สวัสดีค่ะ
ช่วงนี้เป็นหน้ากระท้อน แถวบ้านมีกระท้อนขายเยอะมากค่ะ กิโลกรัมละ 35 บาท 3 โลร้อยเท่านั้น
เห็นกระท้อนราคาไม่แพง เลยนึกอยากอุดหนุนชาวสวน ซื้อมากิโลครึ่งค่ะ
แม่ค้าบอกว่าเป็นสวนของเค้าเอง ปลูกเองห่อเองและนำมาขายเองค่ะ
ลูกย่อมๆไม่ใหญ่ไม่เล็ก ผิวไม่ค่อยสวยคงเพราะไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลงมากค่ะ
ส่วนตัวเราชอบทานกระท้อนลอยแก้วมากค่ะ แต่ถ้าเป็นกระท้อนสดนี่แทบจะไม่ทานเลย
รู้สึกว่ารสชาติมันเปรี้ยวและฝาดมาก จะอร่อยหน่อยก็ตรงเฉพาะเนื้อฟูๆติดเม็ดด้านใน แต่กินได้หน่อยก็ต้องคายเม็ดทิ้งแล้ว
เลยไม่ค่อยชอบทานเท่าไหร่ค่ะ แต่ถ้าไปทานข้าวที่ร้านอาหาร แล้วร้านไหนมีเมนูของหวานเป็นกระท้อนลอยแก้ว
เราต้องจัดมาชิมทุกทีค่ะ เพราะมันอร่อย หวาน หอม ทานแล้วชุ่มคอดีมากๆค่ะ
อวดรูปแรกก่อนเลยค่ะ
วิธีทำไม่ยากเลยค่ะ
ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง ใช้เวลาทำไม่นาน
อาจจะนานนิดนึงสำหรับคนที่ไม่เคยคว้านเม็ดผลไม้ แต่พอจับจุดได้แล้วจะไวมากค่ะ
ส่วนตัวเรารู้สึกว่าการคว้านเม็โกระท้อน ง่ายกว่าคว้านเม็ดมะยงชิดเป็นไหนๆเลยค่ะ
เทคนิคอย่างเดียวคือ มีดคว้านต้องคม แค่นี้เองค่ะ
ลองมาดูวิธีทำแบบที่เราทำกันดูค่ะ ทำเมื่อวานตอนเย็นๆ แสงอาจจะไม่ค่อยมีแต่รับรองได้ว่าอร่อย
เพราะลองเอาให้แขกที่มาเยี่ยมชิมแล้ว ทุกคนติดใจมากค่ะ อิอิ
วัตถุดิบ
1.กระท้อน 5 ลูก ล้างให้สะอาด
2.เกลือทะเล 2 ช้อนโต๊ะ(ใครใช้เกลือป่นทั่วไปใช้ช้อนเดียวพอค่ะ)
3.มะนาว 3 ลูก หั่นเตรียมไว้สำหรับบีบน้ำค่ะ
4.น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
5.น้ำสะอาดสำหรับทำน้ำเชื่อม 1 ลิตร
6.ใบเตย 2 ใบ
วิธีทำ
1.เตรียมน้ำเปล่า 1 ชาม เติมเกลือและบีบน้ำทะนาวลงไป ใส่เปลือกมะนาวลงในชามเลยนะคะ แล้วคนให้เกลือละลายค่ะ
2.ใช้มีดคมๆ ผ่ากระท้อนออกเป็น 2 ซีกทางขวาง รีบแช่กระท้อนลงในน้ำเกลือที่เตรียมไว้ ทำจนกระท้อนหมด
3.เอากระท้อนออกมาปอกเปลือก ปอกให้ลึกลงหน่อยนะคะ เราใช้มีดปอกปอกทั้งหมดสองรอบค่ะ ปอกเปลือกลึกๆช่วยลดความฝาดของกระท้อนได้มากทีเดียวค่ะ ปอกเสร็จรีบเอากลับไปแช่น้ำเกลือ หรือถ้ารู้สึกว่าเราปอกช้า ระหว่างที่ปอกให้คอยแช่กระท้อนในน้ำเกลือเป็นระยะๆ ป้องกันไม่ให้กระท้อนดำนะคะ ทำจนหมดค่ะ
4.นำกระท้อนที่ปอกแล้ว มาคว้านเม็ดออกโดยใช้มีดคว้านหรือมีดแกะสลักคมๆค่ะ พยายามคว้านให้ชิดเม็ดที่สุดนะคะ เสร็จแล้วแกะสลักเนื้อกระท้อนบริเวณกลีบกระท้อนให้ได้เป็นรูปดอกไม้ค่ะ (อาจจะงงๆนิดนึงแต่ให้ดูรูปประกอบด้วยจะได้ไม่งงนะคะ) ระหว่างที่คว้านเม็ดและแกะกลีบกระท้อน ให้แช่กระท้อนในน้ำเกลือเป็นระยะๆด้วยค่ะ ทำจนครบทุกชิ้น
5.เตรียมน้ำเปล่าพร้อมใบเตยใส่หม้อ ตั้งไฟรอจนเดือด เติมน้ำตาลลงไป คนจนน้ำตาลละลายหมดและน้ำเชื่อมเดือด ตักใบเตยออกแล้วค่อยๆหย่อนกระท้อนที่เตรียมไว้ลงไปค่ะ(เอาแค่กระท้อนไม่เอาน้ำเด้อ) ต้มนานประมาณ 10 นาทีหรือจนกระท้อนนุ่มแบบที่ชอบแล้วปิดไฟค่ะ แช่กระท้อนไว้ในน้ำเชื่อมจนกว่าน้ำเชื่อมจะเย็น แล้วค่อยแบ่งใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ค่ะ
เตรียมวัตถุดิบ ด้วยการล้างกระท้อนทั้งเปลือกให้สะอาด มะนาวล้างให้สะอาด วางรอไว้ค่ะ
มะนาวผ่าซีก บีบน้ำใส่ชามไว้ พร้อมใส่เปลือกลงไปในชามเลยค่ะ เติมเกลือทะเลลงไป คนให้เกลือละลายให้หมด
ใช้มีดคมๆผ่ากระท้อนตามขวาง ผ่าทีเดียวให้ขาดเลยนะคะ กระท้อนจะได้ไม่ช้ำและมีรอยค่ะ
ผ่าเสร็จรีบแช่ลงในน้ำเกลือที่เตรียมไว้เลยค่ะ ทำจนครบหมดทุกลูก
เสร็จแล้วรีบเอาออกมาปอกเปลือก ปอกให้ลึกๆหน่อยค่ะ เพราะเนื้อฝาดๆจะอยู่ใกล้ๆเปลือก ส่วนตัวเราใช้มีดปอก ปอกสองสามรอบกะๆเอาค่ะ
ระหว่างที่ปอกให้นำกระท้อนแช่น้ำเกลือเป็นระยะๆ ป้องกันไม่ให้ผิวกระท้อนดำค่ะ
ขึ้นตอนนี้ควรทำอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้กระท้อนดำนะคะ
ผ่าเสร็จแล้วค่อยมาคว้านเม็ดค่ะ ใช้มีดแกะสลักคมๆ คว้านให้ชิดเม็ดมากที่สุด ระหว่างนั้นก็แช่กระท้อนในน้ำเกลือด้วยนะคะ
คว้านครบทุกเม็ดแล้วก็แกะสลักรอบๆตามแนวกลีบของกระท้อนค่ะ
ทำเสร็จแล้วนำแช่น้ำเกลือเหมือนเดิมค่ะ
ของเราซื้อมาโลครึ่ง ได้มา 5 ลูก ทำได้ 10 ชิ้นพอดีเลยค่ะ
เอากระท้อนออกมาสะเด็ดน้ำเกลือ เตรียมน้ำสะอาด 1 ลิ้ตรกับน้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง พร้อมใบเตยม้วน 2 ใบค่ะ
ต้มน้ำกับใบเตยให้เดือด เติมน้ำตาลลงไป คนให้น้ำตาลละลาย ใส่กระท้อนลงไปต้มประมาณ 10-15 นาที แล้วแต่ชอบนุ่มมากนุ่มน้อยค่ะ
เสร็จแล้วได้ประมาณนี้ค่ะ เราต้มไปราวๆ 10 นาทีได้ค่ะ ต้มเสร็จแล้วพักกระท้อนไว้ในน้ำเชื่อมจนกว่าจะเย็นสนิทแล้วค่อยเสริฟค่ะ
เสริฟแบบใส่น้ำแข็ง จริงๆกินกับน้ำแข็งป่นอร่อยเข้ากันมากค่ะ น้ำแข็งก้อนๆใส่แล้วไม่ค่อยได้อรรถรสเท่าไหร่ 555
หรือจริงๆส่วนตัวเราชอบแบบแช่ฟรีซให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งค่ะ มันอร่อยมากๆๆๆๆเลย
หรือจะเสริฟแบบแช่เย็นๆเฉยๆก็ได้ค่ะ สูตรนี้จะหวานน้อยหน่อยนะคะ จริงๆสูตรน้ำเชื่อมไม่ตายตัวเลย ชอบหวานก็เพิ่มน้ำตาลได้อีกค่ะ
แรกๆหมาก็ดูสนใจอยู่ แต่พอรู้ตัวว่าไม่ได้กินแน่ๆก็เมินแล้วค่ะ หันไปเล็มใบตะไคร้แทน 5555
เมนูนี้เก็บในตู้เย็นโดยเฉพาะในช่องฟรีซได้นานเป็นปีเลยค่ะ ทำกินก็ง่ายทำขายก็ดีนะคะ
เพราะต้นทุนถูก ทำไม่ยาก เก็บได้นาน และขายได้ราคาด้วยค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการทำอาหารนะคะ สนใจเมนูอื่นๆฝากติดตามได้ที่เพจเลยค่ะ มีทั้งเมนูคนเมนูหมา อิอิ
https://www.facebook.com/AuntysRecipesTH/
<3
ชวนทำกระท้อนลอยแก้ว แปรรูปผลไม้ราคาถูกให้กลายเป็นของหวานราคาแพง
ช่วงนี้เป็นหน้ากระท้อน แถวบ้านมีกระท้อนขายเยอะมากค่ะ กิโลกรัมละ 35 บาท 3 โลร้อยเท่านั้น
เห็นกระท้อนราคาไม่แพง เลยนึกอยากอุดหนุนชาวสวน ซื้อมากิโลครึ่งค่ะ
แม่ค้าบอกว่าเป็นสวนของเค้าเอง ปลูกเองห่อเองและนำมาขายเองค่ะ
ลูกย่อมๆไม่ใหญ่ไม่เล็ก ผิวไม่ค่อยสวยคงเพราะไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลงมากค่ะ
ส่วนตัวเราชอบทานกระท้อนลอยแก้วมากค่ะ แต่ถ้าเป็นกระท้อนสดนี่แทบจะไม่ทานเลย
รู้สึกว่ารสชาติมันเปรี้ยวและฝาดมาก จะอร่อยหน่อยก็ตรงเฉพาะเนื้อฟูๆติดเม็ดด้านใน แต่กินได้หน่อยก็ต้องคายเม็ดทิ้งแล้ว
เลยไม่ค่อยชอบทานเท่าไหร่ค่ะ แต่ถ้าไปทานข้าวที่ร้านอาหาร แล้วร้านไหนมีเมนูของหวานเป็นกระท้อนลอยแก้ว
เราต้องจัดมาชิมทุกทีค่ะ เพราะมันอร่อย หวาน หอม ทานแล้วชุ่มคอดีมากๆค่ะ
อวดรูปแรกก่อนเลยค่ะ
วิธีทำไม่ยากเลยค่ะ
ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง ใช้เวลาทำไม่นาน
อาจจะนานนิดนึงสำหรับคนที่ไม่เคยคว้านเม็ดผลไม้ แต่พอจับจุดได้แล้วจะไวมากค่ะ
ส่วนตัวเรารู้สึกว่าการคว้านเม็โกระท้อน ง่ายกว่าคว้านเม็ดมะยงชิดเป็นไหนๆเลยค่ะ
เทคนิคอย่างเดียวคือ มีดคว้านต้องคม แค่นี้เองค่ะ
ลองมาดูวิธีทำแบบที่เราทำกันดูค่ะ ทำเมื่อวานตอนเย็นๆ แสงอาจจะไม่ค่อยมีแต่รับรองได้ว่าอร่อย
เพราะลองเอาให้แขกที่มาเยี่ยมชิมแล้ว ทุกคนติดใจมากค่ะ อิอิ
วัตถุดิบ
1.กระท้อน 5 ลูก ล้างให้สะอาด
2.เกลือทะเล 2 ช้อนโต๊ะ(ใครใช้เกลือป่นทั่วไปใช้ช้อนเดียวพอค่ะ)
3.มะนาว 3 ลูก หั่นเตรียมไว้สำหรับบีบน้ำค่ะ
4.น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
5.น้ำสะอาดสำหรับทำน้ำเชื่อม 1 ลิตร
6.ใบเตย 2 ใบ
วิธีทำ
1.เตรียมน้ำเปล่า 1 ชาม เติมเกลือและบีบน้ำทะนาวลงไป ใส่เปลือกมะนาวลงในชามเลยนะคะ แล้วคนให้เกลือละลายค่ะ
2.ใช้มีดคมๆ ผ่ากระท้อนออกเป็น 2 ซีกทางขวาง รีบแช่กระท้อนลงในน้ำเกลือที่เตรียมไว้ ทำจนกระท้อนหมด
3.เอากระท้อนออกมาปอกเปลือก ปอกให้ลึกลงหน่อยนะคะ เราใช้มีดปอกปอกทั้งหมดสองรอบค่ะ ปอกเปลือกลึกๆช่วยลดความฝาดของกระท้อนได้มากทีเดียวค่ะ ปอกเสร็จรีบเอากลับไปแช่น้ำเกลือ หรือถ้ารู้สึกว่าเราปอกช้า ระหว่างที่ปอกให้คอยแช่กระท้อนในน้ำเกลือเป็นระยะๆ ป้องกันไม่ให้กระท้อนดำนะคะ ทำจนหมดค่ะ
4.นำกระท้อนที่ปอกแล้ว มาคว้านเม็ดออกโดยใช้มีดคว้านหรือมีดแกะสลักคมๆค่ะ พยายามคว้านให้ชิดเม็ดที่สุดนะคะ เสร็จแล้วแกะสลักเนื้อกระท้อนบริเวณกลีบกระท้อนให้ได้เป็นรูปดอกไม้ค่ะ (อาจจะงงๆนิดนึงแต่ให้ดูรูปประกอบด้วยจะได้ไม่งงนะคะ) ระหว่างที่คว้านเม็ดและแกะกลีบกระท้อน ให้แช่กระท้อนในน้ำเกลือเป็นระยะๆด้วยค่ะ ทำจนครบทุกชิ้น
5.เตรียมน้ำเปล่าพร้อมใบเตยใส่หม้อ ตั้งไฟรอจนเดือด เติมน้ำตาลลงไป คนจนน้ำตาลละลายหมดและน้ำเชื่อมเดือด ตักใบเตยออกแล้วค่อยๆหย่อนกระท้อนที่เตรียมไว้ลงไปค่ะ(เอาแค่กระท้อนไม่เอาน้ำเด้อ) ต้มนานประมาณ 10 นาทีหรือจนกระท้อนนุ่มแบบที่ชอบแล้วปิดไฟค่ะ แช่กระท้อนไว้ในน้ำเชื่อมจนกว่าน้ำเชื่อมจะเย็น แล้วค่อยแบ่งใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ค่ะ
เตรียมวัตถุดิบ ด้วยการล้างกระท้อนทั้งเปลือกให้สะอาด มะนาวล้างให้สะอาด วางรอไว้ค่ะ
มะนาวผ่าซีก บีบน้ำใส่ชามไว้ พร้อมใส่เปลือกลงไปในชามเลยค่ะ เติมเกลือทะเลลงไป คนให้เกลือละลายให้หมด
ใช้มีดคมๆผ่ากระท้อนตามขวาง ผ่าทีเดียวให้ขาดเลยนะคะ กระท้อนจะได้ไม่ช้ำและมีรอยค่ะ
ผ่าเสร็จรีบแช่ลงในน้ำเกลือที่เตรียมไว้เลยค่ะ ทำจนครบหมดทุกลูก
เสร็จแล้วรีบเอาออกมาปอกเปลือก ปอกให้ลึกๆหน่อยค่ะ เพราะเนื้อฝาดๆจะอยู่ใกล้ๆเปลือก ส่วนตัวเราใช้มีดปอก ปอกสองสามรอบกะๆเอาค่ะ
ระหว่างที่ปอกให้นำกระท้อนแช่น้ำเกลือเป็นระยะๆ ป้องกันไม่ให้ผิวกระท้อนดำค่ะ
ขึ้นตอนนี้ควรทำอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้กระท้อนดำนะคะ
ผ่าเสร็จแล้วค่อยมาคว้านเม็ดค่ะ ใช้มีดแกะสลักคมๆ คว้านให้ชิดเม็ดมากที่สุด ระหว่างนั้นก็แช่กระท้อนในน้ำเกลือด้วยนะคะ
คว้านครบทุกเม็ดแล้วก็แกะสลักรอบๆตามแนวกลีบของกระท้อนค่ะ
ทำเสร็จแล้วนำแช่น้ำเกลือเหมือนเดิมค่ะ
ของเราซื้อมาโลครึ่ง ได้มา 5 ลูก ทำได้ 10 ชิ้นพอดีเลยค่ะ
เอากระท้อนออกมาสะเด็ดน้ำเกลือ เตรียมน้ำสะอาด 1 ลิ้ตรกับน้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง พร้อมใบเตยม้วน 2 ใบค่ะ
ต้มน้ำกับใบเตยให้เดือด เติมน้ำตาลลงไป คนให้น้ำตาลละลาย ใส่กระท้อนลงไปต้มประมาณ 10-15 นาที แล้วแต่ชอบนุ่มมากนุ่มน้อยค่ะ
เสร็จแล้วได้ประมาณนี้ค่ะ เราต้มไปราวๆ 10 นาทีได้ค่ะ ต้มเสร็จแล้วพักกระท้อนไว้ในน้ำเชื่อมจนกว่าจะเย็นสนิทแล้วค่อยเสริฟค่ะ
เสริฟแบบใส่น้ำแข็ง จริงๆกินกับน้ำแข็งป่นอร่อยเข้ากันมากค่ะ น้ำแข็งก้อนๆใส่แล้วไม่ค่อยได้อรรถรสเท่าไหร่ 555
หรือจริงๆส่วนตัวเราชอบแบบแช่ฟรีซให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งค่ะ มันอร่อยมากๆๆๆๆเลย
หรือจะเสริฟแบบแช่เย็นๆเฉยๆก็ได้ค่ะ สูตรนี้จะหวานน้อยหน่อยนะคะ จริงๆสูตรน้ำเชื่อมไม่ตายตัวเลย ชอบหวานก็เพิ่มน้ำตาลได้อีกค่ะ
แรกๆหมาก็ดูสนใจอยู่ แต่พอรู้ตัวว่าไม่ได้กินแน่ๆก็เมินแล้วค่ะ หันไปเล็มใบตะไคร้แทน 5555
เมนูนี้เก็บในตู้เย็นโดยเฉพาะในช่องฟรีซได้นานเป็นปีเลยค่ะ ทำกินก็ง่ายทำขายก็ดีนะคะ
เพราะต้นทุนถูก ทำไม่ยาก เก็บได้นาน และขายได้ราคาด้วยค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการทำอาหารนะคะ สนใจเมนูอื่นๆฝากติดตามได้ที่เพจเลยค่ะ มีทั้งเมนูคนเมนูหมา อิอิ
https://www.facebook.com/AuntysRecipesTH/
<3