กฎหมายทั้ง 5 ฉบับที่คุณกล่าวถึงเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นของประเทศไทย ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายระดับ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา แต่ละฉบับมีรายละเอียดและขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่แตกต่างกัน ดังนี้
---
1. พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537
เกี่ยวข้องกับ: องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย
สาระสำคัญ:
กำหนดให้อดีต "สภาตำบล" ซึ่งเดิมเป็นเพียงที่ประชุมของผู้นำชุมชนในระดับตำบล เปลี่ยนเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล
อบต. มีอำนาจหน้าที่ในการพัฒนาและให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนในเขตตำบล เช่น การดูแลถนน ทางน้ำ การศึกษา สาธารณสุข และเศรษฐกิจท้องถิ่น
การบริหารงานของ อบต. แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. สภาองค์การบริหารส่วนตำบล มีหน้าที่ออกข้อบัญญัติและควบคุมฝ่ายบริหาร
2. นายกองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นฝ่ายบริหาร มีอำนาจดำเนินนโยบายและบริหารงบประมาณ
---
2. พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496
เกี่ยวข้องกับ: เทศบาล ซึ่งเป็นหน่วยปกครองท้องถิ่นขนาดกลาง มีความเป็นเมืองมากกว่า อบต.
สาระสำคัญ:
กำหนดให้มี 3 ประเภทของเทศบาล คือ
1. เทศบาลตำบล – สำหรับพื้นที่ที่มีความเจริญระดับหนึ่ง
2. เทศบาลเมือง – มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีประชากรมากขึ้น
3. เทศบาลนคร – มีขนาดใหญ่ที่สุด มีประชากรและความเป็นเมืองสูง
โครงสร้างการบริหารของเทศบาลคล้ายกับ อบต. แต่มีขอบเขตอำนาจมากกว่า เช่น การดูแลสาธารณูปโภค ระบบขนส่ง ตลาด โรงพยาบาล สถานศึกษา ฯลฯ
มีการกำหนดให้มี สภาเทศบาล เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ และ นายกเทศมนตรี เป็นฝ่ายบริหาร
---
3. พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540
เกี่ยวข้องกับ: องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งเป็นหน่วยปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัด
สาระสำคัญ:
อบจ. เป็นหน่วยงานที่บริหารท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ดูแลพัฒนาและให้บริการในระดับจังหวัด
โครงสร้างการบริหารคล้ายกับ อบต. และเทศบาล โดยมี
1. สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทำหน้าที่ออกข้อบัญญัติ
2. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นฝ่ายบริหาร
มีอำนาจหน้าที่มากขึ้น เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับจังหวัด ดูแลสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
---
4. พระราชบัญญัติการบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528
เกี่ยวข้องกับ: กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเป็นหน่วยปกครองพิเศษที่ไม่ขึ้นตรงกับจังหวัด
สาระสำคัญ:
กำหนดให้ กรุงเทพมหานครมีฐานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
โครงสร้างการบริหารของ กทม. ต่างจาก อบจ. เทศบาล และ อบต. โดยมี
1. สภากรุงเทพมหานคร เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ทำหน้าที่ออกข้อบัญญัติ
2. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (เลือกตั้งโดยตรง) เป็นฝ่ายบริหาร
3. สภาเขต และ ผู้อำนวยการเขต ดูแลระดับเขต
อำนาจหน้าที่ของ กทม. ครอบคลุมเรื่องการบริหารเมืองขนาดใหญ่ เช่น การคมนาคมขนส่ง การจัดการน้ำเสีย ขยะมูลฝอย การควบคุมอาคาร ระบบสาธารณสุข การศึกษา และการพัฒนาชุมชน
---
5. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542
เกี่ยวข้องกับ: เมืองพัทยา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
สาระสำคัญ:
เมืองพัทยา เป็นเขตปกครองพิเศษที่ไม่ขึ้นตรงกับจังหวัดชลบุรี แต่ก็ไม่ใช่จังหวัดอิสระ
โครงสร้างการบริหารคล้ายกับ กทม. แต่มีความเฉพาะตัว เช่น
1. สภาเมืองพัทยา ทำหน้าที่ออกกฎหมายท้องถิ่น
2. นายกเมืองพัทยา เป็นฝ่ายบริหาร
เมืองพัทยามีอำนาจดูแลการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การบริการสาธารณะ และโครงสร้างพื้นฐานของเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่
---
สรุปภาพรวม
กฎหมายทั้ง 5 ฉบับเป็นกฎหมายที่กำหนดโครงสร้างและอำนาจของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในประเทศไทย
อบต. และ เทศบาล ดูแลพื้นที่ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
อบจ. ดูแลระดับจังหวัด มีอำนาจมากขึ้น
กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา เป็นหน่วยปกครองพิเศษที่มีอำนาจและโครงสร้างแตกต่างจาก อปท. อื่น
อำนาจหน้าที่ของแต่ละองค์กรแตกต่างกันไปตามขนาดและความสำคัญของพื้นที่
ข้อมูลนี้เพียงพอสำหรับการทำข้อสอบ ภาค ก ในระดับความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แต่หากต้องการให้พร้อมสำหรับการสอบมากขึ้น ควรเสริมในส่วนต่อไปนี้
1. การเปรียบเทียบโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของแต่ละประเภท
ข้อสอบอาจให้เปรียบเทียบ อำนาจหน้าที่ของ อบต., เทศบาล, อบจ., กทม., และเมืองพัทยา
เน้นจุดแตกต่าง เช่น
อบต. ดูแลพื้นที่ชนบท มีขอบเขตจำกัด
เทศบาล แบ่ง 3 ระดับ มีอำนาจมากขึ้นตามขนาด
อบจ. ดูแลโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ระดับจังหวัด
กทม. และ เมืองพัทยา มีโครงสร้างพิเศษ มีผู้บริหารเลือกตั้งโดยตรง
2. การเลือกตั้งและโครงสร้างสภาท้องถิ่น
ข้อสอบอาจถามถึง การเลือกตั้งนายก อบต., นายกเทศมนตรี, นายก อบจ., ผู้ว่าฯ กทม., นายกเมืองพัทยา
ควรรู้ว่า
อบต., เทศบาล, อบจ., เมืองพัทยา นายกมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน
กทม. ผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้ง แต่มีโครงสร้างบริหารแตกต่าง
3. แหล่งรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ข้อสอบอาจถามถึง รายได้ของ อปท. ว่ามาจากไหน เช่น
ภาษีที่เก็บเอง (ภาษีบำรุงท้องที่, ภาษีป้าย, ภาษีโรงเรือน ฯลฯ)
เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการ
4. ข้อบัญญัติท้องถิ่นและการตรากฎหมาย
ข้อสอบอาจถามว่า ข้อบัญญัติท้องถิ่นของ อบต./เทศบาล/อบจ. ออกโดยใคร (สภาท้องถิ่นของแต่ละระดับ)
อาจมีคำถามเกี่ยวกับ กระบวนการออกข้อบัญญัติ
5. บทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัดต่อ อปท.
ข้อสอบอาจถามว่า ผู้ว่าฯ จังหวัดมีอำนาจอะไรเหนือ อบต., เทศบาล และ อบจ.
ต้องรู้ว่า ผู้ว่าฯ จังหวัดเป็นผู้กำกับดูแล อบจ. และเทศบาล แต่ไม่มีอำนาจสั่งการโดยตรง
แนวทางการอ่านเสริมเพื่อเพิ่มโอกาสทำข้อสอบได้
อ่าน พรบ. การเลือกตั้งท้องถิ่น ควบคู่ไปด้วย
ศึกษาตัวอย่างข้อสอบเก่าเกี่ยวกับ อปท. เพื่อดูแนวคำถามที่ออกบ่อย
จับประเด็นสำคัญ เช่น โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ การเลือกตั้ง รายได้ และบทบาทของรัฐบาลกลางต่อ อปท.
แนวข้อสอบ ภาค ก ที่เกี่ยวกับกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มักจะเน้นไปที่ โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ การเลือกตั้ง รายได้ การออกข้อบัญญัติ และบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด ต่อ อปท.
1. การเปรียบเทียบโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของแต่ละประเภท
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. เทศบาลแบ่งเป็นกี่ประเภท และมีความแตกต่างกันอย่างไร?
2. อบจ. กับ อบต. ต่างกันตรงไหน?
3. โครงสร้างการบริหารของ กทม. แตกต่างจาก อบจ. อย่างไร?
---
2. การเลือกตั้งและโครงสร้างสภาท้องถิ่น
อบต., เทศบาล, อบจ., เมืองพัทยา → นายกมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง
กรุงเทพมหานคร → ผู้ว่าฯ กทม. มาจากการเลือกตั้งโดยตรง
สภาท้องถิ่น (สภา อบต., สภาเทศบาล, สภา อบจ.) มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่จำนวนสมาชิกขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. นายก อบจ. มาจากการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง?
2. สภาท้องถิ่นแต่ละประเภทมีโครงสร้างอย่างไร?
---
3. แหล่งรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แหล่งรายได้ของ อปท. แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
1. ภาษีที่ อปท. จัดเก็บเอง
ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
ภาษีป้าย
ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าขยะ ค่าธรรมเนียมตลาด
2. เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
รัฐบาลแบ่งรายได้จากภาษีส่วนกลาง เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มให้ อปท.
3. รายได้อื่น ๆ
รายได้จากกิจการของ อปท. เช่น การบริหารตลาดสด การให้เช่าที่ดินของรัฐ
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. อบจ. ได้รับเงินอุดหนุนจากแหล่งใดบ้าง?
2. เทศบาลสามารถเก็บภาษีประเภทใดได้บ้าง?
---
4. ข้อบัญญัติท้องถิ่นและการตรากฎหมาย
ข้อบัญญัติท้องถิ่นของ อบต., เทศบาล, อบจ., เมืองพัทยา ออกโดย สภาท้องถิ่นของแต่ละหน่วย
ข้อบัญญัติของ กรุงเทพมหานคร ออกโดย สภากรุงเทพมหานคร และต้องได้รับความเห็นชอบจาก ผู้ว่าฯ กทม.
เนื้อหาของข้อบัญญัติท้องถิ่นมักเกี่ยวกับ ภาษีท้องถิ่น การใช้ที่ดิน ขยะ และการดูแลสิ่งแวดล้อม
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. ข้อบัญญัติ อบต. ออกโดยหน่วยงานใด?
2. ข้อบัญญัติ กทม. ต้องผ่านความเห็นชอบของใคร?
---
5. บทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัดต่อ อปท.
ผู้ว่าราชการจังหวัด ทำหน้าที่เป็น ผู้กำกับดูแล อบจ. และเทศบาล แต่ ไม่มีอำนาจสั่งการโดยตรง
อำนาจของผู้ว่าฯ จังหวัดต่อ อปท. ได้แก่
ตรวจสอบข้อบัญญัติท้องถิ่น ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ระงับการดำเนินการของ อปท. หากฝ่าฝืนกฎหมาย
แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ อปท.
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งการ อบต. หรือไม่?
2. กรณีข้อบัญญัติท้องถิ่นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ใครมีอำนาจตรวจสอบ?
---
สรุปแนวทางการอ่านเพิ่ม
✅ ท่องโครงสร้างของ อบต., เทศบาล, อบจ., กทม., เมืองพัทยา ให้เข้าใจ
✅ ศึกษาการเลือกตั้งของแต่ละประเภท
✅ ทำความเข้าใจเรื่องรายได้ของ อปท.
✅ อ่านเรื่องข้อบัญญัติท้องถิ่นและการกำกับดูแลของผู้ว่าฯ จังหวัด
✅ ฝึกทำข้อสอบเก่าที่เกี่ยวกับ อำนาจหน้าที่ของ อปท.
ถ้าคุณต้องการ แนวข้อสอบตัวอย่าง หรือ สรุปแบบ Mind Map บอกมาได้เลย!
โดยรวม อปท
---
1. พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537
เกี่ยวข้องกับ: องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย
สาระสำคัญ:
กำหนดให้อดีต "สภาตำบล" ซึ่งเดิมเป็นเพียงที่ประชุมของผู้นำชุมชนในระดับตำบล เปลี่ยนเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล
อบต. มีอำนาจหน้าที่ในการพัฒนาและให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนในเขตตำบล เช่น การดูแลถนน ทางน้ำ การศึกษา สาธารณสุข และเศรษฐกิจท้องถิ่น
การบริหารงานของ อบต. แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. สภาองค์การบริหารส่วนตำบล มีหน้าที่ออกข้อบัญญัติและควบคุมฝ่ายบริหาร
2. นายกองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นฝ่ายบริหาร มีอำนาจดำเนินนโยบายและบริหารงบประมาณ
---
2. พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496
เกี่ยวข้องกับ: เทศบาล ซึ่งเป็นหน่วยปกครองท้องถิ่นขนาดกลาง มีความเป็นเมืองมากกว่า อบต.
สาระสำคัญ:
กำหนดให้มี 3 ประเภทของเทศบาล คือ
1. เทศบาลตำบล – สำหรับพื้นที่ที่มีความเจริญระดับหนึ่ง
2. เทศบาลเมือง – มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีประชากรมากขึ้น
3. เทศบาลนคร – มีขนาดใหญ่ที่สุด มีประชากรและความเป็นเมืองสูง
โครงสร้างการบริหารของเทศบาลคล้ายกับ อบต. แต่มีขอบเขตอำนาจมากกว่า เช่น การดูแลสาธารณูปโภค ระบบขนส่ง ตลาด โรงพยาบาล สถานศึกษา ฯลฯ
มีการกำหนดให้มี สภาเทศบาล เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ และ นายกเทศมนตรี เป็นฝ่ายบริหาร
---
3. พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540
เกี่ยวข้องกับ: องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งเป็นหน่วยปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัด
สาระสำคัญ:
อบจ. เป็นหน่วยงานที่บริหารท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ดูแลพัฒนาและให้บริการในระดับจังหวัด
โครงสร้างการบริหารคล้ายกับ อบต. และเทศบาล โดยมี
1. สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทำหน้าที่ออกข้อบัญญัติ
2. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นฝ่ายบริหาร
มีอำนาจหน้าที่มากขึ้น เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับจังหวัด ดูแลสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
---
4. พระราชบัญญัติการบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528
เกี่ยวข้องกับ: กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเป็นหน่วยปกครองพิเศษที่ไม่ขึ้นตรงกับจังหวัด
สาระสำคัญ:
กำหนดให้ กรุงเทพมหานครมีฐานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
โครงสร้างการบริหารของ กทม. ต่างจาก อบจ. เทศบาล และ อบต. โดยมี
1. สภากรุงเทพมหานคร เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ทำหน้าที่ออกข้อบัญญัติ
2. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (เลือกตั้งโดยตรง) เป็นฝ่ายบริหาร
3. สภาเขต และ ผู้อำนวยการเขต ดูแลระดับเขต
อำนาจหน้าที่ของ กทม. ครอบคลุมเรื่องการบริหารเมืองขนาดใหญ่ เช่น การคมนาคมขนส่ง การจัดการน้ำเสีย ขยะมูลฝอย การควบคุมอาคาร ระบบสาธารณสุข การศึกษา และการพัฒนาชุมชน
---
5. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542
เกี่ยวข้องกับ: เมืองพัทยา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
สาระสำคัญ:
เมืองพัทยา เป็นเขตปกครองพิเศษที่ไม่ขึ้นตรงกับจังหวัดชลบุรี แต่ก็ไม่ใช่จังหวัดอิสระ
โครงสร้างการบริหารคล้ายกับ กทม. แต่มีความเฉพาะตัว เช่น
1. สภาเมืองพัทยา ทำหน้าที่ออกกฎหมายท้องถิ่น
2. นายกเมืองพัทยา เป็นฝ่ายบริหาร
เมืองพัทยามีอำนาจดูแลการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การบริการสาธารณะ และโครงสร้างพื้นฐานของเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่
---
สรุปภาพรวม
กฎหมายทั้ง 5 ฉบับเป็นกฎหมายที่กำหนดโครงสร้างและอำนาจของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในประเทศไทย
อบต. และ เทศบาล ดูแลพื้นที่ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
อบจ. ดูแลระดับจังหวัด มีอำนาจมากขึ้น
กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา เป็นหน่วยปกครองพิเศษที่มีอำนาจและโครงสร้างแตกต่างจาก อปท. อื่น
อำนาจหน้าที่ของแต่ละองค์กรแตกต่างกันไปตามขนาดและความสำคัญของพื้นที่
ข้อมูลนี้เพียงพอสำหรับการทำข้อสอบ ภาค ก ในระดับความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แต่หากต้องการให้พร้อมสำหรับการสอบมากขึ้น ควรเสริมในส่วนต่อไปนี้
1. การเปรียบเทียบโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของแต่ละประเภท
ข้อสอบอาจให้เปรียบเทียบ อำนาจหน้าที่ของ อบต., เทศบาล, อบจ., กทม., และเมืองพัทยา
เน้นจุดแตกต่าง เช่น
อบต. ดูแลพื้นที่ชนบท มีขอบเขตจำกัด
เทศบาล แบ่ง 3 ระดับ มีอำนาจมากขึ้นตามขนาด
อบจ. ดูแลโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ระดับจังหวัด
กทม. และ เมืองพัทยา มีโครงสร้างพิเศษ มีผู้บริหารเลือกตั้งโดยตรง
2. การเลือกตั้งและโครงสร้างสภาท้องถิ่น
ข้อสอบอาจถามถึง การเลือกตั้งนายก อบต., นายกเทศมนตรี, นายก อบจ., ผู้ว่าฯ กทม., นายกเมืองพัทยา
ควรรู้ว่า
อบต., เทศบาล, อบจ., เมืองพัทยา นายกมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน
กทม. ผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้ง แต่มีโครงสร้างบริหารแตกต่าง
3. แหล่งรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ข้อสอบอาจถามถึง รายได้ของ อปท. ว่ามาจากไหน เช่น
ภาษีที่เก็บเอง (ภาษีบำรุงท้องที่, ภาษีป้าย, ภาษีโรงเรือน ฯลฯ)
เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการ
4. ข้อบัญญัติท้องถิ่นและการตรากฎหมาย
ข้อสอบอาจถามว่า ข้อบัญญัติท้องถิ่นของ อบต./เทศบาล/อบจ. ออกโดยใคร (สภาท้องถิ่นของแต่ละระดับ)
อาจมีคำถามเกี่ยวกับ กระบวนการออกข้อบัญญัติ
5. บทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัดต่อ อปท.
ข้อสอบอาจถามว่า ผู้ว่าฯ จังหวัดมีอำนาจอะไรเหนือ อบต., เทศบาล และ อบจ.
ต้องรู้ว่า ผู้ว่าฯ จังหวัดเป็นผู้กำกับดูแล อบจ. และเทศบาล แต่ไม่มีอำนาจสั่งการโดยตรง
แนวทางการอ่านเสริมเพื่อเพิ่มโอกาสทำข้อสอบได้
อ่าน พรบ. การเลือกตั้งท้องถิ่น ควบคู่ไปด้วย
ศึกษาตัวอย่างข้อสอบเก่าเกี่ยวกับ อปท. เพื่อดูแนวคำถามที่ออกบ่อย
จับประเด็นสำคัญ เช่น โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ การเลือกตั้ง รายได้ และบทบาทของรัฐบาลกลางต่อ อปท.
แนวข้อสอบ ภาค ก ที่เกี่ยวกับกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มักจะเน้นไปที่ โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ การเลือกตั้ง รายได้ การออกข้อบัญญัติ และบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด ต่อ อปท.
1. การเปรียบเทียบโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของแต่ละประเภท
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. เทศบาลแบ่งเป็นกี่ประเภท และมีความแตกต่างกันอย่างไร?
2. อบจ. กับ อบต. ต่างกันตรงไหน?
3. โครงสร้างการบริหารของ กทม. แตกต่างจาก อบจ. อย่างไร?
---
2. การเลือกตั้งและโครงสร้างสภาท้องถิ่น
อบต., เทศบาล, อบจ., เมืองพัทยา → นายกมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง
กรุงเทพมหานคร → ผู้ว่าฯ กทม. มาจากการเลือกตั้งโดยตรง
สภาท้องถิ่น (สภา อบต., สภาเทศบาล, สภา อบจ.) มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่จำนวนสมาชิกขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. นายก อบจ. มาจากการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง?
2. สภาท้องถิ่นแต่ละประเภทมีโครงสร้างอย่างไร?
---
3. แหล่งรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แหล่งรายได้ของ อปท. แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
1. ภาษีที่ อปท. จัดเก็บเอง
ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
ภาษีป้าย
ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าขยะ ค่าธรรมเนียมตลาด
2. เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
รัฐบาลแบ่งรายได้จากภาษีส่วนกลาง เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มให้ อปท.
3. รายได้อื่น ๆ
รายได้จากกิจการของ อปท. เช่น การบริหารตลาดสด การให้เช่าที่ดินของรัฐ
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. อบจ. ได้รับเงินอุดหนุนจากแหล่งใดบ้าง?
2. เทศบาลสามารถเก็บภาษีประเภทใดได้บ้าง?
---
4. ข้อบัญญัติท้องถิ่นและการตรากฎหมาย
ข้อบัญญัติท้องถิ่นของ อบต., เทศบาล, อบจ., เมืองพัทยา ออกโดย สภาท้องถิ่นของแต่ละหน่วย
ข้อบัญญัติของ กรุงเทพมหานคร ออกโดย สภากรุงเทพมหานคร และต้องได้รับความเห็นชอบจาก ผู้ว่าฯ กทม.
เนื้อหาของข้อบัญญัติท้องถิ่นมักเกี่ยวกับ ภาษีท้องถิ่น การใช้ที่ดิน ขยะ และการดูแลสิ่งแวดล้อม
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. ข้อบัญญัติ อบต. ออกโดยหน่วยงานใด?
2. ข้อบัญญัติ กทม. ต้องผ่านความเห็นชอบของใคร?
---
5. บทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัดต่อ อปท.
ผู้ว่าราชการจังหวัด ทำหน้าที่เป็น ผู้กำกับดูแล อบจ. และเทศบาล แต่ ไม่มีอำนาจสั่งการโดยตรง
อำนาจของผู้ว่าฯ จังหวัดต่อ อปท. ได้แก่
ตรวจสอบข้อบัญญัติท้องถิ่น ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ระงับการดำเนินการของ อปท. หากฝ่าฝืนกฎหมาย
แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ อปท.
📌 ข้อสอบอาจถาม:
1. ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งการ อบต. หรือไม่?
2. กรณีข้อบัญญัติท้องถิ่นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ใครมีอำนาจตรวจสอบ?
---
สรุปแนวทางการอ่านเพิ่ม
✅ ท่องโครงสร้างของ อบต., เทศบาล, อบจ., กทม., เมืองพัทยา ให้เข้าใจ
✅ ศึกษาการเลือกตั้งของแต่ละประเภท
✅ ทำความเข้าใจเรื่องรายได้ของ อปท.
✅ อ่านเรื่องข้อบัญญัติท้องถิ่นและการกำกับดูแลของผู้ว่าฯ จังหวัด
✅ ฝึกทำข้อสอบเก่าที่เกี่ยวกับ อำนาจหน้าที่ของ อปท.
ถ้าคุณต้องการ แนวข้อสอบตัวอย่าง หรือ สรุปแบบ Mind Map บอกมาได้เลย!