ชวาลา ตอนที่ ๑๔ ความรักของนารา

กระทู้สนทนา
14
ความรักของนารา


            “คุณนารา” หญิงสาวแก้ เอ่ยเสียงเรียบ  “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
            นารายิ้มหวาน ปรายตามาทางอชิเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปสบตากับกุลินซึ่งมองตรงมาทางเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หากแต่แววตาแข็งกร้าว
            สองคนนี้ไม่ถูกกัน…อชิอ่านสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย
            “อชิอยู่ในความดูแลของฉัน ถ้าคุณกุลินไม่ว่าอะไรฉันอยากจะดูแลเธอเอง”
            เสียงหวานว่าช้าๆ อย่างใจเย็น สายตาของนาราทอดมองมาที่กุลินอย่างนุ่มนวลราวกับว่าหญิงสาวเป็นเพียงเด็กน้อยเท่านั้นในสายตาของเธอ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่สร้างความขุ่นเคืองแก่กุลินมาตลอด
            “หน้าที่ในการพาอชิไปหาหมอทัศนัยเป็นของฉันค่ะ”
            หญิงสาวพยายามคุมสติ และพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งทว่าหนักแน่น เธอพบว่าตัวเองทำได้ดีทีเดียว ขณะที่อชิซึ่งได้แต่เฝ้ามองสถานการณ์ด้วยความสับสน เริ่มรู้สึกสะดุดหูกับชื่อของหมอทัศนัย
            “แผนการอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนะคะ ฉันพยายามใช้เวลาก่อนหน้านี้ในการจัดการปัญหาเพื่อกลับมารับหน้าที่ที่เดิมทีควรรับผิดชอบ และในตอนนี้ฉันก็ไม่ติดอะไรแล้ว”
            นารายังคงยิ้มหวานขณะพูดอยู่เช่นเดิม ในขณะที่นานเข้าใบหน้าของกุลินกลับยิ่งนิ่งเฉยเสียจนเริ่มจะกลายเป็นเรียบตึง
            “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรแจ้งอาจารย์เจตน์ก่อน ทั้งคุณและฉันต่างไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้”
            “อ้อ…เรื่องนั้นเรียบร้อยแล้วค่ะ”  นาราว่าพลางถกชายแขนเสื้อขึ้น หน้าจอโปร่งแสงปรากฏขึ้นลอยเหนือท้องแขน “ข้อความจากอาจารย์เจตน์”
            กุลินเหลือบมองใบหน้าของนารา ก่อนจะสาวเท้าขยับร่างเข้าไปอ่านข้อความนั้นใกล้ๆ อชิพยายามมองตาม หากแต่ด้วยระยะที่ไกลเกินไป บวกกับร่างของกุลินที่บังอยู่ จึงทำให้เด็กสาวไม่อาจเห็นอะไรจากตรงนั้นได้เลย นอกเสียจากใบหน้าของกุลินซึ่งเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
            หญิงสาวรู้สึกว่าข้างในตัวเธอที่พยายามควบคุมให้นิ่งเฉยมาตลอดเริ่มพังทลาย มือบางสั่นเล็กน้อย แต่พยายามซ่อนไว้จากสายตาของอีกฝ่าย
            พ่ายแพ้…เธอรู้ซึ้งถึงคำนี้เสมอ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้
            “ตามข้อความที่คุณเห็น เจตน์เห็นว่าในเมื่อฉันไม่ติดอะไรแล้ว ฉันก็ควรเป็นคนดูแลอชิต่อมากกว่า”
นาราเอ่ยเรียบๆ หากแต่ย้ำชัด
            “คุณทำอะไรตามใจตัวเองเหมือนเดิมนะ” กุลินว่าขึ้น ใบหน้าเรียบนิ่ง
            “เจตน์ก็พูดเหมือนคุณนะ”
            นาราส่งยิ้มให้ กุลินเบือนหน้าหนี ก่อนจะหันมาทางอชิแทน สีหน้าของหญิงสาวค่อยผ่อนอารมณ์จนกลับมาดูอ่อนโยนตามเดิม
            “อชิจ๊ะ ไปกับคุณนารานะ พี่มีเรื่องต้องกลับเข้าไปทำที่โรงเรียน”
            “อ่อ…ค่ะ” เด็กสาวรับคำด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจนัก เธอเงียบนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นมาใหม่ “อชิจะได้เจอพี่กุลินอีกมั้ย”
            เด็กสาวไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรจึงทำให้เธอถามออกไปแบบนั้น อาจเพราะความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ หรือเพราะความรู้สึกเห็นใจในท่าทีเมื่อครู่ของกุลิน
            คำถามของอชิทำให้หญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทอดมองเด็กสาวอย่างอ่อนโยน และเริ่มขยับยิ้ม
            “ได้เจอสิ” กุลินยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่สดใสเหมาะสมกับตัวเธอ “ตามที่เราคุยกันไปยังเหมือนเดิมนะ เราต้องมาเป็นผู้ช่วยให้พี่ ”
            เด็กสาวพยักหน้าช้าๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของกุลินกระทั่งหญิงสาวหันหลังเดินจากไป
            “มาเถอะอชิ”
            อชิหันกลับไปมองนาราซึ่งกำลังทอดมองมาที่เธออย่างเอ็นดู เด็กสาวขยับยิ้มส่งให้ก่อนจะเดินเข้าไปหา…น่าแปลกที่เธอกลับรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับกุลินมากกว่านาราซึ่งเธอควรจะคุ้นเคยมากกว่า
            “เธอเป็นคนน่ารักนะ”
            นาราเปรยขึ้น สายตาเหลือบมองไปที่อื่น ก่อนจะหันกลับมาจ้องตรงที่เด็กสาวอีกครั้ง
            “เขามีบางอย่างคล้ายๆ เธอนะ แต่ฉันถูกชะตากับเธอมากกว่า” นารายิ้ม
            อชิรู้สึกคันยิบๆ ที่ปลายลิ้น อยากจะถามออกไปเหลือเกินว่านารากับกุลินมีปัญหาอะไรกัน หากแต่พยายามควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ให้ถามออกไป
            “พอดีว่าฉันเป็นพวกชอบสร้างปัญหาน่ะ…แล้วฉันเดาว่าเขาอาจจะไม่ค่อยพอใจฉันเรื่องอาจารย์เจตน์ด้วย”
            นาราเอ่ยขึ้นมาราวกับว่าอ่านใจเธอได้ ท่าทีของหญิงสาวดูราวกับกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวบางอย่างขณะกำลังพูด
            “อาจารย์…เจตน์?”
            เด็กสาวงุนงง
            “กุลินค่อนข้างสนิทกับอาจารย์เจตน์ แล้วก็…” นารายังคงยิ้มเหมือนเดิม หากแต่แววตาแปรเปลี่ยนไปอย่างยากจะคาดเดา “อาจารย์เจตน์กับฉัน เราเคยแต่งงานกัน”
            ความเงียบงันแผ่เข้าปกคลุม เด็กสาวเข้าสู่ภาวะใบ้บื้อ
            ที่แท้…คนรักเก่าของนาราก็คืออาจารย์เจตน์นี่เอง
            “แล้วทำไม…?”
            อชิเคยได้ยินเกี่ยวกับการเลิกรามาบ้าง แต่เธอไม่เคยจินตนาการถึงมัน เธอยังคงเป็นดั่งเด็กสาวไร้เดียงสาทั่วไปที่วาดฝันถึงความรักที่คงอยู่ไปจวบจนชั่วชีวิต และคู่รักที่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่า คำว่ารักในความรู้สึกของเธอนั้นบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ เธอรักพ่อของเธอ รักแม่ของเธอ รักเพื่อนของเธอ แต่ไม่เคยรักใครอย่างที่ปรารถนาจะครอบครองความรักของคนผู้นั้นแต่เพียงผู้เดียว
            “เราเข้ากันไม่ได้”
            นาราตอบพร้อมกับดันร่างของอชิให้ก้าวตามเธอไปด้วย เด็กสาวไม่รู้ว่านาราจะพาเธอไปเขตสิบสองด้วยวิธีใด แต่ตอนนี้เธอสนใจเรื่องราวของหญิงสาวมากกว่า
            การเลิกราของคู่รัก…เด็กสาวเพิ่งเคยได้ยินจากคนใกล้ตัว
            เดี๋ยวสิ…เด็กสาวฉุกคิดขึ้นมาได้ แล้วลูกสาวที่อาจารย์เจตน์เคยพูดถึงเล่า? ไม่ใช่ว่า…
            “ถ้าอย่างนั้น  ลูกของอาจารย์ก็…”
            คำพูดหลุดออกมาจากริมฝีปากของเธอโดยไม่ทันคิด
            “จ้ะ เรามีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน”
            นาราตอบง่ายๆ หากแต่เด็กสาวปวดหัวจี๊ด
            ไม่เข้าใจ…ไม่เห็นเข้าใจเลยสักนิด
            “ทำไมพี่นาราถึงเล่าให้อชิฟังคะ”
            “เพราะวันหนึ่งเธออาจเหมือนฉัน…มีวันหนึ่งที่ต้องเลือกระหว่างอุดมการณ์ไม่ก็ความรัก”

            ชายหนุ่มแยกตัวออกมาจากอาจารย์เจตน์หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนมาว่าแพทย์ชุดสองที่เข้ามาเปลี่ยนผลัดในการทำหน้าที่ช่วงบ่ายหลังพักเที่ยงได้เข้ามาในบริเวณโรงเรียนแล้ว เป็นช่วงเวลาพอดีกับที่กุลินและอชิน่าจะเดินไปถึงบริเวณหน้าโรงเรียนเช่นเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นไม่มีติดขัดอะไร
            “เทวา”
            กุลินเอ่ยทัก เธอเดินกลับเข้ามาในโรงเรียน เตรียมจะไปหาอาจารย์เจตน์
            “กุลิน ตอนนี้อชิอยู่กับนาราเรียบร้อยแล้วหรือ”
            “อืม”
            เทวาทอดมองหญิงสาว สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นข้างในตัวเธอ
            “อย่าคิดมาก มีเรื่องที่เธอทำได้อยู่มากมาย”
            หญิงสาวขยับยิ้มบาง เทวายังคงใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของความรู้สึกของผู้อื่นอยู่เสมอ แม้กระทั่งในสถานการณ์เร่งด่วนที่ทุกคนก็ล้วนแต่ตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดก็ตาม ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีแก่ใจมาใส่ใจเรื่องไร้สาระของเธอ และเอ่ยปลอบ
            “ขอบใจนะ เธอรีบไปเถอะ”
            เทวาพยักหน้า เร่งก้าวเดินสวนผ่านไป
            “เทวา!”
            กุลินตะโกนเรียก เทวาหยุดเท้าและเหลียวกลับมามองหญิงสาวซึ่งขณะนี้อยู่ห่างออกไป
            “แล้วฉันจะเลี้ยงข้าว!”
            ชายหนุ่มหัวเราะขณะมองหญิงสาว เขายกมือขึ้นมาโบกแทนคำบอกเธอว่าเขาไม่เป็นไร ก่อนที่เทวาจะหันกลับไปก้าวต่อ เพื่อเริ่มต้นหน้าที่ในแผนขั้นต่อไป
            เขาจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ให้ดีที่สุด
            …มีเพียงทั้งหมดนี้ที่เขาทำได้ในฐานะปราการ

            กุลินผลักบานประตูเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของอาจารย์ ภายในนั้นมีเพียงโต๊ะทำงานเดียวที่ตั้งอยู่ เจตน์แหงนหน้าขึ้นจากกองเอกสาร
            “อะไรที่คุณต้องการให้ฉันทำ” กุลินว่า
            “ดูนี่”
            ชายผมดำหงายข้อมือขึ้น พลันหน้าจอโปร่งแสงนับสิบปรากฏลอยขึ้นมาล้อมรอบทั้งตัวเขาและหญิงสาว กุลินยืนมองทั้งหมดนั้นอย่างตกตะลึง
            “…คุณทำได้ยังไง”
            กุลินพึมพำ สายตายังคงกวาดมองไปยังหน้าจอรอบๆ ก่อนจะหันกลับมามองอาจารย์เจตน์ซึ่งกำลังทอดมองมาที่เธออย่างสงบนิ่ง
            “ไม่ใช่ผม” เจตน์ปฏิเสธ “แต่เป็นเทวาและโปรแกรมเมอร์ของเรา นับจากนี้เราจะต้องเฝ้ามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนจากที่นี่”    
            “กุลิน…ผมต้องการให้คุณอยู่ที่นี่ และคอยช่วยผม”
            หญิงสาวอาจคิดมาตลอดว่าเธอพ่ายแพ้อย่างที่ไม่มีวันชนะ…
            แต่มีเพียงนาราเท่านั้นที่รู้ดี…ผู้แพ้ที่แท้จริงคือเธอตลอดมา




บทนี้ค่อนข้างสั้นๆ นะคะ เป็นช่วงพักก่อนเข้าช่วงตึงเครียดค่ะ : )
ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่