เพื่อตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนลงเลยตั้งใจจะลงในช่วงเวลานี้ต่อไปนะครับ

มาต่อกันเลยครับ  ( ตอนนี้พูดกันเยอะมากเลยเสียเวลาตรวจสอบเยอะ )




เรื่องราวต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว หลังได้สมาชิกกลุ่มคนนึงมาเป็นที่เรียบร้อย เรื่องหลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรมากมาย โดยที่ต่อไปซึ่งเร็นทาโร่ได้พาทีน่ามาก็คือ

โรงพยาบาล ห้องแล็บของอาจารย์สุมิเระ

สำหรับทีน่า เรื่องของ อาจารย์สุมิเระที่เป็น 1 ใน 4 อัจฉริยภาพตรงนี้รู้ดี แต่เรื่องนิสัยใจคอหริอเป็นยังไงได้รู้แค่ว่าเป็นคนที่ค่อนข้างแปลกพอดู  แต่เร็นทาโร่เสริมตรงนี้ให้ว่า

เร็น - ถ้าเข้าใจง่ายแบบนั้นก็ดีหรอกนะ



สถานที่แห่งนี้คือความแปลกใหม่สำหรับเธอ เพราะเมื่อได้เห็นสภาพห้องแล็บอันแสนรกของ คนชื่อ สุมิเระ ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนจนเมื่อได้เจอเข้ากับตัว ในสภาพหิวโซสุดๆ

เข้า OP



มาเริ่มต้นกันอย่าง ตะกละ และ บ่นไปไม่รู้จบของ อาจารย์สุมิเระว่า เพราะอาหารที่ซื้อมาทำให้ตัวเองรอดพ้นจากความตายมาได้หวุดหวิดเลย   ( ทีน่ายังอึ้งอยู่ ) จนเมื่ออาจารย์ได้สังเกตเห็นทีน่าเข้า เมื่อนั้นที่อาหารตรงหน้าก็ถูกเมินแล้วเข้าไปดูอย่างสนใจเอาเรื่อง

(ข้ามเล็กน้อย)

ที่มาในวันนี้ก็เพื่อมาตรวจเช็คสภาพของอาวุธยุทธโปกรณ์   ( อาจารย์ตรวจสภาพของ bit shenfield กับ แขนขา เร็นทาโร่ แต่ในเมะไม่กล่าวตรงนี้ )  จนเมื่ออาจารย์นึกขึ้นได้ว่า

สุมิเระ - จริงสิ..เมื่อวาน โชวมะ เค้าตามหาเธออยู่นะ

เร็น - ( ตกใจเล็กน้อย ) รุ่นพี่ เหรอ ?

สุมิเระ - ชั้นบอกไปว่าเธอไม่อยู่ หลังจากนั้นเค้าก็จากไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
สุมิเระ - นิสัยไม่เปลี่ยนเลยสักนิดเดียว เค้านะ
ทีน่า - ใครเหรอค่ะ ?
เร็น - นากิซาวะ โชวมะ เค้าเป็นรุ่นพี่ที่ฝึกศิลปะการวิชาต่อสู้ เทนโด เหมือนกับชั้นนะ

ชายคนนี้ นอกจากเป็นรุ่นพี่แล้วยัง คนที่ทั้งแข็งแกร่ง และ เยือกเย็น มาก  ซึ่งเร็นทาโร่ให้ความนับถือเป็นแรงผลักดันอยู่เอาเรื่อง แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงออกจากสำนักไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

ว่ากันไปชั่วครู่ทีน่าเองที่เริ่มพูดถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมา



ทีน่า - ด็อกเตอร์ค่ะ..หนูมีเรื่องบางอย่างต้องการจะปรึกษาด้วยค่ะ
สุมิเระ - ?
ทีน่า - หนูน่ะ...อีกไม่นานจากนี้..จะถูกตามล่าตัวค่ะ
สุมิเระ - หมายถึง Ayn นะเหรอ ?

เด็กน้อยมีเรื่องกำลังกลุ้มใจอยู่ ตัวทีน่าเป็นอินิชิเอเตอร์ที่ทำงานขึ้นตรงกับ Ayn 1 ใน 4 อัจฉริยภาพ การที่ตนเองทำภารกิจพลาดแล้วถูกพามาอยู่กับที่เขตปกครองโตเกียวแห่งนี้ สิ่งที่คาดเดาไว้ก็คือ พวกคนของ Ayn จะตามมาจับตัวทีน่าไป ซึ่งทุกคนอาจจะต้องเดือดร้อนตามกันไปด้วย  เพราะงั้นสิ่งที่คิดได้ก็คือ ตนเองจะขอออกจากบริษัทรักษาความปลอดภัยเทนโดเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

สุมิเระ - บ้ารึเปล่า!!!!
เร็น - อย่าทำอะไรบ้าแบบนั้นนะ!!!

ทีน่า - ?!

เร็น - พวกชั้น ทั้งคุณคิซาระ หรือ เอ็นจู ไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดต้องทำให้เธอเป็นห่วงหรอกน่ะ!!!



เร็นทาโร่ว่ามาแบบนั้นแต่ อาจารย์สุมิเระบอกว่า ความจริงสิ่งที่เร็นทาโร่ว่ามามันมีล่ามภายในก็คือ  ทีน่าเป็น 1 ใน ฮาเร็มโลลิของตัวเอง โลลิของข้าใครอย่าแตะ



ทีน่า - ( ทำหน้าสยอง ) หาา!!!
เร็น - ใครเชื่อก็บ้าแล้ว!!!!



แน่นอนเรื่องแบบนี้ ต่อให้มันอันตรายมากมายขนาดไหน แต่เร็นทาโร่ก็ได้เข้าไปลูปหัวปลอบทีน่าให้หายกลุ่มใจว่า ตนเองจากนี้จะแข็งแกร่งให้มากกว่านี้ขึ้นไปเรื่อยๆ

เด็กน้อยผู้ได้ความรู้สึกวางใจจากชายที่ตนเองขอเรียกว่า คุณพี่ ก็เริ่มยิ้มหวานออกมาอย่างชื่นบาน

ทีน่า - ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ

หลังปล่อยให้เด็กหลับไป 2 คนที่เหลือก็มาว่ากันต่อ



สุมิเระ - เร็นทาโร่คุง...เธอคิดยังไงกับเด็กอย่าง ทีน่าจัง กับ เอ็นจูจัง กันละ
เร็น - ก็น่ารักดีนะครับ...บางครั้งก็ยังมีใจเต้นตึกตักเลย
สุมิเระ - ตอบตรงๆแบบนั้นดีแล้ว...แต่อย่ายึดติดกับสิ่งนี้มากละ

เร็น - ?

สิ่งที่อาจารย์ต้องการจะพูดก็คือ ต่อให้ทีน่าหรือเอ็นจูจะเป็นเด็กในสายตาเร็นทาโร่ยังไง แต่ เด็กพวกนี้ยังมีบ่วงที่ยึดกับชีวิตตัวเองอยู่ก็คือ  ระดับการกัดกร่อนของไวรัส ซึ่งถ้าถึงขีดจำกัดเมื่อไร สิ่งเดียวที่เร็นทาโร่และคนอื่นต้องทำกับเด็กพวกนี้ก็เช่นเดียวกับ การกำจัดกาสเทรียส์ นั้นคือ ฆ่าพวกเธอทิ้งซ่ะ  


ถึงมันจะโหดร้ายและเศร้าโศกก็ตามทีแต่....



สิ่งที่เร็นทาโร่เชื่อและยึดมั่นเป็นอุดมการณ์มาโดยตลอดก็คือ ทั้งทีน่าและเอ็นจูต่างก็เป็นมนุษย์เหมือนกับตนเอง ว่ามาอย่างนั้นตัวอาจารย์ก็ได้สวนกลับไปว่า คนที่มีความคิดแบบตัวเองก็ยังถือว่าเป็นพวกชนกลุ่มน้อยอยู่เยอะ ซึ่งหากเร็นทาโร่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้เป็นไปตามอุดมคติของตัวเอง นั้นก็หมายถึง เร็นทาโร่จะต้องเลือกเส้นทางไปเป็น นักการเมือง

เร็นทาโร่เองก็มีความคิดเป็นเอกลักษณ์ที่ว่า ถึงจะอย่างนั้น แต่วิธีการช่วยโลกใบนี้มันไม่ได้มีเพียงแค่ 1 วิธีเท่านั้น แต่หากสามารถกำจัดกาสเทรียส์ให้หมดสิ้นไปจากโลกนี้ได้ เมื่อนั้นที่สันติสุขในความคิดของเร็นทาโร่ก็จะเกิดขึ้นโลกใบนั้นที่ตนเองฝันถึงจะมอบให้เป็นของขวัญแก่ เอ็นจูและทีน่า

เร็น - เพราะงั้นแหละ ผมจะจัดการพวกมันเอง...จัดการพวกกาสเทรียส์ให้หมดไปจากโลกใบนี้!!!


เช่นเดิมถึงมันจะเป็นเป้าหมายที่ทั้งไกลและไม่สามารถนึกภาพจุดหมายปลายทางได้แต่อาจารย์ก็หัวเราะให้กับคำตอบแบบนี้แล้วเริ่มถามในเชิงปรัชญญาว่า



สุมิเระ - รู้มั้ยว่าอะไรคือสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลก ?
สุมิเระ - ถ้าในเชิงศาสนาพุทธ ก็เหมือนจะเป็น ดอกบัว ล่ะ
สุมิเระ - หรือให้พูดง่ายๆเลย เร็นทาโร่คุง

สุมิเระ - วิญญาณของเธอนะ..บริสุทธิ์

( ตรงนี้อาจารย์สุมิเระต้องการเล่นคำ เพราะดูจากในซับอังกฤษกับลองไปค้นดูนิดหน่อย ชื่อภาษาญี่ปุ่นของเร็นทาโร่  里見 蓮太郎 ตัว 蓮 แปลว่า ดอกบัว หรือ Lotus)



แล้วก็มาเข้าเรื่องกันเพราะคิดว่าเป็นเร็นทาโร่ในตอนนี้น่าจะพอรับไหวแล้ว หลังจากเร็นทาโร่ได้ขึ้น Ranking ในระดับที่ 300 ก็ได้รับสิทธิพิเศษในการล้วงเข้าถึงข้อมูล Level 5 ที่เป็นความลับพิเศษ  ซึ่งสิ่งที่เร็นทาโร่ได้พบเห็นก็คือ ไฟล์ข้อมูล เช่น




NO.005231
สงคราม แถบคันโต กาสเทรียส์ และ JASDF
NO.005281
บันไดสู่สวรสวรรค์ โครงการลับ โดย รัฐบาล
NO.005297
โครงการมนุษยชาติสายพันธุ์ใหม่

รวมไปถึง วันเดือนปี ในช่วงสงครามกาสเทรียส์ ตั้งแต่ต้นจนถึง ปี 2031 ซึ่งสิ่งที่ไปเตะตาเข้าอย่างจังเบอร์ก็คือตรงนี้



การระบาดของ เชื้อไวรัสกาสเทรียส์
ปี 2021 หมู่บ้าน นานะโฮชิ ถูกทำลาย



พอลองกดเข้าในไฟล์ใดไฟล์หนึ่งผลคือ ถูกระบบปฎิเสธการเข้าถึงตัวไฟล์   เป็นการฟันธงได้อย่างหนึ่งว่า เรื่องนี้มันชักมีอะไรลับลมคมในขึ้นมาแล้ว ทั้ง กล่องเหล็กที่ฮิรูโกะเคยขโมยไปซึ่งภายในมีแค่ จักรยานเก่าๆ เท่านั้น ทั้ง ชื่อของมันก็คุ้นหูมากคือ

เร็น - นานะโฮชิ ?
เร็น - มรดกแห่งดวงดาราทั้ง 7 .....

ตู๊ดๆๆๆ ( เสียงโทรศัพท์ )



ยังไม่ทันจะว่ากันมากไปกว่านี้ คิซาระที่โทรมาด้วยเหตุเร่งด่วน ซึ่งทำให้เรื่องตรงส่วนนี้ต้องสลัดออกจากหัวไปชั่วคราว เพราะข่าวร้าย ความลับเรื่องแผ่นศิลา โมโนลิซ กำลังถูกทำลายลง ได้ถูกตรวจพบแล้วรายงานข่าวเรื่องด่วนไปถึงหูของประชาชนแล้ว

นั้นก็หมายความว่า จากนี้ไปมันคือจุดเริ่มต้นของความโกลาหลครั้งใหญ่

ดั่งที่ว่า ความลับไม่มีในโลก เรื่องตรงนี้ เร็นทาโร่ และ รวมถึงเซย์เท็นชิ รู้เป็นอย่างดีว่า คงปิดข่าวไว้ไม่ได้นานอย่างที่ว่าจริงๆ



เมื่อข่าวรั่วไหลก็ย่อมต้องมีการ ประกาศกฎอัยการศึก เอ็ย!!! แถลงการเร่งด่วน รายงานสด ถึงเรื่องนี้โดยเซย์เท็นชิ บอกแก่ประชาชนโดยตรงว่า  แผ่นศิลาโมโนลิซ แผ่นที่ 32 จะถูกทำลายลงอย่างต่ำคือ ภายใน 4 วัน เรื่องเดือดร้อนแบบนี้ เซย์เท็นชิโดนโยนความรับผิดชอบทั้งหลายทั้งปวงมาใส่จนน่าสงสารเอาเรื่อง

2 เพื่อนร่วมตาย ทามากิ และ เร็นทาโร่ ขณะกำลังดูทีวีต่างพูดกันแบบนั้น



ยามที่ประเทศชาติกำลังอยู่ในสภาวะวิกฤต ทั้งเส้นตายคือภายใน 4 วัน ก่อนแผ่นศิลาโมโนลิซถูกทำลาย สิ่งแรกที่ต้องรีบจัดการคือ การอพยพประชาชนไปยังเขตหลบภัย

ในตรงนี้ที่ทามากิบอกว่า เดิมการอพยพจะย้ายผู้คนเข้าไปหลบในหลุมหลบภัยใต้ดินโดยการจับฉลากแต่เพราะมีเสียงค้านกันเยอะพอดู  ทั้งพวกมีอิทธิพลในการเงินและทรัพยากร อย่างกลุ่มที่ชื่อ Richman ก็กอบโกยซื้อตั๋วเครื่องบินไปจนหมด พวกประชาชนที่อยู่ต่ำกว่าก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถูกเอารัดเอาเปรียบโดยเป็นไปได้สูงว่า จากนี้อาจเกิดการจราจลขึ้นมาก็เป็นได้

( เสียดสีสังคมเอาเรื่องตรงความเอารัดเอาเปรียบของมนุษย์ที่ใครมีเงินฟาดหน้าเยอะกว่าก็ได้ทุกอย่างที่แ้ลวทิ้งคนจนๆไว้อยู่ข้างถนน )



แน่นอน ทั้งเร็นทาโร่ และ ทุกคน ที่ทำงานเป็น โปรโมเตอร์ ได้ถูกย้ายไปยัง เขตอพยพเฉพาะที่สำหรับ โปรโมเตอร์และอินิชิเอเตอร์ที่เข้าร่วมในกองทัพ Adjuvant นี้

เอ็นจู - เร็นทาโร่เสร็จแล้วนะ
ยูสึกิ - ไอ้นี้มันเต็นท์แน่เหรอ ผ้าขี้ริ้ว ชัดๆเลย




เหตุเพราะพวกเร็นทาโร่ยังไม่ได้ไปลงทะเบียนเข้ากองทัพ Adjuvant อย่างเป็นทางการ ทาง JASDF เลยไม่ได้ส่งเต็นท์  แบบพวกกลุ่มอื่นมาให้  ซึ่งหากยังไม่สามารถหาสมาชิกมาเพิ่มได้อีก ยูสึกิที่ออกปากบ่นเป็นคนแรกคงได้ร่ายยาวตลอดงานแน่ เพราะตัวเองไม่ต้องการจะนอนในเต้นท์ยาจกนี้ ร่วมกับ ไอ้โรคจิตอย่างเร็นทาโร่



ทีน่า - ขอโทษนะค่ะ..ถ้าชั้นได้เข้าร่วมกับคุณด้วยละก็
เร็น - ไม่ต้องกังวลหรอก...Rank ของเธอเองก็ถูกเพิกถอนอยู่นิ
เอ็นจู - ไม่ต้องกังวลหรอกทีน่า...เดี๋ยวเรากับเร็นทาโร่จะหาสมาชิกเข้ากลุ่มได้แน่นอน

เร็น - ( ทำหน้ากลุ้ม )

มีต่อครับ