http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1399474731&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ฐากูร บุนปาน : หลังสะเออะ
วันที่ 07 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่12 (มติชนรายวัน 7 พ.ค.2557)
คําแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังจากอ่านข้อเสนอเรื่องทางออกประเทศไทยของ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ก็คือคำที่ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และลมใต้ปีกของนายกรัฐมนตรีสมัยหนึ่ง
หลุดปากออกมาตั้งแต่วันแรกเมื่อคุณอภิสิทธิ์เสนอตัวเป็นคนกลาง
(ซึ่งต่อมาก็ไม่ได้พูดอีก และเชื่อว่าหลายคนก็คงเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไร เมื่อเห็นข้อเสนอหลุดโลกชุดนี้)
เพราะข้อเสนอที่ไม่ได้เป็นข้อเสนอชุดนี้ มีค่าอยู่แค่อย่างเดียวก็คือทำให้คนทั่วไปรู้จักตัวจริงเนื้อในของคุณอภิสิทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น
(หลังจากที่รู้ซึ้งจนไม่รู้จะซึ้งอย่างไรมาตั้งแต่ช่วงเหตุการณ์ 99 ศพเมื่อปี 2553)
ที่อ้างว่าข้อเสนอทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อ
1.เลี่ยงการเสียชีวิตของประชาชน
2.เลี่ยงการฉีกรัฐธรรมนูญ/การรัฐประหาร
3.เลี่ยงการดึงสถาบันและศาลเข้ามาเกี่ยว
เอาเข้าจริงตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง
เพราะข้อเสนอที่ไม่อยู่บนฐานประชาธิปไตย ข้อเสนอที่ไม่เห็นหัวชาวบ้านอย่างนี้เอง
ที่จะนำไปสู่การนองเลือด การฉีกรัฐธรรมนูญ/รัฐประหาร และการดึงสถาบันดึงศาลลงมา
ข้อเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้ง ให้นายกฯ/รัฐบาลลาออก ให้มีรัฐบาล "คนกลาง" ให้ กปปส.เข้ามาเป็นแกนนำปฏิรูป ฯลฯ
ถ้าให้อ่านโดยไม่บอกว่าใครพูดก็ต้องนึกว่าเป็นคุณสุเทพหรือแกนนำ กปปส.คนใดคนหนึ่งชัดๆ
ผิดกันชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้ากับวันแรกที่ออกมาขึงขังเป็นพระเอกเสียงทุ้มนุ่มละลายใจแม่ยกพ่อยก ว่าเลือกตั้งกับปฏิรูปเดินหน้าคู่กันไปได้
อะไรทำให้คนเราพลิกไปพลิกมาเหมือนเป็นหุ่นกระบอกที่มีคนชักรอก เดี๋ยวบอยคอตเลือกตั้ง
เดี๋ยวกลับมาเป็นพระเอกฝั่งประชาธิปไตย เดี๋ยวสวมหน้ากากสุเทพ ฯลฯ
ร้ายกว่านั้นก็คือพอแถลงเสร็จปุ๊บก็มีลูกหาบออกมาป่าวประกาศต่อทันทีว่า ถ้าไม่รับข้อเสนอนี้ครึ่งหลังของพฤษภาคมจะนองเลือด
ตกใจหมดเลยครับ
ไม่ได้ตกใจว่าจะนองเลือดหรือไม่ แต่ตกใจว่าพรรคการเมืองที่ครั้งหนึ่งเป็นรัฐบาลแล้วออกคำสั่งให้ทหารเข้าปราบปรามประชาชนของตัวเอง
ให้ใช้อาวุธสงครามกระสุนจริงในปฏิบัติการ จนมีคนตายร่วมร้อยบาดเจ็บอีกหลายพัน
วันนี้จู่ๆ โจรมุมตึกที่แต่งดำมาตลอดชีวิต เลี้ยวโผล่ออกมาอีกฝั่ง อ้าว-แต่งขาวทั้งชุดเสียแล้ว
ไม่ตกใจได้ไง
ถ้าห่วงใยเพื่อนร่วมชาติขนาดนั้นจริง ไม่ต้องเก๊กเป็นพระเอก ไม่ต้องแถลงอะไรไร้สาระ
(ที่ไม่แถลงเสียอาจจะดีกว่า เพราะไม่ถูกคนด่าตามมารอบทิศอย่างนี้)
กลับมาลงเลือกตั้งตามปกติ ก็ไม่มีนองเลือดแล้ว
หรือเรื่องนี้เขียนบทกันมาเรียบร้อยพร้อมเพรียงกันแล้ว
กกต. กับศาลรัฐธรรมนูญ ลองตอบให้ชื่นใจหน่อยสิ
ฐากูร บุนปาน : หลังสะเออะ
ฐากูร บุนปาน : หลังสะเออะ
วันที่ 07 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่12 (มติชนรายวัน 7 พ.ค.2557)
คําแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังจากอ่านข้อเสนอเรื่องทางออกประเทศไทยของ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ก็คือคำที่ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และลมใต้ปีกของนายกรัฐมนตรีสมัยหนึ่ง
หลุดปากออกมาตั้งแต่วันแรกเมื่อคุณอภิสิทธิ์เสนอตัวเป็นคนกลาง
(ซึ่งต่อมาก็ไม่ได้พูดอีก และเชื่อว่าหลายคนก็คงเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไร เมื่อเห็นข้อเสนอหลุดโลกชุดนี้)
เพราะข้อเสนอที่ไม่ได้เป็นข้อเสนอชุดนี้ มีค่าอยู่แค่อย่างเดียวก็คือทำให้คนทั่วไปรู้จักตัวจริงเนื้อในของคุณอภิสิทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น
(หลังจากที่รู้ซึ้งจนไม่รู้จะซึ้งอย่างไรมาตั้งแต่ช่วงเหตุการณ์ 99 ศพเมื่อปี 2553)
ที่อ้างว่าข้อเสนอทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อ
1.เลี่ยงการเสียชีวิตของประชาชน
2.เลี่ยงการฉีกรัฐธรรมนูญ/การรัฐประหาร
3.เลี่ยงการดึงสถาบันและศาลเข้ามาเกี่ยว
เอาเข้าจริงตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง
เพราะข้อเสนอที่ไม่อยู่บนฐานประชาธิปไตย ข้อเสนอที่ไม่เห็นหัวชาวบ้านอย่างนี้เอง
ที่จะนำไปสู่การนองเลือด การฉีกรัฐธรรมนูญ/รัฐประหาร และการดึงสถาบันดึงศาลลงมา
ข้อเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้ง ให้นายกฯ/รัฐบาลลาออก ให้มีรัฐบาล "คนกลาง" ให้ กปปส.เข้ามาเป็นแกนนำปฏิรูป ฯลฯ
ถ้าให้อ่านโดยไม่บอกว่าใครพูดก็ต้องนึกว่าเป็นคุณสุเทพหรือแกนนำ กปปส.คนใดคนหนึ่งชัดๆ
ผิดกันชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้ากับวันแรกที่ออกมาขึงขังเป็นพระเอกเสียงทุ้มนุ่มละลายใจแม่ยกพ่อยก ว่าเลือกตั้งกับปฏิรูปเดินหน้าคู่กันไปได้
อะไรทำให้คนเราพลิกไปพลิกมาเหมือนเป็นหุ่นกระบอกที่มีคนชักรอก เดี๋ยวบอยคอตเลือกตั้ง
เดี๋ยวกลับมาเป็นพระเอกฝั่งประชาธิปไตย เดี๋ยวสวมหน้ากากสุเทพ ฯลฯ
ร้ายกว่านั้นก็คือพอแถลงเสร็จปุ๊บก็มีลูกหาบออกมาป่าวประกาศต่อทันทีว่า ถ้าไม่รับข้อเสนอนี้ครึ่งหลังของพฤษภาคมจะนองเลือด
ตกใจหมดเลยครับ
ไม่ได้ตกใจว่าจะนองเลือดหรือไม่ แต่ตกใจว่าพรรคการเมืองที่ครั้งหนึ่งเป็นรัฐบาลแล้วออกคำสั่งให้ทหารเข้าปราบปรามประชาชนของตัวเอง
ให้ใช้อาวุธสงครามกระสุนจริงในปฏิบัติการ จนมีคนตายร่วมร้อยบาดเจ็บอีกหลายพัน
วันนี้จู่ๆ โจรมุมตึกที่แต่งดำมาตลอดชีวิต เลี้ยวโผล่ออกมาอีกฝั่ง อ้าว-แต่งขาวทั้งชุดเสียแล้ว
ไม่ตกใจได้ไง
ถ้าห่วงใยเพื่อนร่วมชาติขนาดนั้นจริง ไม่ต้องเก๊กเป็นพระเอก ไม่ต้องแถลงอะไรไร้สาระ
(ที่ไม่แถลงเสียอาจจะดีกว่า เพราะไม่ถูกคนด่าตามมารอบทิศอย่างนี้)
กลับมาลงเลือกตั้งตามปกติ ก็ไม่มีนองเลือดแล้ว
หรือเรื่องนี้เขียนบทกันมาเรียบร้อยพร้อมเพรียงกันแล้ว
กกต. กับศาลรัฐธรรมนูญ ลองตอบให้ชื่นใจหน่อยสิ