US Box OFFICE May 9-11, 2014
(แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
เซ็ธ โรเกน และแซ็ค เอฟรอน กลายเป็นเจ้าภาพงานปาร์ตีในสุดสัปดาห์นี้ เมื่อหนังของพวกเขาเรียกคนออกมาดูได้เป็นกอบเป็นกำ จากการเปิดฉาย 3,279 โรง Neighbors หรือที่บ้านเราใช้ชื่อว่า Bad Neighbours ทำรายได้เปิดตัวได้อย่างแสนมหัศจรรย์ 49 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนึ่งในหนังตลกเรท-อาร์ ไม่ใช่ภาคต่อที่เปิดตัวสูงสุด ขณะที่ The Amazing Spider-Man 2 หล่นมาแบบแรงๆ ชนิดใยก็ช่วยไม่ได้จากการฉายในสัปดาห์ที่ 2 แต่กับตลาดต่างประเทศนั้น หนังยังเดินหน้าได้อย่างแข็งแรง
ในกลุ่มหนังตลกเรท-อาร์ ที่ไม่ใช่ภาคต่อ Neighbors ทำรายได้เป็นรองแค่ Ted (54.4 ล้านเหรียญ) และ Sex and the City (ที่ทำไว้ 57 ล้านเหรียญ หากไม่นับว่านี่คือหนังโทรทัศน์ที่ถูกจับมาปั้นต่อบนจอใหญ่) แต่ทำได้ดีกว่าหนังเรท-อาร์ฮิตๆ อย่าง The Hangover, The Heat และ 21 Jump Street แถมยังเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดของเซ็ธ โรเกน เมื่อทำได้ดีกว่า The Green Hornet (33.5 ล้านเหรียญ)
จากการฉายในรอบพรีวิวครั้งแรกๆ หนัง Neighbors ก็มีแววฮิต เมื่อคนดูเข้าถึงง่าย มีความชัดเจนว่าเป็นเรื่องของ คนรักครอบครัวปะทะก๊วนเด็กห่าม การทำการตลาดเข้าหา-เข้าใจได้ทุกหลังคาเรือน รวมไปถึงการใช้มุขตลกที่แรงๆ อย่างเช่น ฉากถุงลมนิรภัยที่กลายเป็นที่จดจำ นอกจากนี้ยูนิเวอร์แซลยังโปรโมทแบบหนักหน่วง ด้วยความมั่นใจตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เมื่อบวกกับการใช้สื่ออย่างทันอกทันใจ และปากต่อปากที่ใช้ได้จากการฉากรอบทดสอบ ผลลัพธ์จึงออกมาอย่างที่เห็น แม้ว่ารายได้เปิดตัวที่ทำได้แค่ใกล้ๆ 50 ล้านเหรียญ เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้เริ่ดหรูสักเท่าไหร่
Neighbors ยังเป็นหนังยูนิเวอร์แซลที่ไม่ใช่ภาคต่อ เรื่องที่ 4 ที่เปิดตัวในปีนี้ด้วยอันดับ 1 โดย 3 เรื่องก่อนหน้าได้แก่ Lone Survivor, Ride Along และ Non-Stop ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าหนังทุกเรื่อง ถูกวางตัวไว้ว่าเป็นหนังที่มาพร้อมกับเรื่องราวสด ใหม่ และตัวละครเป็นคนที่คนดูเข้าถึงได้ สำหรับคนดูหนังนั้น 53% เป็นผู้หญิง และ 47% อายุต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งเป็นนัยๆ ว่า เอฟรอนส่งผลกับรายได้มากกว่าโรเกน แล้วอย่าลืมด้วยว่า หนังมี โรส เบิร์น จากหนังเบาสมองสุดฮิตในปี 2011 Bridemaids เพราะฉะนั้นไม่น่าแปลกใจที่หนังมีสาวๆ เข้าโรงเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างที่เห็น ส่วนคะแนนจากซีนีมาสกอร์เป็น B ถือว่าไม่ดีนักสำหรับหนังเบาสมองเรท-อาร์แบบนี้ พอบวกกับการที่ได้คนดูอายุน้อยจำนวนมากอย่างที่เห็น หนังอาจจะยืนระยได้ไม่ดีนักเหมือนอย่าง The Heat หรือ Ted แต่ก็น่าจะปิดตัวได้ไม่น้อยกว่า. 140 ล้านเหรียญ
อันดับ 2 เป็น The Amazing Spider-Man 2 รายได้หล่นฮวบ 61% ทำเงินไปอีก 35.5 ล้านเหรียญ ซึ่งตกเยอะกว่าหนังมาร์เวลเรื่องหลังๆ Iron Man 3, Thor: The Dark World และ Captain America: The Winter Soldier ที่จะตกราวๆ 56 - 58% และเกือบพอๆ กับ Spider-Man 3 ที่ตก 61.5% ที่ทำรายได้ในช่วงแรกๆ ได้ดีมากเมื่อปี 2007 แล้วกับคู่ต่อกรอย่าง Godzilla และ X-Men: Days of Future Past ที่กำลังจะมาถึงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า รายได้ของไอ้แมงมุมตัวนี้ น่าจะแผ่วระทวยลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้รายได้รวมของหนังอยู่ที่ 146.2 ล้านเหรียญ และน่าจะปิดตัวที่ระหว่าง 205 - 215 ล้านเหรียญ
หนัง Neighbors ดูไม่มีผลอะไรกับ The Other Woman ที่รายได้ตกเพียงแค่ 33% ทำเงินมาอีด 9.61 ล้านเหรียญ หนังเบาสมองของคาเมรอน ดิแอซเรื่องนี้ทำเงินไปแล้ว 62.1 ล้านเหรียญ ขณะที่อันดับ 4 เป็น Heaven is for Real ซึ่งรายได้ตกจุ๋มจิ๋มมากๆ 7.5 ล้านเหรียญ ผ่าน 4 สัปดาห์หนังที่ว่าด้วยศรัทธาเรื่องนี้ทำเงินได้อย่างน่าประทับใจ 75.7 ล้านเหรียญ ส่วน Captain America: The Winter Soldier ยังไม่หลุดจากห้าอันดับแรก หนังทำเงินเพิ่มสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 5.75 ล้านเหรียญ ตกลงเพียง 26% รายได้รวมพุ่งเป็น 245.1 ล้านเหรียญ ทำให้กลายเป็นหนังเดือนเมษายนทำเงินสูงสุดแซง My Big Fat Greek Wedding (241.4 ล้านเหรียญ) ไปแล้วเรียบร้อย
กับการเปิดตัวที่ 1,044 โรง หนัง Moms' Night Out ทำเงินไป 4.3 ล้านเหรียญ ถือว่าเป็นรายได้พอตัวกับการออกฉายประมาณนี้ แต่จากความสำเร็จของหนังที่ว่าด้วยศรัทธาในปีนี้ บวกกับการออกฉายในวันแม่ อาจจะทำใ้หรู้สึกว่าเป็นรายได้ที่น่าผิดหวังเล็กน้อย ปัญหาก็คือ Moms' Night Out ขาดการนำเสนอตัวเองว่าเป็นหนังว่าด้วยศรัทธาอย่างจริงๆ จังๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ God's Not Dead และ Heaven is for Real ที่แค่ชื่อก็บอกได้ชัดเจนแล้ว
แต่ Moms' Night Out ก็ดูน่าจะประสบความสำเร็จได้เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าl Legends of Oz: Dorothy's Return หนังของผู้จัดจำหน่ายหน้าใหม่ คลาริอุส เอนเตอร์เทนเมนท์ ที่เปิดหนังแอนิเมชันเรื่องนี้ที่ 2,575 โรง แต่ได้เงินกลับมาน้อยนิด 3.71 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นหนึ่งในรายได้เปิดตัวแย่สุดของหนังที่เปิดฉายมากกว่า 2,500 โรง หนังมีการทำการตลาดที่บางเบามากๆ และสิ่งที่ถูกปล่อยออกมาก็เรียกความสนใจจากคนดูได้แค่เพียงกลุ่มเด็กๆ โชคไม่ดีที่เด็กไม่ใช่คนตัดสินใจซื้อตั๋ว แต่เป็นพ่อ-แม่ที่มองว่านี่คือ หนังแอนิเมชันราคาถูก และเสียงจากรอบพรีวิวก็ไม่ดี ท้ายที่สุดหนังน่าจะกระดึ้บๆ ผ่าน 10 ล้านเหรียญไปได้ไม่มากนัก
หนังของจอน แฟฟโรว์ Chef เปิดตัวด้วยรายได้ 204,961 เหรียญจาก 6 โรง คิดเป็นรายได้ต่อโรง 34,160 เหรียญ หนังมีแผนจะขยายโรงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า แต่ยังไม่มีกำหนดวันฉายทั่วประเทศออกมา
ขณะที่ตลาดนอกอเมริกา The Amazing Spider-Man 2 ยังไปได้ฉลุยในอันดับ 1 สัปดาห์นี้ หนังเติมเงินในกระเป๋าตัวเองได้อีก 69.5 ล้านเหรียญ โดยรายได้รวมเพิ่มเป็น 403 ล้านเหรียญ โดยตลาดทำเงินมากสุดยังเป็นจีน ที่ทำเงินในสัปดาห์นี้ถึง 25.1 ล้านเหรียญ ผ่านการฉายไป 8 วันรายได้รวมของหนังเป็น 54 ล้านเหรียญในตอนนี้ ซึ่งพอๆ กับหนัง Amazing Spider-Man ภาคแรก หากมองว่าหนังทำเงินได้ในอัตราพอๆ กัน The Amazing Spider-Man 2 น่าจะปิดตัวนอกอเมริกาด้วยรายที่ได้กว่า 490 ล้านเหรียญที่ภาคแรกทำไว้
ในตลาดที่ออกฉายพร้อมๆ อเมริกา Neighbors เปิดตัวใน 29 ตลาดต่างประเทศ และทำเงินได้น่าประทับใจ 34.4 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าที่ This is the End ทำได้ตลาดโปรแกรม 24.6 ล้านเหรียญซะอีก นอกจากบ้านเราแล้ว หนังเปลี่ยนชื่อเป็น Bad Neighbours ที่อังกฤษ และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ของหนังเลยในสัปดาห์นี้ โดยหากรวมรายได้รอบพรีวิวด้วย หนังเปิดตัว 14.7 ล้านเหรียญในอังกฤษ และ 7.1 ล้านเหรียญ ในออสเตรเลีย ซึ่งต่างก็เป็นหนังเซ็ธ โรเกนเปิดตัวสูงสุดทั้ง 2 แห่ง หนังยังเปิดตัวในอันดับ 1 อีก 15 ประเทศ หมายความว่าหนังน่าจะทำรายได้ดีในตลาดนอกอเมริกาด้วย และน่าจะปิดตัวมากกว่า 100 ล่านเหรียญ
ที่ญี่ปุ่น Frozen ครองอันดับ 1 เป็นสัปดาห์ที่เก้าติดต่อกัน!!! มาถึงตอนนี้หนังทำเงินที่นี่ไปถึง 164.4 ล้านเหรียญ หากรวมรายได้ในอเมริกาด้วย Frozen ทำเงินไปแล้ว 1.19 พันล้านเหรียญ เหลืออีกแค่ 25 ล้านเหรียญก็จะแซง Iron Man 3 ไปอยู่อันดับที่ 5 หนังทำเงินทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล
คลิกไลค์ให้กำลังใจได้ที่
www.facebook.com/Sadaos และอ่านข่าวคราว, ชมตัวอย่างหนังใหม่ และมิวสิค วิดีโอ ตลอดจนอ่าน บทความ/ บทวิจารณ์ ทั้งหนังและเพลงเพิ่มเติมได้ที่
www.sadaos.com
เพื่อนบ้านมหาภัยตบไอ้แมงมุมยับ หนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ ‘เมกา
(แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
เซ็ธ โรเกน และแซ็ค เอฟรอน กลายเป็นเจ้าภาพงานปาร์ตีในสุดสัปดาห์นี้ เมื่อหนังของพวกเขาเรียกคนออกมาดูได้เป็นกอบเป็นกำ จากการเปิดฉาย 3,279 โรง Neighbors หรือที่บ้านเราใช้ชื่อว่า Bad Neighbours ทำรายได้เปิดตัวได้อย่างแสนมหัศจรรย์ 49 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนึ่งในหนังตลกเรท-อาร์ ไม่ใช่ภาคต่อที่เปิดตัวสูงสุด ขณะที่ The Amazing Spider-Man 2 หล่นมาแบบแรงๆ ชนิดใยก็ช่วยไม่ได้จากการฉายในสัปดาห์ที่ 2 แต่กับตลาดต่างประเทศนั้น หนังยังเดินหน้าได้อย่างแข็งแรง
ในกลุ่มหนังตลกเรท-อาร์ ที่ไม่ใช่ภาคต่อ Neighbors ทำรายได้เป็นรองแค่ Ted (54.4 ล้านเหรียญ) และ Sex and the City (ที่ทำไว้ 57 ล้านเหรียญ หากไม่นับว่านี่คือหนังโทรทัศน์ที่ถูกจับมาปั้นต่อบนจอใหญ่) แต่ทำได้ดีกว่าหนังเรท-อาร์ฮิตๆ อย่าง The Hangover, The Heat และ 21 Jump Street แถมยังเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดของเซ็ธ โรเกน เมื่อทำได้ดีกว่า The Green Hornet (33.5 ล้านเหรียญ)
จากการฉายในรอบพรีวิวครั้งแรกๆ หนัง Neighbors ก็มีแววฮิต เมื่อคนดูเข้าถึงง่าย มีความชัดเจนว่าเป็นเรื่องของ คนรักครอบครัวปะทะก๊วนเด็กห่าม การทำการตลาดเข้าหา-เข้าใจได้ทุกหลังคาเรือน รวมไปถึงการใช้มุขตลกที่แรงๆ อย่างเช่น ฉากถุงลมนิรภัยที่กลายเป็นที่จดจำ นอกจากนี้ยูนิเวอร์แซลยังโปรโมทแบบหนักหน่วง ด้วยความมั่นใจตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เมื่อบวกกับการใช้สื่ออย่างทันอกทันใจ และปากต่อปากที่ใช้ได้จากการฉากรอบทดสอบ ผลลัพธ์จึงออกมาอย่างที่เห็น แม้ว่ารายได้เปิดตัวที่ทำได้แค่ใกล้ๆ 50 ล้านเหรียญ เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้เริ่ดหรูสักเท่าไหร่
Neighbors ยังเป็นหนังยูนิเวอร์แซลที่ไม่ใช่ภาคต่อ เรื่องที่ 4 ที่เปิดตัวในปีนี้ด้วยอันดับ 1 โดย 3 เรื่องก่อนหน้าได้แก่ Lone Survivor, Ride Along และ Non-Stop ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าหนังทุกเรื่อง ถูกวางตัวไว้ว่าเป็นหนังที่มาพร้อมกับเรื่องราวสด ใหม่ และตัวละครเป็นคนที่คนดูเข้าถึงได้ สำหรับคนดูหนังนั้น 53% เป็นผู้หญิง และ 47% อายุต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งเป็นนัยๆ ว่า เอฟรอนส่งผลกับรายได้มากกว่าโรเกน แล้วอย่าลืมด้วยว่า หนังมี โรส เบิร์น จากหนังเบาสมองสุดฮิตในปี 2011 Bridemaids เพราะฉะนั้นไม่น่าแปลกใจที่หนังมีสาวๆ เข้าโรงเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างที่เห็น ส่วนคะแนนจากซีนีมาสกอร์เป็น B ถือว่าไม่ดีนักสำหรับหนังเบาสมองเรท-อาร์แบบนี้ พอบวกกับการที่ได้คนดูอายุน้อยจำนวนมากอย่างที่เห็น หนังอาจจะยืนระยได้ไม่ดีนักเหมือนอย่าง The Heat หรือ Ted แต่ก็น่าจะปิดตัวได้ไม่น้อยกว่า. 140 ล้านเหรียญ
อันดับ 2 เป็น The Amazing Spider-Man 2 รายได้หล่นฮวบ 61% ทำเงินไปอีก 35.5 ล้านเหรียญ ซึ่งตกเยอะกว่าหนังมาร์เวลเรื่องหลังๆ Iron Man 3, Thor: The Dark World และ Captain America: The Winter Soldier ที่จะตกราวๆ 56 - 58% และเกือบพอๆ กับ Spider-Man 3 ที่ตก 61.5% ที่ทำรายได้ในช่วงแรกๆ ได้ดีมากเมื่อปี 2007 แล้วกับคู่ต่อกรอย่าง Godzilla และ X-Men: Days of Future Past ที่กำลังจะมาถึงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า รายได้ของไอ้แมงมุมตัวนี้ น่าจะแผ่วระทวยลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้รายได้รวมของหนังอยู่ที่ 146.2 ล้านเหรียญ และน่าจะปิดตัวที่ระหว่าง 205 - 215 ล้านเหรียญ
หนัง Neighbors ดูไม่มีผลอะไรกับ The Other Woman ที่รายได้ตกเพียงแค่ 33% ทำเงินมาอีด 9.61 ล้านเหรียญ หนังเบาสมองของคาเมรอน ดิแอซเรื่องนี้ทำเงินไปแล้ว 62.1 ล้านเหรียญ ขณะที่อันดับ 4 เป็น Heaven is for Real ซึ่งรายได้ตกจุ๋มจิ๋มมากๆ 7.5 ล้านเหรียญ ผ่าน 4 สัปดาห์หนังที่ว่าด้วยศรัทธาเรื่องนี้ทำเงินได้อย่างน่าประทับใจ 75.7 ล้านเหรียญ ส่วน Captain America: The Winter Soldier ยังไม่หลุดจากห้าอันดับแรก หนังทำเงินเพิ่มสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 5.75 ล้านเหรียญ ตกลงเพียง 26% รายได้รวมพุ่งเป็น 245.1 ล้านเหรียญ ทำให้กลายเป็นหนังเดือนเมษายนทำเงินสูงสุดแซง My Big Fat Greek Wedding (241.4 ล้านเหรียญ) ไปแล้วเรียบร้อย
กับการเปิดตัวที่ 1,044 โรง หนัง Moms' Night Out ทำเงินไป 4.3 ล้านเหรียญ ถือว่าเป็นรายได้พอตัวกับการออกฉายประมาณนี้ แต่จากความสำเร็จของหนังที่ว่าด้วยศรัทธาในปีนี้ บวกกับการออกฉายในวันแม่ อาจจะทำใ้หรู้สึกว่าเป็นรายได้ที่น่าผิดหวังเล็กน้อย ปัญหาก็คือ Moms' Night Out ขาดการนำเสนอตัวเองว่าเป็นหนังว่าด้วยศรัทธาอย่างจริงๆ จังๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ God's Not Dead และ Heaven is for Real ที่แค่ชื่อก็บอกได้ชัดเจนแล้ว
แต่ Moms' Night Out ก็ดูน่าจะประสบความสำเร็จได้เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าl Legends of Oz: Dorothy's Return หนังของผู้จัดจำหน่ายหน้าใหม่ คลาริอุส เอนเตอร์เทนเมนท์ ที่เปิดหนังแอนิเมชันเรื่องนี้ที่ 2,575 โรง แต่ได้เงินกลับมาน้อยนิด 3.71 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นหนึ่งในรายได้เปิดตัวแย่สุดของหนังที่เปิดฉายมากกว่า 2,500 โรง หนังมีการทำการตลาดที่บางเบามากๆ และสิ่งที่ถูกปล่อยออกมาก็เรียกความสนใจจากคนดูได้แค่เพียงกลุ่มเด็กๆ โชคไม่ดีที่เด็กไม่ใช่คนตัดสินใจซื้อตั๋ว แต่เป็นพ่อ-แม่ที่มองว่านี่คือ หนังแอนิเมชันราคาถูก และเสียงจากรอบพรีวิวก็ไม่ดี ท้ายที่สุดหนังน่าจะกระดึ้บๆ ผ่าน 10 ล้านเหรียญไปได้ไม่มากนัก
หนังของจอน แฟฟโรว์ Chef เปิดตัวด้วยรายได้ 204,961 เหรียญจาก 6 โรง คิดเป็นรายได้ต่อโรง 34,160 เหรียญ หนังมีแผนจะขยายโรงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า แต่ยังไม่มีกำหนดวันฉายทั่วประเทศออกมา
ขณะที่ตลาดนอกอเมริกา The Amazing Spider-Man 2 ยังไปได้ฉลุยในอันดับ 1 สัปดาห์นี้ หนังเติมเงินในกระเป๋าตัวเองได้อีก 69.5 ล้านเหรียญ โดยรายได้รวมเพิ่มเป็น 403 ล้านเหรียญ โดยตลาดทำเงินมากสุดยังเป็นจีน ที่ทำเงินในสัปดาห์นี้ถึง 25.1 ล้านเหรียญ ผ่านการฉายไป 8 วันรายได้รวมของหนังเป็น 54 ล้านเหรียญในตอนนี้ ซึ่งพอๆ กับหนัง Amazing Spider-Man ภาคแรก หากมองว่าหนังทำเงินได้ในอัตราพอๆ กัน The Amazing Spider-Man 2 น่าจะปิดตัวนอกอเมริกาด้วยรายที่ได้กว่า 490 ล้านเหรียญที่ภาคแรกทำไว้
ในตลาดที่ออกฉายพร้อมๆ อเมริกา Neighbors เปิดตัวใน 29 ตลาดต่างประเทศ และทำเงินได้น่าประทับใจ 34.4 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าที่ This is the End ทำได้ตลาดโปรแกรม 24.6 ล้านเหรียญซะอีก นอกจากบ้านเราแล้ว หนังเปลี่ยนชื่อเป็น Bad Neighbours ที่อังกฤษ และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ของหนังเลยในสัปดาห์นี้ โดยหากรวมรายได้รอบพรีวิวด้วย หนังเปิดตัว 14.7 ล้านเหรียญในอังกฤษ และ 7.1 ล้านเหรียญ ในออสเตรเลีย ซึ่งต่างก็เป็นหนังเซ็ธ โรเกนเปิดตัวสูงสุดทั้ง 2 แห่ง หนังยังเปิดตัวในอันดับ 1 อีก 15 ประเทศ หมายความว่าหนังน่าจะทำรายได้ดีในตลาดนอกอเมริกาด้วย และน่าจะปิดตัวมากกว่า 100 ล่านเหรียญ
ที่ญี่ปุ่น Frozen ครองอันดับ 1 เป็นสัปดาห์ที่เก้าติดต่อกัน!!! มาถึงตอนนี้หนังทำเงินที่นี่ไปถึง 164.4 ล้านเหรียญ หากรวมรายได้ในอเมริกาด้วย Frozen ทำเงินไปแล้ว 1.19 พันล้านเหรียญ เหลืออีกแค่ 25 ล้านเหรียญก็จะแซง Iron Man 3 ไปอยู่อันดับที่ 5 หนังทำเงินทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล
คลิกไลค์ให้กำลังใจได้ที่ www.facebook.com/Sadaos และอ่านข่าวคราว, ชมตัวอย่างหนังใหม่ และมิวสิค วิดีโอ ตลอดจนอ่าน บทความ/ บทวิจารณ์ ทั้งหนังและเพลงเพิ่มเติมได้ที่ www.sadaos.com