มรดกร้าย...กลายรัก (ภาค อนล) บทนำ

กระทู้สนทนา
บทนำ




    มันคือวันศุกร์ใกล้เวลาเลิกงาน ของปลายเดือนกันยายน ที่บรรยากาศภายนอกมัวหม่นด้วยกลุ่มเมฆฝนดำทะมึน แต่ทุกอย่างในโลกของ อนล เลิศไตรภพ ยังปกติสุขเหมือนอย่างเคย

    ข้อสรุปบางอย่าง ที่นิตยสารวิเคราะห์เศรษฐกิจหลายฉบับบอกว่า “เป็นไปไม่ได้” กำลังจะจบลงด้วยดี พรุ่งนี้ มะรืนนี้ และหลังจากนั้น เขาจะได้พักเต็มที่

    และ...

    ค่ำคืนนี้ สาวสวย ที่เป็นทั้งนางงาม นางแบบ และดาราหุ่นน่าฟัดที่สุด ที่เคยขึ้นปกนิตยสารชั้นนำกว่าครึ่งของไทย จะมาสังสรรค์และสนุกกับเขา ที่เพนท์เฮ้าส์สุดหรูกลางกรุง

    ทว่า.. สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงนั่น ไม่ได้ทำให้เขาลดความสนใจในตัวของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าได้เลย

    หญิงสาวผู้มีดวงตาพราวเสน่ห์ มีเรือนผมสีอ่อน และเรือนร่างที่... น่าจะขึ้นไปอยู่บนเตียงในห้องนอนของเขามากกว่า จะต้องมาเป็นคู่เจรจาธุรกิจอยู่อย่างในตอนนี้

    ทั้งคู่ใช้เวลามาตั้งแต่เช้า ถกเถียงกันเพื่อจะเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า และอนลรู้ดีว่าจะวอกแวกไปกับความสวยสะดุดตาของหล่อนไม่ได้เด็ดขาด

    ข้อสัญญาสลับซับซ้อนเป็นอันตกลงกันได้ลงตัวแล้วในตอนนี้ พร้อมกับทำให้เขารับรู้เพิ่มขึ้นได้ว่า ความมีเสน่ห์ของหล่อน สามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้จริง แต่เขาก็ยังรับมือได้

    สลิล ดูทั้งเยือกเย็นและสง่างาม พร้อมกับที่ดูฉลาดและโก้เก๋ได้พร้อมกัน นั่นเป็นผู้หญิงในแบบที่เขาชอบ รวมทั้งอนลก็รู้วิธีจัดการกับหล่อน

    อนลเผลอยิ้มเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาจริงจังของเขา ดูอ่อนโยนขึ้นโดยอัตโนมัติ

    สาวทรงเสน่ห์ก็สังเกตเห็น

    “คิดอะไรอยู่หรือคะ หรือว่าฉันพลาดอะไรไป”

    สลิลเอ่ยขึ้นคล้ายพึมพำกับตัวเอง

    “ฉันอ่อนข้อให้คุณมากเกินไปหรือเปล่า”

    คำถามนี้ทำให้อนลถึงกับหัวเราะ

    “อย่าคิดมาสิครับ เราก็รู้ดีอยู่แล้ว การต่อรองเป็นศิลปะ เราต้องยอมเสียบางส่วน เพื่อให้ได้ส่วนอื่นๆ กลับคืนมา”

    คนฟังยิ้ม เอนตัวไปพิงพนักเต็มที่ สลับขาขึ้นไขว่ห้าง... ทำให้กระโปรงสูทสีเรียบสั้นเหนือเข่า ร่นขึ้นไปอีกเล็กน้อย

    อนลหรี่ตา... เหมือนจะเห็นอะไรแวบๆ... ใช่ลูกไม้ดำหรือแดงองุ่นกันแน่หนอ... หรือว่าเขาแค่ตาลายไปเอง

    “ฉันไม่ใช่เด็กใหม่ค่ะคุณอนล เรารู้ดีอย่างที่คุณบอกนั่นละ”

    หล่อนจ้องตาเขาตรงๆ

    “...ศิลปะการต่อรองคือ การตักตวงผลประโยชน์จากฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่สุด”

    คนฟังชักสงสัยว่า การเจรจาทางธุรกิจจบลงไปแล้วหรือยัง และนี้เขากำลังคุยกันถึงเรื่องอะไร

    “ก็... อาจเป็นได้...”

    อนลยิ้มอีกครั้ง

    “...แต่ สำหรับผม ไม่เคยจัดการอะไรๆ ตามใจ ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่พอใจ”

    คราวนี้หล่อนหัวเราะอออกมา

    “ฉันก็เคยได้ยินมาอย่างนั้น”

    สลิลยกเข่าขึ้นเพื่อสลับขากันอีกแล้ว คราวนี้ชัด... ลูกไม้สีดำแน่ๆ

    “ถึงตรงๆ ฉันสารภาพก็ได้ว่า ตื่นเต้นและเกร็งไปหมด เมื่อรู้ว่าต้องมาเจรจากับคุณ อนล เลิศไตรภพ”

    “แต่เท่าที่คุยกันมา ผมนึกไม่ออกว่า ท่าทางตอนคุณสลิลตื่นเต้นและเกร็งไปหมด จะเป็นยังไง”

    เขายิ้มเมื่อจบคำ

    “เรียก ลิซ เถอะค่ะ เวลาเป็นทางการมันจบไปแล้ว”

    ปลายลิ้นสีชมพูของหล่อนแลบออกมาไล้ริมฝีปากล่าง ขณะลุกขึ้นช้าๆ

    “ที่จริง... ในแผนการของฉัน ไม่ว่าการเจรจาจะจบลงอย่างไร ฉัน... คิดว่าเราน่าจะไปดินเนอร์ด้วยกันสักมื้อ หาที่สบายๆ ดื่มด้วยกันต่อ... แล้ว... แล้วต่อจากนั้น... ก็... ไม่รู้สิคะ”

    อนลรู้สึกว่าร่างกายบางส่วนเกร็งขึ้นตอนที่หล่อนเริ่มเดินเข้ามาใกล้ เขากวาดสายตาไปทั่วเรือนร่างของหล่อนอย่างโจ่งแจ้ง และประเมิน

    สัญชาตญาณบอกว่า เขาสามารถจัดการกับหล่อนได้เลยในตอนนี้ และหล่อนก็กำลังอยากจะถูกจัดการเช่นกัน  สิ่งที่ต้องทำก็แค่...

    เอื้อมมือ สอดเข้าไปใต้กระโปรง... เลิกมันขึ้นไปพักไว้บนสะโพกกลมกลึงนั่น

    “ผมชอบนะ คุณเป็นคนตรงไปตรงมาดี”

    เสียงเขาเครือไปเล็กน้อย ตอนดันเก้าอี้เพื่อลุกขึ้นยืน

    “นี่ละค่ะ ฉันเอง...

    หล่อนใช้ฝ่ามืออุ่น สัมผัสกับแขนของชายหนุ่ม

    “...หรือว่า มันทำให้คุณไม่พอใจ...”

    “ตรงข้าม ผมว่ามัน... เยี่ยมมาก”

    เขาเปลี่ยนไปยิ้มให้หล่อนด้วยดวงตา ยกมือขึ้นสัมผัสแนวคางมน เริ่มไล้นิ้วไปตามลำคอระหง

    “ผมศรัทธาเรื่องความสัมพันธ์แบบตรงไปตรงมา”

    สลิลยิ้มตอบ

    “เรื่องนี้ ฉันก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน และ... ฉันก็... ชอบให้มันเป็นอย่างนั้น...”

    เขาสัมผัสได้ถึงความผ่าวร้อน และชีพจรที่เต้นเร่าอยู่ใต้ปลายมือ ลำคอขาวผ่องนั้น ชื้นเหงื่อขึ้นเล็กน้อย

    “แต่ ผมต้องบอกคุณก่อน ว่าในบางเรื่อง ผมก็ค่อนข้างจะหัวโบราณ”

    “อย่างบอกนะคะ ว่าถ้าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับ เรา มันจะทำให้มันกลายเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่ง... คุณไม่หวังจะให้มันเป็นเช่นนั้น”

    เขายังไม่ได้ตอบคำ สายตายังไม่ละจากริมฝีปากอิ่มสีสดชวนหลงใหล ตอนนี้ฝ่ามือเขา ประทับประคองอยู่บนเนินอกอิ่มสล้างของหล่อนเรียบร้อยแล้ว

    สลิลหายใจแรงขึ้น หัวใจเต้นระรัวจนเขาน่าจะรู้สึกได้

    “อันที่จริง...”

    แต่อนลยังควบคุมน้ำเสียงของตัวเองได้เป็นอย่างดี เหมือนกำลังคุยเรื่องสายลมแสงแดดทั่วไป

    “ผมแค่... คิดถึง... แลกเปลี่ยน แบบ วินวิน อยู่ต่างหาก”

    หล่อนครางเบาๆ เมื่อรู้สึกว่านิ้วโป้งของเขา กดกระชั้นลงเบาๆ บนปลายยอด

    เขาก็รับรู้ได้เช่นกัน ถึงความแข็งชันที่ปลายนิ้วได้สัมผัส

    “สิ่งอยากให้คุณรู้คือ ผมจะเป็นคนตัดสินใจ ว่าควรตอบแทนคุณด้วยอะไร...”

    อนลเปลี่ยนจากการกด เป็นการวนหัวนิ้วโป้งไปมา ตรงตำแหน่งเดิม

    “และ... บอกเองว่า ควรได้อะไรจากคุณบ้าง... เรื่องนี้ คุณจะมีปัญหาอะไรไหม”

    “นั่นน่ะ... ด้วยความเต็มใจเลยละค่ะ”

    หล่อนตอบ เสียงสั่นๆ นั้น ทำให้เขาจับได้ว่า หญิงสาวที่กำลังอ่อนระทวย ต้องควบคุมตัวเองอยู่อย่างเต็มที่

    “มัน... มันไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยสำหรับฉัน”

    คราวนี้เขาใช้ทั้งห้านิ้ว กอบกุม และเคล้าคลึงอย่างเต็มไม้เต็มมือ สลิลต้องยึดข้อมือเขาเอาไว้ แต่ชายหนุ่มก็ยังสัมผัสได้ถึงความตื่นตัวที่แล่นพล่านไปทั่วร่างของหล่อน

    เมื่ออนลแน่ใจว่า ต่อจากนี้ การเจาะผ่านเข้าไปสู่ภายในจะเป็นเรื่องง่ายดาย มันทำให้เขาทั้งพอใจและผิดหวัง ในตอนนี้ ทุกคำพูดของหล่อนจะเหมือนแค่คนป่วยหนักกำลังพร่ำเพ้อ แล้วหลังจากนั้น... หล่อนก็จะเรียกร้อง มากขึ้น และมากขึ้น และในที่สุดก็จะเป็นสิ่งที่เขามอบให้ไม่ได้

    เขาชินเสียแล้วกับคำประณามว่าเป็น เพลย์บอยไร้หัวใจ เพราะเขารู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นอย่างนั้น

    อนลชัดเจนทุกครั้งก่อนเริ่มความสัมพันธ์ เขาสนุกกับมันเต็มที่ทุกครั้ง และ... นั่นก็ไม่ใช่ความรัก การเริ่นต้นแบบที่สลิลกำลังพยายามอยู่นี้ คนสติดีๆ คนไหนก็รู้ ว่ามันจะไม่สานต่อไปเป็นความรักได้เด็ดขาด และ ขณะนี้ เขาก็สติดีมากๆ เสียด้วย

    ชายหนุ่มรู้สึกเหนื่อยหน่ายขึ้นมาเฉยๆ รู้สึกเหมือนตัวเองอายุกว่าห้าสิบปี ทั้งที่เพิ่งจะสามสิบสองเท่านั้น เขาเบื่อกับเกมแบบนี้ เกมที่เล่นมานับครั้งไม่ถ้วน...

    อนลขยับถอย เลื่อนมือขึ้นกุมหัวไหล่ของหญิงสาว ก่อนจะยิ้มให้

    “ขอเบอร์ส่วนตัวคุณได้ไหม... แล้วผมจะโทร.หา”

    “แต่...”

    ดวงตาคู่สวยของหล่อน ทั้งผิดหวังทั้งงุนงง

    “ฉัน... คิดว่า... เรา...”

    “ไม่ใช่คนนี้ครับ”

    อนลปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยนที่สุด

    “แต่ผมรับรอง... ว่า... ต้องเป็นเร็วๆ นี้”

    ทั้งห้องคล้ายจะเงียบงันไปชั่วขณะ ก่อนที่รอยยิ้มของสลิลจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง

    “ฉัน... ฉันไม่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าหรอกนะคะที่ทำอย่างนี้ และ... คิดว่า... ที่คุณไม่กล้า... เพราะคุณกลัวความท้าทายจากฉัน”

    หล่อนหันไปเก็บแฟ้มลงกระเป๋า

    “ทุกเบอร์ของฉันอยู่ที่เลขาคุณหมดแล้ว”

    เสียงหล่อนเย็นยะเยือก ไม่เหลือเค้าว่าเพิ่งแสดงอาการเร่าร้อนเต็มที่ไปหมาดๆ

    “ช่วยส่งสัญญาที่ตรวจแก้แล้วไปที่สำนักงานให้ด้วยนะคะ คิดว่าคุณควรจะทำมันเป็นเป็นอย่างไรในเช้าวันจันทร์”

    อนลพยักหน้า ยิ้มให้กับการสะบัดหน้าแล้วเดินจากไป ทันทีที่หล่อนพ้นประตูไป เขาก็ระบายลมหายใจยาว

    “ไอ้นลเอ๊ย!...”

    เขาพึมพำกับตัวเอง พร้อมเหลือบมองนาฬิกาตั้งโต๊ะ...

    จะไม่มีเวลาแล้ว เขาต้องกลับไปอาบน้ำ โกนหนวด แต่งตัวใหม่ ให้ทันกับนัดสำคัญ

    รตีไม่ชอบการรอคอย...

    ทว่าอนลกับแค่ค่อยถอดเสื้อตัวนอกออก พาดไว้กับพนักเก้าอี้อย่างบรรจง

    แต่... หล่อนต้องรอ...

    ระหว่างเขากับหล่อน มันเป็นเช่นนั้นเสมอ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่