ที่ลานด้านหน้าของโรงอาหาร บิวตี้คว้าไมโครโฟนสำหรับประกาศประชาสัมพันธ์ มายืนพูดกับหนุ่มสาวทุกคน
คนงานมานั่งล้อมใกล้ๆ ฟังบิวตี้แถลง แต่ละคนดูกลัวบิวตี้ไม่กล้าสบตาทั้งแถบ
“ฉันมาฝึกงานเพื่อจะได้เรียนรู้การทำงานของบริษัทเราให้ละเอียด รู้ตื้นลึกหนาบางของแต่ละแผนก”
เนย นี ติ๋ม สะอึกสะอื้น นึกว่าบิวตี้พูดกระทบ โดนไล่ออกแน่
บิวตี้มอง สามขาเม้าท์ “สามคนนั่นร้องไห้ทำไม”
เนย นี และติ๋ม ไหว้ ประสานเสียงวิงวอน “พวกเราขอโทษ อย่าไล่เราออกเลยนะคะ ลูกหนูยังเล็ก”
“นี่ ทำไมต้องคิดว่าฉันจะไล่พวกเธอออกด้วย บอกมาซิ ส้มเช้ง”
“ก็คุณเป็นประธานบริษัท”
ธีภพได้รับแจ้งจากหัวหน้า รีบมาดูเหตุการณ์ กลัวจะเรื่องจะลุกลามใหญ่โต
บิวตี้เห็นธีภพเดินลิ่วมาพอดี “คุณธีภพก็ประธาน ไม่เห็นพวกเธอกลัวจนตัวสั่นงันงกเลย ฉันสวยขนาดนี้กลัวทำไม บอกความจริงมา ไม่งั้นจะตัดเงินเดือนทุกคน”
คนงานร้องลั่น “อย่านะคะ” / “อย่านะครับ”
ธีภพส่ายหน้า ไม่เห็นด้วย ระอาใจกับวิธีของบิวตี้
“ก็พูดความจริงมาสิ”
ส้มเช้งบอก “เขาว่ากันว่า คุณหนูเวลาโกรธ จะไล่คนออกเป็นว่าเล่น อย่าไล่ส้มเช้งนะคะ”
ศรีนวลเสริม “ถ้าแกออกแม่ก็คงต้องออกด้วย เพราะแม่ว่าคุณหนูไว้เยอะ”
“แล้วพวกเธอได้ยินอะไรมาอีก คนไหนไม่บอกตามตรง โดนแน่” บิวตี้ถาม
เนยเปิดก่อน “เขาว่าคุณหนูเอาแต่ใจตัวเอง”
นีบอก “ดีแต่สวย ไร้สมอง”
ติ๋มตาม “ทำอะไรไม่เป็นดีแต่ผลาญเงินพ่อแม่”
ธีภพแอบยิ้มขำ
บิวตี้เจ็บจี๊ด ตวาด “พอแล้ว”
ทุกคนเงียบกริบ
“ฉันตั้งใจจะทำงานแทนคุณพ่อจริงๆ ถ้าจะผลาญสมบัติ คงไม่คิดทำงานหรอก เรื่องไล่คนออกน่ะฉันไล่ออกแค่คนที่ประจบสอพลอ แต่ลับหลังแอบลอบกัดฉันเท่านั้น หากใครจริงใจกับฉันและทุ่มเทให้บริษัท ฉันก็ไม่ไล่ออกหรอก”
คนงานฮือฮา โล่งใจ
“เรื่องสวยไร้สมองน่ะ มันช่วยไม่ได้ที่เกิดมาสวยจนคนอิจฉา ถึงต้องปล่อยข่าวลือ คอยดูไปก็แล้วกันว่าฉันเป็นอย่างที่เขานินทาหรือเปล่า”
ศรีนวลชอบใจ ตบมือนำ ทุกคนตบตาม
ธีภพมองบิวตี้อย่างฉงนฉงาน ทึ่งที่หล่อนจัดการแก้ไขปัญหาเองได้
ณ แดนสรวง นางฟ้าทั้งสองตามติดชีวิตบิวตี้อยู่ ถอนใจอย่างโล่งอก
“สาธุ โล่งใจไปอีกเปลาะหนึ่งแล้ว”
ส่วนที่ฝ่ายขาย พักตร์พิมลดูเฟสไทม์ข่าวบิวตี้จากปีวราด้วยความหงุดหงิด
“มันพูดแค่นั้นทุกคนก็เชื่องั้นเหรอ”
“ตบมือให้ด้วยค่ะ” กระตั้วเสริม
พักตร์พิมลเจ็บใจ “เล่นละคร สร้างภาพ”
กระตั้วอ่านข้อความจากไลน์ที่ปีวราส่งมา เผลอตัวกรี๊ดกร๊าด “อุ๊ยตาย ว้าย เริด”
“อะไรอีกล่ะ”
“คุณบิวตี้เขาประกาศจะเปิดคอร์สสอนแต่งหน้าคนงานหญิงฟรีค่ะ อยากสมัครอ้ะ”
พักตร์พิมลค้อนตาคว่ำ “ถ้าอยากนัก ก็ไปเลย แล้วอย่ากลับมาอีก คนทรยศ”
“เปล่านะคะ กระตั้วแค่อยากสมัคร ไปสอดแนม”
พักตร์พิมลพาลโมโห หงุดหงิดที่แผนการกลับตาลปัตร
เย็นแล้ว บิวตี้ก้าวเข้ามาในห้องนอน เตรียมเปิดหน้าต่าง และเตรียมอาหารนก สายตาเหลือบไปเห็นมาตรวัดความสัมฤทธิ์มีประกายทอง จึงหยิบมาดูด้วยความดีใจ
“เพิ่มขึ้นแล้ว เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงเป็นตลาดหุ้นเลย” บิวตี้ครุ่นคิด “สงสัยจะขึ้นตอนเคลียร์กับคนงาน ถ้างั้น พรุ่งนี้ถ้าเป็นไปตามแผนต้องพุ่งกระฉูด แน่ อิอิอิ เอาไปดูด้วยดีกว่า” ขณะเก็บมาตรวัดใส่กระเป๋าถือ ก็รู้สึกเจ็บร่าง “โอ๊ย... ฉันจะไม่ยอมทรมานแบบนี้ไปอีกนานหรอก คอยดู”
บิวตี้บิดตัวด้วยความเจ็บปวด
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 12/3 วันอังคารที่ 13/05/2557
ที่ลานด้านหน้าของโรงอาหาร บิวตี้คว้าไมโครโฟนสำหรับประกาศประชาสัมพันธ์ มายืนพูดกับหนุ่มสาวทุกคน
คนงานมานั่งล้อมใกล้ๆ ฟังบิวตี้แถลง แต่ละคนดูกลัวบิวตี้ไม่กล้าสบตาทั้งแถบ
“ฉันมาฝึกงานเพื่อจะได้เรียนรู้การทำงานของบริษัทเราให้ละเอียด รู้ตื้นลึกหนาบางของแต่ละแผนก”
เนย นี ติ๋ม สะอึกสะอื้น นึกว่าบิวตี้พูดกระทบ โดนไล่ออกแน่
บิวตี้มอง สามขาเม้าท์ “สามคนนั่นร้องไห้ทำไม”
เนย นี และติ๋ม ไหว้ ประสานเสียงวิงวอน “พวกเราขอโทษ อย่าไล่เราออกเลยนะคะ ลูกหนูยังเล็ก”
“นี่ ทำไมต้องคิดว่าฉันจะไล่พวกเธอออกด้วย บอกมาซิ ส้มเช้ง”
“ก็คุณเป็นประธานบริษัท”
ธีภพได้รับแจ้งจากหัวหน้า รีบมาดูเหตุการณ์ กลัวจะเรื่องจะลุกลามใหญ่โต
บิวตี้เห็นธีภพเดินลิ่วมาพอดี “คุณธีภพก็ประธาน ไม่เห็นพวกเธอกลัวจนตัวสั่นงันงกเลย ฉันสวยขนาดนี้กลัวทำไม บอกความจริงมา ไม่งั้นจะตัดเงินเดือนทุกคน”
คนงานร้องลั่น “อย่านะคะ” / “อย่านะครับ”
ธีภพส่ายหน้า ไม่เห็นด้วย ระอาใจกับวิธีของบิวตี้
“ก็พูดความจริงมาสิ”
ส้มเช้งบอก “เขาว่ากันว่า คุณหนูเวลาโกรธ จะไล่คนออกเป็นว่าเล่น อย่าไล่ส้มเช้งนะคะ”
ศรีนวลเสริม “ถ้าแกออกแม่ก็คงต้องออกด้วย เพราะแม่ว่าคุณหนูไว้เยอะ”
“แล้วพวกเธอได้ยินอะไรมาอีก คนไหนไม่บอกตามตรง โดนแน่” บิวตี้ถาม
เนยเปิดก่อน “เขาว่าคุณหนูเอาแต่ใจตัวเอง”
นีบอก “ดีแต่สวย ไร้สมอง”
ติ๋มตาม “ทำอะไรไม่เป็นดีแต่ผลาญเงินพ่อแม่”
ธีภพแอบยิ้มขำ
บิวตี้เจ็บจี๊ด ตวาด “พอแล้ว”
ทุกคนเงียบกริบ
“ฉันตั้งใจจะทำงานแทนคุณพ่อจริงๆ ถ้าจะผลาญสมบัติ คงไม่คิดทำงานหรอก เรื่องไล่คนออกน่ะฉันไล่ออกแค่คนที่ประจบสอพลอ แต่ลับหลังแอบลอบกัดฉันเท่านั้น หากใครจริงใจกับฉันและทุ่มเทให้บริษัท ฉันก็ไม่ไล่ออกหรอก”
คนงานฮือฮา โล่งใจ
“เรื่องสวยไร้สมองน่ะ มันช่วยไม่ได้ที่เกิดมาสวยจนคนอิจฉา ถึงต้องปล่อยข่าวลือ คอยดูไปก็แล้วกันว่าฉันเป็นอย่างที่เขานินทาหรือเปล่า”
ศรีนวลชอบใจ ตบมือนำ ทุกคนตบตาม
ธีภพมองบิวตี้อย่างฉงนฉงาน ทึ่งที่หล่อนจัดการแก้ไขปัญหาเองได้
ณ แดนสรวง นางฟ้าทั้งสองตามติดชีวิตบิวตี้อยู่ ถอนใจอย่างโล่งอก
“สาธุ โล่งใจไปอีกเปลาะหนึ่งแล้ว”
ส่วนที่ฝ่ายขาย พักตร์พิมลดูเฟสไทม์ข่าวบิวตี้จากปีวราด้วยความหงุดหงิด
“มันพูดแค่นั้นทุกคนก็เชื่องั้นเหรอ”
“ตบมือให้ด้วยค่ะ” กระตั้วเสริม
พักตร์พิมลเจ็บใจ “เล่นละคร สร้างภาพ”
กระตั้วอ่านข้อความจากไลน์ที่ปีวราส่งมา เผลอตัวกรี๊ดกร๊าด “อุ๊ยตาย ว้าย เริด”
“อะไรอีกล่ะ”
“คุณบิวตี้เขาประกาศจะเปิดคอร์สสอนแต่งหน้าคนงานหญิงฟรีค่ะ อยากสมัครอ้ะ”
พักตร์พิมลค้อนตาคว่ำ “ถ้าอยากนัก ก็ไปเลย แล้วอย่ากลับมาอีก คนทรยศ”
“เปล่านะคะ กระตั้วแค่อยากสมัคร ไปสอดแนม”
พักตร์พิมลพาลโมโห หงุดหงิดที่แผนการกลับตาลปัตร
เย็นแล้ว บิวตี้ก้าวเข้ามาในห้องนอน เตรียมเปิดหน้าต่าง และเตรียมอาหารนก สายตาเหลือบไปเห็นมาตรวัดความสัมฤทธิ์มีประกายทอง จึงหยิบมาดูด้วยความดีใจ
“เพิ่มขึ้นแล้ว เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงเป็นตลาดหุ้นเลย” บิวตี้ครุ่นคิด “สงสัยจะขึ้นตอนเคลียร์กับคนงาน ถ้างั้น พรุ่งนี้ถ้าเป็นไปตามแผนต้องพุ่งกระฉูด แน่ อิอิอิ เอาไปดูด้วยดีกว่า” ขณะเก็บมาตรวัดใส่กระเป๋าถือ ก็รู้สึกเจ็บร่าง “โอ๊ย... ฉันจะไม่ยอมทรมานแบบนี้ไปอีกนานหรอก คอยดู”
บิวตี้บิดตัวด้วยความเจ็บปวด