US BOX OFFICE May 2-4, 2014

(แปล/ เรียบเรียง จาก www.boxofficemojo.com)

เป็นไปตามคาด สำหรับ The Amazing Spider-Man 2 ที่จะขึ้นอันดับ 1 หนังทำเงินในสัปดาห์นี้ และเป็นหนึ่งในหนังที่เปิดตัวได้เจ๋งเป้งของปีนี้ แต่ก็ไม่ได้ “น่าทึ่ง” สมกับชื่อหนังแต่ประการใด โดยเฉพาะหากเทียบกับหนังในชุดนี้ 4 เรื่องก่อนหน้า แต่สำหรับตลาดนอกอเมริกาแล้ว หนังไปได้สวยเลยทีเดียว โดยทำรายได้ไปแล้ว 277 ล้านเหรียญ และมีโอกาสมากๆ ที่จะทำได้พอๆ กับ 490 ล้านเหรียญที่หนังภาคแรกทำเอาไว้

ในอเมริกา ภาคต่อของหนังรีบูทจากปี 2012 เปิดตัวด้วยตัวเลข 91.6 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่า Captain America: The Winter Soldier ที่เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว 95 ล้านเหรียญเล็กน้อย แต่ก็มากกว่า Thor: The Dark World (85.7 ล้านเหรียญ) และเหนือกว่าหนังเปิดซัมเมอร์ปี 2009  X-Men Origins: Wolverine (85.1 ล้านเหรียญ)

เปรียบเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ในชุด Spider-Man ถือว่ารายได้เปิดตัวของหนังนั้นน่าผิดหวัง แม้จะเทียบกับรายได้เปิดตัวของ The Amazing Spider-Man ยากสักหน่อย เพราะหนังภาคก่อนนั้นเปิดตัวตั้งแต่วันอังคารในสัปดาห์วันชาติอเมริกา ทางที่ดีที่สุดคือเปรียบเทียบกับหนังภาคแรก และภาคที่สามของแซม ไรมี ที่เปิดตัวในสุดสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมเหมือนกัน โดยทำรายได้ 114.8 ล้านเหรียญ และ 151.1 ล้านเหรียญตามลำดับ ซึ่งค่าตั๋วต่ำกว่าค่าตั๋วเฉลี่ยในตอนนี้ และไม่มีระบบสามมิติ

แต่อย่างน้อย ตัวละครไอ้แมงมุมยังคงเป็นที่นิยม เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว หนังคงเปิดตัวไม่ได้ในระดับ 90 ล้านเหรียญ แต่ก็เห็นได้ชัดเจนเช่นกันว่า หนังชุดนี้มาพบกับคนดูถี่เกินไปจนรู้สึกเอียนแล้ว

เพื่อวางตัวเองให้อยู่ในสถานะที่ดีที่สุดโดยเร็ว หลังจากหนังของไรมี หนังรีบูทภาคแรกในปี 2012 ต้องออกมาเจ๋ง แต่โชคไม่ดีที่กระแสตอบรับผสมปนเปกันไป แถมยังทำรายได้ในประเทศต่ำที่สุดในหนังชุดนี้เพียง 262 ล้านเหรียญ ลดลง 22% จากหนังตอนก่อนหน้า กับการหยุดความเสียหาย หนังภาคสองต้องปล่อยตัวร้ายมาเพียบเพื่อกำจัดไอ้แมงมุม ทำให้การปรกฏตัวของเหล่าร้ายกลายเป็นทั้งข้อดีและข้อด้อย อย่าง อีเล็กโตรก็ดูโง่ๆ ส่วนกรีน กอบลิน ก็ดูซ้ำๆ การตลาดเองก็ไม่สามารถพาหนังให้พ้นความเป็นงานแบบ “นั่นไงฉากนั้น ฉากนี้ก็เห็นไปแล้ว” ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับงานรีบูทชุดนี้ได้

แล้วยังมีความคาดหวังกับ The Amazing Spider-Man 2 ในฐานะหนังเปิดซัมเมอร์อีกด้วย โชคไม่ดีที่ Captain America: The Winter Soldier ขโมยความแรงของหนังไปหมดแล้ว แถมคำวิจารณ์ก็ไม่ช่วยอะไรเลย แถมยังเป็นคำวิจารณ์ที่แย่ที่สุดเท่าที่หนังชุดนี้ เคยได้รับมา สำหรับคนดูนั้น 61% เป็นผู้ชาย และ 51% อายุต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งเด็กกว่าคนดูหนังซูเปอร์ฮีโรโดยทั่วไป แล้วมีกลุ่มครอบครัวมาชม 33% ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจ แล้วหนังก็ไปได้ดีในโรงไอแมกซ์ จาก 353 โรง หนังทำรายได้ถึงราวๆ 9.3 ล้านเหรียญ หรือ 27,000 เหรียญต่อโรง ขณะที่ Captain America: The Winter Soldier ทำได้ 9.6 ล้านเหรียญจาก 346 โรง

ในระยะยาวรายได้ The Amazing Spider-Man 2 ในอเมริกาไม่น่าจะไปได้ดี คะแนนซีนีมาสกอร์ก็ได้แค่  B+ ซึ่งแสดงเป็นนัยๆ ว่า ปากต่อปากจะดีกว่าคำวิจารณ์แค่กระจึ๋งเดียว สัปดาห์หน้ารายได้ของหนังน่าจะร่วงอย่างรวดเร็ว และคงเป็นหนังในชุดนี้ที่รายได้ต่ำสุด หากดูจากรายได้ของหนังที่เปิดตัวในเดือนพฤษภาคมเป็น The Amazing Spider-Man 2 น่าจะปิดตัวที่ราวๆ  230 ล้านเหรียญ

ตามมาห่างๆ ในอันดับ 2 The Other Woman รายได้ลดลง 42% ทำรายได้มาอีก 14.4 ล้านเหรียญ ผ่าน 10 วันหนังทำเงินไปแล้ว 47.6 ล้านเหรียญ ส่วน Heaven is for Real ยังเกาะอันดับ 3 แน่นด้วยรายได้ 8.6 ล้านเหรียญ ลดลง 40% หนังดรามาว่าด้วยศรัทธาเรื่องนี้ แซง Son of God ไปแล้วเมื่อวันเสาร์ รายได้ตอนนี้เป็น 65.5 ล้านเหรียญ

เมื่อมีคู่แข่งตรงๆ อย่าง The Amazing Spider-Man 2 หนัง Captain America: The Winter Soldier รายได้เลยหล่น 52% ทำเงินอีก 7.8 ล้านเหรียญ ตอนนี้หนังทำรายได้ไปแล้ว 237.2 ล้านเหรียญ และกำลังจะแซง My Big Fat Greek Wedding (241.4 ล้านเหรียญ) เป็นหนังเดือนเมษายนที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ขณะที่แอนิเมชัน Rio 2 หลุดออกจาก 5 อันดับแรกแล้ว หนังทำเงินอีก 7.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 106.6 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่าภาคแรกราวๆ 9 ล้านเหรียญจากการฉายในระยะเวลาเท่ากัน

กับการฉายแบบวงแคบ Belle ได้เงินมาถึง 106,578 เหรียญจากแค่ 4 โรง ฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์ วางแผนจะขยายโรงอีก โดยหวังจะขยายโรงไปถึง 300 โรง ในช่วงสุดสัปดาห์วันทหารผ่านศึก

จากที่วางแผนไว้ว่าจะออกฉายในวงกว้าง ผ่านการจัดจำหน่ายของฟิล์มดิสทริคท์ Walk of Shame หนังเบาสมองของเอลิซาเบ็ธ แบงค์ส กลายเป็นหนังลงโรงและขายดาวน์โหลดโดยทางโฟกัส ฟีเจอร์ ซึ่งจาก 51 โรง หนังทำเงินไปแค่ 39,751 เหรียญ

สำหรับตลาดนอกอเมริกา The Amazing Spider-Man 2 เปิดตลาดครบ และทำเงินได้สวยด้วยตัวเลข 116 ล้านเหรียญในสุดสัปดาห์นี้ ตลาดใหม่ๆ ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำก็ได้แก่ ฝรั่งเศส (10.6 ล้านเหรียญ) และ บราซิล (10.5 ล้านเหรียญ) ทั้งสองแห่งต่างก็ทำรายได้ดีกว่าหนังภาคแรกทำได้ ที่สำคัญก็คือ หนัง The Amazing Spider-Man 2 ทำายได้ได้อย่างมหัศจรรย์ในตลาดเอเชีย มนสุดสัปดาห์นี้ หนังเปิดตัว 6.5 ล้านเหรียญที่อินเดีย ซึ่งเป็นหนังฮอลลีวูดเปิดตัวแรงสุดที่นี้ และรั้งรายได้เปิดตัวสูงสุดอันดับ 3 ที่ฟิลิปปินส์จากรายได้ 5.6 ล้านเหรียญ ที่อื่นๆ ที่ทำรายได้ได้ดีก็มี อินโดเนีเซีย (5.2 ล้านเหรียญ), มาเลเซีย (4.6 ล้านเหรียญ), ฮ่องกง (3.6 ล้านเหรียญ), สิงคโปร์ (3.5 ล้านเหรียญ), ประเทศไทย (2.6 ล้านเหรียญ) และเวียตนาม (1.3 ล้านเหรียญ) ซึ่งในแต่ละประเทศเหล่านี้ หนังทำรายได้มากกว่าหนังภาคแรก นอกจากนี้หนังเพิ่งเปิดตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่จีน ทำรายได้ไป 10.4 ล้านเหรียญ ซึ่งจากรายได้เปิดตัว หนังน่าจะทำเงินได้ถึงร้อยล้านแน่ๆ ที่นี่

The Amazing Spider-Man 2 ทำรายได้นอกอเมริกาไปแล้ว 277 ล้านเหรียญ แต่หนังจะทำรายได้เหนือภาคแรกที่ทำไว้ 490 ล้านเหรียญหรือไม่นั้น ยังสรุปไม่ได้ เพราะต้องรอรายได้เต็มๆ สัปดาห์ที่จีนก่อน แต่จากที่เห็นในตอนนี้ ก็น่าจะทำรายได้ในระดับเดียวกัน

Rio 2 ทำเงินมาอีก 24.5 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวที่เกาหลีใต้ถึ 1.7 ล้านเหรียญ หนังทำรายได้รวมไปแล้ว 286.8 ล้านเหรียญ และยังมีตลาดออสเตรเลียกับ ญี่ปุ่นให้เล่นอีก

หนัง The Other Woman ก็ทำรายได้นอกอเมริกาดีทีเดียว สุดสัปดาห์นี้หนังได้เงินอีก 19.4 ล้านเหรียญ รายได้รวมขยับไปเป็น 45.5 ล้านเหรียญ หนังเปิดตัวอันดับ 1 ที่ เยอรมันนี 4.4 ล้านเหรียญ และทำเงินใช้ได้ที่รัสเซีย และเม็กซิโก 2.4  และ 1.15 ล้านเหรียญตามลำดับ

ส่วน Frozen ยังไม่หยุดสร้างความมหัศจรรย์ในญี่ปุ่นเมื่อทำเงินไปอีก 11.1 ล้านเหรียญในสัปดาห์ที่ 8 ของการฉาย แถมยังเกาะอันดับ 1 เอาไว้แน่น ตอนนี้แค่ที่ญี่ปุ่นหนังทำเงินไปแล้ว 143.2 ล้านเหรียญ และน่าจะยังยืนระยะไปได้อีก รายได้รวมทั่วโลกของหนังทะลุ 1.17 พันล้านเหรียญไปแล้ว และขาดอีกราวๆ 46 ล้านเหรียญจะแซงหน้า Iron Man 3 ขณะที่ Captain America: The Winter Soldier ได้เงินมาอีก 10 ล้านเหรียญ รายได้รวมพุ่งไปที่ 442.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมทั่วโลกแตะๆ 680 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าหนัง Man of Steel เมื่อปี 2013 ทำไว้ 668 ล้านเหรียญแล้ว

คลิก Like ให้ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos และอ่านข่าวคราว, ชมตัวอย่างหนังใหม่ และมิวสิค วิดีโอ ตลอดจนอ่าน บทความ/ บทวิจารณ์ ทั้งหนังและเพลงได้ที่ www.sadaos.com