บางคนไม่กล้าทำสมาธิ กลัวเป็นบ้า - หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ให้เสียงภาษาไทยโดย ฟ้าทะลายโจร
ประเภท : พุทธศาสนสุภาษิต, ธรรมคำสอน
หมวดหมู่ : อภิญญา สมาธิ, มโนยิทธิ, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Playlist : http://youtu.be/ClzCn-uf2uY?list=PL31aceR3FZyBw2yPjiYmCSC8M_5t1UGd-

ตอบปัญหาธรรม
# บางคนไม่กล้าทำสมาธิ กลัวเป็นบ้า

คติธรรมคำสอน
1. ปฏิบัติถึงขั้นไหนถึงจะเอาตัวรอดได้
2. ธรรมดาของชาวโลก
3. คนเลวเขาไม่เรียกว่าคน

โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) วัดท่าซุง

บางคนไม่กล้าทำสมาธิ กลัวเป็นบ้า
หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงตอบปัญหาธรรม

ผู้ถาม : เวลาไปชวนเขาทำสมาธิ บางคนเขาบอกว่า กลัวเป็นบ้า กลัวจะไปเห็นของน่าเกลียดน่ากลัว อันนี่เป็นความจริงไหมครับ....?

หลวงพ่อ : ความจริงการเจริญสมาธิไม่มีอะไรน่ากลัว อย่าลืมว่าถ้าจิตเราดีแล้ว อย่างน้อยที่สุดจิตต้องเข้าถึงอุปจารสมาธิ มีปีติถึงจะเห็นภาพ แต่ภาพที่เราเห็นในสมาธินั้นเป็นภาพสวย เป็นภาพน่ารัก ไม่ใช่ภาพน่ากลัว ที่ว่าเป็นบ้าน่ะก็เพราะฝืนอาจารย์ ฝืนพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าบอกว่าการปฏิบัติต้องเว้นส่วนสุด ๒ อย่างคือ
๑. อัตตกิลมถานุโยม อย่าเครียดเกินไป
๒. กามสุขัลลิกานุโยค อย่าอยากเกินไป

ต้องใช้มัชฌิมาปฏิปทา คือต้องทำกลาง ๆ แบบสบาย ๆ ไม่บ้านะ

(แหม...ไอ้คนกลัวดีนี่มีเยอะจัง ทั้ง ๆ ที่เป็นของดี ถ้าไม่ดีก็คงไม่มีใครเขาแนะนำ ทีมีคนไปชวนกินเหล้า ไม่เห็นกลัวกันบ้างน่าแปลกแฮะ)

ปฏิบัติถึงขั้นไหนถึงจะเอาตัวรอดได้
โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

ให้พิจารณาเห็นว่า ทุกข์ทั้งหมดที่ได้รับเป็นประจำ
ไม่ว่างเว้นนี้ เกิดมีขึ้นได้เพราะอาศัย ตัณหา ความ
ทะยานอยาก 3 ประการ คือ อยากมีในสิ่งที่ไม่เคยมี
อยากเป็นในสิ่งที่ไม่เคยเป็น อยากปฏิเสธในเมื่อความ
สลายตัวเกิดขึ้น ไม่อยากให้สลายตัว เจ้าความอยาก
ทั้ง 3 นี้แหละ เป็นผู้สร้างความทุกข์ขึ้นมา ทุกข์นี้จะ
สิ้นไปได้ก็เพราะเข้าถึงจุดความดับ คือ นิโรธ เสียได้

จุดดับนั้นท่านวางมาตราฐานไว้ 3 ประการ คือ ศีล สมาธิ
ปัญญา ที่ท่านเรียกว่า มรรค 8 ย่อมรรค 8ลงเหลือ 3 คือ
ศีล สมาธิ ปัญญา นี้ เพราะ อาศัยศีลบริบูรณ์ สมาธิเป็นฌาน
ปัญญารู้เท่าทันสภาวะความเป็นจริง หมดความเมาในรูป
เสียง กลิ่น รส สัมผัส และดับอารมณ์พอใจ ไม่พอใจเสียได้

ตัดอารมณ์พอใจในโลกีย์วิสัยได้ ตัดความกำหนัดยินดีเสียได้
ด้วยปัญญาวิปัสสนาญาณ ชื่อว่าเห็นในอริยสัจ 4 ทำอย่างนี้
คิดอย่างนี้ให้คล่อง จนจิตครอบงำ ความรัก ความโลภ ความ
โกรธ ความหลง ความเมาในชีวิต เสียได้ ชื่อว่าท่านได้
วิปัสสนาญาณ 9 และอริยสัจ 4 แต่อย่าเพิ่งพอ หรือคิดว่าดีแล้ว
ต้องฝึกฝนพิจารณาเรื่อยไป จนตัดสังโยชน์ ทั้ง 10 ประการ
ได้แล้ว นั่นแหละ ชื่อว่าเอาตัวรอดได้แล้ว

ธรรมดาของชาวโลก
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

พระพุทธเจ้าตรัสว่า ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เป็นโลกธรรม
ถ้าเราติด เราก็มีความทุกข์ ลาภที่เรา มีมาได้แล้ว มันก็หมด
เสื่อมไปได้ ถ้าเรายินดีในการได้ลาภ ไม่ช้ากำลังใจก็ต้องเสีย
สลดใจ เมื่อลาภหมดไป

คำสรรเสริญก็เช่นเดียวกัน คำสรรเสริญไม่ใช่ของดี ถ้าเราติด
ในคำสรรเสริญ เราก็จะมีแต่ความทุกข์ เพราะว่าไม่มีใครเขา
มานั่งตั้งตา นั่งสรรเสริญเราตลอดวัน คนที่เขาสรรเสริญเราได้
เขาก็ติเราได้

ฉะนั้นจงจำไว้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่า นินทา ปสังสา เป็นธรรมดา
ของชาวโลก ชาวโลกทั้งหมดเกิดมาต้องพบนินทาและสรรเสริญ
นี่ท่านมาติดลาภ ติดสรรเสริญก็ถือเป็นอุปกิเลสอย่างหนัก


คนเลวเขาไม่เรียกว่าคน
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

จงจำไว้ว่า อารมณ์ใดที่ประกอบไปด้วยความรัก ประกอบ
ไปด้วยความโลภ ประกอบไปด้วย ความโกรธ ประกอบ
ไปด้วยความหลง พระพุทธเจ้ากล่าวว่าเป็นอารมณ์ของ
ติรัจฉาน คือ มันขวางจากความดี

ฉะนั้นอาการของเดรัจฉานทั้งหมดอันพึงจะผิดทางจิตก็ดี
ทางวาจาก็ดี ทางกายก็ดี จงอย่ามี จงระมัดระวังกำลังใจ
เป็นสำคัญ อย่าเอาอารมณ์ของเดรัจฉานเข้ามาใช้ในจิต
และก็จงอย่าเพ่งเล็งบุคคลอื่น จงอย่าสนใจกับอารมณ์ของ
คนอื่น จงอย่าสนใจกับ จริยาของบุคคลอื่นให้พยายาม
ปรับปรุงใจตนเองเป็นสำคัญ

และให้ทรง พรหมวิหาร ๔ มี อิทธิบาท ๔ ฟังแล้วก็ต้องจำ
จำแล้วก็ต้องประพฤติปฏิบัติ ถ้าทำไม่ได้ จงรู้ตัวว่าเลว
เกินไป คนเลวเขาไม่เรียกว่าคน เขาเรียกว่า สัตว์ในอบายภูมิ

วิดีโอที่ข้าพเจ้าได้ทำขึ้นนี้ จัดทำเพื่อการกุศล เพื่อเผยแพร่ พระธรรมคำสั่งสอน มิได้มีเจตนาจะลบหลู่หรือดูหมิ่นแต่ประการ­ใด ถ้าหากผิดพลาดพลั้งประการใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สามารถติดตามและรับข่าวสาร ได้ที่
Facebook page : https://www.facebook.com/DharmaXP
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่