เมื่อรองผู้ว่าฯ ควบ ส.ท. คอลัมน์ ใบตองแห้ง ข่าวสดออนไลน์

กระทู้สนทนา
นายกอบจ.ซดไวน์ขวดเป็นแสนนั่งเฟิร์สต์คลาส แต่เรียกหากะปิน้ำปลา
เรียกเลขาฯมาคุกเข่ารับคำสั่งยังกะสมเด็จเจ้าพระยา แหม ฟังแล้วมันน่า
กลับไปใช้ระบอบผู้ว่าฯ เป็นเจ้าเมืองมีอำนาจเต็ม ไม่น่าปล่อยให้นักซื้อ
เสียงเข้ามาสวาปาม

ถามว่ามีจริงไหม มีจริงครับ อบจ.มีช่องโหว่ช่องทางเพียบ หลายจังหวัด
ยังอยู่ใต้เจ้าพ่ออิทธิพล บางคนก็ตัวแทนผู้รับเหมา แต่เราจะหาวิธีแก้ไข
ให้ดีขึ้น หรือบอกว่าประชาธิปไตยไม่ได้ผลล้มมันเสีย

คำพูดนี้ "โดนใจ" คนกรุงที่มอง อปท.ในแง่ลบ เชื่อว่ามีแต่ตัวเองควรได้
สิทธิเลือกผู้ว่าฯ เอาเข้าจริงเป็น "มายาคติ" เพราะ กทม.ก็มีปัญหา แม้ตัว
ผู้ว่าฯ มักภาพลักษณ์ดี แต่ระบบราชการที่ใหญ่เกินก็มีทุจริตเส้นสาย ส.ก.
ที่เลือกเข้าไป อ้าว! ไหงท่านประธานโดนข้อหาเรียกค่าคุ้มครอง ไหนว่าคน
กรุงเลือกคนดีมีคุณภาพกว่าคนบ้านนอกไร้การศึกษา (ฮา)


ไม่ปฏิเสธหรอกว่าการกระจายอำนาจยังมีปัญหา แต่ต้องใช้ปัญญาความรู้
แก้ไข ไม่ใช่คิดมักง่ายกลับไปปกครองโดยข้าราชการดีกว่า หรือให้องค์กร
เทวดา กกต. ป.ป.ช.แจกใบเหลืองใบแดงถอดถอน แล้วห้ามลงเลือกตั้ง
ตลอดชีวิต คิดแบบนี้ไม่ต้องใช้ปัญญาก็ได้

ทราบหรือไม่ อปท.ที่เชื่อกันว่าซื้อเสียงวินาศสันตะโร โกงกินมโหฬาร เมื่อ
มีเลือกตั้งใหม่ คนเดิมกลับมาไม่ถึง 30% นี่เป็นผลสำรวจของสถาบัน
พระปกเกล้า ซึ่งแปลว่ามันอาจโกงอย่างคุณเชื่อก็ได้ แต่ชาวบ้านไม่ได้โง่อีก
ต่อไป

อปท.ซึ่งเลือกตั้งเต็มพื้นที่ หลังรัฐธรรมนูญ 2540 อาจยังไม่พ้นวังวนทุจริต
แต่ก็ดีขึ้นเป็นลำดับโดยเฉพาะ อบต. กับเทศบาลขนาดเล็กที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน
เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน ตำบลเดียวกัน หน้าบ้านหลังบ้านทำอะไรมีหรือ
ชาวบ้านไม่รู้ ไม่ต้องประกาศบัญชีทรัพย์สินให้เปลืองกระดาษ

ในบรรดาอปท. ต้องยอมรับว่า อบจ.เป็น The Weakest Link เพราะยิ่งเขต
ใหญ่ยิ่งตรวจสอบยาก กระนั้นโดยธรรมชาตินักเลือกตั้งก็ต้องใส่ใจผู้ใช้สิทธิ
นักการเมืองที่คนร้องยี้ มีถมไปที่ดูแลพื้นที่มีผลงานชาวบ้านนิยมชมชอบ
สิ่งที่ต้องเสริมคือกระบวนการตรวจสอบกลั่นกรอง ทั้งโดยประชาชนเองและ
ส่วนกลาง

อย่างไรก็ดี สาเหตุที่อบจ. อปท. ออกมาเคลื่อนไหว คงไม่ใช่เพียงเพราะคำพูด
ม.ล.ปนัดดา แต่หวั่นไหวต่อทิศทางอนาคตของการกระจายอำนาจ การเลือกตั้ง
ท้องถิ่น หลังประกาศ คสช.ฉบับที่ 85 ให้งดการเลือกตั้งท้องถิ่นไว้ก่อน ถ้า
ผู้บริหารหมดวาระ ให้ปลัด อปท.ปฏิบัติหน้าที่แทน ถ้าสภาหมดวาระให้ตั้งกรรมการ
สรรหาโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

ในสถานการณ์ที่คสช.ยึดอำนาจ ประกาศใช้กฎอัยการศึก และจะตั้งสภาปฏิรูป
ประเทศ ซึ่งก็คงต้องตกลงกันว่าจะกระจายอำนาจอย่างไร เมื่อ คสช.ประกาศให้
งดเลือกตั้งทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับ เพียงแต่ผู้มีอำนาจ ผู้อยู่ในตำแหน่งสูง ยังไม่
ควรแสดงความคิดที่จะชี้ทิศทางให้เกิดความระส่ำระสาย ควรไปพูดกันในสภา
ปฏิรูปที่ท่านจะตั้งขึ้นมากกว่า

กระนั้นก็มีปัญหารายละเอียดที่ควรรับฟัง เกี่ยวกับข้อกำหนดให้สรรหาสมาชิก
สภาท้องถิ่นจากข้าราชการหรืออดีตข้าราชการ ระดับ 8 ขึ้นไปอย่างน้อย 2 ใน
3 นี่กำลังเกิดปัญหาทางปฏิบัติ เพราะเท่าที่ประกาศแต่งตั้งมาหลายแห่ง พบว่า
เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ห่างไกลพื้นที่ แล้วจะทำหน้าที่อย่างไร

ยกตัวอย่างจังหวัดหนึ่งภาคกลาง เมื่อต้นเดือนตั้งสมาชิกสภาเทศบาล 2 ตำบล
แห่งหนึ่งรองผู้ว่าฯ เป็นประธาน อีกแห่งปลัดจังหวัดเป็นประธาน คนอื่นๆ ก็มีรองผู้การ
ที่ดินจังหวัด คลังจังหวัด โยธาธิการจังหวัด รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ฯลฯ

ไม่ได้บอกว่าไม่เหมาะสม แต่ลองคิดดู ส.ท.ปกติต้องรับฟังปัญหาชาวบ้าน ท่าน
จะมีเวลาปลีกตัวมาอย่างไร ชาวบ้านที่ไหนจะเดินไปเคาะประตูห้องรองผู้ว่าฯ
เพื่อขอพบในฐานะประธานสภาเทศบาล ฉะนั้นพวกท่านก็คงทำได้แค่มาประชุม
ตามวาระ

หลายจังหวัดเป็นอย่างนี้ อัยการจังหวัดบ้าง รองผู้ว่าฯ บ้าง นายอำเภอยังพอทำเนา
บางคนต้องดำรงตำแหน่งซ้อน 2 แห่ง อ้าว จะทำไง แต่ละอำเภอหาซี 8 ง่ายนักหรือ

ล่าสุดที่อุ้มผาง จ.ตาก ตั้ง ส.ท.12 ท่าน มีผู้กำกับ มี ผอ.โรงเรียน อยู่ที่นั่น 2-3 คน
ที่เหลือเป็นข้าราชการจากจังหวัดบ้าง จากแม่สอดบ้าง ระยะทางแค่จากแม่สอด
164 ก.ม.มี 1,200 กว่าโค้ง จะโทษกรรมการสรรหาก็ไม่ได้ ก็ในอุ้มผางมีซี 8 กี่คน

ทำอย่างไรจะหาช่องอนุโลม ลดซี 8 เป็นซี 7 ซี 6 หรือกำหนดให้เป็นข้าราชการ
ที่มีภูมิลำเนาในท้องที่ หรือลดสัดส่วนให้มีประชาชนมากขึ้น มีอดีตสมาชิกสภาบ้าง
ก็ได้ ผู้มาจากเลือกตั้งไม่ได้เลวไปหมด นี่ไม่ได้เรียกร้องให้ยกเลิกนะครับ แค่เสนอ
ให้ปรับเพื่อความเหมาะสม

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd09USXpPVFF3TUE9PQ==&sectionid=

อบต. อบจ. สรรหา  ประเด็นร้อนวันนี้   ใบตองแห้งเขียนไว้น่าคิด  เก็ยตกมาให้อ่านกัน   ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่