หนามหัวใจ ตอนที่ ๑๖

กระทู้สนทนา
ตอนที่ ๑๕ http://ppantip.com/topic/32354401

                        “เรามาอยู่ในรถได้ยังไง”พรีมถามตัวเอง

                         หญิงสาวรู้สึกจุกที่ท้องน้อย เข็มขัดนิรภัยทำให้เธอหายใจไม่สะดวก มือเรียวเล็กปลดเข็มขัด พรีมไม่รู้ว่าจะปรับเบาะนั่งขึ้นได้ยังไง จึงพยุงตัวขึ้นนั่ง ตอนนี้รถจอดอยู่ในปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศ ประตูรถไม่ได้ล็อค พรีมมองซ้ายมองขวา เจ้าของรถคงไปเข้าห้องน้ำ หญิงสาวลงจากรถ     หลายคนมองเธอเป็นตาเดียว แต่พรีมไม่สนใจ ใครกันที่พาเธอขึ้นรถ เจ้าของรถเป็นใคร และกำลังจะพาเธอไปไหน คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวหญิงสาว เธอเดินไปเรื่อยเปื่อย สมองตื้อจนคิดไม่ออกว่าจะหาทางกลับบ้านได้อย่างไร

    “จะไปไหน”เสียงคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับเจ้าของเสียงยื่นมือมาคว้าข้อมือเธอ

    “คุณพี”น้ำเสียงหญิงสาวแหบพร่า นึกถึงคำขู่ที่เขาเคยลั่นวาจาไว้ เธอก็แทบจะล้มทั้งยืน

    “ไม่อายหรือไง คนมองเต็มไปหมด”พูดจบก็ฉุดกระชากหญิงสาว

                        เสียงประตูรถปิดดังปัง พรีมหันไปมองคนขับที่เปิดประตูรถขึ้นมา ชายหนุ่มปรับเบาะของหญิงสาวให้ตั้งตรงพร้อมกับโยนถุงใส่ของลงบนตัก

    “ผมซื้อของใช้ส่วนตัวมาให้ ถ้าไม่ชอบก็ทนใช้ไปก่อนแล้วกัน”

                        พรีมเปิดถุงดูของข้างในอย่างงงๆ ในนั้นมีสบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า ผ้าอนามัย แป้งเด็ก ลิปมัน หวี คอตตอนบัดด์ หมวกอาบน้ำ โลชั่นทาผิว กางเกงใน หญิงสาวนั่งจ้องของในถุงสักพักจึงเงยหน้ามองคนซื้อ ชายหนุ่มรู้ตัวจึงหันมามองเธอแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองถนน

    “ของพวกนั้นใช้ชั่วคราวไปก่อน อีกวันสองวันผมจะเข้าเมืองไปซื้อในห้างฯ มาให้”

    “คุณลักพาตัวฉันมาเหรอ”พรีมถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ

    “ใช่”ชายหนุ่มหันมาพยักหน้ากับเธอ

    “คุณจะพาฉันไปไหน”

    “บ้านสวน”

    “คุณเลวมาก ฉันเป็นภรรยาของพี่ชายคุณนะ”พรีมตวาดใส่ชายหนุ่มเป็นครั้งแรก

    “ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”รพีพัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

                     กำปั้นเล็กๆ ทุบรัวบนไหล่กว้างของชายหนุ่ม รพีพัฒน์เลี้ยวรถจอดข้างทาง ไม่ใช่เพราะเขาเจ็บ แค่กลัวอุบัติเหตุ และอยากสนองคืนเธอก็เท่านั้นเอง

    “นั่งเฉยๆ ไม่เป็นหรือไง เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”รพีพัฒน์

    “ป่านนี้คุณภูคงตามตัวฉันให้วุ่น ถ้าคุณเกลียดฉันมาก ฉันเลิกกับคุณภูก็ได้ ทำแบบนี้มันคุ้มกันเหรอ”

                      รพีพัฒน์รู้ดีกว่าใครว่าเรื่องที่ทำมันไม่ถูกต้อง แต่จะให้เขาเฝ้ามองดูเธอใช้ชีวิตร่วมกับพี่ชายของเขาโดยไม่รู้ว่าอนาคตจะต้องผจญความทุกข์แบบไหน เขายอมเป็นคนเลวในสายตาเธอจะดีกว่า

    “ผมไม่เชื่อว่าคุณจะยอมเลิกกับพี่ผม ขนาดโดนผมล่วงเกินแบบนั้น คุณยังดันทุรังไม่ยอมถอนหมั้น”รพีพัฒน์หรี่ตามองใบหน้าสะอาดเกลี้ยงเกลา ใบหน้าของเขาโน้มหาเธอ พรีมตกใจเบียดร่างชิดประตู

    “เอ หรือว่าผมต้องลงทุนเปลืองตัว คุณจะได้เชื่อว่าผมเอาจริง”

    “อย่าทำบ้าๆ นะ”พรีมร้องห้ามเสียงสั่นพร้อมกับเอามือยันหน้าอกชายหนุ่ม

    “อย่ากลัวไปเลย ผมไม่เลวขนาดจะเอา เมียพี่ หรอก”ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ

                ใบหน้าหญิงสาวแดงระเรื่อ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายเต็มหน้าผาก พรีมรู้สึกว่าเธอร้อนทั้งที่แอร์ในรถเย็นฉ่ำ รพีพัฒน์สตาร์ทรถมุ่งหน้าไปบ้านสวน    นาฬิกาดิจิตอลบนแผงหน้าปัดรถบอกเวลา ๒.๐๐ น. พรีมมองออกไปนอกหน้าต่างรถสองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านคนจนรถเลี้ยวเข้าสู่ถนนอีกเส้น บ้านคนเปลี่ยนเป็นต้นไม้ตลอดแนว ภูวดลเคยเล่าให้ฟังว่าช่วงห้าปีที่รพีพัฒน์หายไป ชายหนุ่มทำสวนดอกไม้อยู่ต่างจังหวัด แถมเขาเองยังเคยถามเธอด้วยว่าชอบกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัดมากกว่ากัน     น่าแปลกที่ชั่วระยะเวลาไม่นานหลังจากชายหนุ่มย้ายมาอยู่ห้องตรงข้าม เธอจำช่วงเวลาที่เขาและเธอใช้เวลาร่วมกันได้อย่างชัดเจน ทว่า เธอจำเรื่องราวของเธอระหว่างภูวดลแทบไม่ได้ ราวกับมันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปไม่มีอะไรให้จดจำเป็นพิเศษ

                 รพีพัฒน์มองคนที่นั่งข้างๆ ด้วยแววตาสำนึกผิด หวังว่าสักวันเธอจะขอบใจที่เขาทำเช่นนี้ ที่ผ่านมาพี่ชายของเขาคงทะนุถนอมเธอตามประสาข้าวใหม่ปลามัน หรือไม่ก็หักห้ามใจตัวเองไว้ได้ แต่ถ้าวันใดพี่เกิดห้ามตัวเองไม่ได้ขึ้นมา คนที่เจ็บที่สุดก็คือผู้หญิงไม่รู้อีโหน่อีเหน่คนนี้

                 ประตูรั้วเปิดด้วยรีโมทคอนโทรล พรีมเพ่งมองชื่อสวน อาศัยแสงสว่างจากไฟหน้ารถ “สวนภูพิงค์” หญิงสาวเอนหลังพิงเบาะ สวนนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร แถมยังอยู่ในอำเภอที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน หญิงสาวมองไม่เห็นหนทางที่จะหนีกลับบ้าน ถึงขโมยรถได้เธอก็คงมืดแปดด้านไม่รู้จะขับไปไหน ครั้นจะขอความช่วยเหลือจากคนในสวนก็เป็นไปไม่ได้อีกนั่นแหละ

    “เขาคงเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ทำร้ายเราหรอกมั้ง”พรีมคิดในแง่บวกที่สุด ทั้งที่ในใจเธอเองก็ครั่นคร้ามไม่น้อย

                 รถจอดสนิทที่หน้าบ้านไม้สองชั้น รพีพัฒน์ลงจากรถอ้อมมาเปิดประตูให้พรีม ชายหนุ่มคว้าของใส่ถุงเดินนำขึ้นไปบนบ้าน ส่วนพรีมลงจากรถอย่างทุลักทุเล สองมือกอบชายกระโปรงขึ้นมา หญิงสาวใช้เท้าดันประตูปิด ระหว่างเดินตามชายหนุ่มขึ้นไปบนบ้านก็นึกสงสัยว่าเขาอุ้มเธอมาขึ้นรถได้อย่างไร

    “เหมือนเราจะหลับไปนาน เอ หรือว่าโดนวางยานอนหลับ”

                 รพีพัฒน์เดินนำขึ้นไปชั้นบน ชายหนุ่มเปิดประตูห้องนอน หลีกทางให้หญิงสาวเดินเข้าไปก่อน พรีมมองเตียงไม้สี่เสากลางห้อง โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า รวมถึงเฟอร์นิเจอร์อื่นใช้วัสดุเดียวกันทั้งหมด ห้องนอนเรียบๆ ตามแบบห้องนอนผู้ชาย สิ่งที่ทำให้ห้องดูสว่างคือแจกันดอกไม้หลากสีบนโต๊ะเขียนหนังสือ ชายหนุ่มเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท เขาหันมาหาร่างสูงระหงที่ยืนเก้ๆ กังๆ กลางห้องด้วยแววตาอ่อนโยน

    “ที่นี่ไม่มีแอร์หรอกนะ”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเย็นชา

    “คุณจะขังฉันไว้ที่นี่นานแค่ไหน”พรีมถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย จนอีกฝ่ายแปลกใจ เขาคิดว่าจะได้เห็นเธออาละวาดบ้านแตกเสียอีก

    “สามเดือน”รพีพัฒน์ตอบ

                      ระยะเวลาที่เขาบอกเธอเป็นแค่ตัวเลขที่ผุดขึ้นมาหลังจากได้ยินคำถามของหญิงสาว อันที่จริงเขาแค่อยากพาเธอมาขังไว้ แต่ลืมสนิทเลยว่าหลังจากนั้นจะทำอย่างไรต่อ ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงประตูห้องน้ำ อย่าแสดงอาการลังเลให้เธอเห็นเด็ดขาด ทำตัวโหดๆ เข้าไว้ ชายหนุ่มเตือนตัวเอง

    “เพื่อ...”พรีมยืนกอดอกพิงเสาเตียง

    “ก็เพื่อให้พี่ภูลืมคุณ ผมว่าแค่อาทิตย์เดียว พี่ภูคงหาแฟนใหม่แล้วล่ะ ส่วนข้อตกลงในพินัยกรรมก็ไม่เป็นโมฆะ เพราะคุณได้แต่งงานกับพี่ภูสมใจคุณพ่อผมกับคุณพ่อคุณ”

    “งั้น ถ้าภายในหนึ่งอาทิตย์คุณภูหาแฟนใหม่ได้แล้วจะปล่อยฉันไปใช่ไหม”พรีมต่อรองกับชายหนุ่มรุ่นน้อง

    “เร็วไปหรือเปล่า”

    “นี่คุณ จะจับฉันมาขังเป็นเชลยทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ได้นะ”หญิงสาวแว้ดใส่

    “คุณทำผิดตั้งแต่รับหมั้นพี่ภูแล้ว”พูดจบชายหนุ่มก็หาวเสียงดัง

                 พรีมกำลังจะอ้าปากเถียงก็ถูกรพีพัฒน์ผลักเบาๆ ชายหนุ่มคลายเชือกที่ผูกมุ้งติดกับเสาเตียงออก เขาเดินไปที่ลิ้นชักเก็บของใช้ส่วนตัว หยิบชุดนอนพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ยื่นส่งให้หญิงสาว

    “ดึกแล้ว อาบน้ำพักผ่อนซะ ผมจะไปนอนที่ห้องทำงาน”

                 พรีมกดล็อกกลอนประตู หญิงสาวเลื่อนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งมาวางกั้นประตูอีกหนึ่งชั้น นิ้วเรียวรูดซิปหลังจนชุดแต่งงานเลื่อนมากองบนข้อเท้า ร่างบางก้าวเข้าไปยืนใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำชะล้างร่างเปลือยเปล่า ตอนนี้เธอตื่นเต็มตาสงสัยว่าคืนนี้จะนอนหลับหรือเปล่า

                 พรีมมองเตียงที่เจ้าของห้องเสียสละให้เธอนอน หญิงสาวตลบผ้าห่มก่อนจะซุกตัวเข้าไปข้างใน เธอนอนก่ายหน้าผากนึกอยากรู้ว่าภูวดลจะรู้สึกยังไงที่เธอหายตัวมาแบบนี้ เขาจะตามหาเธอหรือเปล่านะ บางทีเขาอาจจะดีใจก็ได้ ถึงยังไงเธอกับเขาก็ได้แต่งงานกัน มรดกก็ไม่ต้องตกเป็นของสาธารณะ หญิงสาวที่ใช้เหตุผลในการดำเนินชีวิตมากกว่าอารมณ์มาตลอด ตัดสินใจจะไม่หนี ทำไมน่ะเหรอ ข้อแรกเธอไม่รู้จักที่นี่ดีพอ แค่ก้าวพ้นประตูรั้วรพีพัฒน์ก็ต้องลากเธอกลับมา สอง รพีพัฒน์ เป็นคนชอบเอาแต่ใจ แถมชอบเอาชนะ ถ้าเธอหนีไปเขาต้องโมโห เดี๋ยวจะหาเรื่องล่วงเกินเธออีก พอคิดถึงตรงนี้พรีมก็เกิดความกลัวขึ้นมา หญิงสาวกระชับผ้าห่มแนบตัวพยายามข่มตาหลับในสถานที่ที่เธอไม่รู้จัก

                
                 ภูวดลหัวเราะเสียงดังลั่นห้องหอ พอหัวเราะจนเหนื่อยเขาก็รินวิสกี้ดื่มแก้กระหาย เจ้าสาวของเขาหายตัวไปในคืนวันส่งตัว ดีกว่าสองครั้งก่อน อย่างน้อยเขา กับเธอก็ได้ประกาศความเป็นสามีภรรยาต่อหน้าสักขีพยาน ทรัพย์สมบัติของเขาไม่ต้องตกเป็นของสาธารณะ ชายหนุ่มคิดว่าหญิงสาวอาจเกิดกลัวขึ้นมา ทั้งที่เขาให้สัญญาต่อหน้าหลุมศพพ่อและแม่ของเธอว่าจะไม่ทำให้เธอต้องบาดเจ็บแม้กระผีกเดียว

                 ชายหนุ่มรู้ดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนใจเด็ดพอที่จะทำเรื่องแบบนี้ เพียงแค่แปลกใจว่าเธอเก็บอาการได้ดีเหลือเกิน ดูไม่ออกเลยว่าหลังจากส่งตัวเข้าหอ เธอจะทิ้งให้เจ้าบ่าวนอนเหงกอยู่คนเดียว ภูวดลหยิบโทรศัพท์กดหาเบอร์ร้านไอศกรีมแฟรนไชส์ ซึ่งดึกป่านนี้คงไม่มีใครมาส่งไอศกรีม

                            ********************************************
หนามหัวใจ โดย กัณฐมาศ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่