นิยาย เรื่อง คุณป้า ตอน 3 นักสำรวจ

กระทู้สนทนา
พื้นฐานของการเป็นนักศึกษา ต้องรู้จักสำรวจ และเรียนรู้ไม่หยุดนิ่ง
อาจารย์พิศพงษ์  “ว่าแต่พีชมีข้อมูลคนที่พีชจะศึกษาหรือยังว่าเขาอยู่ที่ไหน”
“ค่ะ  พอรู้บ้างแล้วคะ  ป้าเขาขายอาหารอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยค่ะอาจารย์”
“อืม พีช หนูรอบคอบดีมาก  อาจารย์เอาใจช่วยนะ  ขอให้หนูสนุกกับการเรียนรู้ชีวิตคนนะลูกนะ แต่อย่าเคร่งเครียดจนเกินไป  ตอนชั่วโมงเรียนอาจารย์ขู่เพื่อน ๆ ขอหนูเฉย ๆ นะ อย่าคิดมาก”
ภิรัญญาพนมมือไหว้  “คะอาจารย์  ขอบคุณค่ะ”
“แต่อย่าคาดหวังมากนะลูก”  อาจารย์พิศพงษ์ย้ำให้ลูกศิษย์ระลึกถึงการเรียนรู้  ถ้าหากมันไม่เป็นไปตามคาดก็อย่าคาดหวังให้มาก และไม่ต้องเสียใจ การเรียนรู้คือการเริ่มต้น  เมื่อผิดพลาดก็เริ่มใหม่ทุกครั้งๆ
บางครั้งวิชาบางวิชาก็จุดประกายความคิดบางอย่างคนเกิดแรงบันดาลได้สารพัด
หลังจากเลิกเรียนเสร็จ ทุกคนนั่งมาคุยกันต่อตรงลานหน้าคณะ  เพื่อนบางคนกลับหอพักไปบ้างแล้ว  ภิรัญญาและเพื่อน ๆ ยังนั่งคุยกันต่อไม่เลิก
“น้องพีช”  กรจอดรถลงมาเปิดประตู
“ฮั่นแน่  ยัยพีช  พี่ชายมารับแล้ว!”  ภิรัญญาได้แต่ยิ้ม ๆ
“พี่ชาย”  “พี่ชายมารับน้องสาวแล้วเหรอคะ  คิดถึงพี่ชายเหลือเกิน”  อาการไอแบบนางเอกเกาหลีเรื่องรักนี้ชั่วนิรันดร์ของยัยมะขามคั่วอุย! มะขามหวานแซวภิรัญญาและธนากร
ดูธนากรจะคล้ายฮัน เทซกมากกว่ายุน จุนโซ พระเอกหนังเกาหลี เพราะโครงหน้าธนากรคล้ายกับวอนบินเอามาก ๆ  ก็สวยสาเหตุนี่แหละมั้งที่ทำเอาแกงเขียวหวานไก่แต่หน้าใสถึงกับเลือดกำเดาไหลตั้งแต่แรกพบ
“สวัสดีครับน้อง ๆ  เล่นอะไรกันอยู่”
“ยัยมะขามนะคะพี่กร  แซวพี่ด้วย”
“สวัสดีค่ะพี่กร   รีบมารับน้องสาวเลยนะคะ”  น้ำตาลแดงแซว
“ครับ  ต้องรีบมารับก่อนเดี๋ยวหนุ่ม ๆ  แถวนี้จะพาไปซะก่อน”
“ใบไหนกระเป๋าน้องพีชครับ  เดี๋ยวพี่ช่วยถือ”
“จะกลับเลยเหรอเพื่อน”
“ใช่  พวกแก  ฉันกลับก่อนนะ”
“จ้า!  พรุ่งนี้เจอกัน”  
กรช่วยถือกระเป๋ารีบวิ่งไปเปิดประตูให้ภิรัญญา  “ไม่เป็นไรค่ะพีชกร  พีชเปิดเองได้”
พวกเพื่อน ๆ  นั่งดูกรวิ่งไปเปิดประตูให้ภิรัญญาขึ้นรถ  “พวกแกดู ๆ ยัยพีช  แฟนมันเอาใจสุด ๆ หือ! น่า...”
“อืม!  หน้าอิจฉาจัง  เมื่อไหร่ฉันจะเจอผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษแบบนี่มั้งนะ”  ข้าวคลุกกะปิพูด
กตเดินมาพอดี  “ก็ฉันนี่ไงแก ลองมาคบกันมั้ยละ”
มะขามหวานพูดต่อ  “เอาแล้วมั้ยละ! ยัยข้าวคลุกกะปิหาเรื่องเข้าตัว”
กตพูดประชด “ทำไมยัยมะขามเปรี้ยว  ฉันไม่หล่อเหรอ!”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร หล่อก็หล่อจ้าไอ้กต  แต่แกกับพวกเรามันเพื่อนห้องเดียวกัน ขืนพวกแกเป็นแฟนกับยัยข้าวคลุกกะปิ ฉันว่ามดขึ้นแน่ๆ ไม่อยากเห็นคนจีบกันในห้องเรียนเว้ย”
ข้าวคลุกกะปิได้แต่นั่งอาย เหมือนในใจจะคิด ชอบก็จีบ ชอบจีบเลยซิ!
“กต  ถ้าข้าวคลุกกะปิไม่ตอบตรงลง นายจีบเราก็ได้เราสน และโสดด้วย!”  แกงเขียวหวานไก่พูดหยอกกตเพื่อนหนุ่มอีกคน
“ไม่เอ้า! เราไม่อยากขุดทอง”  กตพูด  เพื่อนๆ  พากันหัวเราะคำตอบของกต
“แน่ใจนะ! ถ้าสนใจที่หลังแล้วอย่ามาง้อแล้วกัน  เชอะ!”  แกงเขียวหวานไก่  หนุ่มตี๋สไตล์เกย์น่ารัก ๆ
“โอ๋ ๆ  อย่างอนเลยนะจ๊ะที่รัก กตมันพูดเล่นน่า”  แกงมัสมั่นพูด
“ว่าแต่แกเถอะ ถ้าไอ้กตไม่จีบ  ฉันจีบแกได้เปล่าละ”  แกงมัสมั่นสาวผิวสีน้ำผึ้ง สายพันธุ์ไทยแท้
“ไม่เอาฉันไม่ชอบชะนี! ไม่อยากตีฉิ่ง”  
กตพูดขึ้น  “เธอมีฉิ่งด้วยเหรอแกงเขียวหวานไก่  เห็นมีแต่ไม้กระบอง อันเท่าแขนนี่”
“กต! พูดอะไรออกมา  เรางอนแล้วนะ”  ดูใบหน้าตี๋ ๆ น่ารักดีออกไม่น่าเลย ทำเอาสาว ๆ เสียดายของ  แต่มันก็เรื่องของเขาน่าอย่างไปคิดมาก สาว ๆ อย่างเราหาผู้ชายได้ไม่อยากอยู่แล้ว  ฝึกวิชา 11  คงได้ของดีติดไม้ติดมือมาบ้าง
แกงเขียวหวานไก่ทำเป็นงอนกะจะให้กรกตอ้อนส่วนเพื่อนสาวก็เล่นไม่เลิก    
“ก็ไม่เห็นเป็นไร  เดี๋ยวพี่ไปแปลงเพศเป็นผู้ชายก็ได้” แกงมัสมั่นทำเสียงหล่อเข้มเหมือนผู้ชาย
ทำไมโลกวันวุ่นวายขนาดนี้วะ  ฉันละสับสนไปหมด  ผู้ชายเป็นผู้หญิง  ผู้หญิงเป็นผู้ชาย  ผู้ชายรักผู้ชาย  ผู้หญิงรักผู้หญิง  กะเทยรักเกย์  เกย์รักทอม  ทอมรักกะเทย  ผู้หญิงรักเกย์ ฯลฯ มันยุ่งยากยุ่งเหยิงไปทุกวันแล้ว หรือว่าสาเหตุมาจากโลกร้อน ก็ไม่รู้สินะ! เหนื่อยจัง! หรือกามเทพเล่นตลก!  
ภิรัญญาและกรขับรถออกจากมหาวิทยาลัย  ขณะที่ทั้งกลุ่มนั่งเม้าส์กันสนุกปาก
“พี่กรค่ะ เดี๋ยวพี่กรช่วยขับวนถนนเส้นนี้หน่อยนะคะ”
“ทำไมเหรอครับน้องพีช”
“พีชตามหาร้านอาหารร้านป้า  ป้าชื่อ ๆ  อะไรเดี๋ยวพีชเปิดดูข้อมูลก่อนนะคะ”
“เอ่อ  ร้านป้าวรรณค่ะ  เพื่อนๆ บอกอยู่แถว ๆ นี้”
ธนากรช่วยขับรถตามหาร้านป้าตามคำบอกเล่าของภิรัญญา ขับรถวนอยู่หลายรอบกว่าจะเจอ อันที่จริงร้านป้าวรรณอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากเท่าไหร่  แต่ต้องขับรถเข้าซอยจากถนนหลักไปนิดจึงทำให้ทั้งคู่ขับรถวนไปมาหลายรอบจนมาถึงร้านจนได้  เมื่อถึงร้านป้าวรรณเป็นร้านเพิงหมาแหงน มุมด้วยสังกะสี  เธอจอดรถแล้วเปิดประตูเดินลงไป  
“น้องพีชลงไปไหนครับ”  กรมองดูร้านและบริเวณรอบ ๆ  ดูร้านไม่น่าเข้าสักเท่าไหร่ เพราะมีแต่ชาวบ้าน เหม็นกลิ่นเหงื่อไคล อีกทั้งร้านก็เก่า  กรไม่เคยนั่งร้านแบบนี้  
“ลงมาสิคะพี่กร”  กรดูทีท่าไม่อยากเข้าร้านนี้สักเท่าไหร่
“น้องพีชหิวเหรอ  พี่ว่าเราไปเข้าร้านอื่นดีมั้ยครับ”
“เข้ามาซิคะพี่กร”  เธอพยายามชวนกรลงมานั่งเป็นเพื่อน  กรทำท่าลังเลแล้วก็ลงจากรถเดินมาอย่างไม่เต็มใส่สักเท่าไหร่
ภิรัญญานั่งลงที่เก้าอี้ไม้เก่า ๆ  “นั่งสิคะพี่กร”
กรดูจะไม่อยากนั่งสักเท่าไหร่ในใจคิดว่าทำไมน้องพีชถึงอยากมาร้านนี้นักหนา กรยังยืนอยู่ “น้องพีชพี่ว่าเราแวะไปกินข้าวที่ห้างดีไหมครับ”
ภิรัญญาตอบ  “กินร้านนี้นะคะพี่กร”
กว่ากรจะนั่ง  ดูเอากระดาษทิชชูในขวดแก้วบนโต๊ะมาเช็ดเก้าอี้ พอดีป้าเหลือบมาเห็นพอดี  
“ไอ้หนุ่ม!  ถ้ามันสกปรกมากก็ไม่ต้องนั่งก็ได้!”  ป้าพูดประชดให้ได้ยิน “ไอ้คนสมัยนี้มันรู้จักคุณค่า!  เสียดายกระดาษว่ะ”
ฟังน้ำเสียงการเปิดการขายของป้า กรแทบจะลุกออกจากร้านไปเดี๋ยวนั้น  แต่ดีที่ภิรัญญาดึงมือไว้  “พี่กรนั่งลงเถอะค่ะ”
“จะสั่งอะไร!”  เสียงป้าพูดห้วน ๆ  
ภิรัญญาชำเรืองมองเมนู ไม่รู้จะสั่งอะไรดี
“เร็ว ๆ  หน่อย ๆ คนอื่นเค้ารอคิว”  เสียงตะคอก
“แล้วที่ร้านมีอะไรอร่อย ๆ บ้างคะป้า”
“ก็ดูที่ป้ายนั่นสิ  ข้าจะไปรู้ได้ไงว่าเอ็งชอบกินอะไร!”
“งั้นแล้วแต่ป้าแล้วกันนะคะ หนูกินได้หมด”  ภิรัญญาตอบป้า  “ได้!”
“แล้วเอ็งละไอ้หนุ่ม เอ็งจะกินอะไร”
“ขอน้ำเปล่าแล้วกันครับ”  กรตอบแบบไม่เต็มใจ
“น้ำเปล่าไม่ขาย!”
กรอุทาน “อ้าว!”  
ป้าไม่ขายเพราะบริการลูกค้าแบบฟรี ๆ อยากกนฟรีต้องลุกไปตักเอง “ลุกไปตักเองด้านข้างนู้น!”
“พี่กรไม่สั่งอะไรหน่อยเหรอคะ”  ภิรัญญากลัวป้าวรรณคนขายจะดุอีกรอบ  พยายามคะยั้นคะยอให้กรช่วยสั่งอะไรอีกสักจาน
“พี่ไม่หิวครับน้องพีช”  
ภิรัญญาจึงสั่งอาหารเพิ่มอีกจาน  “งั้นพีชสั่งก๋วยเตี๋ยวหมูให้แล้วกันนะคะ”
“ป้าคะ เอาก๋วยเตี๋ยว 1 ชามค่ะ”
ภิรัญญาเดินไปตักน้ำในกระติกมาให้  แต่ดูท่าทีกรไม่อยากสัมผัสแก้วที่ดูจะใช้ซ้ำ ๆ กันแบบนี้  ถึงจะมีหลอดแยกสำหรับดูดแล้วทิ้งก็เหอะ
“น้องพีช พี่เอาน้ำเป็นขวดดีกว่าครับ”
กรดื่มน้ำจากขวดที่ตั้งบนโต๊ะ  
“อ้าว! มาแล้ว นี่ของเอ็งอีหนู  นี่ของเอ็งไอ้หนุ่ม”  ป้าเดินไปบ่นไปให้ทั้งสองได้ยิน  “น้ำฟรีมีไม่ดื่ม อยากเสียตังค์  รำคาญไอ้พวกคนรวยมาเข้าร้านกูทำไมวะ”
กรรู้สึกอึดอัดอยากจะออกไปจากร้านเร็ว ๆ แต่ติดที่ภิรัญญาทำไมต้องมานั่งร้านแบบนี้  กรจำต้องทนนั่งเป็นเพื่อน
หลังจากภิรัญญานั่งกินกับข้าวที่สั่งมากรดูท่าจะรังเกียจช้อนจาน  ตะเกียบมันเก่า และไม่สวยงามเหมือนร้านในห้าง กรกระซิบเบาๆ  “น้องพีชอย่ากินเลยระวังท้องเสียนะครับ”
เธอกลัวป้าจะได้ยินจึงตอบกรไปเบา ๆ “ไม่เป็นไรคะพี่กร  อร่อยดีออก  พี่กรลองชิมมั้ยคะ”
กรคิดในใจน้องพีชนี่ก็แปลกอยากมากินร้านอะไรแบบนี้  วันนี้พึ่งรู้ว่าภิรัญญาก็ออกจะชอบเปิบพิสดาร  แต่จริง ๆ แล้วคงเรียกว่าเปิบพิสดารคงไม่ได้เพราะมันก็อาหารทั่ว ๆ ไป เพียงแต่กรไม่เคยสัมผัสกับการใช้ชีวิตการกินอาหารข้างถนนสักเท่าไหร่  ส่วนก๋วยเตี๋ยวที่สั่งมาดูจะขึ้นอืดหมดแล้ว เพราะกรไม่แตะเลยสักนิด
ดูป้าวรรณจะวุ่นวายกับการขายของใบหน้าที่ไม่มีรอยยิ้มเลย  รีบขาย ๆ  ให้หมดจะได้ปิดร้านเร็ว ๆ
แต่ป้าวรรณก็ทักทายลูกค้าขาประจำแบบสนิทสนมแต่น้ำเสียงไม่เสนาะหูเหมือนผู้ดีเขาคุยกันเท่านั้นเอง ภิรัญญากินไปด้วยนั่งมองไปด้วย  ส่วนกรก็นั่งแบบเซ็ง ๆ รอ
“อิ่มหรือยังครับน้องพีช” เพราะนั่งไปอยู่พักใหญ่จะนานไปนิด เพราะคนอื่นเข้ากิน ๆ แล้วก็ไปไม่พิถีพิถันกับการละเมียดกินสักเท่าไหร่  บางคนก็มองว่าคนเข้าร้านป้าโดยทั่วไปกินแบบจับกัง  กินให้อิ่ม ๆ กระเพาะก็พอ
“ยังไม่อิ่มอีกเหรออีหนู  คนรอนั่งต่อเอ็งแล้วนะ!”  ป้าตะโกนตรงหน้าร้านถามเธอ
“อิ่มแล้วคะป้า  คิดเงินด้วยคะ”
“ไอ้หนุ่มแล้วเอ็งไม่กินเหรอเนี่ยก๋วยเตี๋ยวเต็มชามเหมือนเดิม  ครั้งหน้าถ้าไม่อยากกินก็ไม่ต้องสั่งเสียของ  ร้านนี้ไม่ได้เปิดให้พวกกินทิ้งกินขว้างมาสั่ง ๆ แล้วไม่กินนะเว้ย!”  ป้าวรรณดูจะเสียงอารมณ์กับการสั่งอาหารแล้วไม่กิน  เพราะลูกค้าที่เข้าร้านป้าทุกคนกินข้าวไม่เคยเหลือเลยสักเม็ด  แถมทุกครั้งป้าขายกับข้าวยังตักข้าวให้ลูกค้าแบบพูนจานก็หมดแทบทุกคน
กรไม่สนใจกับคำพูดที่ป้าบ่น แต่รำคาญซะมากกว่า  “เท่าไหร่ครับ!”
“ของอีหนูนี่ 25  บาท  ของเอ็งไอ้หนุ่ม ก๋วยเตี๋ยว 25  บาท  น้ำขวด 5 บาท”  ป้าขายของถูก เอากำไรน้อยจึงทำให้ชาวบ้านแถวนี้เป็นลูกค้าประจำกันหนาแน่น
“กรหยิบใบพันให้ป้า”  
“ไอ้หนุ่มแค่ 55  บาท  เอ็งเอาเอาแบงค์ย่อยมาจะง่ายกว่าไหม  ข้าขี้เกียจทอน”  ป้าบ่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่