เหตุเกิดที่กระทรวงต่างประเทศค่ะ ต้องการให้กระทรวงรับรองเอกสารทะเบียนสมรส ที่แปลเป็นไทย มาจากภาษาอังกฤษ ที่แปลมาจากจีนไต้หวันอีกทีหนึ่ง
โดยเอกสารทะเบียนสมรสฉบับภาษาอังกฤษ ผ่านการรับรองลงนามสลักหลังและประทับตราที่ไต้หวันมาแล้ว สี่จุดคือ เขตทางการไต้หวันผู้ออกเอกสารต้นฉบับภาษาจีน บริษัทที่ทำการแปล กระทรวงต่างประเทศแห่งไต้หวัน และ สถานทูตไทยประจำต่างประเทศ โดยได้ฉลุเลขโค้ดเดียวกันที่เอกสารฉบับจีนและอังกฤษไว้ ให้รู้ว่าเป็นฉบับที่แปลกันมา (เหมือนสมุดธนาคารหรือทะเบียนบ้าน)
คือทั้งหมดสี่จุดนั้น ก็ใช้เงิน และ ใช้เวลาไปจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว
จขกทได้ยื่นเอกสารทั้งหมดที่กระทรวง ได้บัตรคิวแต่เจอขรก.คุณป้าแก่ๆ สกัดดาวรุ่ง ณ จุดแรกเลย
ขรก. เอ๊ะ ต้นฉบับภาษาจีนไม่เห็นมีใครรับรองมาเลย จะรู้ได้ไงว่าภาษาอังกฤษนี้ แปลมาจากภาษาจีนอันนี้
เรา นี่ไงคะ เค้าฉลุตัวเลขเดียวกัน แล้วที่ภาษาอังกฤษเค้าก็รับรองแล้ว ที่ต้นฉบับจีนก็มีประทับตราเขต ต่อให้ไม่มีฉบับภาษาจีนก็ยังไม่เป็นไรเลย ก็อ่านภาษาอังกฤษเลย เพราะเขารับรองที่ฉบับภาษาอังกฤษแล้วไง
ขรก. ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ คุณต้องเอาฉบับภาษาจีนนะ กลับไปที่กงสุลไปให้เค้าทำการรับรองประทับตราให้รู้ว่าว่ามันแปลมาจากอันนี้น่ะค่ะ
เราก็ภาวะจำยอม อ๊ะ เอากลับไปที่กงสุลอีกรอบก็ได้ ที่กงสุลไต้หวันก็งง ว่าทำไมใช้ไม่ได้ แถมยังให้เราเขียนข้อความยืนยันอีกว่า "แม้ว่ากระทรวงต่างประเทศและสถานทูตจะรับรองแล้ว ก็ยังต้องการจะให้รับรองอีก" แล้วกงสุลก็ได้ลงนามสลักหลังประทับตราที่ฉบับภาษาอังกฤษเพิ่มเข้าไปอีกจนเต็มแผ่นหลังเลย พร้อมกับเอาเอกสารฉบับภาษาจีนกะอังกฤษซ้อนให้เหลื่อมกัน แล้วประทับตราลงไปให้ต่อเนื่องกันให้รู้ว่าเกี่ยวข้องกัน ประมาณนั้น ซึ่งตรงนี้ก็เสียเวลาไปสองวันและเงินอีกจำนวนหนึ่ง
จากนั้นกลับไปเจอ ขรก.คุณป้าสกัดที่จุดเดิมอีกครั้ง
ขรก. ไม่ได้นะคะ ประทับตราตรงนี้ไม่ได้ค่ะ นี่ค่ะ ต้องเอาเอกสารซ้อนกันพับที่หัวมุมแล้วประทับตราค่ะ แล้วปิดสก๊อตเทป กลับไปให้กงสุลทำใหม่นะคะ
เรา. กงสุลเค้าบอกว่า สากลเขาก็ทำกันแบบนี้ก็ใช้ได้แล้ว
ขรก. งั้นเอากระดาษอะไรมาใส่ก็ได้สิคะ แล้วเราก็อ่านไม่ออกหรอกภาษาจีนน่ะ คุณก็ต้องพับมุมหัวกระดาษปิดแล้วตีตราให้เรียบร้อย แค่แม็กติดกันมาไม่ได้หรอก
เรา ก็ภาษาจีนคุณก็ไม่ได้อ่านอยู่ดี และฉบับภาษาอังกฤษที่เขารับรองมาตั้งหลายคนและฉลุเลขไว้แล้วประทับตราข้างๆ น่ะ มันยังใช้ไม่ได้อีกเหรอ
ขรก. ไม่ได้ค่ะ มันเป็นระเบียบ
ก็ทั้งคุยทั้งขอกันอยู่นาน เขาก็อ้างอย่างเดียวว่าไม่ได้ เป็นระเบียบ จนเราก็ต้องเดินออกจากห้องไป
คือแบบว่าเข้าใจนะ ว่าเขาคงคิดว่าจะรู้ได้ไงว่าต้นฉบับภาษาจีนที่ถูกต้อง แต่ตรงนี้คนอืนสี่ห้าจุดที่รับรองผ่านมาต่างหากที่รับผิดชอบจากจีนเป็นอังกฤษโดยตรง ซึ่งเขายังไม่ได้กลัวเลยว่าถ้าไม่ได้พับมุมกระดาษซ้อนกันแล้วเอาสก็อตเทปแปะไว้ ประชาชนจะเอาเอกสารอื่นที่ไม่ตรงกันไปใช้ ซึ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของคุณคือการรับรองจากอังกฤษมาไทยตะหาก
*************************************เพิ่มเติม
ผลสุดท้าย น่าขำมากเลยค่ะ
คือเราก็ยอมเสียเวลากลับไปที่กงสุลไต้หวันอีกครั้ง เพื่อทำตามที่คุณป้า ขรก. แจ้ง
เจ้าหน้าที่ที่โน่น งง สงสัย ตกใจ กันมากว่า ทั้งหลายทั้งปวงที่ผ่านมายังใช้ไม่ได้อีกเหรอ
และถึงกับทนไม่ไหว ยกหูโทรศัพท์หาใครไม่รู้
แล้วมาบอกกับเราว่า คุณไม่ต้องทำอะไรแล้ว กลับไปที่โน่นอีกครั้ง คราวนี้เค้าจะทำให้คุณอย่างเรียบร้อย
แล้วพอเรากลับไปยื่นที่กงสุลไทยอีกครั้ง คราวนี้ราบรื่น เสร็จภายใน บ่ายสองโมงครึ่งของวันเดียวกัน (อย่างด่วนเลย)
ปล. เจ้าหน้าของไต้หวันเขาบริการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนสมเป็นข้าราชการจริงๆ เลย ยกนิ้วให้เลย
ใครเคยพบบริการจากภาครัฐ ที่ตรรกะป่วยๆ สมควรปรับปรุงบ้าง มาแชร์กัน
โดยเอกสารทะเบียนสมรสฉบับภาษาอังกฤษ ผ่านการรับรองลงนามสลักหลังและประทับตราที่ไต้หวันมาแล้ว สี่จุดคือ เขตทางการไต้หวันผู้ออกเอกสารต้นฉบับภาษาจีน บริษัทที่ทำการแปล กระทรวงต่างประเทศแห่งไต้หวัน และ สถานทูตไทยประจำต่างประเทศ โดยได้ฉลุเลขโค้ดเดียวกันที่เอกสารฉบับจีนและอังกฤษไว้ ให้รู้ว่าเป็นฉบับที่แปลกันมา (เหมือนสมุดธนาคารหรือทะเบียนบ้าน)
คือทั้งหมดสี่จุดนั้น ก็ใช้เงิน และ ใช้เวลาไปจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว
จขกทได้ยื่นเอกสารทั้งหมดที่กระทรวง ได้บัตรคิวแต่เจอขรก.คุณป้าแก่ๆ สกัดดาวรุ่ง ณ จุดแรกเลย
ขรก. เอ๊ะ ต้นฉบับภาษาจีนไม่เห็นมีใครรับรองมาเลย จะรู้ได้ไงว่าภาษาอังกฤษนี้ แปลมาจากภาษาจีนอันนี้
เรา นี่ไงคะ เค้าฉลุตัวเลขเดียวกัน แล้วที่ภาษาอังกฤษเค้าก็รับรองแล้ว ที่ต้นฉบับจีนก็มีประทับตราเขต ต่อให้ไม่มีฉบับภาษาจีนก็ยังไม่เป็นไรเลย ก็อ่านภาษาอังกฤษเลย เพราะเขารับรองที่ฉบับภาษาอังกฤษแล้วไง
ขรก. ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ คุณต้องเอาฉบับภาษาจีนนะ กลับไปที่กงสุลไปให้เค้าทำการรับรองประทับตราให้รู้ว่าว่ามันแปลมาจากอันนี้น่ะค่ะ
เราก็ภาวะจำยอม อ๊ะ เอากลับไปที่กงสุลอีกรอบก็ได้ ที่กงสุลไต้หวันก็งง ว่าทำไมใช้ไม่ได้ แถมยังให้เราเขียนข้อความยืนยันอีกว่า "แม้ว่ากระทรวงต่างประเทศและสถานทูตจะรับรองแล้ว ก็ยังต้องการจะให้รับรองอีก" แล้วกงสุลก็ได้ลงนามสลักหลังประทับตราที่ฉบับภาษาอังกฤษเพิ่มเข้าไปอีกจนเต็มแผ่นหลังเลย พร้อมกับเอาเอกสารฉบับภาษาจีนกะอังกฤษซ้อนให้เหลื่อมกัน แล้วประทับตราลงไปให้ต่อเนื่องกันให้รู้ว่าเกี่ยวข้องกัน ประมาณนั้น ซึ่งตรงนี้ก็เสียเวลาไปสองวันและเงินอีกจำนวนหนึ่ง
จากนั้นกลับไปเจอ ขรก.คุณป้าสกัดที่จุดเดิมอีกครั้ง
ขรก. ไม่ได้นะคะ ประทับตราตรงนี้ไม่ได้ค่ะ นี่ค่ะ ต้องเอาเอกสารซ้อนกันพับที่หัวมุมแล้วประทับตราค่ะ แล้วปิดสก๊อตเทป กลับไปให้กงสุลทำใหม่นะคะ
เรา. กงสุลเค้าบอกว่า สากลเขาก็ทำกันแบบนี้ก็ใช้ได้แล้ว
ขรก. งั้นเอากระดาษอะไรมาใส่ก็ได้สิคะ แล้วเราก็อ่านไม่ออกหรอกภาษาจีนน่ะ คุณก็ต้องพับมุมหัวกระดาษปิดแล้วตีตราให้เรียบร้อย แค่แม็กติดกันมาไม่ได้หรอก
เรา ก็ภาษาจีนคุณก็ไม่ได้อ่านอยู่ดี และฉบับภาษาอังกฤษที่เขารับรองมาตั้งหลายคนและฉลุเลขไว้แล้วประทับตราข้างๆ น่ะ มันยังใช้ไม่ได้อีกเหรอ
ขรก. ไม่ได้ค่ะ มันเป็นระเบียบ
ก็ทั้งคุยทั้งขอกันอยู่นาน เขาก็อ้างอย่างเดียวว่าไม่ได้ เป็นระเบียบ จนเราก็ต้องเดินออกจากห้องไป
คือแบบว่าเข้าใจนะ ว่าเขาคงคิดว่าจะรู้ได้ไงว่าต้นฉบับภาษาจีนที่ถูกต้อง แต่ตรงนี้คนอืนสี่ห้าจุดที่รับรองผ่านมาต่างหากที่รับผิดชอบจากจีนเป็นอังกฤษโดยตรง ซึ่งเขายังไม่ได้กลัวเลยว่าถ้าไม่ได้พับมุมกระดาษซ้อนกันแล้วเอาสก็อตเทปแปะไว้ ประชาชนจะเอาเอกสารอื่นที่ไม่ตรงกันไปใช้ ซึ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของคุณคือการรับรองจากอังกฤษมาไทยตะหาก
*************************************เพิ่มเติม
ผลสุดท้าย น่าขำมากเลยค่ะ
คือเราก็ยอมเสียเวลากลับไปที่กงสุลไต้หวันอีกครั้ง เพื่อทำตามที่คุณป้า ขรก. แจ้ง
เจ้าหน้าที่ที่โน่น งง สงสัย ตกใจ กันมากว่า ทั้งหลายทั้งปวงที่ผ่านมายังใช้ไม่ได้อีกเหรอ
และถึงกับทนไม่ไหว ยกหูโทรศัพท์หาใครไม่รู้
แล้วมาบอกกับเราว่า คุณไม่ต้องทำอะไรแล้ว กลับไปที่โน่นอีกครั้ง คราวนี้เค้าจะทำให้คุณอย่างเรียบร้อย
แล้วพอเรากลับไปยื่นที่กงสุลไทยอีกครั้ง คราวนี้ราบรื่น เสร็จภายใน บ่ายสองโมงครึ่งของวันเดียวกัน (อย่างด่วนเลย)
ปล. เจ้าหน้าของไต้หวันเขาบริการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนสมเป็นข้าราชการจริงๆ เลย ยกนิ้วให้เลย