เราเคยทำกระท้อนลอยแก้วเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้ก็นึกไม่ออกว่ามันจะง่ายหรือยากยังไงไอ้ลอยแก้วเนี่ย แต่ 2-3 วันก่อนเราแวะแผงผลไม้แล้วซื้อสละแบบที่แกะเปลือกแล้วมาแพ็คหนึ่ง มาถึงบ้านก็จับแช่ตู้เย็น แล้วก็ลืม จนวันนี้เปิดตู้เย็นแล้วเหลือบไปเห็น สีของสละเริ่มคล้ำไม่น่ากินเสียแล้ว
ตัวเราชอบกินสละลอยแก้ว เราว่ามันชื่นใจดี เปรี้ยวๆ หวานๆ เค็มนิดๆ เหมาะกับหน้าร้อนมากๆ ... เอาล่ะ ลองทำสละลอยแก้วกินเองดีกว่า
เราก็ถามอากู๋ไปเรื่อย โดยรวมแล้วก็ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ มีบางสูตรใช้น้ำลอยดอกมะลิ เราว่ามันไม่น่าจะเข้ากัน เราจึงเลือกสูตรที่ใช้ใบเตยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม (ความจริงคือใบเตยเราปลูกไว้หลายกอ ส่วนดอกมะลิวันนี้ไม่มีบานให้เก็บ
) ... เอาล่ะ มาลงมือทำกันเลย ... มันง่ายซะเหลือเกิน
ค้นในตู้เจอถ้วยของหวานรุ่นคุณแม่ คลาสสิคดีแท้ ... ชมภาพตอนเสร็จแล้วเรียกน้ำย่อยไปก่อนค่ะ
ส่วนผสมก็มีดังนี้
1. สละ (หลังแกะเม็ดออกแล้วชั่งได้ประมาณ 3 ขีด)
2. น้ำ 4 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วยตวง
4. เกลือ 2 ช้อนชา
5. ใบเตย 5-6 ใบ
วิธีทำ
นำสละมาคว้านเม็ดออก ... วิธีคว้านก็ใช้มีดคว้านจากด้านบน (ด้านแหลม) แทงมีดลงไปแล้วค่อยๆแซะแล้วหมุนวนไปจนรอบ แล้วกลับมาแทงด้านล่าง แซะคว้านจนรอบเช่นกัน จากนั้นใช้ปลายมีดดันเม็ดด้านในให้หลุดออกมาทางช่องด้านบน ... จริงๆถ้าใช้มีดที่ปลายยาวกว่านี้จะสะดวกกว่า เพราะเหมาะใช้คว้านเม็ดผลไม้โดยเฉพาะ แต่เราหาไม่เจอ
แคะออกหมดแล้วก็จะได้แบบนี้ ... เนื้อหายไปไหน!!? นี่เม็ด!! ตึ่งโป๊ะ!!
เนื้อที่คว้านเม็ดออกแล้วนำไปล้างกับน้ำเกลืออุ่นๆ (เกลือ 1 ช้อนชากับน้ำ 2 ถ้วย ใส่ไมโครเวฟสัก 1 นาที) ล้างแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปเรียงไว้ในกล่องพลาสติกที่ทนร้อนทนเย็นและมีฝาปิดมิดชิด ... หน้าตาเธอบอบช้ำเหลือเกิน
จากนั้นเรามาทำน้ำเชื่อมกันค่ะ ส่วนผสมด้านบนนั้นเทลงในหม้อพร้อมกันเลย ต้มจนเดือดได้ที่ ไม่ต้องเคี่ยวจนหนืด ... บ้านเรากินน้ำตาลทรายแดง สีของน้ำเชื่อมจึงออกมาอย่างนี้
เมื่อน้ำเชื่อมเดือดได้สักพักก็ปิดไฟได้ค่ะ ... จากนั้นตักน้ำเชื่อมที่ร้อนๆราดลงบนสละที่เตรียมไว้ได้เลย (ถ้ามีผ้าขาวบาง กรองหน่อยก็ดีค่ะ เผื่อมีฝุ่นผงที่ติดมาจากน้ำตาล) ... เทน้ำเชื่อมจนท่วมแล้วปิดฝาทันที นำไปแช่ไว้ในกะละมังน้ำเย็น ทิ้งไว้สักครู่ ลองเช็คดูว่าน้ำในกะละมังอุ่นก็เทน้ำออกแล้วเปลี่ยนใหม่ ทำสัก 3 รอบ จนน้ำในกะละมังไม่มีความร้อนแล้ว และคลำดูที่กล่องก็ไม่ร้อนจัด ... นำเข้าตู้เย็นได้เลยค่ะ ... ตามสูตรนี้จะสามารถเก็บไว้รับประทานได้นานโดยไม่เสียง่ายๆ
ของเราตักแบ่งใส่ถ้วยเล็กๆจับเข้าฟรีซเซอร์ ไม่นานก็เป็นเกล็ดน้ำแข็ง ... เราไม่ชอบหวานมาก หย่อนน้ำแข็งก้อนเล็กๆ ลงไปอีกสัก 3-4 ก้อน การใช้น้ำตาลทรายแดงจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ บวกกับกลิ่นของใบเตย ซดเย็นๆชื่นใจคลายร้อนดีนักแล ... พอกลายเป็นลอยแก้วแล้วหน้าตาดีขึ้นเชียวนะเธอ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมค่ะ
อากาศร้อนๆอย่างนี้ มาทำสละลอยแก้วรับประทานเย็นๆให้ชื่นใจกันเถอะ
ตัวเราชอบกินสละลอยแก้ว เราว่ามันชื่นใจดี เปรี้ยวๆ หวานๆ เค็มนิดๆ เหมาะกับหน้าร้อนมากๆ ... เอาล่ะ ลองทำสละลอยแก้วกินเองดีกว่า
เราก็ถามอากู๋ไปเรื่อย โดยรวมแล้วก็ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ มีบางสูตรใช้น้ำลอยดอกมะลิ เราว่ามันไม่น่าจะเข้ากัน เราจึงเลือกสูตรที่ใช้ใบเตยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม (ความจริงคือใบเตยเราปลูกไว้หลายกอ ส่วนดอกมะลิวันนี้ไม่มีบานให้เก็บ ) ... เอาล่ะ มาลงมือทำกันเลย ... มันง่ายซะเหลือเกิน
ค้นในตู้เจอถ้วยของหวานรุ่นคุณแม่ คลาสสิคดีแท้ ... ชมภาพตอนเสร็จแล้วเรียกน้ำย่อยไปก่อนค่ะ
ส่วนผสมก็มีดังนี้
1. สละ (หลังแกะเม็ดออกแล้วชั่งได้ประมาณ 3 ขีด)
2. น้ำ 4 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วยตวง
4. เกลือ 2 ช้อนชา
5. ใบเตย 5-6 ใบ
วิธีทำ
นำสละมาคว้านเม็ดออก ... วิธีคว้านก็ใช้มีดคว้านจากด้านบน (ด้านแหลม) แทงมีดลงไปแล้วค่อยๆแซะแล้วหมุนวนไปจนรอบ แล้วกลับมาแทงด้านล่าง แซะคว้านจนรอบเช่นกัน จากนั้นใช้ปลายมีดดันเม็ดด้านในให้หลุดออกมาทางช่องด้านบน ... จริงๆถ้าใช้มีดที่ปลายยาวกว่านี้จะสะดวกกว่า เพราะเหมาะใช้คว้านเม็ดผลไม้โดยเฉพาะ แต่เราหาไม่เจอ
แคะออกหมดแล้วก็จะได้แบบนี้ ... เนื้อหายไปไหน!!? นี่เม็ด!! ตึ่งโป๊ะ!!
เนื้อที่คว้านเม็ดออกแล้วนำไปล้างกับน้ำเกลืออุ่นๆ (เกลือ 1 ช้อนชากับน้ำ 2 ถ้วย ใส่ไมโครเวฟสัก 1 นาที) ล้างแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปเรียงไว้ในกล่องพลาสติกที่ทนร้อนทนเย็นและมีฝาปิดมิดชิด ... หน้าตาเธอบอบช้ำเหลือเกิน
จากนั้นเรามาทำน้ำเชื่อมกันค่ะ ส่วนผสมด้านบนนั้นเทลงในหม้อพร้อมกันเลย ต้มจนเดือดได้ที่ ไม่ต้องเคี่ยวจนหนืด ... บ้านเรากินน้ำตาลทรายแดง สีของน้ำเชื่อมจึงออกมาอย่างนี้
เมื่อน้ำเชื่อมเดือดได้สักพักก็ปิดไฟได้ค่ะ ... จากนั้นตักน้ำเชื่อมที่ร้อนๆราดลงบนสละที่เตรียมไว้ได้เลย (ถ้ามีผ้าขาวบาง กรองหน่อยก็ดีค่ะ เผื่อมีฝุ่นผงที่ติดมาจากน้ำตาล) ... เทน้ำเชื่อมจนท่วมแล้วปิดฝาทันที นำไปแช่ไว้ในกะละมังน้ำเย็น ทิ้งไว้สักครู่ ลองเช็คดูว่าน้ำในกะละมังอุ่นก็เทน้ำออกแล้วเปลี่ยนใหม่ ทำสัก 3 รอบ จนน้ำในกะละมังไม่มีความร้อนแล้ว และคลำดูที่กล่องก็ไม่ร้อนจัด ... นำเข้าตู้เย็นได้เลยค่ะ ... ตามสูตรนี้จะสามารถเก็บไว้รับประทานได้นานโดยไม่เสียง่ายๆ
ของเราตักแบ่งใส่ถ้วยเล็กๆจับเข้าฟรีซเซอร์ ไม่นานก็เป็นเกล็ดน้ำแข็ง ... เราไม่ชอบหวานมาก หย่อนน้ำแข็งก้อนเล็กๆ ลงไปอีกสัก 3-4 ก้อน การใช้น้ำตาลทรายแดงจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ บวกกับกลิ่นของใบเตย ซดเย็นๆชื่นใจคลายร้อนดีนักแล ... พอกลายเป็นลอยแก้วแล้วหน้าตาดีขึ้นเชียวนะเธอ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมค่ะ