

เรื่มจาก เช็คความพร้อมของ passport ก่อนนะครับมีวันเหลือก่อนหมดอยู่อย่างน้อย 6 เดือน จากนั้นก็ถ่ายรูปครับ วีซ่าอเมริกาใช้รูปเป็น 2x2 นิ้วนะครับ พื้นหลังสีขาวครับ ซึ่งรูปถ่ายเนี่ยเค้าใช้เป็นไฟล์นะครับ ผมก็เลยถ่ายเองโดยดูรูปแบบจากในเว็ปของสถานทูตเลยครับว่าให้อัตราส่วนของหน้าเราเท่าไหร่ในรูป (รูปเค้าให้แค่ปรับแสงกับความคมชัดนะครับ ไม่ให้รีทัชภาพครับ แล้วก็ต้องไม่เกิน 6 เดือนนะครับ)

เมื่อเตรียมไฟล์รูปถ่ายแล้ว ที่นี่ก็เข้าไปกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ทางเว็ปไซต์ของสถานทูตครับ (มีคนรีวิวไว้เยอะแล้วลองหาดูนะครับ)

ขั้นตอนสุดท้ายของการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 จะเป็นการอัพโหลไฟล์รูปที่เราเตรียมไว้ แต่ผมอัพไม่ได้ พยายามแก้ไขหลายครั้งแล้วก็ยังอัพไม่ได้ เลยตัดสินใจเอารูปไปอัดที่ร้านแทนครับ แล้วเตรียมไปยื่นที่สถานทูตเอาเลยก็ได้ครับ ผมก็ยื่นได้ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ

จากนั้นก็จ่ายเงินค่าวีซ่าครับ โดยปริ้นเอกสารจากในเว็ปไซต์แหละครับ (ต้อง log in เข้าไปนะครับ รู้สึกว่าต้องใช้เลขจาก DS-160 มาลงทะเบียนนะครับ)

เมื่อได้ใบสั่งจ่ายเงินก็ให้นำไปจ่ายที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยานะครับ (ค่าวีซ่า 5,280 บาทครับ) อ่อๆต้องเก็บใบเสร็จไปยื่นวันสัมภาษณ์ด้วยนะครับ

หลังจากนั้นวันถัดมาจะมีอีเมลส่งมาบอกครับว่าเราสามารถเข้าไปนัดสัมภาษณ์ได้แล้ว โดยนำเลขจากใบจ่ายเงินไปกรอกนะครับ แล้วก็จองวัน-เวลายื่นขอวีซ่าได้ตามสะดวกเลยครับ แนะนำยื่นรอบเช้าสุดเลยก็ดีครับ เพราะคนจะเยอะมากกว่าจะถึงคิวเรา

มาถึงวันยื่นขอวีซ่าเลยละกันนะครับ ผมจองเวลา 7.00 โมงเช้าไว้ครับ โดยผมเดินทางไปลง BTS เพลินจิต ออก Exit2 เดินมานิดนึงจะเจอสี่แยกที่มีถนนวิทยุ ก็ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆเลยครับ ไกลนิดนึงนะครับเดินน่าจะซัก 10 นาที หรือเพื่อนคนไหนอยากนั่งวินมอเตอร์ไซต์จากบีทีเอสก็ได้นะครับ

เมื่อเดินไปถึงสถานทูตก็จะมีคนเข้าแถวอยู่แล้วก็ต่อแถวได้เลยนะครับ (ผมไปถึง 6.30 ก็คนยืนกันเต็มแล้วครับ) พอเวลาใกลืๆ 7 โมง เจ้าหน้าที่ก็จะเดินบอกว่าห้ามนำอะไรเข้าบ้าง มีตลาดใกล้ๆให้ฝากของ (เค้ารับฝากโทรศัพท์มือถือแค่เครื่องเดียวนะครับ อย่าเผลอพกไปหลายเครื่องล่ะครับ ฝากโดยใช้บัตรประชาชนนะครับ) จากนั้นก็สแกนกระเป๋าครับ เอาของทุกอย่างที่ติดตัวสแกนหมดนะครับ แล้วตัวเราก็เดินผ่านเครื่องสแกนครับ(ตอนเดินผ่านเครื่องต้องรอเจ้าหน้าที่บอกให้เดินแล้วค่อยเดินผ่านนะครับ) เมื่อผ่านแล้วก็หยิบของที่ผ่านการสแกนแล้วผลักประตูเข้าไปเลยครับ

เดินเข้าไปก็จะเจอแถวเพื่อให้เจ้าหน้าที่เช็คเอกสารเราก็ไปต่อแถวครับ (ยืนรอหลังเส้นเหลืองนะครับ) เจ้าหน้าที่เค้าจะขอดูแค่ใบ confirmation, ใบเสร็จ, รูปถ่าย (ในกรณีอัพรูปไม่ได้) และ เอกสารรับรองการเป็นนักศึกษา แค่นี้ครับ แล้วก็จะนำเอกสารเหล่านี้ใส่แฟ้มใสๆให้เราถือเดินเข้าไปข้างในครับ (เจ้าหน้าที่เค้าจะให้เราจดเลขไปรษณีย์ไว้ด้วยนะครับ จะได้เอาไว้เช็คทางเว็ปไปรษณีย์ไทยว่าพัสดุเราส่งถึงไหนแล้ว)

ที่นี่ก็เข้ามาสู่ข้างในแล้วละครับ ด่านแรกจะเป็นเหมือนถามข้อมูลทั้งหมดของการเดินทางครับ เจอเจ้าหน้าที่คนไทยนะครับ ถามค่อนข้างละเอียดนิดนึง คำถามก็จะมี
- ชื่อคุณอะไรครับ? (ผมก็บอกชื่อและนามสกุลไปครับ)
- เคยมีวีซ่าอเมริกาไหม? (ไม่มีครับ)
- ไปคนเดียวเหรอ? (ครับ)
- มีญาติอยู่ที่นู้นไหม (ไม่มีครับ)
- ไปเมืองอะไร? ไปกี่วัน? (ไป New York 10 วันครับ)
- รูปถ่ายเดี๋ยวจะสแกนให้นะ ถ่ายเมื่อไหร่? เกินหกเดือนไหม? (เพิ่งถ่ายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วครับ ขอบคุณครับ)
- สแกนนิ้วนะครับ สี่นิ้วข้างซ้าย ข้างขวา และนิ่วโป้งสองข้าง
- เรียบร้อยแล้วครับ นั้งรอเรียกตามคิวนะครับ โชคดีนะครับ

ของผมโดนแค่นี้ครับ ซึ่งถ้าเทียบกับคนก่อนหน้านี้ถือว่าไม่เยอะครับ

จากนั้นก็นั่งรอคิวครับ พอถึงคิวก็ไปเข้าแถวครับ ด่านนี้จะเป็นเจ้าหน้าที่ต่างชาติครับ เราก็ยื่นเอกสารให้เค้า แล้วเค้าก็จะให้เราสแกนนิ้วอีกที แต่อันนี้สแกนแค่สี่นิ้วข้างซ้าย กับขวาครับ จากนั้นก็ไปนั่งรออีกทีครับ

มาถึงด่านสุดท้ายเป็นการสัมภาษณ์ เมื่อถึงคิวที่เค้าเรียกก็ไปเข้าแถวครับ ระหว่างเข้าแถวเราก็จะเห็นเจ้าหน้าที่กะลังสัมภาษณ์กันอยู่ บางคนพูดไทย บางคนพูดอังกฤษครับ วันที่ผมไปคนสัมภาษณ์เป็นผู้ชายหมดเลยนะครับ ผมก็เข้าแถวไปเรื่อยๆ จนคิวก่อนถึงผมเป็นสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง เค้าโดนปฎิเสธวีซ่าครับ เจ้าหน่าที่ก็ขอโทษเค้าด้วยนะ บอกว่าให้ไม่ได้จริงๆ หลักฐานคุณไม่พอจริงๆ ไว้ไปเตรียมหลักฐานมาใหม่ ผมพร้อมจะให้คุณผ่านอยู่แล้ว แล้วก็ยกมือขอโทษใหญ่เลย ที่นี่ก็ถึงคิวผมซึ่งสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนนี้นี่แหละครับ พอยื่นเอกสารพร้อมทักทายสวัสดีครับ เค้าก็ถามเป็นภาษาไทยว่า
ชื่ออะไรครับ, ไปคนเดียวเหรอ, ไปเมืองอะไร, ไปกี่วัน แล้วก็คุณเรียนหนังสืออยู่ใช่ไหมครับ...ผมก็ตอบไปตอบจริงทั้งหมด เสร็จปุ๊บเค้าก็บอกว่า วีซ่าผ่านแล้ว รออีกสามวัน passport จะส่งกลับไปให้นะครับ...

แค่นี้เองครับ ผมคุยไม่ถึง 1 นาที เร็วมาก เร็วจนงงเลย ไม่ขอดูเอกสารเลย ทั้งๆที่ผมเตรียมเอกสารไปเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น เอกสารสปอร์นเซอร์ที่พ่อกับแม่เป็นคนออกค่าใช้จ่าย, statement, แผนการท่องเที่ยวคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ

เสร็จแล้วก็กลับบ้านได้เลย ผมรอแค่สองวันเองได้ passport คืนแล้วครับ ได้มา 10 ปีด้วย เย้ๆๆ

จบแล้วครับ ที่อยากจะบอกก็คือเพื่อนๆไม่ต้องตื่นเต้น ตอบตามจริงทั้งหมดครับ โดยเฉพาะแบบฟอร์ม DS-160 แล้วก็ตอนสัมภาษณ์ด้วย และที่สำคัญที่สุดคือเอกสารการรับรองการเป็นนักศึกษาครับ สำคัญมากกกกกก ต้องเตรียมไปนะครับ

ขอให้ทุกคนโชคดีนะครับ มีอะไรก็สอบถามผมได้นะครับ ตอนนี้ผมกะลังจะจองตั๋วเครื่องบิน ที่พักแล้วครับ เพราะรอให้ได้ Visa ก่อนจะได้สบายใจ

ขอบคุณมากครับ อาจจะเขียนเยอะหน่อยนะครับ เพราะเป็นครั้งแรกของการเขียนกระทู้ครับ


สวัสดีครับ