{{Review}} Black Bullet Ep.1-2 ความหวังสุดท้าย & หน้ากากแห่งความคลุ้มคลั่ง

กระทู้สนทนา


ไม่มีเหตุผลอะไรต้องว่าความมากครับว่า เรื่องนี้เราชอบตั้งแต่เพลงเปิด FripSide แล้ว

เริ่มต้นในปี 2021 ณ ชานเมืองโตเกียว



สถานที่ซึ่งคงเรียกได้อย่างเต็มปากว่า เขตอพยพของผู้ประสบภัย ( สนามกีฬาที่พังแล้ว ) อันเต็มหมดด้วยบรรดาผู้คนจำนวนมากมายที่สูญเสียที่พักพิงหรือครอบครัว จากภัยร้ายของสงครามที่ไม่เคยปราณีสิ่งใด มันฆ่าล้างทุกสิ่งได้อย่างไม่มีจิตใจ เด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งแววตาเปรียบดั่งคนที่ตายไปแล้ว เดินท่ามกลางฝูงชนที่สภาพไม่ต่างจากตัวเองนักแล




แต่แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นเข้าให้ เมื่อปรากฎว่า เครื่องบินเจ็ต 2 ลำที่บินผ่านย่านเขตอพยพ ได้ถูกบางสิ่งบางอย่างที่เรียกว่า  กาสเทรียส์ หรือ สัตว์ประหลาดยักษ์รูปร่างเหมือนผีเสื้อผสมกับนกกระสา ถูกทำลายทิ้ง ก่อนที่มันจะโดนกระสุนปืนจากรถถังยิงทิ้งจนร่างขนาดยักษ์นั้นกลิ้งตกลงกระแทกกับเขตอพยพจนฝูงชนทั้งตาย และ หนีกันยกใหญ่ กันเป็นว่าเล่น



เช่นกันเด็กน้อยเองก็ล้มลุกคลุกคลานฝุ่นตลบเพราะแรงกระแทกดังกล่าว แต่เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์หาที่จะตายไม่  ในตอนนี้เองสิ่งที่เป็นตัวค้ำจุนให้เด็กน้อยที่กำลังสิ้นหวังเพราะความตายกำลังจะเข้ามาตัวเองก็คือ

??? - ถ้าไม่อยากตาย...ก็จงมีชีวิตอยู่ต่อไปซะ เร็นทาโร่  

เปรียบดั่งคำสอนที่ต้องจดจำไปชั่วชีวิต

หลังจบ OP

10 ปีต่อมา เขตโตเกียว



เรื่องราวในปัจจุบันเริ่มต้นขึ้นด้วย เด็กน้อย คนนั้นเมื่อ 10 ปีก่อน ที่บัดนี้โตเป็น เด็กหนุ่มวัยกำลังโต นามว่า ซาโตมิ เร็นทาโร่ ( CV: Yūki Kaji ) รีบปั่นจักรยานคู่ใจไปยังสถานที่ทำงาน แม้จะมาถึงที่แล้วถูก นายตำรวจที่ประจำการณ์ก่อนหน้าพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกดูแคลนว่า เด็กอย่างเร็นทาโร่เนี่ยเหรอ ผู้รักษาความปลอดภัยของเมือง แต่เจ้าตัวก็ไม่สนใจ รีบคว้าบัตรประจำตัวคืนจาก นายตำรวจแล้วขอรีบไปดูสถานที่เกิดเหตุ




โดยสารวัตรตำรวจรายงานว่า มีคนพบเห็นรอยเลือดซึมมาจากเพดาน ชั้นสอง ซึ่งคาดว่าจากข้อมูลคงไม่พ้นเป็น กาสเทรียส์แน่ๆ แต่เพราะเร็นทาโร่มาช้าเลยยังไม่อาจเริ่มงานอะไรได้ ( เร็นทาโร่บอกว่าเป็นกฎเพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ ) จนตอนนี้ที่นายสารวัตรได้ถามขึ้นมาว่า อินิทิเอเตอร์ (Inititor) หรือ คู่หูทำงานของเร็นทาโร่ หายไปไหนเพราะเดิมจะต้องมาทำงานเป็นคู่  

แน่นอนว่าเรื่องนี้เร็นทาโร่ของเลี่ยงจะตอบตรงๆเพราะบังเอิญว่า ตอนขามาดันปั่นจักรยานเร่งรีบไปนิด เด็กคู่หูตัวเองเลยตกจักรยานกลิ้งเป็นลูกขนุนไปไกลแล้ว แต่ตัวเองลืมไปรีบ โดยอ้างว่า งานแค่นี้ไม่ต้องพึ่งพาคู่หูก็ได้

ขอข้ามเรื่องเล็กน้อยอย่าง การที่หน่วย SWAT ส่งคนเข้าไปข้างในเพื่อดูลาดเลาแต่กลับขาดการติดต่อไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ



เร็นทาโร่ผู้มาพร้อมกับปืนคู่ใจ Springfield XD บุกเข้าไปข้างใน ก็ได้พบกับ ชายผู้หนึ่งในชุดสูทยาวเหมือนพ่อบ้านแต่กลับเป็นสีแดงเลือด สวมหมวกทรงสูง ตามน่องขาติดตั้งซองใส่อาวุธ และ จุดเด่นของเค้าที่เร็นทาโร่เห็นถึงกับรู้สึกสยองก็คือ หน้ากากสีขาวที่แสดงสีหน้ารอยยิ้มอันสยดสยอง ซึ่งเมื่อประกอบกับ บรรยากาศชวนอ้วกอย่างเช่น ซากศพของหน่วย SWAT ที่ตายคาที่กลิ่นเลือดตลบอบอวน ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวให้กับชายคนดังกล่าว ที่ยืนมือไขว้หลังอย่างสงบเงียบ ก่อนที่เค้าจพทักทายเร็นทาโร่ว่า



??? - มาสายไปหน่อยนะ พ่อรักษาพลเมืองคุง

ในตอนแรกเร็นทาโร่คิดว่า คงเป็นพวกเดียวกับตัวเอง แต่เมื่อทราบจากปากเจ้าตัวเองว่า  

??? - ชั้นก็มาสืบข่าวของกาสเทรียส์เช่นกัน แต่ไม่ใช่พวกเดียวกับเธอหรอก เพราะนายตำรวจ 2 นายที่อัดคากำแพงไป ก็ฝือมือชั้นเอง


เมื่อนั้นที่การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้น!!!



การโจมตีของเร็นทาโร่ ไม่อาจทำอะไรนายหน้ากากที่เก่งกาจสามารถทั้งรุกและรับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดั่ง เซบาสเตียน ก็ไม่ปาน หลังเร็นทาโร่ลงไปนอนกับพื้น นายหน้ากาก ก็คว้ามือถือตัวเองออกมาพร้อมพูดคุยอย่างปกติกับคนในสายว่าจะไปรวมตัวเดี๋ยวนี้แหละ

??? - โคฮินะเหรอ...OK จะไปรวมตัวเดี๋ยวนี้แหละ



ไม่รู้เป็นดวงซวยของนายตำรวจที่บุกเข้ามาทีหลังหรือไม่อย่างไร  นายหน้ากากแค่เพียงควักปืน เบลเรกต้า ออกมาเหน็บข้างเอว แล้วยิงโดนไม่มองเป้า นายตำรวจก็ตายกันไปแล้ว



นั้นคือโอกาสให้เร็นทาโร่บุกเข้าใส่อย่างรวดเร็วด้วยกระบวนท่า Inzen Kokutenfuu และ Inzen Genmeika หรือ กระบวนท่าคาราเต้ เล่นงาน นายหน้ากาก จนคอหักได้สำเร็จ แต่เรื่องสุดประหลาดก็เกิดขึ้นเมื่อนายหน้ากากที่น่าจะตายไปแล้วกลับหันคอตัวเองให้กระดูกบิดเข้าตำแหน่งได้อย่างสบายก่อนจะขอวางสายโทรศัพท์และชื่นชมในตัวเร็นทาโร่ที่สร้างแผลให้ตัวเองได้แบบนี้

??? - เธอ..ชื่ออะไรรึ ?
เร็น - ซาโตมิ เร็นทาโร่
??? - จะจำไว้ละกัน ไว้เจอกันใหม่สักแห่ง

เร็น - เดี๋ยว!!! แกเป็นใคร



??? - ชั้นเหรอ...ชั้นคือ ผู้ที่ต้องการจะล้างโลกใบนี้
?? - ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางหยุดชั้นได้

เรื่องจบลงไปได้เปราะนึง แต่เรื่องต่อมาที่ต้องมาคิดกันต่อคือ คนร้ายที่เป็น กาสเทรียส์ ที่อาศัยในห้องนี้ ได้หนีออกไปทางหน้าต่าง โดยการหลบหนีไปเช่นนี้มันไม่ใช่แค่เป็นเพียง ผู้ติดเชื้อ แต่เป็น การระบาด (Pandemic) ไปแล้ว หากไม่รีบไปตามจัดการเรื่องต้องใหญ่โตจนเกินกว่าที่จะควบคุมได้แน่



อีกด้าน เด็กสาวตัวน้อยผมสีแดงในชุดสีเหลืองอ่อน ซึ่งเป็น คู่หูของเร็นทาโร่ นามว่า เอ็นจู ( CV:  Rina Hidaka ) หลังกลิ้งตกจักรยานก็รีบวิ่งไปบ่นไปสารพัด

เอ็น - จ้าๆ พ่อเร็นทาโร่ ถึงปากจะบอกว่ารีบๆก็เถอะ แต่ถึงขั้นถีบคู่หมั้นอย่างเรากลิ้งตกจักรยานได้อย่างนี้เนี่ยนะ!!

แม้กำลังรีบร้อนอยู่ก็ตาม แต่เมื่อเอ็นจูได้เจอกับลุงคนหนึ่งระหว่างทาง ซึ่ง ทั้งตัวเลอะไปด้วยเลือดแถมสภาพร่างกายกลับเนื้อแหว่งบริเวณลำตัวซึ่งไม่น่าจะมีชีวิตได้อีกแล้ว โผล่ออกมาถามทาง เมื่อนั้น สีหน้าที่กำลังเร่งรีบกลับกลายเป็น สีหน้าของคนซึ่งเห็นใจและอดสู ก่อนจะพูดกับลุงคนนั้นว่า



เอ็น - ลุงไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าเป็นอะไรไปนะ
เอ็น - ขอโทษนะ..เราช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว
เอ็น - มีอะไรจะสั่งเสียครั้งสุดท้ายหรือไม่ ?



เรื่องเริ่มจะใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เพราะลุงคนนั้นจู่ๆกลับนึกออกว่าตอนอยู่บนระเบียงบ้าน ได้ถูกกาสเทรียส์เล่นงาน เข้า และแล้ว ลุงคนนั้นก็ได้เริ่มออกอาการแปลกๆ กับร่างกายตัวเอง จนในที่สุด กาสเทรียส์รูปแบบแมงมุม โผล่ออกมาจากร่างของลุงคนดังกล่าว ก่อนจะเล่นงานเอ็นจู จนกลิ้งไปอีกฟากของถนนกระแทกกับรั้วบ้าน แต่โชคดีเสียจริงที่เร็นทาโร่และสารวัตรตำรวจได้รีบมาถึงพอดี จึงเริ่มสู้กัน โดยกระสุนที่สามารถเล่นงานกาสเทรียส์ได้มีแต่เพียง กระสุนวาราเนี่ยมที่สร้างมาเพื่อใช้เล่นงาน กาสเทรียส์โดยเฉพาะเท่านั้น



หลังยิงใส่จนหมดแม็กกาซีน ผู้มาปิดฉากก็คือ เอ็นจู ที่ดวงตาจู่ๆได้กลายเป็นสีแดงสด เพื่อใช้พลังในตัวจนเล่นงานพินาศ หลังจัดการไปได้เรียบร้อยก็เริ่มมาต่อว่า เร็นทาโร่ตามประสาเด็กอันตรงกันข้ามกับเด็กทรงพลังที่เล่นงานแมงมุมยักษ์จนเละเมื่อตะกี้นี้



เอ็น - ช่างประมาทเสียจริงเร็นทาโร่
เร็น - ไม่เป็นไรนะ เอ็นจู
เอ็น - ไม่เป็นไรหรอก แต่อารมณ์เสียนิดหน่อยที่เสื้อผ้าขาดเนี่ยสิ

จะว่าเด็กสาวตัวน้อยคนนี้ นิสัยแก่เกินเด็ก ก็คงได้เพราะเอ็นจูเริ่มพูดจาไม่มีแก่นสารสารพัดเช่น

เอ็น - เจ้าหลงเส่นห์ของเรารึยังไง แต่น่าเสียดายนะ
เอ็น - (น้ำเสียงขี้เล่น) เพราะเรากับเร็นทาโร่ได้แลกพันธสัญญาจะอยู่ร่วมกันไปชั่วชีวิตแล้ว
เอ็น - ตัดใจเสียเถอะ


ตรงนี้ขอเอาใจชาวหมีเล็กน้อย



เร็น - ใครไปสัญญาด้วยฟ่ะ ?
เอ็น - (จูบสักที)
เร็น - ทำบ้าอะไรฟ่ะ!!!

(ในมังกะตรงนี้จัดเต็มคือ ถึงขั้นกอดคอแล้วจูบเต็มปากแต่อนิเมะเอาแบบหอมปากหอมคอ)



เอ็น - เอ๋ ? หรือเร็นทาโร่ อยากได้มากกว่านี้
เร็น - ยัยบ้า!!

แต่ยังไม่ทันจะด่ากันต่อ เหตุเพราะวันนี้มีลดราคาถั่วงอกที่ซูเปอร์มาเก็ต ทั้งคู่เลยต้องรีบจากตรงนั้นไปโดยไม่บอกลาสารวัตรแต่อย่างใด


( ตรงนี้สารวัตรบอกว่า พวกนั้นคือ อินิทิเอเตอร์และโปรโมเตอร์ ที่เกิดมาเพื่อสู้กับกาสเทรียส์ เป็นความหวังของมนุษยชาติ )


จบครึ่งแรก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่