การสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า ไม่สูญเปล่ามีผลมากมีอานิสงส์มาก

สาคตเถราปทานที่ ๒ (๓๒)
ว่าด้วยผลแห่งการสรรเสริญพระพุทธเจ้า
  [๓๔]   ในกาลนั้น เราเป็นพราหมณ์มีนามชื่อว่า โสภิตะ อันบริวารพร้อมด้วยศิษย์แวดล้อมแล้ว ได้ไปยังอาราม สมัยนั้นพระผู้มีพระภาคผู้อุดมบุรุษแวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ เสด็จออกจากประตูพระอารามแล้วประทับยืนอยู่ เราได้เห็นพระสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ฝึกพระองค์แล้ว แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ผู้ฝึกตนแล้ว จึงยังจิตของตนให้เลื่อมใสแล้วเชยชมพระองค์ผู้นำของโลกว่า ต้นไม้ทุกชนิดนั้น งอกงามบนแผ่นดิน ฉันใด สัตว์ผู้มีความรู้ก็ฉันนั้น ย่อมงอกงามในศาสนาของพระชินเจ้า พระองค์สัพพัญญู ผู้ทรงนำหมู่แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ทรงถอนคนเป็นอันมากออกจากทางผิดแล้ว ตรัสบอกทางที่ถูก พระองค์ฝึกพระองค์แล้วแวดล้อมด้วยผู้ฝึก ตนแล้ว ทรงเพ่งฌาน แวดล้อมด้วยผู้เพ่งฌาน ทรงมีความเพียร แวดล้อมด้วยผู้ส่งตนไปแล้ว ผู้สงบระงับและผู้คงที่ ประดับด้วยบริษัท ย่อมงามด้วยพระญาณอันเกิดแต่บุญ รัศมีของพระองค์รุ่งเรือง ดังพระอาทิตย์
อุทัยฉะนั้น พระศาสดาพระนามว่า ปทุมุตระ ผู้ทรงแสวงหาคุณใหญ่ทอดพระเนตรเห็นเราผู้มีจิตเลื่อมใส ประทับยืนท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า พราหมณ์ใดยังความร่าเริงให้เกิดแล้ว สรรเสริญ
                          เรา พราหมณ์นั้นจักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอดแสนกัลป อันกุศลมูลตักเตือนแล้ว จักเคลื่อนจากสวรรค์ชั้นดุสิต แล้วจักบวชในศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม ครั้นบวชในศาสนาแล้วจักได้ความยินดี และความร่าเริง จักเป็นสาวกของพระศาสดามีนามชื่อว่าสาคตะ เราบวช แล้วเว้นกรรมอันลามกด้วยกาย ละวจีทุจริต ยังอาชีพให้บริสุทธิ์ เราเป็นอยู่อย่างนี้ เป็นผู้ฉลาดในเตโชธาตุ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วเป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
             ทราบว่า ท่านพระสาคตเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
    จบสาคตเถราปทาน.
--------------------------------------------------
๓๒. อรรถกถาสาคตเถราปทาน               
        อปทานของท่านพระสาคตเถระมีคำเริ่มต้นว่า โสภิโต นาม นาเมน ดังนี้.
               พระเถระแม้นี้ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ บังเกิดในตระกูลพราหมณ์แห่งหนึ่ง บรรลุนิติภาวะแล้ว ถึงความสำเร็จในศิลปะทั้งปวง โดยนามปรากฏนามว่าโสภิตะ ถึงฝั่งแห่งเวท ๓ ผู้เรียนรู้มาก เรียนไวยากรณ์แห่งสนิฆัณฑุศาสตร์และเกฏุภศาสตร์ พร้อมด้วยประเภทแห่งอักขระ มีอิติหาสศาสตร์เป็นที่ ๕ ผู้ชำนาญในโลกายตศาสตร์และมหาปุริสลักษณศาสตร์.
               วันหนึ่ง ท่านเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้งดงามด้วยสิริแห่งมหาปุริสลักษณะ ๓๒ เสด็จไปอยู่โดยประตูพระอุทยาน มีใจเลื่อมใสยิ่ง ได้กระทำการชมเชยด้วยอุบายเป็นอเนก ด้วยการสรรเสริญคุณเป็นอเนก.
               ในกาลนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสดับดังนั้น จึงทรงประทานพยากรณ์ว่า ในอนาคต เธอจักเป็นสาวกนามว่าสาคตะ ในศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าโคดม.
               จำเดิมแต่นั้น ท่านสั่งสมบุญทั้งหลาย ดำรงอยู่ตลอดอายุ จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว บังเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติตลอดแสนกัป เสวยมนุษย์สมบัติในมนุษย์ทั้งหลาย ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง. มารดาบิดาของท่านตั้งชื่อว่าสาคตะ เพราะท่านเจริญโสมนัส เกิดดีมาแล้ว. ท่านเลื่อมใสในพระศาสนา บวชแล้ว เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตแล้ว.
               ท่านบรรลุพระอรหัตผลโดยสมควรแก่บุญสมภารด้วยประการฉะนี้แล้ว ได้รับตำแหน่งเอตทัคคะ ระลึกถึงบุพกรรมของตนแล้ว เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า โสภิโต นาม นาเมน ดังนี้.
               เชื่อมความว่า ในคำนั้น ในกาลนั้นคือในสมัยที่บำเพ็ญบุญสมภาร เราได้เป็นพราหมณ์ โดยชื่อว่าโสภิตะ.
               บทว่า วิปถา อุทฺธริตฺวาน ความว่า ยกขึ้น นำออกจากทางผิดคือทางชั่ว หรือจากนอกทาง ให้คุ้มครองไว้.
               บทว่า ปถํ อาจิกฺขเส ตุวํ ความว่า ข้าแต่พระสัพพัญญูผู้เจริญ พระองค์ทรงบอกคือตรัสแสดง เปิดเผย จำแนก ทำให้ตื้น ซึ่งทางคือทางแห่งสัตบุรุษ ได้แก่อุบายเป็นเหตุบรรลุพระนิพพาน.
               คำที่เหลือง่ายทั้งนั้นแล.               จบอรรถกถาสาคตเถราปทาน               
    --------------------------------------------
https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=32&A=1905&Z=1933
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่