เดือนเมษายนเป็นเดือนสำคัญสำหรับตัวเอง
เมื่อถึงวันสำคัญ ก็เลยออกไปทานมื้อเย็นนอกบ้านด้วยกัน
แต่ขี้เกียจไปไกล จึงเดินไปที่ Terminal 21 ที่แยกอโศก
เดินดูร้านอาหารอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายต้องการบรรยากาศเงียบๆไม่พลุกพล่าน
จึงมาลงเอยที่ร้านประจำถ้าเกิดอยากทานอาหารจีน คือร้าน Royal Kitchen ที่ชั้น 5
วันนี้มีราคาพิเศษ สำหรับอาหารจานนี้
เริ่มด้วยอาหารทานเล่นจานประจำ ลิ้นเป็ดเสฉวน 180 บาท
เป็นอาหารที่สั่งทุกครั้งเมื่อมาทานข้าวที่ร้านนี้ บางครั้งมาเดินเล่นก็ซื้อกลับบ้าน
เนื้อลิ้นเป็ดนุ่ม กระดูกอ่อนกรุบกรอบตรงกลาง ราดด้วยซอสเสฉวนรสเผ็ดน้อย
อร่อยกว่าลิ้นเป็ดของร้านอาเก่งอบาโลน ที่ใส่มาในชามน้ำแกง
ปราศจากการแต่งจานให้ดูน่าทาน ที่สำคัญคือจืดชืด ปริมาณก็น้อยกว่าจานนี้เกือบสามเท่า
อารมณ์ดีสั่งเบียร์เย็นๆมาหนึ่งขวด ส่วนของแฟนเป็นน้ำหล่อฮั้งก้วยร้อน
จานที่สอง ปลาหิมะขนาด 200 กรัม 500 บาท ชิ้นขนาดใหญ่หนา 1 นิ้วเต็มจาน
เป็นแบบนึ่งเนื้อปลาสุกแล้วราดน้ำซีอิ๊วปรุงรส
โรยหน้าด้วยขิงซอยเพียงเล็กน้อย ทับด้วยต้นหอมซอย
ต่างจากที่ทำกินเอง ที่จะทำปลาเกือบสุก ราดน้ำซีอิ๊วปรุงรสแล้วนึ่งต่อจนสุก
ไม่มีการผัดน้ำซิอิ๊วด้วยน้ำมัน น้ำซีอิ๊วจึงใส ซดได้เหมือนน้ำแกง
ต่อด้วยเป็ดกีตาร์ครึ่งตัว 480 บาท หนังย่างจนกรอบ มีจานต้นหอมและแตงกวา
น้ำจิ้มหวานแบบเป็ดปักกิ่ง และซึ้งนึ่งใส่แผ่นแป้งแบบห่อเป็ดปักกิ่ง
เป็นการทำเป็ดปักกิ่งแบบหมูหันฮ่องกง
ที่นอกจากมีหนังกรอบแล้ว
ยังแล่หนังติดเนื้อมาด้วย
เชื่อเมียแล้วเจริญ"ทานผักเยอะๆนะคะ" : คะน้าฮ่องกงราดน้ำมันหอย 180 บาท
คนที่ติดตาม"เลเซอร์ เฟซบุ้ค"ในช่วงเดือนนี้ทั้งเดือน จะคุ้นกับรีวิวอาหารซีรียส์นี้
เพราะมื้อนี้จานนี้ เป็นจานจุดประกาย ให้เกิดซีรียส์ชุดนี้ในเฟซบุ้ค
ตะน้าฮ่องกงต้นเล็กลวกไม่เหม็นเขียว ยังคงความกรอบของก้านคะน้ำ
โดยส่วนตัวชอบแบบร้านแผงลอย ในซอยติดโรงแรมนาธาน ฮ่องกง เมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว
ที่ราดด้วยซอสน้ำมันหอยข้นๆร้อนๆ บนคะน้าที่ลวกสุกใหม่ๆ
จานสุดท้าย เป๋าฮื้อจักรพรรดิ์ 320 บาท
เป๋าฮื้อตัวเล็ก วางอยู่บนไส้เกี๊ยวกุ้งคำใหญ่
ตัวเป๋าฮื้อไม่มีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์แบบเป๋าฮื้อแผ่น
แต่ตัวไส้เกี๊ยวกุ้งหอมอร่อยมาก จนอยากสั่งแบบไม่มีลูกเป๋าฮื้ออีกสักจาน
มื้อนี้ไม่ปิดท้ายด้วยของหวาน สองคนรวมค่าบริการ 10%
ออกมาเป็นเลขสวย 1,991 บาท ไม่มีโปรส่วนลดสำหรับบัตรเครดิตที่มีอยู่
[CR] Royal Kitchen @ Terminal 21 by laser : มื้อพิเศษ
เมื่อถึงวันสำคัญ ก็เลยออกไปทานมื้อเย็นนอกบ้านด้วยกัน
แต่ขี้เกียจไปไกล จึงเดินไปที่ Terminal 21 ที่แยกอโศก
เดินดูร้านอาหารอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายต้องการบรรยากาศเงียบๆไม่พลุกพล่าน
จึงมาลงเอยที่ร้านประจำถ้าเกิดอยากทานอาหารจีน คือร้าน Royal Kitchen ที่ชั้น 5
วันนี้มีราคาพิเศษ สำหรับอาหารจานนี้
เริ่มด้วยอาหารทานเล่นจานประจำ ลิ้นเป็ดเสฉวน 180 บาท
เป็นอาหารที่สั่งทุกครั้งเมื่อมาทานข้าวที่ร้านนี้ บางครั้งมาเดินเล่นก็ซื้อกลับบ้าน
เนื้อลิ้นเป็ดนุ่ม กระดูกอ่อนกรุบกรอบตรงกลาง ราดด้วยซอสเสฉวนรสเผ็ดน้อย
อร่อยกว่าลิ้นเป็ดของร้านอาเก่งอบาโลน ที่ใส่มาในชามน้ำแกง
ปราศจากการแต่งจานให้ดูน่าทาน ที่สำคัญคือจืดชืด ปริมาณก็น้อยกว่าจานนี้เกือบสามเท่า
อารมณ์ดีสั่งเบียร์เย็นๆมาหนึ่งขวด ส่วนของแฟนเป็นน้ำหล่อฮั้งก้วยร้อน
จานที่สอง ปลาหิมะขนาด 200 กรัม 500 บาท ชิ้นขนาดใหญ่หนา 1 นิ้วเต็มจาน
เป็นแบบนึ่งเนื้อปลาสุกแล้วราดน้ำซีอิ๊วปรุงรส
โรยหน้าด้วยขิงซอยเพียงเล็กน้อย ทับด้วยต้นหอมซอย
ต่างจากที่ทำกินเอง ที่จะทำปลาเกือบสุก ราดน้ำซีอิ๊วปรุงรสแล้วนึ่งต่อจนสุก
ไม่มีการผัดน้ำซิอิ๊วด้วยน้ำมัน น้ำซีอิ๊วจึงใส ซดได้เหมือนน้ำแกง
ต่อด้วยเป็ดกีตาร์ครึ่งตัว 480 บาท หนังย่างจนกรอบ มีจานต้นหอมและแตงกวา
น้ำจิ้มหวานแบบเป็ดปักกิ่ง และซึ้งนึ่งใส่แผ่นแป้งแบบห่อเป็ดปักกิ่ง
เป็นการทำเป็ดปักกิ่งแบบหมูหันฮ่องกง
ที่นอกจากมีหนังกรอบแล้ว
ยังแล่หนังติดเนื้อมาด้วย
เชื่อเมียแล้วเจริญ"ทานผักเยอะๆนะคะ" : คะน้าฮ่องกงราดน้ำมันหอย 180 บาท
คนที่ติดตาม"เลเซอร์ เฟซบุ้ค"ในช่วงเดือนนี้ทั้งเดือน จะคุ้นกับรีวิวอาหารซีรียส์นี้
เพราะมื้อนี้จานนี้ เป็นจานจุดประกาย ให้เกิดซีรียส์ชุดนี้ในเฟซบุ้ค
ตะน้าฮ่องกงต้นเล็กลวกไม่เหม็นเขียว ยังคงความกรอบของก้านคะน้ำ
โดยส่วนตัวชอบแบบร้านแผงลอย ในซอยติดโรงแรมนาธาน ฮ่องกง เมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว
ที่ราดด้วยซอสน้ำมันหอยข้นๆร้อนๆ บนคะน้าที่ลวกสุกใหม่ๆ
จานสุดท้าย เป๋าฮื้อจักรพรรดิ์ 320 บาท
เป๋าฮื้อตัวเล็ก วางอยู่บนไส้เกี๊ยวกุ้งคำใหญ่
ตัวเป๋าฮื้อไม่มีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์แบบเป๋าฮื้อแผ่น
แต่ตัวไส้เกี๊ยวกุ้งหอมอร่อยมาก จนอยากสั่งแบบไม่มีลูกเป๋าฮื้ออีกสักจาน
มื้อนี้ไม่ปิดท้ายด้วยของหวาน สองคนรวมค่าบริการ 10%
ออกมาเป็นเลขสวย 1,991 บาท ไม่มีโปรส่วนลดสำหรับบัตรเครดิตที่มีอยู่