มาต่อกันเลยครับ ( ความจริงจะทำตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้วแต่รอซับไม่ไหวเลยเลือกทำวันนี้แทน )
เรื่องราวต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ก่อนอื่นขอตัดไปยัง ณ โรงพยาบาล ห้องแล็บของ อาจารย์สุมิเระกันก่อน ขอเข้าประเด็นกันไปเลยหลังอาจารย์สุมิเระคิดว่าตอนเย็นจะทานอะไรดี ขณะกำลังฟังเรื่อง ทุกคนรู้เรื่องตัวจริงของเอ็นจูไปแล้ว โดยรวมเธอบอกได้เลยว่า
สุ - เป็นปัญหาที่ปกติจนสุดแสนจะเบื่อหน่ายเลยละ
ในขณะเดียวกัน อาจารย์สุมิเระ ก็เริ่มตั้งคำถามบ้างว่า " ทำไมมนุษย์ถึงต้องกำจัดกาสเทรียส์ด้วย "
เร็น - เพราะมันคือศัตรูไงครับ
เร็นทาโร่ว่าเช่นนั้น แต่อาจารย์สุมิเระ ให้คำตอบเช่นนี้คือ
สุ - แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังมีพวกที่เชื่อว่า กาสเทรียส์คือ สิ่งที่พระเจ้าประทานมา เพื่อล้างโลกใบนี้ด้วยนะ
สุ - ก็มนุษย์ ไม่เพียงแค่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง ทั้งยังทำลายทิ้งอีกต่างหาก
แม้อาจารย์จะว่าเช่นนั้น เร็นทาโร่ ก็ขอสวนกลับบ้าง
เร็น - ถ้า กาสเทรียส์ คือสิ่งที่พระเจ้าประทานมา
เร็น - งั้นเด็กต้องสาป คืออะไรกันละ!!
คำตอบสั้นๆง่ายๆจากอาจารย์ในตอนนี้คือ
สุ - ตัวแทนของพระเจ้า ระหว่าง มนุษย์และกาสเทรียส์ ไงละ
เร็น - ( ตบโต๊ะจนกาแฟหกพูดด้วยเสียงไม่พอใจ ) เอ็นจูเป็นมนุษย์นะครับ!!!
เร็น - มีทั้งตัวตน และ จิตใจ !!!! ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปแน่นอน!!!
นั้นอาจเป็นสิ่งที่อาจารย์สุมิเระต้องการจากปากเร็นทาโร่ก็ได้
สุ - ก็เข้าใจอยู่แล้วนิ
เร็น - เอ๋ ?
สุ - เร็นทาโร่คุง
สุ - อย่างน้อยเธอก็ยังรู้ว่า ตัวเองคือใคร ตัวเองมาจากที่ไหน
สุ - แต่เอ็นจูจัง เธอไม่รู้เรื่องนี้เลยสักอย่างนะ
เร็น - ?!
สุ - เด็กต้องสาปที่อาศัยนอกเขตโตเกียว
สุ - ส่วนใหญ่คือเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง
สุ - ทั้งพ่อแม่ หรือ โลกภายนอก ก็ไม่รู้อะไรเลยทั้งนั้น
สุ - แล้วคนส่วนใหญ่ก็ยังมองด้วยสายตาน่ารังเกียจใส่อีก
เรื่องจริงไม่มีอิงนิยายของเด็กต้องสาปคือเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งเพราะมีเชื้อกาสเทรียส์ในร่างกาย
สุ - งั้นใครกันละ ที่จะเป็นคนคอยชี้นำทางให้กับพวกเธอ ?
เร็น - ...... ( อึ้งจนพูดไม่ออก )
สุ - พวกเธอคือครอบครัวเดียวกันไม่ใช่เหรอ ?
ไม่ต้องมีคำถามหรือคำตอบอะไรอีกแล้ว เพียงแค่นี้ก็เพียงพอ เร็นทาโร่ เมื่อนั้นที่กล่าวขอบคุณอาจารย์แล้วจากไปอย่างสงบ
( อาจารย์บอกว่ามีข้อความฝากมาถึงเร็นทาโร่จาก ผู้มีพระคุณ โดยข้อความคือ อีกสักพักจะไปหาที่สภานักเรียน )
หลังออกจากห้องแล็บไปไม่เท่าไร สิ่งที่เร็นทาโร่ ได้รู้เมื่อรับโทรศัพท์มือถือก็คือ
ครู - หนูไอฮาระวันนี้มาที่โรงเรียนด้วยนะครับ
เร็น - หา ?!
หลังจบ OPเริ่มเรื่องกันเลย
เรื่องตอนมาวันนี้ คือ มาม่าการกีดกันของมนุษย์ ซึ่ง
ไม่แบ่งแยกเพศ
ไม่แบ่งแยกวุฒิภาวะ
ไม่แบ่งแยกวัยวุฒิ
เรื่องเริ่มต้นที่ หน้าโรงเรียนของเอ็นจู หลังรู้ว่าตัวจริงของเด็กน้อยเป็นใคร ทั้ง ผู้ที่เคยมิตรและสหายวัยเดียวกัน ต่างก็ส่งเสียงเป็นเสียงเดียวกันว่า
ไปให้พ้น!!!
อย่ามาที่นี่อีก
แกฆ่าพ่อแม่ชั้น!!!
แม้เด็กน้อยจะพูดตามความจริงว่าตัวเองไม่ได้ทำ แต่ก็อย่างว่า ความกลัวของมนุษย์จำนวนมาก ย่อมก่อให้เกิดแรงจูงใจในการกระทำอย่างเดียวกันคือ Panic หรือความคลุ้มคลั่ง ไม่มีใครสักคนที่เชื่อ
แม้แต่เพื่อนรักที่พูดคุยเล่นกันทุกวัน ก็ยังตีสีหน้ารังเกียจแล้วหนีจากไป เช่นนี้ จิตใจของเด็กน้อยบอบช้ำจนเต็มทีแล้ว
ในที่สุด ผู้ปกครองอย่างเร็นทาโร่ ที่เดินเข้ามาจับไหล่ตนเองเบาๆ ทั้งสีหน้าที่ไม่อาจช่วยอะไรได้ และ น้ำเสียงเศร้าใจ คือ สิ่งที่เด็กน้อยได้เห็นและสัมผัสว่า
เร็น - เอ็นจู....ย้ายโรงเรียนเถอะ
เอ็น - (เสียงสะอื้น) ชั้น...ยังไม่อยาก....ยอมแพ้
เอ็น - เพื่อนของชั้นเองก็...
สิ่งที่เรียกว่า เพื่อนมิตรสหาย ในสถานที่แห่งนี้ไม่มีอีกแล้ว
เร็น - พวกเค้า...ไม่ใช่เพื่อนเธออีกแล้ว
เอ็น - (เสียงสะอื้น) ถึงพวกเรา....จะพยายามไปเท่าไร....อย่างนั้นเหรอ
( คอปเตอร์บินมารับถึงสนามข้างโรงเรียน )
เร็น - ใช่แล้วละ
มาม่ารีบจบอย่างเร่งด่วนเพราะ งานเข้าให้แล้ว นั้นคือ คิซาระ บอกว่ารู้ตำแหน่งของกาสเทรียส์ตัวแพร่เชื้อแล้ว แม้เอ็นจูจะบอบช้ำทั้งกายและจิตใจไปหมดแล้ว แต่ก็เลี่ยงที่จะปฎิบัติงานไม่ได้อยู่ดี ทั้ง เป้าหมายที่ตามหาก็เจอ
แล้วนั้นคือ กาสเทรียส์รูปแบบแมงมุมที่สร้างความสามารถใหม่นั้นคือ การสร้างใยตัวเองเป็นเครื่องร่อน
อันนี้ขอข้ามครับ
ยังไม่ทันจะวางแผน หรือ เตรียมพร้อมรบ เอ็นจู เด็กน้อยผู้บอบช้ำไปหมด ได้เปิดฉากบุกใส่กาสเทรียส์ไปแล้ว โดยเริ่มจากการโดดลงจากคอปเตอร์ไม่มีปี่มีขลุ่ย
( เร็นทาโร่รีบตาม )
ณ ข้างล่าง เด็กน้อยผู้บ้าคลั่งไปแล้ว เริ่มบรรจงถล่ม กาสเทรียส์ อย่างเมามัน ไร้การเปิดช่องโหว่ หรือ การหายใจ ไม่ทันไรมันก็ตายเรียบร้อย
( ตรงนี้ตัดนะครับ ในมังกะโหดมากๆ เอ็นจู จิตตกไม่ต่างจาก ซายากะ/มาโดกะ มาจิกะ สักนิด บ้าระห่ำเตะ กระจุยเป็นชิ้นๆ เหยียบชิ้นส่วนเละคาเท้าอีก )
หลังปราบมันได้สำเร็จ คำพูดที่ไร้อารมณ์และความน่ายินดีจากเด็กน้อยที่ เร็นทาโร่ ได้ฟังก็คือ
เอ็น - เร็นทาโร่.....จัดการเป้าหมายเสร็จสิ้น
เอ็น - เราจัดการมันได้แล้ว
เอ็น - เป็นไงบ้างละ
เอ็น - พวกเราจัดการมันได้ใช่มั้ย ?
เร็น - ( เสียงไร้อารมณ์ ) เออ
เอ็น - ( น้ำตาคลอเบ้า เสียงร้องไห้ปนเข้ามา ) เราปกป้องทุกคนในโรงเรียนได้แล้ว
เด็กน้อยถึงจะแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปแต่จิตใจก็ยังเป็นมนุษย์ เมื่อสูญเสียสิ่งสำคัญไปในที่สุดก็ต้องร้องไห้ออกมา
เอ็น - เร็นทาโร่!!!! ( เข้าไปกอด )
เอ็น - ( ร้องไห้เสียงดั่งลั่น ) อ็ากกก!!!! ฮืออ!!!!
เร็น - เธอยังมีชั้นอยู่ทั้งคนนะ
เอ็น - ( หยุดร้อง ) ?!
เร็น - จริงอยู่สิ่งที่เราทำได้มีแต่เพียงการต่อสู้เท่านั้น
เร็น - ไม่ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ความรู้สึกนั้นชั้นเข้าใจดี
เร็น - แต่ว่า!!!
เร็น - (จับไหล่สองข้างพูดเสียงหนักแน่น) เอ็นจู เธอยังมีชั้นอยู่นะ!!!
เร็น - ชั้นเนี่ยแหละที่เป็นห่วงเป็นใยเธอมากกว่าใครๆ!!!!
เร็น - ต่อให้โลกใบนี้ไม่ยอมรับเธอ!!!!
เร็น - แต่ชั้นคนนี้แหละที่จะอยู่ข้างเธอเสมอ!!!!
นั้นอาจเป็นคำพูดที่เยียวยาจิตใจเด็กน้อยได้ดีที่สุด เพราะเด็กน้อยได้หยุดร้องไห้ลง ก่อนจะยิ้มสีหน้าดีใจทั้งที่ร้องตานองหน้าแล้วเข้ากอดคอเร็นทาโร่อย่างแนบแน่น
เอ็น - เร็นทาโร่!!! ขอบคุณมากนะ!!!
หลังปรับความเข้าใจกันได้เรียบร้อย ก็มาเข้าเรื่องงานกันต่อ กล่องเจ้าปัญหาที่เป็นภารกิจของงานนี้ เพียงเข้าไปเก็บมันไม่ถึงวินาที ทันใดนั้น
วิ้ง!!!!
ฮิ - แบ่งเบาภาระไปได้เยอะเลยนะ ซาโตมิคุง
เร็น - ?!
คู่พ่อลูก คาเงะทาเนะ โผล่มาชุปมือเปิปไปหน้าด้านๆ เข้าให้ เกิดเป็นศึก 2 ด้านเข้าให้แล้ว
สรุปแบบสั้นๆ
เร็นทาโร่ทำอะไรฮิรุโกะไม่ได้สักนิด ในขณะเดียวกัน ฝั่งเอ็นจูก็เจอโคฮินะเล่นอยู่จนเข้าไปช่วยไม่ได้ แม้จะบอกให้เอ็นจูรีบหนีไปก่อนเพื่อไปเรียกคนมาช่วยก็ตามที แต่สุดท้ายเร็นทาโร่ผู้โดนเล่นงานขนาบข้างหนทางหนี
ในที่สุด
( ในมังกะโดนหนักกว่านี้เยอะ )
ฮิ - มีอะไรจะสั่งเสียมั้ย พ่อสหายผู้โรยริน
เร็น - หึ...ไปตาย..ซะ
ฮิ - GOOD NIGHT
โป้ง!!!!
ร่างอันเต็มไปด้วยแผลและสภาพปางตาย ร่วงหล่นสู่เบิ้องล่างคือ แม่น้ำไหลเชี่ยวกราด
จบครึ่งแรก
{{Black Bullet}} Ep.3 เด็กต้องสาป
มาต่อกันเลยครับ ( ความจริงจะทำตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้วแต่รอซับไม่ไหวเลยเลือกทำวันนี้แทน )
เรื่องราวต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ก่อนอื่นขอตัดไปยัง ณ โรงพยาบาล ห้องแล็บของ อาจารย์สุมิเระกันก่อน ขอเข้าประเด็นกันไปเลยหลังอาจารย์สุมิเระคิดว่าตอนเย็นจะทานอะไรดี ขณะกำลังฟังเรื่อง ทุกคนรู้เรื่องตัวจริงของเอ็นจูไปแล้ว โดยรวมเธอบอกได้เลยว่า
สุ - เป็นปัญหาที่ปกติจนสุดแสนจะเบื่อหน่ายเลยละ
ในขณะเดียวกัน อาจารย์สุมิเระ ก็เริ่มตั้งคำถามบ้างว่า " ทำไมมนุษย์ถึงต้องกำจัดกาสเทรียส์ด้วย "
เร็น - เพราะมันคือศัตรูไงครับ
เร็นทาโร่ว่าเช่นนั้น แต่อาจารย์สุมิเระ ให้คำตอบเช่นนี้คือ
สุ - แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังมีพวกที่เชื่อว่า กาสเทรียส์คือ สิ่งที่พระเจ้าประทานมา เพื่อล้างโลกใบนี้ด้วยนะ
สุ - ก็มนุษย์ ไม่เพียงแค่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง ทั้งยังทำลายทิ้งอีกต่างหาก
แม้อาจารย์จะว่าเช่นนั้น เร็นทาโร่ ก็ขอสวนกลับบ้าง
เร็น - ถ้า กาสเทรียส์ คือสิ่งที่พระเจ้าประทานมา
เร็น - งั้นเด็กต้องสาป คืออะไรกันละ!!
คำตอบสั้นๆง่ายๆจากอาจารย์ในตอนนี้คือ
สุ - ตัวแทนของพระเจ้า ระหว่าง มนุษย์และกาสเทรียส์ ไงละ
เร็น - ( ตบโต๊ะจนกาแฟหกพูดด้วยเสียงไม่พอใจ ) เอ็นจูเป็นมนุษย์นะครับ!!!
เร็น - มีทั้งตัวตน และ จิตใจ !!!! ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปแน่นอน!!!
นั้นอาจเป็นสิ่งที่อาจารย์สุมิเระต้องการจากปากเร็นทาโร่ก็ได้
สุ - ก็เข้าใจอยู่แล้วนิ
เร็น - เอ๋ ?
สุ - เร็นทาโร่คุง
สุ - อย่างน้อยเธอก็ยังรู้ว่า ตัวเองคือใคร ตัวเองมาจากที่ไหน
สุ - แต่เอ็นจูจัง เธอไม่รู้เรื่องนี้เลยสักอย่างนะ
เร็น - ?!
สุ - เด็กต้องสาปที่อาศัยนอกเขตโตเกียว
สุ - ส่วนใหญ่คือเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง
สุ - ทั้งพ่อแม่ หรือ โลกภายนอก ก็ไม่รู้อะไรเลยทั้งนั้น
สุ - แล้วคนส่วนใหญ่ก็ยังมองด้วยสายตาน่ารังเกียจใส่อีก
เรื่องจริงไม่มีอิงนิยายของเด็กต้องสาปคือเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งเพราะมีเชื้อกาสเทรียส์ในร่างกาย
สุ - งั้นใครกันละ ที่จะเป็นคนคอยชี้นำทางให้กับพวกเธอ ?
เร็น - ...... ( อึ้งจนพูดไม่ออก )
สุ - พวกเธอคือครอบครัวเดียวกันไม่ใช่เหรอ ?
ไม่ต้องมีคำถามหรือคำตอบอะไรอีกแล้ว เพียงแค่นี้ก็เพียงพอ เร็นทาโร่ เมื่อนั้นที่กล่าวขอบคุณอาจารย์แล้วจากไปอย่างสงบ
( อาจารย์บอกว่ามีข้อความฝากมาถึงเร็นทาโร่จาก ผู้มีพระคุณ โดยข้อความคือ อีกสักพักจะไปหาที่สภานักเรียน )
หลังออกจากห้องแล็บไปไม่เท่าไร สิ่งที่เร็นทาโร่ ได้รู้เมื่อรับโทรศัพท์มือถือก็คือ
ครู - หนูไอฮาระวันนี้มาที่โรงเรียนด้วยนะครับ
เร็น - หา ?!
หลังจบ OPเริ่มเรื่องกันเลย
เรื่องตอนมาวันนี้ คือ มาม่าการกีดกันของมนุษย์ ซึ่ง
ไม่แบ่งแยกเพศ
ไม่แบ่งแยกวุฒิภาวะ
ไม่แบ่งแยกวัยวุฒิ
เรื่องเริ่มต้นที่ หน้าโรงเรียนของเอ็นจู หลังรู้ว่าตัวจริงของเด็กน้อยเป็นใคร ทั้ง ผู้ที่เคยมิตรและสหายวัยเดียวกัน ต่างก็ส่งเสียงเป็นเสียงเดียวกันว่า
ไปให้พ้น!!!
อย่ามาที่นี่อีก
แกฆ่าพ่อแม่ชั้น!!!
แม้เด็กน้อยจะพูดตามความจริงว่าตัวเองไม่ได้ทำ แต่ก็อย่างว่า ความกลัวของมนุษย์จำนวนมาก ย่อมก่อให้เกิดแรงจูงใจในการกระทำอย่างเดียวกันคือ Panic หรือความคลุ้มคลั่ง ไม่มีใครสักคนที่เชื่อ
แม้แต่เพื่อนรักที่พูดคุยเล่นกันทุกวัน ก็ยังตีสีหน้ารังเกียจแล้วหนีจากไป เช่นนี้ จิตใจของเด็กน้อยบอบช้ำจนเต็มทีแล้ว
ในที่สุด ผู้ปกครองอย่างเร็นทาโร่ ที่เดินเข้ามาจับไหล่ตนเองเบาๆ ทั้งสีหน้าที่ไม่อาจช่วยอะไรได้ และ น้ำเสียงเศร้าใจ คือ สิ่งที่เด็กน้อยได้เห็นและสัมผัสว่า
เร็น - เอ็นจู....ย้ายโรงเรียนเถอะ
เอ็น - (เสียงสะอื้น) ชั้น...ยังไม่อยาก....ยอมแพ้
เอ็น - เพื่อนของชั้นเองก็...
สิ่งที่เรียกว่า เพื่อนมิตรสหาย ในสถานที่แห่งนี้ไม่มีอีกแล้ว
เร็น - พวกเค้า...ไม่ใช่เพื่อนเธออีกแล้ว
เอ็น - (เสียงสะอื้น) ถึงพวกเรา....จะพยายามไปเท่าไร....อย่างนั้นเหรอ
( คอปเตอร์บินมารับถึงสนามข้างโรงเรียน )
เร็น - ใช่แล้วละ
มาม่ารีบจบอย่างเร่งด่วนเพราะ งานเข้าให้แล้ว นั้นคือ คิซาระ บอกว่ารู้ตำแหน่งของกาสเทรียส์ตัวแพร่เชื้อแล้ว แม้เอ็นจูจะบอบช้ำทั้งกายและจิตใจไปหมดแล้ว แต่ก็เลี่ยงที่จะปฎิบัติงานไม่ได้อยู่ดี ทั้ง เป้าหมายที่ตามหาก็เจอ
แล้วนั้นคือ กาสเทรียส์รูปแบบแมงมุมที่สร้างความสามารถใหม่นั้นคือ การสร้างใยตัวเองเป็นเครื่องร่อน
อันนี้ขอข้ามครับ
ยังไม่ทันจะวางแผน หรือ เตรียมพร้อมรบ เอ็นจู เด็กน้อยผู้บอบช้ำไปหมด ได้เปิดฉากบุกใส่กาสเทรียส์ไปแล้ว โดยเริ่มจากการโดดลงจากคอปเตอร์ไม่มีปี่มีขลุ่ย
( เร็นทาโร่รีบตาม )
ณ ข้างล่าง เด็กน้อยผู้บ้าคลั่งไปแล้ว เริ่มบรรจงถล่ม กาสเทรียส์ อย่างเมามัน ไร้การเปิดช่องโหว่ หรือ การหายใจ ไม่ทันไรมันก็ตายเรียบร้อย
( ตรงนี้ตัดนะครับ ในมังกะโหดมากๆ เอ็นจู จิตตกไม่ต่างจาก ซายากะ/มาโดกะ มาจิกะ สักนิด บ้าระห่ำเตะ กระจุยเป็นชิ้นๆ เหยียบชิ้นส่วนเละคาเท้าอีก )
หลังปราบมันได้สำเร็จ คำพูดที่ไร้อารมณ์และความน่ายินดีจากเด็กน้อยที่ เร็นทาโร่ ได้ฟังก็คือ
เอ็น - เร็นทาโร่.....จัดการเป้าหมายเสร็จสิ้น
เอ็น - เราจัดการมันได้แล้ว
เอ็น - เป็นไงบ้างละ
เอ็น - พวกเราจัดการมันได้ใช่มั้ย ?
เร็น - ( เสียงไร้อารมณ์ ) เออ
เอ็น - ( น้ำตาคลอเบ้า เสียงร้องไห้ปนเข้ามา ) เราปกป้องทุกคนในโรงเรียนได้แล้ว
เด็กน้อยถึงจะแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปแต่จิตใจก็ยังเป็นมนุษย์ เมื่อสูญเสียสิ่งสำคัญไปในที่สุดก็ต้องร้องไห้ออกมา
เอ็น - เร็นทาโร่!!!! ( เข้าไปกอด )
เอ็น - ( ร้องไห้เสียงดั่งลั่น ) อ็ากกก!!!! ฮืออ!!!!
เร็น - เธอยังมีชั้นอยู่ทั้งคนนะ
เอ็น - ( หยุดร้อง ) ?!
เร็น - จริงอยู่สิ่งที่เราทำได้มีแต่เพียงการต่อสู้เท่านั้น
เร็น - ไม่ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ความรู้สึกนั้นชั้นเข้าใจดี
เร็น - แต่ว่า!!!
เร็น - (จับไหล่สองข้างพูดเสียงหนักแน่น) เอ็นจู เธอยังมีชั้นอยู่นะ!!!
เร็น - ชั้นเนี่ยแหละที่เป็นห่วงเป็นใยเธอมากกว่าใครๆ!!!!
เร็น - ต่อให้โลกใบนี้ไม่ยอมรับเธอ!!!!
เร็น - แต่ชั้นคนนี้แหละที่จะอยู่ข้างเธอเสมอ!!!!
นั้นอาจเป็นคำพูดที่เยียวยาจิตใจเด็กน้อยได้ดีที่สุด เพราะเด็กน้อยได้หยุดร้องไห้ลง ก่อนจะยิ้มสีหน้าดีใจทั้งที่ร้องตานองหน้าแล้วเข้ากอดคอเร็นทาโร่อย่างแนบแน่น
เอ็น - เร็นทาโร่!!! ขอบคุณมากนะ!!!
หลังปรับความเข้าใจกันได้เรียบร้อย ก็มาเข้าเรื่องงานกันต่อ กล่องเจ้าปัญหาที่เป็นภารกิจของงานนี้ เพียงเข้าไปเก็บมันไม่ถึงวินาที ทันใดนั้น
วิ้ง!!!!
ฮิ - แบ่งเบาภาระไปได้เยอะเลยนะ ซาโตมิคุง
เร็น - ?!
คู่พ่อลูก คาเงะทาเนะ โผล่มาชุปมือเปิปไปหน้าด้านๆ เข้าให้ เกิดเป็นศึก 2 ด้านเข้าให้แล้ว
สรุปแบบสั้นๆ
เร็นทาโร่ทำอะไรฮิรุโกะไม่ได้สักนิด ในขณะเดียวกัน ฝั่งเอ็นจูก็เจอโคฮินะเล่นอยู่จนเข้าไปช่วยไม่ได้ แม้จะบอกให้เอ็นจูรีบหนีไปก่อนเพื่อไปเรียกคนมาช่วยก็ตามที แต่สุดท้ายเร็นทาโร่ผู้โดนเล่นงานขนาบข้างหนทางหนี
ในที่สุด
( ในมังกะโดนหนักกว่านี้เยอะ )
ฮิ - มีอะไรจะสั่งเสียมั้ย พ่อสหายผู้โรยริน
เร็น - หึ...ไปตาย..ซะ
ฮิ - GOOD NIGHT
โป้ง!!!!
ร่างอันเต็มไปด้วยแผลและสภาพปางตาย ร่วงหล่นสู่เบิ้องล่างคือ แม่น้ำไหลเชี่ยวกราด
จบครึ่งแรก