ที่ธนบวรเช้าวันต่อมา พักตร์พิมลทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่งในแผนกขายอย่างมั่นใจ
กระตั้วดีดดิ้นทำท่าซึ้งเหมือนอยู่บนเวทีคอนเสิร์ต “กลับมายืนที่เดิม ที่ที่เคยคุ้นตา”
พักตร์พิมลหมั่นไส้ “พอ ไม่มีเวลาเล่นมุกอะไรทั้งนั้น ลงมือทำงาน”
ปีวราเอาแฟ้มงานส่งให้ “นี่ค่ะ งานช่วงที่คุณแพ็ตไม่อยู่”
“ฉันหมายถึงงานกำจัดยัยบิวตี้”
ปีวรางง “อ้าว”
“ไปตามพนักงานที่กินข้าวกับยัยบิวตี้เมื่อวานมาพบฉัน”
ปีวรางงอีก “คนไหนคะ”
“ก็พนักงานตัดผ้าที่ชื่อส้มเช้งไงล่ะ แหมยัยปีเนี่ย ไม่ได้ดั่งใจเลย” กระตั้วหมั่นไส้
พักตร์พิมลสั่งกระตั้ว “งั้นเธอไป แต่อย่าให้ใครรู้นะว่าฉันเรียก”
“คุณแพ็ตขา ถ้าเรียกมา มันจะฮาร์ดเซลส์ เกินไปไหมคะ เดี๋ยวสาวมาถึงเราอีก”
“แล้วจะทำยังไง”
กระตั้วแถมากระซิบ “บัตรสนเท่ห์ค่ะ วิธีโบราณแต่เวิร์กสุดๆ” มองไปเห็นธีภพเดินเข้ามาร้อง “ว้าย” อย่างตกใจ
ธีภพเข้ามาในแผนก พูดกับพักตร์พิมลและกระตั้ว
“ช่วงที่หยุดไปคงมีเวลาได้คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น”
พักตร์พิมลตอบอย่างหมางเมิน “จะพูดอีกทำไมคะ”
“เป็นอันว่ามันผ่านไปแล้ว ต่อไปก็ขอให้ตั้งใจ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานอีก”
เลขาถือช่อดอกไม้เข้ามาสองช่อ ธีภพรับมาส่งให้พักตร์พิมลกับกระตั้ว
“ขอให้ทำงานอย่างสดชื่นและมีกำลังใจนะครับ”
พักตร์พิมลซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ “ขอบคุณค่ะพี่ธี”
ขณะที่ส้มเช้งสาธิตวิธีวางผ้าให้บิวตี้ดู หัวหน้าแผนกเดินนำศรีนวลเข้ามา
ส้มเช้งเห็นก็แปลกใจระคนตกใจ “แม่ มาทำไม”
“เขาย้ายแม่มา เขาว่าทางนี้งานยุ่งให้แม่มาช่วย”
บิวตี้มองอย่างแปลกใจ
หัวหน้าบอก “ป้าช่วย สอนพนักงานฝึกหัดด้วยนะ ส้มเช้งจะได้ทำงานเต็มที่”
“ได้ค่ะ”
บิวตี้งง “ป้าตัดผ้าเป็นด้วยเหรอ”
ส้มเช้งยิ้มบอก “ชั้นหนึ่งเลยล่ะ แม่เขาทำที่นี่ตั้งนานก่อนจะย้ายไปโกดัง” พูดแล้วนึกได้ “หัวหน้าคะ แม่ย้ายมาตัด จะมีกะว่างพาน้องไปโรงบาลได้หรือคะ”
“ได้ บริษัทตั้งป้าเป็นพนักงานอาวุโสแล้ว ป้าได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ”
ส้มเช้งกอดศรีนวล “ดีใจจังเลย”
บิวตี้ยิ้มมองสองแม่ลูกมีความสุขด้วยความดีใจ
“เอ้า คุยกันนานแล้ว ทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวส่งไม่ทันนะ” หัวหน้าเย้า
ศรีนวลหันมาทางบิวตี้ “มะสวย มาฝึกวางผ้ากันก่อน”
ส้มเช้งกุลีกุจอให้แม่เตรียมผ้าสำหรับตัด ตัวเองลงมือตัดอย่างเป็นสุขใจ
บิวตี้ดูแม่ ลูก ทำงานด้วยกันอย่างกระตือรือร้น แล้วรู้สึกอิ่มใจที่ได้ช่วยสองคน
มาตรวัดความสัมฤทธิ์ผลที่สรวงสวรรค์ เกิดสีทองขึ้นประมาณ เศษ 1 ส่วน 4 นางฟ้าลลิตา ปรบมือด้วยความยินดี
“ลัลน์ลลิตทำได้แล้ว ลูกมีทั้งความเมตตาและกรุณา อันที่จริงมาตรวัดน่าจะขึ้นสูงกว่านี้นะคะ มีสิ่งใดผิดพลาดหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอก ที่ขึ้นมาน้อย นางเลือกปฏิบัติเฉพาะคนที่นางเห็นเป็นพรรคพวก บุญจะยิ่งใหญ่ หากไม่เลือกบุคคล” ปรมะเทวี
นางฟ้าลลิตาพูดกับจอภาพ “พยายามเข้านะลัลน์ลลิต” แล้วหันมาทางปรมะเทวี “ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับนางได้ไหมคะ”
“ทำเถิด การยอมรับในความดีจะทำให้กุศลแผ่ไพศาล”
นางฟ้าลลิตาจ้องมองภาพบิวตี้ “แม่ขออนุโมทนา ขอให้ลูกอิ่มเอิบใจกับการทำความดีจะได้มีพลังทำดีให้ยิ่งขึ้นไปนะลูก”
มีแสงสีขาวนุ่มนวลจากแดนสรวงถูกส่งไปยังบิวตี้ ณ โลกมนุษย์
ช่วงพักเที่ยงห้องน้ำคนเข้าเต็ม ส้มเช้งเข้ามาในห้องน้ำ เจอเนย นี ติ๋ม รอคิวเข้าห้องน้ำอยู่
เนยแขวะส้มเช้ง “หน้าบานเชียวนะ นังส้มเช้ง ดีใจด้วยนะ”
“ขอบใจ”
ติ๋มเหน็บแนม “เส้นใหญ่นี่หว่า ทำไงบอกมั่งสิ”
“ไม่ได้ทำอะไร แม่เขาเคยตัดมาก่อน”
คนงานหญิงที่ออกมาจากส้วม มีสีหน้าแปลกๆ มอง เนย นี และติ๋มอย่างตกใจ
นีเข้าไปในส้วม ร้อง “เฮ้ย” ถือกระดาษ เอ 4 มีรูปและข้อความออกมาจากส้วมมาด้วย
นีหน้าซีด ปากสั่น “ซวยแล้วพวกเรา”
เนย ติ๋ม ดูกระดาษแผ่นนั้น ส้มเช้งพลอยเห็นไปด้วย
ที่กระดาษ มีรูปบิวตี้ ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ เขียนว่า “ลัลน์ลลิต พรรษบวรพงศ์ (บิวตี้) ประธานกรรมการบริหาร ธนบวร กำลังฝึกงาน”
เนยตกใจ “เฮ้ย นี่มัน นังสวย เอ๊ยคุณสวย มิน่าล่ะ มัน เฮ้ย ท่านถึงได้แปลกๆ”
ส้มเช้งจ้องรูปอย่างหวาดหวั่น “คุณหนูนี่ใช่ไหมที่เขาลือว่าไล่คนออกเป็นว่าเล่น”
เนย กะนีเสียงสั่นจะร้องไห้ “ใช่”
ติ๋มช็อก “ตายแน่พวกเรา”
ทั่วโรงงานเห็นกระดาษ เอ4 มีรูปบิวตี้ ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ เขียนว่า “ลัลน์ลลิต พรรษบวรพงศ์ (บิวตี้) ประธานกรรมการบริหาร ธนบวร กำลังฝึกงาน” ติดไปทั่วบริเวณ
คนงานชายหญิงยืนอ่าน บางคนเดินๆ อยู่แล้วมาหยุดอ่านด้วยเป็นกลุ่มๆ ข่าวแพร่ไปทั่วโรงงานอย่างรวดเร็ว
บิวตี้ไม่รู้ตัว ยังนั่งรอส้มเช้งมากินข้าวอยู่กับศรีนวล ตรงหน้ามีกับข้าว 3 อย่างกับข้าวเปล่าตั้งรออยู่
“สงสัยส้มเช้งจะไปกินที่ร้านข้างรั้ว”
“ไม่หรอกฉันบอกแล้วให้มากินเลี้ยงฉลองกัน”
เนย นี ติ๋ม มาที่โรงอาหาร เห็นบิวตี้ ต่างรีบหลบไปห่างๆ
คนงานหนีบิวตี้ไปนั่งกระจุกกันอยู่มุมหนึ่ง มองมาทางบิวตี้แล้วหลบตาวูบ
บรรยากาศเงียบกริบ เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
ปีวราก้มหน้างุดๆ กลัวโดนจับได้ ส้มเช้งเดินหน้าซีดเข้ามาดึงแขนศรีนวลหลบตาบิวตี้
“ไปกินที่อื่นเหอะแม่”
“จะบ้าเรอะ กับข้าวซื้อมาเพียบ ฉันกับนังสวย แขวนท้องรออยู่ตั้งนานแล้ว”
ส้มเช้งรีบห้าม “ฮึ้ยแม่ อย่าไปเรียกคุณหนูท่านอย่างนั้นสิ”
ศรีนวลอึ้ง งง “ว่าไงนะ”
ส้มเช้งไหว้ปลกๆ “ถ้าส้มเช้งกับแม่ทำอะไรล่วงเกินคุณหนู ส้มเช้งขอโทษค่ะ”
บิวตี้มองส้มเช้ง แล้วมองกราดสายตาไปรอบๆ โรงอาหาร
ทุกคนตัวแข็ง อ้าปากค้าง กลัวบิวตี้จนไม่กล้ากระดิก
ศรีนวลจ้องบิวตี้อย่างตกใจ “คุณหนู เหรอคะ”
บิวตี้หันมาถามเอากับส้มเช้ง “รู้ได้ยังไงเนี่ย ใครเป็นคนบอก”
“มันมีกระดาษติดอยู่ทั่วโรงงานค่ะ ส้มเช้งไม่ได้ติดนะคะ ส้มเช้งเปล่าจริงๆ นะคะ”
บิวตี้ดุ “นี่ ทำไมต้องกลัวขนาดนั้นด้วย ดูหน้าฉันซิ”
ส้มเช้งดูแวบเดียวแล้วรีบหลบตา
“เธอเห็นคนสวยเหมือนนางฟ้าอย่างฉัน เป็นนางยักษ์ได้ไง” บิวตี้ลุกขึ้น “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอเคลียร์ให้มันรู้เรื่องกันไปเลย”
บิวตี้เดินอาดๆ ไปที่ลานด้านหน้าของโรงอาหาร
ฟากกระตั้วอ่านไลน์จากปีวราอย่างตื่นเต้น
“ได้ผลค่ะคุณแพ็ต คนงานรู้กันทั่วแล้ว”
พักตร์พิมลบอก “ถามไปซิ คนงานรู้สึกยังไง มีท่าทียังไงบ้าง”
กระตั้วกดถามรัวยิบ
“ว้าย คุณบิวตี้กำลังจะแถลงข่าว เอ๊ยแถลงการณ์ในโรงอาหาร รีบไปดูกันเถอะค่ะ”
“ไม่ได้ เดี๋ยวโดนสงสัย ให้ปีวราถ่ายทอดสดมา” พักตร์พิมลสั่งการ
“ค่ะ ๆ” กระตั้วกดสั่งอย่างตื่นเต้น
ณ แดนสรวง ปรมะเทวีจ้องดู บิวตี้เรียลิตี้ ในจอภาพอย่างตื่นเต้น
“ความจริงกำลังจะปรากฏ อยู่ที่ลัลน์ลลิตแล้วว่านางจะมีสติปัญญาและมีคุณธรรมพอที่จะพลิกผันสถานการณ์ได้หรือไม่” องค์เทวีบอก
นางฟ้าลลิตาประนมมืออธิษฐาน “ขออำนาจแห่งบุญช่วยให้ลัลน์ลลิตทำได้ด้วยเถิด”
“ขอให้นางมีการยับยั้งอารมณ์ด้วยเถิดท่าน เพราะหากนางระงับอารมณ์ไม่อยู่ก็อย่าหวังว่าจะได้ใจจากผู้อื่น”
นางฟ้าลลิตาอธิษฐานจิต “มีสติ ระงับอารมณ์ มีสติ ระงับอารมณ์”
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 12/2 วันอังคารที่ 13/05/2557
ที่ธนบวรเช้าวันต่อมา พักตร์พิมลทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่งในแผนกขายอย่างมั่นใจ
กระตั้วดีดดิ้นทำท่าซึ้งเหมือนอยู่บนเวทีคอนเสิร์ต “กลับมายืนที่เดิม ที่ที่เคยคุ้นตา”
พักตร์พิมลหมั่นไส้ “พอ ไม่มีเวลาเล่นมุกอะไรทั้งนั้น ลงมือทำงาน”
ปีวราเอาแฟ้มงานส่งให้ “นี่ค่ะ งานช่วงที่คุณแพ็ตไม่อยู่”
“ฉันหมายถึงงานกำจัดยัยบิวตี้”
ปีวรางง “อ้าว”
“ไปตามพนักงานที่กินข้าวกับยัยบิวตี้เมื่อวานมาพบฉัน”
ปีวรางงอีก “คนไหนคะ”
“ก็พนักงานตัดผ้าที่ชื่อส้มเช้งไงล่ะ แหมยัยปีเนี่ย ไม่ได้ดั่งใจเลย” กระตั้วหมั่นไส้
พักตร์พิมลสั่งกระตั้ว “งั้นเธอไป แต่อย่าให้ใครรู้นะว่าฉันเรียก”
“คุณแพ็ตขา ถ้าเรียกมา มันจะฮาร์ดเซลส์ เกินไปไหมคะ เดี๋ยวสาวมาถึงเราอีก”
“แล้วจะทำยังไง”
กระตั้วแถมากระซิบ “บัตรสนเท่ห์ค่ะ วิธีโบราณแต่เวิร์กสุดๆ” มองไปเห็นธีภพเดินเข้ามาร้อง “ว้าย” อย่างตกใจ
ธีภพเข้ามาในแผนก พูดกับพักตร์พิมลและกระตั้ว
“ช่วงที่หยุดไปคงมีเวลาได้คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น”
พักตร์พิมลตอบอย่างหมางเมิน “จะพูดอีกทำไมคะ”
“เป็นอันว่ามันผ่านไปแล้ว ต่อไปก็ขอให้ตั้งใจ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานอีก”
เลขาถือช่อดอกไม้เข้ามาสองช่อ ธีภพรับมาส่งให้พักตร์พิมลกับกระตั้ว
“ขอให้ทำงานอย่างสดชื่นและมีกำลังใจนะครับ”
พักตร์พิมลซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ “ขอบคุณค่ะพี่ธี”
ขณะที่ส้มเช้งสาธิตวิธีวางผ้าให้บิวตี้ดู หัวหน้าแผนกเดินนำศรีนวลเข้ามา
ส้มเช้งเห็นก็แปลกใจระคนตกใจ “แม่ มาทำไม”
“เขาย้ายแม่มา เขาว่าทางนี้งานยุ่งให้แม่มาช่วย”
บิวตี้มองอย่างแปลกใจ
หัวหน้าบอก “ป้าช่วย สอนพนักงานฝึกหัดด้วยนะ ส้มเช้งจะได้ทำงานเต็มที่”
“ได้ค่ะ”
บิวตี้งง “ป้าตัดผ้าเป็นด้วยเหรอ”
ส้มเช้งยิ้มบอก “ชั้นหนึ่งเลยล่ะ แม่เขาทำที่นี่ตั้งนานก่อนจะย้ายไปโกดัง” พูดแล้วนึกได้ “หัวหน้าคะ แม่ย้ายมาตัด จะมีกะว่างพาน้องไปโรงบาลได้หรือคะ”
“ได้ บริษัทตั้งป้าเป็นพนักงานอาวุโสแล้ว ป้าได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ”
ส้มเช้งกอดศรีนวล “ดีใจจังเลย”
บิวตี้ยิ้มมองสองแม่ลูกมีความสุขด้วยความดีใจ
“เอ้า คุยกันนานแล้ว ทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวส่งไม่ทันนะ” หัวหน้าเย้า
ศรีนวลหันมาทางบิวตี้ “มะสวย มาฝึกวางผ้ากันก่อน”
ส้มเช้งกุลีกุจอให้แม่เตรียมผ้าสำหรับตัด ตัวเองลงมือตัดอย่างเป็นสุขใจ
บิวตี้ดูแม่ ลูก ทำงานด้วยกันอย่างกระตือรือร้น แล้วรู้สึกอิ่มใจที่ได้ช่วยสองคน
มาตรวัดความสัมฤทธิ์ผลที่สรวงสวรรค์ เกิดสีทองขึ้นประมาณ เศษ 1 ส่วน 4 นางฟ้าลลิตา ปรบมือด้วยความยินดี
“ลัลน์ลลิตทำได้แล้ว ลูกมีทั้งความเมตตาและกรุณา อันที่จริงมาตรวัดน่าจะขึ้นสูงกว่านี้นะคะ มีสิ่งใดผิดพลาดหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอก ที่ขึ้นมาน้อย นางเลือกปฏิบัติเฉพาะคนที่นางเห็นเป็นพรรคพวก บุญจะยิ่งใหญ่ หากไม่เลือกบุคคล” ปรมะเทวี
นางฟ้าลลิตาพูดกับจอภาพ “พยายามเข้านะลัลน์ลลิต” แล้วหันมาทางปรมะเทวี “ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับนางได้ไหมคะ”
“ทำเถิด การยอมรับในความดีจะทำให้กุศลแผ่ไพศาล”
นางฟ้าลลิตาจ้องมองภาพบิวตี้ “แม่ขออนุโมทนา ขอให้ลูกอิ่มเอิบใจกับการทำความดีจะได้มีพลังทำดีให้ยิ่งขึ้นไปนะลูก”
มีแสงสีขาวนุ่มนวลจากแดนสรวงถูกส่งไปยังบิวตี้ ณ โลกมนุษย์
ช่วงพักเที่ยงห้องน้ำคนเข้าเต็ม ส้มเช้งเข้ามาในห้องน้ำ เจอเนย นี ติ๋ม รอคิวเข้าห้องน้ำอยู่
เนยแขวะส้มเช้ง “หน้าบานเชียวนะ นังส้มเช้ง ดีใจด้วยนะ”
“ขอบใจ”
ติ๋มเหน็บแนม “เส้นใหญ่นี่หว่า ทำไงบอกมั่งสิ”
“ไม่ได้ทำอะไร แม่เขาเคยตัดมาก่อน”
คนงานหญิงที่ออกมาจากส้วม มีสีหน้าแปลกๆ มอง เนย นี และติ๋มอย่างตกใจ
นีเข้าไปในส้วม ร้อง “เฮ้ย” ถือกระดาษ เอ 4 มีรูปและข้อความออกมาจากส้วมมาด้วย
นีหน้าซีด ปากสั่น “ซวยแล้วพวกเรา”
เนย ติ๋ม ดูกระดาษแผ่นนั้น ส้มเช้งพลอยเห็นไปด้วย
ที่กระดาษ มีรูปบิวตี้ ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ เขียนว่า “ลัลน์ลลิต พรรษบวรพงศ์ (บิวตี้) ประธานกรรมการบริหาร ธนบวร กำลังฝึกงาน”
เนยตกใจ “เฮ้ย นี่มัน นังสวย เอ๊ยคุณสวย มิน่าล่ะ มัน เฮ้ย ท่านถึงได้แปลกๆ”
ส้มเช้งจ้องรูปอย่างหวาดหวั่น “คุณหนูนี่ใช่ไหมที่เขาลือว่าไล่คนออกเป็นว่าเล่น”
เนย กะนีเสียงสั่นจะร้องไห้ “ใช่”
ติ๋มช็อก “ตายแน่พวกเรา”
ทั่วโรงงานเห็นกระดาษ เอ4 มีรูปบิวตี้ ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ เขียนว่า “ลัลน์ลลิต พรรษบวรพงศ์ (บิวตี้) ประธานกรรมการบริหาร ธนบวร กำลังฝึกงาน” ติดไปทั่วบริเวณ
คนงานชายหญิงยืนอ่าน บางคนเดินๆ อยู่แล้วมาหยุดอ่านด้วยเป็นกลุ่มๆ ข่าวแพร่ไปทั่วโรงงานอย่างรวดเร็ว
บิวตี้ไม่รู้ตัว ยังนั่งรอส้มเช้งมากินข้าวอยู่กับศรีนวล ตรงหน้ามีกับข้าว 3 อย่างกับข้าวเปล่าตั้งรออยู่
“สงสัยส้มเช้งจะไปกินที่ร้านข้างรั้ว”
“ไม่หรอกฉันบอกแล้วให้มากินเลี้ยงฉลองกัน”
เนย นี ติ๋ม มาที่โรงอาหาร เห็นบิวตี้ ต่างรีบหลบไปห่างๆ
คนงานหนีบิวตี้ไปนั่งกระจุกกันอยู่มุมหนึ่ง มองมาทางบิวตี้แล้วหลบตาวูบ
บรรยากาศเงียบกริบ เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
ปีวราก้มหน้างุดๆ กลัวโดนจับได้ ส้มเช้งเดินหน้าซีดเข้ามาดึงแขนศรีนวลหลบตาบิวตี้
“ไปกินที่อื่นเหอะแม่”
“จะบ้าเรอะ กับข้าวซื้อมาเพียบ ฉันกับนังสวย แขวนท้องรออยู่ตั้งนานแล้ว”
ส้มเช้งรีบห้าม “ฮึ้ยแม่ อย่าไปเรียกคุณหนูท่านอย่างนั้นสิ”
ศรีนวลอึ้ง งง “ว่าไงนะ”
ส้มเช้งไหว้ปลกๆ “ถ้าส้มเช้งกับแม่ทำอะไรล่วงเกินคุณหนู ส้มเช้งขอโทษค่ะ”
บิวตี้มองส้มเช้ง แล้วมองกราดสายตาไปรอบๆ โรงอาหาร
ทุกคนตัวแข็ง อ้าปากค้าง กลัวบิวตี้จนไม่กล้ากระดิก
ศรีนวลจ้องบิวตี้อย่างตกใจ “คุณหนู เหรอคะ”
บิวตี้หันมาถามเอากับส้มเช้ง “รู้ได้ยังไงเนี่ย ใครเป็นคนบอก”
“มันมีกระดาษติดอยู่ทั่วโรงงานค่ะ ส้มเช้งไม่ได้ติดนะคะ ส้มเช้งเปล่าจริงๆ นะคะ”
บิวตี้ดุ “นี่ ทำไมต้องกลัวขนาดนั้นด้วย ดูหน้าฉันซิ”
ส้มเช้งดูแวบเดียวแล้วรีบหลบตา
“เธอเห็นคนสวยเหมือนนางฟ้าอย่างฉัน เป็นนางยักษ์ได้ไง” บิวตี้ลุกขึ้น “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอเคลียร์ให้มันรู้เรื่องกันไปเลย”
บิวตี้เดินอาดๆ ไปที่ลานด้านหน้าของโรงอาหาร
ฟากกระตั้วอ่านไลน์จากปีวราอย่างตื่นเต้น
“ได้ผลค่ะคุณแพ็ต คนงานรู้กันทั่วแล้ว”
พักตร์พิมลบอก “ถามไปซิ คนงานรู้สึกยังไง มีท่าทียังไงบ้าง”
กระตั้วกดถามรัวยิบ
“ว้าย คุณบิวตี้กำลังจะแถลงข่าว เอ๊ยแถลงการณ์ในโรงอาหาร รีบไปดูกันเถอะค่ะ”
“ไม่ได้ เดี๋ยวโดนสงสัย ให้ปีวราถ่ายทอดสดมา” พักตร์พิมลสั่งการ
“ค่ะ ๆ” กระตั้วกดสั่งอย่างตื่นเต้น
ณ แดนสรวง ปรมะเทวีจ้องดู บิวตี้เรียลิตี้ ในจอภาพอย่างตื่นเต้น
“ความจริงกำลังจะปรากฏ อยู่ที่ลัลน์ลลิตแล้วว่านางจะมีสติปัญญาและมีคุณธรรมพอที่จะพลิกผันสถานการณ์ได้หรือไม่” องค์เทวีบอก
นางฟ้าลลิตาประนมมืออธิษฐาน “ขออำนาจแห่งบุญช่วยให้ลัลน์ลลิตทำได้ด้วยเถิด”
“ขอให้นางมีการยับยั้งอารมณ์ด้วยเถิดท่าน เพราะหากนางระงับอารมณ์ไม่อยู่ก็อย่าหวังว่าจะได้ใจจากผู้อื่น”
นางฟ้าลลิตาอธิษฐานจิต “มีสติ ระงับอารมณ์ มีสติ ระงับอารมณ์”