14
ความรักของนารา
“คุณนารา” หญิงสาวแก้ เอ่ยเสียงเรียบ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
นารายิ้มหวาน ปรายตามาทางอชิเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปสบตากับกุลินซึ่งมองตรงมาทางเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หากแต่แววตาแข็งกร้าว
สองคนนี้ไม่ถูกกัน…อชิอ่านสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย
“อชิอยู่ในความดูแลของฉัน ถ้าคุณกุลินไม่ว่าอะไรฉันอยากจะดูแลเธอเอง”
เสียงหวานว่าช้าๆ อย่างใจเย็น สายตาของนาราทอดมองมาที่กุลินอย่างนุ่มนวลราวกับว่าหญิงสาวเป็นเพียงเด็กน้อยเท่านั้นในสายตาของเธอ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่สร้างความขุ่นเคืองแก่กุลินมาตลอด
“หน้าที่ในการพาอชิไปหาหมอทัศนัยเป็นของฉันค่ะ”
หญิงสาวพยายามคุมสติ และพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งทว่าหนักแน่น เธอพบว่าตัวเองทำได้ดีทีเดียว ขณะที่อชิซึ่งได้แต่เฝ้ามองสถานการณ์ด้วยความสับสน เริ่มรู้สึกสะดุดหูกับชื่อของหมอทัศนัย
“แผนการอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนะคะ ฉันพยายามใช้เวลาก่อนหน้านี้ในการจัดการปัญหาเพื่อกลับมารับหน้าที่ที่เดิมทีควรรับผิดชอบ และในตอนนี้ฉันก็ไม่ติดอะไรแล้ว”
นารายังคงยิ้มหวานขณะพูดอยู่เช่นเดิม ในขณะที่นานเข้าใบหน้าของกุลินกลับยิ่งนิ่งเฉยเสียจนเริ่มจะกลายเป็นเรียบตึง
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรแจ้งอาจารย์เจตน์ก่อน ทั้งคุณและฉันต่างไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้”
“อ้อ…เรื่องนั้นเรียบร้อยแล้วค่ะ” นาราว่าพลางถกชายแขนเสื้อขึ้น หน้าจอโปร่งแสงปรากฏขึ้นลอยเหนือท้องแขน “ข้อความจากอาจารย์เจตน์”
กุลินเหลือบมองใบหน้าของนารา ก่อนจะสาวเท้าขยับร่างเข้าไปอ่านข้อความนั้นใกล้ๆ อชิพยายามมองตาม หากแต่ด้วยระยะที่ไกลเกินไป บวกกับร่างของกุลินที่บังอยู่ จึงทำให้เด็กสาวไม่อาจเห็นอะไรจากตรงนั้นได้เลย นอกเสียจากใบหน้าของกุลินซึ่งเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
หญิงสาวรู้สึกว่าข้างในตัวเธอที่พยายามควบคุมให้นิ่งเฉยมาตลอดเริ่มพังทลาย มือบางสั่นเล็กน้อย แต่พยายามซ่อนไว้จากสายตาของอีกฝ่าย
พ่ายแพ้…เธอรู้ซึ้งถึงคำนี้เสมอ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้
“ตามข้อความที่คุณเห็น เจตน์เห็นว่าในเมื่อฉันไม่ติดอะไรแล้ว ฉันก็ควรเป็นคนดูแลอชิต่อมากกว่า”
นาราเอ่ยเรียบๆ หากแต่ย้ำชัด
“คุณทำอะไรตามใจตัวเองเหมือนเดิมนะ” กุลินว่าขึ้น ใบหน้าเรียบนิ่ง
“เจตน์ก็พูดเหมือนคุณนะ”
นาราส่งยิ้มให้ กุลินเบือนหน้าหนี ก่อนจะหันมาทางอชิแทน สีหน้าของหญิงสาวค่อยผ่อนอารมณ์จนกลับมาดูอ่อนโยนตามเดิม
“อชิจ๊ะ ไปกับคุณนารานะ พี่มีเรื่องต้องกลับเข้าไปทำที่โรงเรียน”
“อ่อ…ค่ะ” เด็กสาวรับคำด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจนัก เธอเงียบนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นมาใหม่ “อชิจะได้เจอพี่กุลินอีกมั้ย”
เด็กสาวไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรจึงทำให้เธอถามออกไปแบบนั้น อาจเพราะความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ หรือเพราะความรู้สึกเห็นใจในท่าทีเมื่อครู่ของกุลิน
คำถามของอชิทำให้หญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทอดมองเด็กสาวอย่างอ่อนโยน และเริ่มขยับยิ้ม
“ได้เจอสิ” กุลินยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่สดใสเหมาะสมกับตัวเธอ “ตามที่เราคุยกันไปยังเหมือนเดิมนะ เราต้องมาเป็นผู้ช่วยให้พี่ ”
เด็กสาวพยักหน้าช้าๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของกุลินกระทั่งหญิงสาวหันหลังเดินจากไป
“มาเถอะอชิ”
อชิหันกลับไปมองนาราซึ่งกำลังทอดมองมาที่เธออย่างเอ็นดู เด็กสาวขยับยิ้มส่งให้ก่อนจะเดินเข้าไปหา…น่าแปลกที่เธอกลับรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับกุลินมากกว่านาราซึ่งเธอควรจะคุ้นเคยมากกว่า
“เธอเป็นคนน่ารักนะ”
นาราเปรยขึ้น สายตาเหลือบมองไปที่อื่น ก่อนจะหันกลับมาจ้องตรงที่เด็กสาวอีกครั้ง
“เขามีบางอย่างคล้ายๆ เธอนะ แต่ฉันถูกชะตากับเธอมากกว่า” นารายิ้ม
อชิรู้สึกคันยิบๆ ที่ปลายลิ้น อยากจะถามออกไปเหลือเกินว่านารากับกุลินมีปัญหาอะไรกัน หากแต่พยายามควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ให้ถามออกไป
“พอดีว่าฉันเป็นพวกชอบสร้างปัญหาน่ะ…แล้วฉันเดาว่าเขาอาจจะไม่ค่อยพอใจฉันเรื่องอาจารย์เจตน์ด้วย”
นาราเอ่ยขึ้นมาราวกับว่าอ่านใจเธอได้ ท่าทีของหญิงสาวดูราวกับกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวบางอย่างขณะกำลังพูด
“อาจารย์…เจตน์?”
เด็กสาวงุนงง
“กุลินค่อนข้างสนิทกับอาจารย์เจตน์ แล้วก็…” นารายังคงยิ้มเหมือนเดิม หากแต่แววตาแปรเปลี่ยนไปอย่างยากจะคาดเดา “อาจารย์เจตน์กับฉัน เราเคยแต่งงานกัน”
ความเงียบงันแผ่เข้าปกคลุม เด็กสาวเข้าสู่ภาวะใบ้บื้อ
ที่แท้…คนรักเก่าของนาราก็คืออาจารย์เจตน์นี่เอง
“แล้วทำไม…?”
อชิเคยได้ยินเกี่ยวกับการเลิกรามาบ้าง แต่เธอไม่เคยจินตนาการถึงมัน เธอยังคงเป็นดั่งเด็กสาวไร้เดียงสาทั่วไปที่วาดฝันถึงความรักที่คงอยู่ไปจวบจนชั่วชีวิต และคู่รักที่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่า คำว่ารักในความรู้สึกของเธอนั้นบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ เธอรักพ่อของเธอ รักแม่ของเธอ รักเพื่อนของเธอ แต่ไม่เคยรักใครอย่างที่ปรารถนาจะครอบครองความรักของคนผู้นั้นแต่เพียงผู้เดียว
“เราเข้ากันไม่ได้”
นาราตอบพร้อมกับดันร่างของอชิให้ก้าวตามเธอไปด้วย เด็กสาวไม่รู้ว่านาราจะพาเธอไปเขตสิบสองด้วยวิธีใด แต่ตอนนี้เธอสนใจเรื่องราวของหญิงสาวมากกว่า
การเลิกราของคู่รัก…เด็กสาวเพิ่งเคยได้ยินจากคนใกล้ตัว
เดี๋ยวสิ…เด็กสาวฉุกคิดขึ้นมาได้ แล้วลูกสาวที่อาจารย์เจตน์เคยพูดถึงเล่า? ไม่ใช่ว่า…
“ถ้าอย่างนั้น ลูกของอาจารย์ก็…”
คำพูดหลุดออกมาจากริมฝีปากของเธอโดยไม่ทันคิด
“จ้ะ เรามีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน”
นาราตอบง่ายๆ หากแต่เด็กสาวปวดหัวจี๊ด
ไม่เข้าใจ…ไม่เห็นเข้าใจเลยสักนิด
“ทำไมพี่นาราถึงเล่าให้อชิฟังคะ”
“เพราะวันหนึ่งเธออาจเหมือนฉัน…มีวันหนึ่งที่ต้องเลือกระหว่างอุดมการณ์ไม่ก็ความรัก”
ชายหนุ่มแยกตัวออกมาจากอาจารย์เจตน์หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนมาว่าแพทย์ชุดสองที่เข้ามาเปลี่ยนผลัดในการทำหน้าที่ช่วงบ่ายหลังพักเที่ยงได้เข้ามาในบริเวณโรงเรียนแล้ว เป็นช่วงเวลาพอดีกับที่กุลินและอชิน่าจะเดินไปถึงบริเวณหน้าโรงเรียนเช่นเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นไม่มีติดขัดอะไร
“เทวา”
กุลินเอ่ยทัก เธอเดินกลับเข้ามาในโรงเรียน เตรียมจะไปหาอาจารย์เจตน์
“กุลิน ตอนนี้อชิอยู่กับนาราเรียบร้อยแล้วหรือ”
“อืม”
เทวาทอดมองหญิงสาว สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นข้างในตัวเธอ
“อย่าคิดมาก มีเรื่องที่เธอทำได้อยู่มากมาย”
หญิงสาวขยับยิ้มบาง เทวายังคงใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของความรู้สึกของผู้อื่นอยู่เสมอ แม้กระทั่งในสถานการณ์เร่งด่วนที่ทุกคนก็ล้วนแต่ตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดก็ตาม ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีแก่ใจมาใส่ใจเรื่องไร้สาระของเธอ และเอ่ยปลอบ
“ขอบใจนะ เธอรีบไปเถอะ”
เทวาพยักหน้า เร่งก้าวเดินสวนผ่านไป
“เทวา!”
กุลินตะโกนเรียก เทวาหยุดเท้าและเหลียวกลับมามองหญิงสาวซึ่งขณะนี้อยู่ห่างออกไป
“แล้วฉันจะเลี้ยงข้าว!”
ชายหนุ่มหัวเราะขณะมองหญิงสาว เขายกมือขึ้นมาโบกแทนคำบอกเธอว่าเขาไม่เป็นไร ก่อนที่เทวาจะหันกลับไปก้าวต่อ เพื่อเริ่มต้นหน้าที่ในแผนขั้นต่อไป
เขาจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ให้ดีที่สุด
…มีเพียงทั้งหมดนี้ที่เขาทำได้ในฐานะปราการ
กุลินผลักบานประตูเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของอาจารย์ ภายในนั้นมีเพียงโต๊ะทำงานเดียวที่ตั้งอยู่ เจตน์แหงนหน้าขึ้นจากกองเอกสาร
“อะไรที่คุณต้องการให้ฉันทำ” กุลินว่า
“ดูนี่”
ชายผมดำหงายข้อมือขึ้น พลันหน้าจอโปร่งแสงนับสิบปรากฏลอยขึ้นมาล้อมรอบทั้งตัวเขาและหญิงสาว กุลินยืนมองทั้งหมดนั้นอย่างตกตะลึง
“…คุณทำได้ยังไง”
กุลินพึมพำ สายตายังคงกวาดมองไปยังหน้าจอรอบๆ ก่อนจะหันกลับมามองอาจารย์เจตน์ซึ่งกำลังทอดมองมาที่เธออย่างสงบนิ่ง
“ไม่ใช่ผม” เจตน์ปฏิเสธ “แต่เป็นเทวาและโปรแกรมเมอร์ของเรา นับจากนี้เราจะต้องเฝ้ามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนจากที่นี่”
“กุลิน…ผมต้องการให้คุณอยู่ที่นี่ และคอยช่วยผม”
หญิงสาวอาจคิดมาตลอดว่าเธอพ่ายแพ้อย่างที่ไม่มีวันชนะ…
แต่มีเพียงนาราเท่านั้นที่รู้ดี…ผู้แพ้ที่แท้จริงคือเธอตลอดมา
บทนี้ค่อนข้างสั้นๆ นะคะ เป็นช่วงพักก่อนเข้าช่วงตึงเครียดค่ะ : )
ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ค่ะ
ชวาลา ตอนที่ ๑๔ ความรักของนารา
ความรักของนารา
“คุณนารา” หญิงสาวแก้ เอ่ยเสียงเรียบ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
นารายิ้มหวาน ปรายตามาทางอชิเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปสบตากับกุลินซึ่งมองตรงมาทางเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หากแต่แววตาแข็งกร้าว
สองคนนี้ไม่ถูกกัน…อชิอ่านสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย
“อชิอยู่ในความดูแลของฉัน ถ้าคุณกุลินไม่ว่าอะไรฉันอยากจะดูแลเธอเอง”
เสียงหวานว่าช้าๆ อย่างใจเย็น สายตาของนาราทอดมองมาที่กุลินอย่างนุ่มนวลราวกับว่าหญิงสาวเป็นเพียงเด็กน้อยเท่านั้นในสายตาของเธอ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่สร้างความขุ่นเคืองแก่กุลินมาตลอด
“หน้าที่ในการพาอชิไปหาหมอทัศนัยเป็นของฉันค่ะ”
หญิงสาวพยายามคุมสติ และพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งทว่าหนักแน่น เธอพบว่าตัวเองทำได้ดีทีเดียว ขณะที่อชิซึ่งได้แต่เฝ้ามองสถานการณ์ด้วยความสับสน เริ่มรู้สึกสะดุดหูกับชื่อของหมอทัศนัย
“แผนการอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนะคะ ฉันพยายามใช้เวลาก่อนหน้านี้ในการจัดการปัญหาเพื่อกลับมารับหน้าที่ที่เดิมทีควรรับผิดชอบ และในตอนนี้ฉันก็ไม่ติดอะไรแล้ว”
นารายังคงยิ้มหวานขณะพูดอยู่เช่นเดิม ในขณะที่นานเข้าใบหน้าของกุลินกลับยิ่งนิ่งเฉยเสียจนเริ่มจะกลายเป็นเรียบตึง
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรแจ้งอาจารย์เจตน์ก่อน ทั้งคุณและฉันต่างไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้”
“อ้อ…เรื่องนั้นเรียบร้อยแล้วค่ะ” นาราว่าพลางถกชายแขนเสื้อขึ้น หน้าจอโปร่งแสงปรากฏขึ้นลอยเหนือท้องแขน “ข้อความจากอาจารย์เจตน์”
กุลินเหลือบมองใบหน้าของนารา ก่อนจะสาวเท้าขยับร่างเข้าไปอ่านข้อความนั้นใกล้ๆ อชิพยายามมองตาม หากแต่ด้วยระยะที่ไกลเกินไป บวกกับร่างของกุลินที่บังอยู่ จึงทำให้เด็กสาวไม่อาจเห็นอะไรจากตรงนั้นได้เลย นอกเสียจากใบหน้าของกุลินซึ่งเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
หญิงสาวรู้สึกว่าข้างในตัวเธอที่พยายามควบคุมให้นิ่งเฉยมาตลอดเริ่มพังทลาย มือบางสั่นเล็กน้อย แต่พยายามซ่อนไว้จากสายตาของอีกฝ่าย
พ่ายแพ้…เธอรู้ซึ้งถึงคำนี้เสมอ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้
“ตามข้อความที่คุณเห็น เจตน์เห็นว่าในเมื่อฉันไม่ติดอะไรแล้ว ฉันก็ควรเป็นคนดูแลอชิต่อมากกว่า”
นาราเอ่ยเรียบๆ หากแต่ย้ำชัด
“คุณทำอะไรตามใจตัวเองเหมือนเดิมนะ” กุลินว่าขึ้น ใบหน้าเรียบนิ่ง
“เจตน์ก็พูดเหมือนคุณนะ”
นาราส่งยิ้มให้ กุลินเบือนหน้าหนี ก่อนจะหันมาทางอชิแทน สีหน้าของหญิงสาวค่อยผ่อนอารมณ์จนกลับมาดูอ่อนโยนตามเดิม
“อชิจ๊ะ ไปกับคุณนารานะ พี่มีเรื่องต้องกลับเข้าไปทำที่โรงเรียน”
“อ่อ…ค่ะ” เด็กสาวรับคำด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจนัก เธอเงียบนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นมาใหม่ “อชิจะได้เจอพี่กุลินอีกมั้ย”
เด็กสาวไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรจึงทำให้เธอถามออกไปแบบนั้น อาจเพราะความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ หรือเพราะความรู้สึกเห็นใจในท่าทีเมื่อครู่ของกุลิน
คำถามของอชิทำให้หญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทอดมองเด็กสาวอย่างอ่อนโยน และเริ่มขยับยิ้ม
“ได้เจอสิ” กุลินยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่สดใสเหมาะสมกับตัวเธอ “ตามที่เราคุยกันไปยังเหมือนเดิมนะ เราต้องมาเป็นผู้ช่วยให้พี่ ”
เด็กสาวพยักหน้าช้าๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของกุลินกระทั่งหญิงสาวหันหลังเดินจากไป
“มาเถอะอชิ”
อชิหันกลับไปมองนาราซึ่งกำลังทอดมองมาที่เธออย่างเอ็นดู เด็กสาวขยับยิ้มส่งให้ก่อนจะเดินเข้าไปหา…น่าแปลกที่เธอกลับรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับกุลินมากกว่านาราซึ่งเธอควรจะคุ้นเคยมากกว่า
“เธอเป็นคนน่ารักนะ”
นาราเปรยขึ้น สายตาเหลือบมองไปที่อื่น ก่อนจะหันกลับมาจ้องตรงที่เด็กสาวอีกครั้ง
“เขามีบางอย่างคล้ายๆ เธอนะ แต่ฉันถูกชะตากับเธอมากกว่า” นารายิ้ม
อชิรู้สึกคันยิบๆ ที่ปลายลิ้น อยากจะถามออกไปเหลือเกินว่านารากับกุลินมีปัญหาอะไรกัน หากแต่พยายามควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ให้ถามออกไป
“พอดีว่าฉันเป็นพวกชอบสร้างปัญหาน่ะ…แล้วฉันเดาว่าเขาอาจจะไม่ค่อยพอใจฉันเรื่องอาจารย์เจตน์ด้วย”
นาราเอ่ยขึ้นมาราวกับว่าอ่านใจเธอได้ ท่าทีของหญิงสาวดูราวกับกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวบางอย่างขณะกำลังพูด
“อาจารย์…เจตน์?”
เด็กสาวงุนงง
“กุลินค่อนข้างสนิทกับอาจารย์เจตน์ แล้วก็…” นารายังคงยิ้มเหมือนเดิม หากแต่แววตาแปรเปลี่ยนไปอย่างยากจะคาดเดา “อาจารย์เจตน์กับฉัน เราเคยแต่งงานกัน”
ความเงียบงันแผ่เข้าปกคลุม เด็กสาวเข้าสู่ภาวะใบ้บื้อ
ที่แท้…คนรักเก่าของนาราก็คืออาจารย์เจตน์นี่เอง
“แล้วทำไม…?”
อชิเคยได้ยินเกี่ยวกับการเลิกรามาบ้าง แต่เธอไม่เคยจินตนาการถึงมัน เธอยังคงเป็นดั่งเด็กสาวไร้เดียงสาทั่วไปที่วาดฝันถึงความรักที่คงอยู่ไปจวบจนชั่วชีวิต และคู่รักที่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่า คำว่ารักในความรู้สึกของเธอนั้นบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ เธอรักพ่อของเธอ รักแม่ของเธอ รักเพื่อนของเธอ แต่ไม่เคยรักใครอย่างที่ปรารถนาจะครอบครองความรักของคนผู้นั้นแต่เพียงผู้เดียว
“เราเข้ากันไม่ได้”
นาราตอบพร้อมกับดันร่างของอชิให้ก้าวตามเธอไปด้วย เด็กสาวไม่รู้ว่านาราจะพาเธอไปเขตสิบสองด้วยวิธีใด แต่ตอนนี้เธอสนใจเรื่องราวของหญิงสาวมากกว่า
การเลิกราของคู่รัก…เด็กสาวเพิ่งเคยได้ยินจากคนใกล้ตัว
เดี๋ยวสิ…เด็กสาวฉุกคิดขึ้นมาได้ แล้วลูกสาวที่อาจารย์เจตน์เคยพูดถึงเล่า? ไม่ใช่ว่า…
“ถ้าอย่างนั้น ลูกของอาจารย์ก็…”
คำพูดหลุดออกมาจากริมฝีปากของเธอโดยไม่ทันคิด
“จ้ะ เรามีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน”
นาราตอบง่ายๆ หากแต่เด็กสาวปวดหัวจี๊ด
ไม่เข้าใจ…ไม่เห็นเข้าใจเลยสักนิด
“ทำไมพี่นาราถึงเล่าให้อชิฟังคะ”
“เพราะวันหนึ่งเธออาจเหมือนฉัน…มีวันหนึ่งที่ต้องเลือกระหว่างอุดมการณ์ไม่ก็ความรัก”
ชายหนุ่มแยกตัวออกมาจากอาจารย์เจตน์หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนมาว่าแพทย์ชุดสองที่เข้ามาเปลี่ยนผลัดในการทำหน้าที่ช่วงบ่ายหลังพักเที่ยงได้เข้ามาในบริเวณโรงเรียนแล้ว เป็นช่วงเวลาพอดีกับที่กุลินและอชิน่าจะเดินไปถึงบริเวณหน้าโรงเรียนเช่นเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นไม่มีติดขัดอะไร
“เทวา”
กุลินเอ่ยทัก เธอเดินกลับเข้ามาในโรงเรียน เตรียมจะไปหาอาจารย์เจตน์
“กุลิน ตอนนี้อชิอยู่กับนาราเรียบร้อยแล้วหรือ”
“อืม”
เทวาทอดมองหญิงสาว สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นข้างในตัวเธอ
“อย่าคิดมาก มีเรื่องที่เธอทำได้อยู่มากมาย”
หญิงสาวขยับยิ้มบาง เทวายังคงใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของความรู้สึกของผู้อื่นอยู่เสมอ แม้กระทั่งในสถานการณ์เร่งด่วนที่ทุกคนก็ล้วนแต่ตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดก็ตาม ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีแก่ใจมาใส่ใจเรื่องไร้สาระของเธอ และเอ่ยปลอบ
“ขอบใจนะ เธอรีบไปเถอะ”
เทวาพยักหน้า เร่งก้าวเดินสวนผ่านไป
“เทวา!”
กุลินตะโกนเรียก เทวาหยุดเท้าและเหลียวกลับมามองหญิงสาวซึ่งขณะนี้อยู่ห่างออกไป
“แล้วฉันจะเลี้ยงข้าว!”
ชายหนุ่มหัวเราะขณะมองหญิงสาว เขายกมือขึ้นมาโบกแทนคำบอกเธอว่าเขาไม่เป็นไร ก่อนที่เทวาจะหันกลับไปก้าวต่อ เพื่อเริ่มต้นหน้าที่ในแผนขั้นต่อไป
เขาจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ให้ดีที่สุด
…มีเพียงทั้งหมดนี้ที่เขาทำได้ในฐานะปราการ
กุลินผลักบานประตูเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของอาจารย์ ภายในนั้นมีเพียงโต๊ะทำงานเดียวที่ตั้งอยู่ เจตน์แหงนหน้าขึ้นจากกองเอกสาร
“อะไรที่คุณต้องการให้ฉันทำ” กุลินว่า
“ดูนี่”
ชายผมดำหงายข้อมือขึ้น พลันหน้าจอโปร่งแสงนับสิบปรากฏลอยขึ้นมาล้อมรอบทั้งตัวเขาและหญิงสาว กุลินยืนมองทั้งหมดนั้นอย่างตกตะลึง
“…คุณทำได้ยังไง”
กุลินพึมพำ สายตายังคงกวาดมองไปยังหน้าจอรอบๆ ก่อนจะหันกลับมามองอาจารย์เจตน์ซึ่งกำลังทอดมองมาที่เธออย่างสงบนิ่ง
“ไม่ใช่ผม” เจตน์ปฏิเสธ “แต่เป็นเทวาและโปรแกรมเมอร์ของเรา นับจากนี้เราจะต้องเฝ้ามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนจากที่นี่”
“กุลิน…ผมต้องการให้คุณอยู่ที่นี่ และคอยช่วยผม”
หญิงสาวอาจคิดมาตลอดว่าเธอพ่ายแพ้อย่างที่ไม่มีวันชนะ…
แต่มีเพียงนาราเท่านั้นที่รู้ดี…ผู้แพ้ที่แท้จริงคือเธอตลอดมา
บทนี้ค่อนข้างสั้นๆ นะคะ เป็นช่วงพักก่อนเข้าช่วงตึงเครียดค่ะ : )
ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ค่ะ