รูปราคะ อรูปราคะ กับ ฌานสมาบัติ และ ความเพ้อเจ้อ ของนักปฏิบัติธรรมกำมะลอ

ที่จริงแล้ว เมื่อผม(จ้าวนครเมฆขาว) ได้เห็นการอ้างเรื่อง พรหมวิหาร ๔ จาก โทณสูตร
โดยมันเข้าใจผิดไปเองว่า เพราะ(มี)พรหมวิหาร ๔ ก็ทำให้ไปเกิดในพรหมโลกได้โดยไม่จำเป็นต้องมีฌาน

ก็ทราบแน่ แก่ใจตนเองแล้วว่า ไอ้หมอนี่ มันก็แค่ "กำมะลอ"

มันไม่รู้เรื่องปฏิบัติธรรมอะไร จริงๆ จังๆ สมดังที่ปากไสว ตามกระทู้ต่างๆ นั้นหรอก
สิ่งที่เห็น มันก็เป็นเพียงแค่ การจำขี้ปากผู้อื่นมาพูด เท่านั้นเอง !



แต่กระนั้น ก็มิได้ทันคิดมาก่อนเลยว่า ไอ้หมอนี่ จะยัง เก้อยาก ไม่เลิก
โดยล่าสุด ก็ได้ปล่อยไก่ ออกมาหมดทั้งเล้า ในทำนองว่า
อนาคามี จะไปพรหมโลก ได้หรือไม่ เกี่ยวกับ "สังโยชน์" ไม่ได้เกี่ยวกับ "ฌาน"



ที่น่าขัน ก็คือ ขนาด ล็อกอิน นายอิ่ม เขาค้านว่า .......

"โอรัมภาคิยสังโยชน์นั่นแหละ ที่เกี่ยวโดยตรงกับการได้ฌาน หรือไม่ได้ฌาน ในแบบพระอนาคามี"

ปรากฏว่า ไอ้หมอนี่ กลับไม่รู้ มิหนำซ้ำ ยังพูดในทำนองว่า "ขอรับทราบ การอธิบายเพิ่มเติม"



เฮอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สรุป ก็คือ ไอ้นี่ มันไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ มันก็สักแต่ว่า เสิร์ชหาอะไรได้ ก็ยกมาอ้างส่งเดช
จนคนเขาคัดค้านมันแล้วว่า สังโยชน์ที่มันยกขึ้นอ้างนั้นแหละ ที่บ่งชี้ไปถึง ฌาน แต่มันดันเข้าใจไปว่า
เขาช่วยอธิบายเพิ่มเติม ทั้งๆ ที่เขากล่าวคัดค้าน มันอยู่

น่าสมเพช ไหมล่ะ ?

**************************************************************************************

ที่จริงแล้ว เรื่องนี้ มิได้มีความซับซ้อนอะไรเลย เพราะ รูปราคะ และ อรูปราคะ ในอนาคามี นั้นมีความเกี่ยงข้องโดยตรงกับ ฌาน



เพื่อให้ท่านทั้งหลาย สามารถเห็นภาพได้โดยง่าย ขออนุญาต ยกตัวอย่างกรณี ท่านปุกกุสาติ ขึ้นมาอธิบาย ดังนี้ว่า
เดิมที ท่านปุกกุสาติ เป็นผู้ได้ฌานสมาบัติ ก่อนหน้าที่จะมาพบพระพุทธเจ้า ครั้งเมื่อได้สนทนากันแล้ว อรรถกถาจารย์ ได้บรรยายความว่า

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงคุณแห่ง อรูปฌาน ปรากฏว่า ปุกกุสาติ สามารถ "ละ" รูปราคะ ในรูปฌานนั้นได้
แต่กลับไปตั้งความปรารถนาใน อรูปฌาน แทนที่ ซึ่งความปรารถนา(ฉันทะ) ในอรูปฌาน นี้ก็คือ อรูปราคะ
ซึ่งเป็น สังโยชน์ ที่นำไปสู่การเกิดใน พรหมโลก หลังจากที่ท่าน ปุกกุสาติ ตายกายแตก นั่นเอง



**************************************************************************************

ล็อกอิน cantona_z กล่าวตู่บิดเบือน พระธรรมิวินัย ไม่หยุดหย่อนอย่างนี้ ไม่กลัวบาปกลัวกรรม บ้างเลยหรือครับ ?
ในเมื่อตนไม่รู้ ก็ยอมรับตามตรงไปสิว่า ไม่รู้ เหตุใดจึงยังพยายามแถกแถ ด้วยการ กล่าวตู่ บิดเบือน พระธรรมวินัย แบบนี้

แน่ใจนะครับว่า คุณยังเป็นชาวพุทธเถรวาทอยู่อีก ?

ทั้งนี้ ท่านทั้งหลาย จงรอดูให้ดีๆ เถิดว่า ไอ้หมอนี่ มันยังจะออกมา แถกแถ แก้ตัว
ด้วยการ กล่าวตู่พระพุทธเจ้า บิดเบือนพระธรรมวินัย ด้วยอาการอย่างไร ?



สวัสดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่