บนสวรรค์ จะมีเทวดาประเภทหนึ่ง ซึ่งจะจุติเพราะเล่นสนุกจนลืมรับประทานอาหาร เมื่อลืมรับประทานอาหาร ร่างกายของเทวดาประเภทนี้ จะไม่สามารถทรงตัวอยู่ไ้ด้
จากอรรถกถา พรหมชาลสูตร
"พวกเทวดาที่ชื่อว่า ขิฑฑาปโฑสิกะ เพราะเสียหาย คือพินาศด้วยการเล่น.
บทว่า อติเวลํ ความว่า เกินกาล คือนานเกินไป.
บทว่า หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา ความว่า หมกมุ่น คือฝักใฝ่อยู่แต่ในความรื่นรมย์ คือการสรวลเส และความรื่นรมย์คือการเล่นหัว.
อธิบายว่า ฝักใฝ่อยู่กับความสุข อันเกิดแต่การเล่นการสรวลเสและความสุข ที่เป็นกีฬาทางกายทางวาจา เป็นผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยความรื่นรมย์มีประการดังกล่าวแล้วอยู่.
บทว่า สติ ปมุสฺสติ ความว่า ลืมนึกถึงของเคี้ยว และของบริโภค.
ได้ยินว่า เทวดาพวกขิฑฑาปโทสิกะเหล่านั้นเล่นนักษัตรด้วยสิริสมบัติอันใหญ่ของตนที่ได้มาด้วยบุญวิเศษ เพราะความที่ตนมีสมบัติใหญ่นั้น จึงไม่รู้ว่า เราบริโภคอาหารแล้วหรือยัง ครั้นเลยเวลาอาหารมื้อหนึ่งไป ทั้งเคี้ยวกินทั้งดื่มอยู่ไม่ขาดระยะ ก็จุติทันที ตั้งอยู่ไม่ได้.
เพราะสาเหตุอะไร ?
เพราะเตโชธาตุอันเกิดแต่กรรมแรง.(ธาตุไฟที่เกิดเพราะกรรมเป็นปัจจัยมีอยู่แรงในร่างกายของเทวดาประเภทนี้)
ก็มนุษย์ทั้งหลายมีเตโชธาตุอันเกิดแต่กรรมอ่อน มีกรัชกายแข็งแรง และเมื่อเตโชธาตุของมนุษย์เหล่านั้นอ่อน กรัชกายแข็งแรง แม้เลยเวลาอาหารไปถึง ๗ วันก็อาจใช้น้ำร้อนและข้าวต้มใสเป็นต้นบำรุงร่างกายได้.
แต่เทวดามีเตโชธาตุแรง กรัชกายอ่อนแอ เทวดาเหล่านั้นเลยเวลาอาหารมื้อเดียวเท่านั้น ก็ไม่อาจจะดำรงอยู่ได้ เหมือนดอกปทุมหรือดอกอุบลที่บุคคลวางไว้บนแผ่นหินอันร้อนในเวลาเที่ยงวันแห่งฤดูร้อน ตกเย็น แม้จะตักน้ำรดตั้งร้อยหม้อก็ไม่เป็นปกติได้ ย่อมพินาศไปถ่ายเดียว ฉันใด เทวดาพวกขิฑฑาปโทสิกะแม้จะเคี้ยว แม้จะดื่มอยู่ไม่ขาดระยะในภายหลัง ก็จุติทันที ตั้งอยู่ไม่ได้. "
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
๑. พรหมชาลสูตร
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=09&A=1&Z=1071
อรรถกถาทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
พรหมชาลสูตร
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=1
ความรู้เรื่องเทวดาประเภท "ขิฑฑาปโทสิกเทวดา"
จากอรรถกถา พรหมชาลสูตร
"พวกเทวดาที่ชื่อว่า ขิฑฑาปโฑสิกะ เพราะเสียหาย คือพินาศด้วยการเล่น.
บทว่า อติเวลํ ความว่า เกินกาล คือนานเกินไป.
บทว่า หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา ความว่า หมกมุ่น คือฝักใฝ่อยู่แต่ในความรื่นรมย์ คือการสรวลเส และความรื่นรมย์คือการเล่นหัว.
อธิบายว่า ฝักใฝ่อยู่กับความสุข อันเกิดแต่การเล่นการสรวลเสและความสุข ที่เป็นกีฬาทางกายทางวาจา เป็นผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยความรื่นรมย์มีประการดังกล่าวแล้วอยู่.
บทว่า สติ ปมุสฺสติ ความว่า ลืมนึกถึงของเคี้ยว และของบริโภค.
ได้ยินว่า เทวดาพวกขิฑฑาปโทสิกะเหล่านั้นเล่นนักษัตรด้วยสิริสมบัติอันใหญ่ของตนที่ได้มาด้วยบุญวิเศษ เพราะความที่ตนมีสมบัติใหญ่นั้น จึงไม่รู้ว่า เราบริโภคอาหารแล้วหรือยัง ครั้นเลยเวลาอาหารมื้อหนึ่งไป ทั้งเคี้ยวกินทั้งดื่มอยู่ไม่ขาดระยะ ก็จุติทันที ตั้งอยู่ไม่ได้.
เพราะสาเหตุอะไร ?
เพราะเตโชธาตุอันเกิดแต่กรรมแรง.(ธาตุไฟที่เกิดเพราะกรรมเป็นปัจจัยมีอยู่แรงในร่างกายของเทวดาประเภทนี้)
ก็มนุษย์ทั้งหลายมีเตโชธาตุอันเกิดแต่กรรมอ่อน มีกรัชกายแข็งแรง และเมื่อเตโชธาตุของมนุษย์เหล่านั้นอ่อน กรัชกายแข็งแรง แม้เลยเวลาอาหารไปถึง ๗ วันก็อาจใช้น้ำร้อนและข้าวต้มใสเป็นต้นบำรุงร่างกายได้.
แต่เทวดามีเตโชธาตุแรง กรัชกายอ่อนแอ เทวดาเหล่านั้นเลยเวลาอาหารมื้อเดียวเท่านั้น ก็ไม่อาจจะดำรงอยู่ได้ เหมือนดอกปทุมหรือดอกอุบลที่บุคคลวางไว้บนแผ่นหินอันร้อนในเวลาเที่ยงวันแห่งฤดูร้อน ตกเย็น แม้จะตักน้ำรดตั้งร้อยหม้อก็ไม่เป็นปกติได้ ย่อมพินาศไปถ่ายเดียว ฉันใด เทวดาพวกขิฑฑาปโทสิกะแม้จะเคี้ยว แม้จะดื่มอยู่ไม่ขาดระยะในภายหลัง ก็จุติทันที ตั้งอยู่ไม่ได้. "
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
๑. พรหมชาลสูตร
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=09&A=1&Z=1071
อรรถกถาทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
พรหมชาลสูตร
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=1