สวัสดีชาว Pantip ทุกคนนะคะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ถ้ามีบางคำเวิ่นเว้อหรือผิดพลาดอย่างไร ก็ขออภัยทุกคนด้วยค่ะ
วันนี้เราจะมารีวิวเรื่องขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสกับคนญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ ยาวนิ๊ดด
แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับว่าที่สะใภ้ญี่ปุ่นทุกคนนะคะ (* ´艸`)
เกริ่นก่อนแล้วกันเนอะ เรากับแฟนเจอกันที่ญี่ปุ่นคบหาเป็นแฟนกันมาประมาณนึงก็มีการพูดคุยกันว่าจะแต่งงานกัน
แต่ด้วยตัวเราติดภารกิจอะไรต่างๆ ทำให้เรื่องการแต่งงานต่างๆถูกเบรคไว้ยาววววว
จนในที่สุด!!! แพลนเรื่องแต่งงานก็กลับมาอีกครั้ง \(^_^)/
เราสองคนวางแผนว่าจะจดทะเบียนสมรสกันสิ้นในปีนี้ ก่อนที่จะจดทะเบียนได้นั้นก็จะมีขั้นตอนต่างๆมากมาย ตามนี้เลยจ้าาา
ขั้นที่ 1 เลือกประเทศที่จดทะเบียนสมรส
1. ขั้นแรกต้องตกลงให้ได้ก่อนว่าจะจดทะเบียนสมรสที่ไหนก่อน ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ซึ่งเรากับแฟนตกลงกันว่าจะจดที่ญี่ปุ่นก่อน (เนื่องจากแฟนเรายุ่งมากๆๆๆๆและไม่สะดวกมาจดทะเบียนที่ไทยค่ะ)
2. ต้องให้แฟนญี่ปุ่นไปสอบถามที่สำนักงานเขตที่เขาอาศัยอยู่ ว่าคู่สมรสคนไทยต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
(เขตที่แฟนเราอาศัยอยู่แจ้งว่าใช้เอกสาร 2 ตัว คือ หนังสือรับรองความเป็นโสด และ ทะเบียนบ้าน)
ย้ำ!!!! ตรงนี้แล้วแต่สำนักงานเขตแต่ละที่นะคะว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง บางที่ใช้ไม่เหมือนกัน
หลังจากรู้แล้วว่าต้องมีอะไรบ้างก็มาเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมเอกสารที่คู่สมรสคนไทย(ตัวเรา) กันเลยนะคะ ♪♪
ขั้นที่ 2 เอกสารที่เตรียม
ออกตัวก่อนนะคะเนื่องจากเราเป็นคนเยอะ และกังวลว่าเอกสารที่แฟนบอกให้เตรียมจะไม่พอ เราเลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบไปเลยค่าา เตรียมทุกอย่าง 555
(หลังจากจดทะเบียนแล้วจะมาบอกทุกคนอีกทีนะคะ ว่าเอกสารที่นอกเหนือจากสำนักงานเขตร้องขอจำเป็นมั้ย)
อย่างที่บอกไปคือเราเตรียมเอกสารทุกอย่าง ตามด้านล่างนี้ค่ะ
1.หนังสือรับรองความเป็นโสด (ต้องไปขอที่อำเภอที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น ใช้พยานที่เป็นข้าราชการ2คน ตอนขอเอกสารจะมีสัมภาษณ์พยานเล็กๆน้อยๆนะคะ เช่น รู้จักเรามั้ย, เคยเห็นเราแต่งงานหรือเปล่า ประมาณนี้ค่ะ)
2.ทะเบียนบ้าน ทร.14/1 (อันนี้จะเป็นการคัดสำเนาที่อำเภอนะคะ ไม่ใช่การ xeroxจากเล่มทะเบียนบ้านนะคะทุกคน)
3.ใบเปลี่ยนนามสกุล (เราเปลี่ยนมาใช้นามสกุลแม่นะคะ)
4.ใบสูติบัตร
5.บัตรประชาชน
6.คำปฏิญาณตน(เอกสารนี้เราโหลดแบบฟอร์มมาจากเว็บกงสุล แล้วทำเองค่ะจะมีแค่ภาษาไทยกับญี่ปุ่นนะคะ)
เอกสารครบเรียบร้อยแล้วมาขั้นตอนถัดไปกันเลยค่ะ ヾ(・ω・`)
ขั้นที่ 3 แปลเอกสาร
เอกสารที่เราเตรียมไว้ในขั้นที่ตอนที่ 2 จำเป็นต้องนำมาแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น
(ยกเว้นคำปฏิญานตน เราทำเองค่ะ เป็นภาษาไทยและญี่ปุ่นตามแบบฟอร์มที่มีให้)
เรื่องการแปลอันนี้แล้วแต่ทุกคนสะดวกเลยนะคะ ว่าจะจ้างแปล หรือ แปลเอง
เนื่องจาก skillด้านภาษาของเราที่มีน้อยนิดส่วนใหญ่เราเลยจ้างแปลค่ะ , ส่วนเอกสารไหนที่มีแบบฟอร์มอยู่แล้วเราก็เลือกแปลเองค่ะ
เอกสารที่จ้างแปล (อังกฤษ,ญี่ปุ่น) : หนังสือรับรองความเป็นโสด,ใบเปลี่ยนนามสกุล,ใบสูติบัตร
เอกสารที่แปลเอง (อังกฤษ,ญี่ปุ่น) : ทะเบียนบ้าน ทร.14/1,บัตรประชาชน
ก่อนข้ามไปขั้นตอนถัดไปเราขอรีวิวบริษัทแปลก่อนแล้วกันนะคะ
(ปล. ขอปิดชื่อบริษัทไว้นิดนึงนะคะ และทั้งหมดความเห็นส่วนตัวล้วนๆค่ะ ส่วนเรื่องราคาก็ขึ้นอยู่กับเอกสารนะคะ ต้องส่งเอกสารให้ทางบริษัทประเมินก่อน)
หลังจากเลือกบริษัทได้แล้วเราก็ส่งเอกสารไปให้แปลค่ะ บริษัทที่เราเลือกนั้นข้อดีคือแปลเร็วมากกกก,ส่งเอกสารก็เร็วมากเช่นกัน
ส่วนข้อเสียคือ ไม่ค่อยมีการ feedback และข้อเสียที่ทำให้เรานอยด์สุดคือ
การแปลผิดค่ะ ส่วนที่ผิดคือภาษาญี่ปุ่นนะคะ
อันนี้ต้องระวังกันนิดนึงนะคะ ลองให้คนที่รู้ภาษาหรือแฟนช่วยเช็คอีกทีก็ดีนะคะ
ขั้นที่ 4 การยื่นขอประทับตรากับกรมการกงสุล
(การประทับตราคือ การที่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อ และประทับตรารับรองความถูกต้องของเอกสารว่ามีสาระชอบด้วยกฎหมาย)
เอกสารที่ขอประทับตราจะเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียวนะคะ (ภาษาญี่ปุ่นไม่มีการรับรองค่ะ) และต้องนำเอกสารที่เป็นฉบับภาษาไทยตัวจริงไปด้วยนะคะ
เอกสารฉบับแปลที่เป็นภาษาอังกฤษต้องมีลายเซ็นรับรองคำแปลถูกต้องด้วยนะคะ
(ต้องเซ็นต์เท่านั้นนะคะ ห้ามprintเด็ดขาดค่ะ, เราเซ็นต์ด้วยปากกาสีดำเจ้าหน้าที่ตรวจหลายรอบมากค่ะ)
(สำหรับใบสูติบัตรและใบเปลี่ยนนามสกุลหรือเอกสารอื่นๆที่อยากเก็บตัวจริงไว้ เราแนะนำให้ไปคัดสำเนาที่อำเภอแล้วเอาตัวคัดสำเนามาใช้แทนนะคะ
เจ้าหน้าที่จะประทับตราที่ตัวจริงด้วยค่ะ เราแอบเสียดาย T^T)
การเดินทางไปกงสุล เราขึ้น BTS ไปลงหมอชิต และต่อแท็กซี่นั่งจากฝั่งสวนจตุจักรไปค่ะ ค่าแท็กซี่ประมาณ100บาท
เราไปถึงประมาณ 6:30 เพื่อรอเรียกรับคิว และจะเปิดบริการประมาณ 8:30 (ตอนที่เราไปถึงมีคนมารอค่อนข้างเยอะแล้วค่ะ)
ตอนแรกคิดว่าจะขอรับบริการแบบด่วนแต่ว่าหนังสือรับรองความเป็นโสดไม่สามารถขอรับบริการด่วนได้
เลยต้องยื่นแบบธรรมดาแทน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3วัน
ค่าบริการยื่นแบบธรรมดา ฉบับละ 200บาท
(ของเรามีเอกสารภาษาอังกฤษและภาษาไทยอย่างละ 5ฉบับ ค่าบริการประทับตราคือ 2000บาท + ค่าส่งไปรษณีย์ 60บาทค่ะ)
หลังจากตรวจเช็คเอกสาร จ่ายเงิน ได้รับใบเสร็จเรียบร้อยก็กลับบ้านได้เลยค่ะ
ทางกงสุลจะส่งไปรษณีย์กลับมาให้ค่ะ ถ้ามีการแก้ไข จะมีวงจุดผิดและขั้นตอนการส่งเอกสารมาให้ในซองค่ะ
สำหรับเอกสารที่เราส่งไปรอบแรก ผิดทุกฉบับค่ะ ( ノД‘)( ノД`)
ทางกงสุลจะส่งเอกสารกลับมาให้นะคะ ว่ามีจุดผิดตรงไหนบ้าง และแก้ไขมาให้ เราก็แก้ตามและส่งเอกสารกลับไปทางไปรษณีย์ค่ะ
หลังจากนั้นประมาณ 3 วันก็ได้เอกสารมาเรียบร้อยค่ะ
เมื่อเตรียมเอกสารทั้งหมดพร้อมแล้ว เราก็scan ทุกอย่างส่งให้แฟนค่ะ
ทางนั้นก็นำเอกสารทั้งหมดไปที่สำนักงานเขต และตรวจสอบว่าขาดเหลืออะไรบ้าง
เรามีถูกให้แก้เอกสารคำปฏิญาณตนฉบับภาษาญี่ปุ่นใหม่นะคะ เนื่องจากแบบฟอร์มที่มีในกงสุลใช้คำศัพท์แปลกๆค่ะ
ตรงนี้แฟนเราเป็นคนแก้ไขให้นะคะ หลังจากแก้ไขและตรวจสอบครบแล้ว ก็รอเราเดินทางไปจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นช่วงสิ้นปีนะคะ
สำหรับขั้นตอนการรีวิวการจดทะเบียน เราจะมาต่ออีกทีหลังปีใหม่นะคะ
ถ้ามีใครสงสัยอะไรสามารถสอบถามเรามาได้ตลอดเลยนะคะ อะไรที่เราพอตอบได้ เราจะช่วยเต็มที่เลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
✿*゚‘゚・✿.。.
✿*゚‘゚・✿*゚‘゚✿
รีวิว ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ【ญี่ปุ่น】✪★☆彡
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ถ้ามีบางคำเวิ่นเว้อหรือผิดพลาดอย่างไร ก็ขออภัยทุกคนด้วยค่ะ
วันนี้เราจะมารีวิวเรื่องขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสกับคนญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ ยาวนิ๊ดด
แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับว่าที่สะใภ้ญี่ปุ่นทุกคนนะคะ (* ´艸`)
เกริ่นก่อนแล้วกันเนอะ เรากับแฟนเจอกันที่ญี่ปุ่นคบหาเป็นแฟนกันมาประมาณนึงก็มีการพูดคุยกันว่าจะแต่งงานกัน
แต่ด้วยตัวเราติดภารกิจอะไรต่างๆ ทำให้เรื่องการแต่งงานต่างๆถูกเบรคไว้ยาววววว
จนในที่สุด!!! แพลนเรื่องแต่งงานก็กลับมาอีกครั้ง \(^_^)/
เราสองคนวางแผนว่าจะจดทะเบียนสมรสกันสิ้นในปีนี้ ก่อนที่จะจดทะเบียนได้นั้นก็จะมีขั้นตอนต่างๆมากมาย ตามนี้เลยจ้าาา
ขั้นที่ 1 เลือกประเทศที่จดทะเบียนสมรส
1. ขั้นแรกต้องตกลงให้ได้ก่อนว่าจะจดทะเบียนสมรสที่ไหนก่อน ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ซึ่งเรากับแฟนตกลงกันว่าจะจดที่ญี่ปุ่นก่อน (เนื่องจากแฟนเรายุ่งมากๆๆๆๆและไม่สะดวกมาจดทะเบียนที่ไทยค่ะ)
2. ต้องให้แฟนญี่ปุ่นไปสอบถามที่สำนักงานเขตที่เขาอาศัยอยู่ ว่าคู่สมรสคนไทยต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
(เขตที่แฟนเราอาศัยอยู่แจ้งว่าใช้เอกสาร 2 ตัว คือ หนังสือรับรองความเป็นโสด และ ทะเบียนบ้าน)
ย้ำ!!!! ตรงนี้แล้วแต่สำนักงานเขตแต่ละที่นะคะว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง บางที่ใช้ไม่เหมือนกัน
หลังจากรู้แล้วว่าต้องมีอะไรบ้างก็มาเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมเอกสารที่คู่สมรสคนไทย(ตัวเรา) กันเลยนะคะ ♪♪
ขั้นที่ 2 เอกสารที่เตรียม
ออกตัวก่อนนะคะเนื่องจากเราเป็นคนเยอะ และกังวลว่าเอกสารที่แฟนบอกให้เตรียมจะไม่พอ เราเลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบไปเลยค่าา เตรียมทุกอย่าง 555
(หลังจากจดทะเบียนแล้วจะมาบอกทุกคนอีกทีนะคะ ว่าเอกสารที่นอกเหนือจากสำนักงานเขตร้องขอจำเป็นมั้ย)
อย่างที่บอกไปคือเราเตรียมเอกสารทุกอย่าง ตามด้านล่างนี้ค่ะ
1.หนังสือรับรองความเป็นโสด (ต้องไปขอที่อำเภอที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น ใช้พยานที่เป็นข้าราชการ2คน ตอนขอเอกสารจะมีสัมภาษณ์พยานเล็กๆน้อยๆนะคะ เช่น รู้จักเรามั้ย, เคยเห็นเราแต่งงานหรือเปล่า ประมาณนี้ค่ะ)
2.ทะเบียนบ้าน ทร.14/1 (อันนี้จะเป็นการคัดสำเนาที่อำเภอนะคะ ไม่ใช่การ xeroxจากเล่มทะเบียนบ้านนะคะทุกคน)
3.ใบเปลี่ยนนามสกุล (เราเปลี่ยนมาใช้นามสกุลแม่นะคะ)
4.ใบสูติบัตร
5.บัตรประชาชน
6.คำปฏิญาณตน(เอกสารนี้เราโหลดแบบฟอร์มมาจากเว็บกงสุล แล้วทำเองค่ะจะมีแค่ภาษาไทยกับญี่ปุ่นนะคะ)
เอกสารครบเรียบร้อยแล้วมาขั้นตอนถัดไปกันเลยค่ะ ヾ(・ω・`)
ขั้นที่ 3 แปลเอกสาร
เอกสารที่เราเตรียมไว้ในขั้นที่ตอนที่ 2 จำเป็นต้องนำมาแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น
(ยกเว้นคำปฏิญานตน เราทำเองค่ะ เป็นภาษาไทยและญี่ปุ่นตามแบบฟอร์มที่มีให้)
เรื่องการแปลอันนี้แล้วแต่ทุกคนสะดวกเลยนะคะ ว่าจะจ้างแปล หรือ แปลเอง
เนื่องจาก skillด้านภาษาของเราที่มีน้อยนิดส่วนใหญ่เราเลยจ้างแปลค่ะ , ส่วนเอกสารไหนที่มีแบบฟอร์มอยู่แล้วเราก็เลือกแปลเองค่ะ
เอกสารที่จ้างแปล (อังกฤษ,ญี่ปุ่น) : หนังสือรับรองความเป็นโสด,ใบเปลี่ยนนามสกุล,ใบสูติบัตร
เอกสารที่แปลเอง (อังกฤษ,ญี่ปุ่น) : ทะเบียนบ้าน ทร.14/1,บัตรประชาชน
ก่อนข้ามไปขั้นตอนถัดไปเราขอรีวิวบริษัทแปลก่อนแล้วกันนะคะ
(ปล. ขอปิดชื่อบริษัทไว้นิดนึงนะคะ และทั้งหมดความเห็นส่วนตัวล้วนๆค่ะ ส่วนเรื่องราคาก็ขึ้นอยู่กับเอกสารนะคะ ต้องส่งเอกสารให้ทางบริษัทประเมินก่อน)
หลังจากเลือกบริษัทได้แล้วเราก็ส่งเอกสารไปให้แปลค่ะ บริษัทที่เราเลือกนั้นข้อดีคือแปลเร็วมากกกก,ส่งเอกสารก็เร็วมากเช่นกัน
ส่วนข้อเสียคือ ไม่ค่อยมีการ feedback และข้อเสียที่ทำให้เรานอยด์สุดคือการแปลผิดค่ะ ส่วนที่ผิดคือภาษาญี่ปุ่นนะคะ
อันนี้ต้องระวังกันนิดนึงนะคะ ลองให้คนที่รู้ภาษาหรือแฟนช่วยเช็คอีกทีก็ดีนะคะ
ขั้นที่ 4 การยื่นขอประทับตรากับกรมการกงสุล
(การประทับตราคือ การที่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อ และประทับตรารับรองความถูกต้องของเอกสารว่ามีสาระชอบด้วยกฎหมาย)
เอกสารที่ขอประทับตราจะเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียวนะคะ (ภาษาญี่ปุ่นไม่มีการรับรองค่ะ) และต้องนำเอกสารที่เป็นฉบับภาษาไทยตัวจริงไปด้วยนะคะ
เอกสารฉบับแปลที่เป็นภาษาอังกฤษต้องมีลายเซ็นรับรองคำแปลถูกต้องด้วยนะคะ
(ต้องเซ็นต์เท่านั้นนะคะ ห้ามprintเด็ดขาดค่ะ, เราเซ็นต์ด้วยปากกาสีดำเจ้าหน้าที่ตรวจหลายรอบมากค่ะ)
(สำหรับใบสูติบัตรและใบเปลี่ยนนามสกุลหรือเอกสารอื่นๆที่อยากเก็บตัวจริงไว้ เราแนะนำให้ไปคัดสำเนาที่อำเภอแล้วเอาตัวคัดสำเนามาใช้แทนนะคะ
เจ้าหน้าที่จะประทับตราที่ตัวจริงด้วยค่ะ เราแอบเสียดาย T^T)
การเดินทางไปกงสุล เราขึ้น BTS ไปลงหมอชิต และต่อแท็กซี่นั่งจากฝั่งสวนจตุจักรไปค่ะ ค่าแท็กซี่ประมาณ100บาท
เราไปถึงประมาณ 6:30 เพื่อรอเรียกรับคิว และจะเปิดบริการประมาณ 8:30 (ตอนที่เราไปถึงมีคนมารอค่อนข้างเยอะแล้วค่ะ)
ตอนแรกคิดว่าจะขอรับบริการแบบด่วนแต่ว่าหนังสือรับรองความเป็นโสดไม่สามารถขอรับบริการด่วนได้
เลยต้องยื่นแบบธรรมดาแทน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3วัน
ค่าบริการยื่นแบบธรรมดา ฉบับละ 200บาท
(ของเรามีเอกสารภาษาอังกฤษและภาษาไทยอย่างละ 5ฉบับ ค่าบริการประทับตราคือ 2000บาท + ค่าส่งไปรษณีย์ 60บาทค่ะ)
หลังจากตรวจเช็คเอกสาร จ่ายเงิน ได้รับใบเสร็จเรียบร้อยก็กลับบ้านได้เลยค่ะ
ทางกงสุลจะส่งไปรษณีย์กลับมาให้ค่ะ ถ้ามีการแก้ไข จะมีวงจุดผิดและขั้นตอนการส่งเอกสารมาให้ในซองค่ะ
สำหรับเอกสารที่เราส่งไปรอบแรก ผิดทุกฉบับค่ะ ( ノД‘)( ノД`)
ทางกงสุลจะส่งเอกสารกลับมาให้นะคะ ว่ามีจุดผิดตรงไหนบ้าง และแก้ไขมาให้ เราก็แก้ตามและส่งเอกสารกลับไปทางไปรษณีย์ค่ะ
หลังจากนั้นประมาณ 3 วันก็ได้เอกสารมาเรียบร้อยค่ะ
เมื่อเตรียมเอกสารทั้งหมดพร้อมแล้ว เราก็scan ทุกอย่างส่งให้แฟนค่ะ
ทางนั้นก็นำเอกสารทั้งหมดไปที่สำนักงานเขต และตรวจสอบว่าขาดเหลืออะไรบ้าง
เรามีถูกให้แก้เอกสารคำปฏิญาณตนฉบับภาษาญี่ปุ่นใหม่นะคะ เนื่องจากแบบฟอร์มที่มีในกงสุลใช้คำศัพท์แปลกๆค่ะ
ตรงนี้แฟนเราเป็นคนแก้ไขให้นะคะ หลังจากแก้ไขและตรวจสอบครบแล้ว ก็รอเราเดินทางไปจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นช่วงสิ้นปีนะคะ
สำหรับขั้นตอนการรีวิวการจดทะเบียน เราจะมาต่ออีกทีหลังปีใหม่นะคะ
ถ้ามีใครสงสัยอะไรสามารถสอบถามเรามาได้ตลอดเลยนะคะ อะไรที่เราพอตอบได้ เราจะช่วยเต็มที่เลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
✿*゚‘゚・✿.。.✿*゚‘゚・✿*゚‘゚✿