-----
เริ่มต้นที่หน้านี้
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=9&A=7317&Z=7898&pagebreak=0
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
๑๑. เกวัฏฏสูตร
เรื่องนายเกวัฏฏ (ชาวประมง)
[๓๓๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้-
พอจบหน้านี้ก็เปิดหน้าต่อไป
----------------
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=9&A=7840&Z=7898&pagebreak=0
-------
พระอรรถกถาจารย์กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้อย่างไร
อรรถกถา ทีฆนิกาย สีลขันธวรรคเกวัฏฏสูตร
อรรถกถาเกวัฏฏสูตร
เกวฏฺฏคหปติปุตฺตวตฺถุวณฺณนา
อ่านที่นี่
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=338
----
แต่สาระของหัวข้อกระทู้คือ พระสูตรนี้ครับ
พระไตรปิฏก เล่มที่ ๓๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๒
ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
อชิตมาณวกปัญหานิทเทส
ว่าด้วยปัญหาของท่านอชิตะ
อ่านได้ที่
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_item.php?book=30&item=89#89
----
พระอรรถกถาจารย์ท่านกล่าวอะไรบ้าง
อรรถกถา ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส ปารายนวรรคอชิตมาณวกปัญหานิทเทส
สัทธัมมปัชโชติกา
อรรถกถาขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
อรรถกถาปารายนวรรค
อรรถกถาอชิตมาณวกปัญหานิทเทสที่ ๑
พึงทราบวินิจฉัยในอชิตสุตตนิทเทสที่ ๑ แห่งปารายนวรรค ดังต่อไปนี้.
อ่านที่
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=30&i=57
----
----
สรุปในเรื่องแรกในพระสูตรแรก พระพุทธเจ้าตรัสว่าเรื่องมีมาแล้ว มีพระภิกษุถามปัญหาพระพรหมๆตอบไม่ได้ให้ไปถามพระพุทธเจ้า ในตอนท้ายพระพุทธเจ้าตอบปัญหาที่พระภิกษุองค์นั้นถาม อย่างนี้
แถลงปัญหามหาภูต
[๓๔๙] ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ และวาโยธาตุ ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในที่ไหน
อุปาทายรูปที่ยาวและสั้น ละเอียดและหยาบ ที่งามและไม่งาม ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในที่ไหน
นามและรูปย่อมดับไม่มีเหลือในที่ไหน ดังนี้.
ในปัญหานั้น มีพยากรณ์ดังต่อไปนี้
[๓๕๐] ธรรมชาติที่รู้แจ้ง ไม่มีใครชี้ได้ ไม่มีที่สุด แจ่มใส โดยประการทั้งปวง
ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ และวาโยธาตุ ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในธรรมชาตินี้.
อุปาทายรูปที่ยาวและสั้น ละเอียดและหยาบ ที่งามและไม่งาม ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ใน
ธรรมชาตินี้.
นามและรูปย่อมดับไม่มีเหลือในธรรมชาตินี้.
เพราะวิญญาณดับ นามและรูปนั้นย่อมดับไม่มีเหลือในธรรมชาตินี้ ดังนี้.
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว. เกวัฏฏ์ คฤหบดีบุตรมีใจชื่นชม เพลิดเพลิน
ภาษิตของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล.
จบเกวัฏฏสูตร ที่ ๑๑.
-----
ในเรื่องที่สอง คำถามที่เป็นสภาวะ อาจารย์เคยสอนในการเรียนพระอภิธัมมัตสังคหะ ถึง คำถามที่ถามพระพุทธเจ้าแล้วพระพุทธเจ้าทรงตอบ สื่อถึงสภาวะได้ ในเรื่อง ผู้ฟังได้บรรลุพระโสดาบัน ผู้ถามได้บรรลุพระอรหันต์ แสดงให้เห็นว่า การฟังธรรมแล้วเข้าใจได้ก็ทำให้บรรลุธรรมได้
----
ส่วนกระผมก็มาหาอ่านพระอรรถกถาจารย์ อ่านแล้วก็ไม่จบ เข้าใจก็ไม่เข้าใจดี พอ ก็เลยเห็นว่ามีประโยชน์ แต่ทีฆนิกายนี้ยาวจริงๆ อ่านไม่จบ ผมเลยกะว่าเมื่อมีเวลาอีกก็จะมาอ่านต่อให้จบครับ
- สาระในเรื่องที่สอง มีสาระมาก พระพุทธเจ้าท่านอธิบายแต่ละเรื่องๆ อย่างละเอียดทีเดียวครับ นำไปใช้เป็นแนวทางในการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจพระสูตรนี้อย่างชัดเจน ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบให้ได้
- เป็นพระสูตรที่ฟังแล้วเข้าถึงสภาวะได้ อาจารย์สอนพระอภิธัมมัตตสังคหะ กล่าวไว้
- อีกอย่างหนึ่งครับ การอ้างอิงถึงพระไตรปิฎก เป็นเรื่องสำคัญมากๆ บางท่านก็ไม่อ้างเลย มันไม่เป็นการเคารพต่อ พตปฎ ครับ
ฟังเข้าใจก็บรรลุธรรมได้มีมาแล้ว
-----
เริ่มต้นที่หน้านี้ https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=9&A=7317&Z=7898&pagebreak=0
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
๑๑. เกวัฏฏสูตร
เรื่องนายเกวัฏฏ (ชาวประมง)
[๓๓๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้-
พอจบหน้านี้ก็เปิดหน้าต่อไป
----------------
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=9&A=7840&Z=7898&pagebreak=0
-------
พระอรรถกถาจารย์กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้อย่างไร
อรรถกถา ทีฆนิกาย สีลขันธวรรคเกวัฏฏสูตร
อรรถกถาเกวัฏฏสูตร
เกวฏฺฏคหปติปุตฺตวตฺถุวณฺณนา
อ่านที่นี่ https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=338
----
แต่สาระของหัวข้อกระทู้คือ พระสูตรนี้ครับ
พระไตรปิฏก เล่มที่ ๓๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๒
ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
อชิตมาณวกปัญหานิทเทส
ว่าด้วยปัญหาของท่านอชิตะ
อ่านได้ที่ https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_item.php?book=30&item=89#89
----
พระอรรถกถาจารย์ท่านกล่าวอะไรบ้าง
อรรถกถา ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส ปารายนวรรคอชิตมาณวกปัญหานิทเทส
สัทธัมมปัชโชติกา
อรรถกถาขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
อรรถกถาปารายนวรรค
อรรถกถาอชิตมาณวกปัญหานิทเทสที่ ๑
พึงทราบวินิจฉัยในอชิตสุตตนิทเทสที่ ๑ แห่งปารายนวรรค ดังต่อไปนี้.
อ่านที่ https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=30&i=57
----
----
สรุปในเรื่องแรกในพระสูตรแรก พระพุทธเจ้าตรัสว่าเรื่องมีมาแล้ว มีพระภิกษุถามปัญหาพระพรหมๆตอบไม่ได้ให้ไปถามพระพุทธเจ้า ในตอนท้ายพระพุทธเจ้าตอบปัญหาที่พระภิกษุองค์นั้นถาม อย่างนี้
แถลงปัญหามหาภูต
[๓๔๙] ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ และวาโยธาตุ ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในที่ไหน
อุปาทายรูปที่ยาวและสั้น ละเอียดและหยาบ ที่งามและไม่งาม ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในที่ไหน
นามและรูปย่อมดับไม่มีเหลือในที่ไหน ดังนี้.
ในปัญหานั้น มีพยากรณ์ดังต่อไปนี้
[๓๕๐] ธรรมชาติที่รู้แจ้ง ไม่มีใครชี้ได้ ไม่มีที่สุด แจ่มใส โดยประการทั้งปวง
ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ และวาโยธาตุ ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในธรรมชาตินี้.
อุปาทายรูปที่ยาวและสั้น ละเอียดและหยาบ ที่งามและไม่งาม ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ใน
ธรรมชาตินี้.
นามและรูปย่อมดับไม่มีเหลือในธรรมชาตินี้.
เพราะวิญญาณดับ นามและรูปนั้นย่อมดับไม่มีเหลือในธรรมชาตินี้ ดังนี้.
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว. เกวัฏฏ์ คฤหบดีบุตรมีใจชื่นชม เพลิดเพลิน
ภาษิตของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล.
จบเกวัฏฏสูตร ที่ ๑๑.
-----
ในเรื่องที่สอง คำถามที่เป็นสภาวะ อาจารย์เคยสอนในการเรียนพระอภิธัมมัตสังคหะ ถึง คำถามที่ถามพระพุทธเจ้าแล้วพระพุทธเจ้าทรงตอบ สื่อถึงสภาวะได้ ในเรื่อง ผู้ฟังได้บรรลุพระโสดาบัน ผู้ถามได้บรรลุพระอรหันต์ แสดงให้เห็นว่า การฟังธรรมแล้วเข้าใจได้ก็ทำให้บรรลุธรรมได้
----
ส่วนกระผมก็มาหาอ่านพระอรรถกถาจารย์ อ่านแล้วก็ไม่จบ เข้าใจก็ไม่เข้าใจดี พอ ก็เลยเห็นว่ามีประโยชน์ แต่ทีฆนิกายนี้ยาวจริงๆ อ่านไม่จบ ผมเลยกะว่าเมื่อมีเวลาอีกก็จะมาอ่านต่อให้จบครับ
- สาระในเรื่องที่สอง มีสาระมาก พระพุทธเจ้าท่านอธิบายแต่ละเรื่องๆ อย่างละเอียดทีเดียวครับ นำไปใช้เป็นแนวทางในการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจพระสูตรนี้อย่างชัดเจน ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบให้ได้
- เป็นพระสูตรที่ฟังแล้วเข้าถึงสภาวะได้ อาจารย์สอนพระอภิธัมมัตตสังคหะ กล่าวไว้
- อีกอย่างหนึ่งครับ การอ้างอิงถึงพระไตรปิฎก เป็นเรื่องสำคัญมากๆ บางท่านก็ไม่อ้างเลย มันไม่เป็นการเคารพต่อ พตปฎ ครับ