สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป สบายดีกันมั้ยคะ
หลังจากชะนี(ขอเรียกแทนตัวเองแบบนี้ละกันนะคะ) หายหน้าหายตาไปนานมากหลังจากรีวิวแอฟฯเล่นโยคะไว้เมื่อปีที่แล้ว
วันนี้มีเวลานิดหน่อยเลยอยากมาอัพเดทชีวิตหลังจากลองผิดลองถูกฝึกสิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า"โยคะ" มาค่ะ
เดือนนี้ เมษายน 57 นับไปนับมาก็ราวๆ 9 เดือน แล้วที่ฝึกโยคะมาด้วยตัวเอง ที่บ้าน ที่โรงแรม ทุกที่ที่เดินทางไป
ทุกวันนี้ถ้าต้องห่างบ้านเกิน 1 สัปดาห์ ก็จะพยายามหอบหิ้วเสื่อโยคะไปด้วยค่ะ
เนื่องจากชะนีไม่ใช่กูรู ครูฝึก หรือผู้เชี่ยวชาญอะไร ดังนั้นผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่สนใจจะฝึกโยคะแต่มีข้อจำกัดเยอะค่ะ ขอบอกว่าแค่คุณมีเวลา 1 ชั่วโมงต่อวัน มีเสื่อโยคะ มีสถานที่ มีแอฟฯหรือวีดีโอโยคะที่คุณชอบ คุณก็เริ่มต้นได้แล้วค่ะ ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหนก็อยู่ที่ "ใจ" ล้วนๆ ค่ะ
พร้อมจะเดินไปด้วยกันรึยังคะ ? ?
เริ่มเม้าท์มอยเลยนะคะ ส่วนตัวชะนีนั้นปีนี้ก็ 28 ขวบหย่อนๆแล้วค่ะ ส่วนสูง 157 เซนติเมตร น้ำหนักตอนนี้ 44-47 กิโลกรัมค่ะ ขึ้นๆลงๆตามใจปาก ลำบากพุง (รึเปล่า?)
ที่เริ่มเล่นโยคะเป็นจริงเป็นจังก็เพราะย้ายไปอยู่กับคุณแฟนที่ ปท หนึ่ง ได้วีซ่ามา 1 ปี และวีซ่าก็ดันห้ามไม่ให้ชะนีทำงานหรือเรียนซะด้วยสิ ชะนีก็สนุกกินสิคะเพราะอาหาร ขนม และเครื่องดื่มมันเย้ายวนซะเหลือเกินค่ะ ถึงปกติจะเป็นชะนีรักโลกชอบกินผัก แต่ไปเจอขนม นม เนยเข้าก็ตะบะแตก
กิจวัตรประจำวันก็น้อยนิดมากค่ะเพราะไม่มีเพื่อนที่ไหนและก็เป็นช่วงปรับตัวกับสภาพอากาศและอะไรๆที่นั่น ทำให้กิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายน้อยมาก ถึงตอนนั้นน้ำหนักจะตัวพุ่งไปที่เลข 5 แต่ยังไม่ตกใจเท่าวันนึงก็มีโอกาสหยิบขาสั้นตัวโปรดมาใส่อีกรอบ
ตกใจค่ะ !!!!! นี่อัลไล???? เซลูไลต์ใช่มั้ย???? ผิวเปลือกส้ม???? มันแบบว่าเด้งได้ โผล่ะ แผล่ะๆๆ
หลังจากนั่งจิตตกไปได้ราวๆ 1 วัน ก็เริ่มคิดแล้วค่ะว่าเราจะทำยังงัยกับมันดี
ตอนอยู่ไทยเคยไปลองฝึกโยคะกับเพื่อนมา 2-3 ครั้ง ฝึกแบบท่าง่ายๆ เลยคิดว่าโยคะนี่แหละที่ชั้นชอบเพราะมันสวยงาม เชื่องช้า และแข็งแกร่ง ที่สำคัญที่เคยลองเล่นมาเหงื่อไม่ออกเลยค่ะ (มารู้ทีหลังว่าการหายใจ ท่าที่เล่น และอุณหภูมิห้องก็เป็นส่วนประกอบสำคัญมากทีเดียวค่ะ)
สัปดาห์แรกของการเริ่มต้นคือวันหยุดคุณแฟน ชะนีก็ปฏิบัติการอ้อนคุณแฟนไปส่งที่คลาสโยคะแห่งหนึ่งใกล้บ้าน โดยขอจ่ายเป็นชั่วโมงไปก่อน เพื่อจะลองดูว่าไหวมั้ย .... ผ่านไป 1 ชั่วโมง .... "ไม่ไหวค่ะ" บอกเลย เพราะมีคนเรียนราวๆ 15 คน+ ครูฝึกดูแลไม่ทั่วถึงค่ะ ส่วนเราก็ทำตามไม่ทันเพราะเค้าพูดชื่อท่าเป็นภาษาอังกฤษและเราก็ไม่เคยศึกษาชื่อท่ามาก่อน ทำให้ทำไม่ทัน ไม่รู้เรื่อง และพอเค้าเริ่มไปท่ายากๆเราก็ยิ่งงงค่ะว่ามันเริ่มจากตรงไหน เราก็ได้แต่ทำๆหยุดๆจนหมดชั่วโมง เดินออกจากคลาส น้ำตาจะไหลค่ะ คิดในใจว่าต้องมีซักวิธีสิที่ชั้นจะต้องเล่นโยคะให้ได้
วันต่อมาหลังจากที่วันแรกล้มเหลวไม่เป็นท่าชะนีก็เริ่มค้นหาและดาวน์โหลดแอฟฯที่เกี่ยวกับโยคะมาเปิดดูทีละอัน จนเจอแอฟฯหนึ่ง ที่เคยรีวิวไป รู้สึกว่าภาพสวย คนทำช้า ภาษาฟังง่าย มีดนตรีคลอเบาๆ เลยลองทำตามดูที่บ้าน โดยเริ่มจากอันที่ง่ายที่สุดค่ะ เริ่มจาก 15 นาที เป็น 30 นาที และ 60 นาที ตามลำดับ
ความรู้สึกวันแรกที่ฝึกโยคะเองที่บ้านมันก็เมื่อยๆตึงๆนะคะ เพราะปกตินอกเหนือจากการเดิน(ช๊อปปิ้ง)แล้วก็เป็นคนไม่ค่อยชอบออกกำลังกายค่ะ ดังนั้นเรื่องตัวอ่อน ยืดตัวได้ดี ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะร่างตึงมากที่สุด จะก้มลงทำท่าเริ่มต้นโดยให้หน้าผากชิดหน้าขายังทำไม่ได้เลยค่ะ แอบคิดในใจว่าหยุดดีมั้ยเพราะชั้นต้องทำไม่ได้แน่ๆเลย แถมไม่มีครูฝึก ไม่มีคนสอน จะทำได้หรอ แต่พอเดินไปส่องกระจกและเปิดดูพุงย้วยๆกับเซลูไลต์ที่ต้นขาอันหนาแน่นก็ต้องฮึดแล้วค่ะ ว่าแล้วก็ลากคุณแฟนให้พาไปซื้อเสื่อโยคะให้ซะดีๆ
เย้!! ได้เสื่อมาแล้ว เสื่อราคาถูกๆที่ซื้อเอาไว้ลองใจก่อนค่ะ เผื่อถอดใจก็จะได้ไม่เสียดายตังค์ทีหลัง
เริ่มฝึกท่าเริ่มต้นแสนง่ายอยู่ร่วมๆเดือน ก็ค่อยๆเขยิบๆขึ้นเป็นท่ากลางๆและยากขึ้นตามลำดับ โดยหลักการของชะนีนั้นมีไม่มากค่ะ แค่ทำสม่ำเสมอ และอย่าฝืนร่างกายตัวเองเป็นอันขาด ต่างคนต่างสรีระ จะให้เป๊ะเว่อร์ภายในครั้งแรกๆมันก็คงไม่สามารถค่ะ
เรื่องเวลาฝึก ส่วนตัวชอบฝึกช่วงหลังจากทานอาหารเช้าไปแล้วราวๆ 2 ชั่วโมง เพราะเป็นช่วงที่ไม่อิ่มเกินไป และไม่หิวเกินไปด้วยค่ะ เคยลองตื่นมาฝึกตอนเช้าๆที่ท้องว่างเพราะอ่านเจอมาว่าดีแต่คงไม่เหมาะกับเรามั้งคะเพราะหน้ามืดมากๆ ก้มทีนี่เงยหน้าขึ้นอีกทีโลกหมุน 3 ตลบค่ะ และการฝึกช่วงตอนเย็นร่างกายเราจะเริ่มยืดหยุ่นได้ดีกว่าแต่กรณีของชะนีคือช่วงเย็นมันคือเวลาของครอบครัวค่ะ
ระยะเวลาฝึก 3 เดือนแรก ครั้งละ 1 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ค่ะ หลังๆมาเริ่มมีอะไรทำเยอะขึ้นก็ยังจะพยายามให้ได้ 45 นาทีเป็นอย่างต่ำค่ะ และไม่ต่ำกว่า 4 วันต่อสัปดาห์
จากวันนั้น ถึงวันนี้ก็ผ่านมาร่วม 9 เดือนแล้ว และตอนนี้ชะนีก็กลับมาอยู่ที่ไทยแบบชั่วคราว ถึงเวลาจะฝึกจะไม่สม่ำเสมอเท่าตอนอยู่ที่โน่นแต่ก็ไม่เคยขาดนะคะ แถมอากาศเมืองไทยร้อนแบบไม่ต้องไปพึง hot yoga ที่ไหนเลยค่ะ แค่ปิดประตู และพัดลม ก็ได้ห้องอุณภูมิแบบ hot yoga แต่ที่บ้านเราเอง สะดวกเวลาไหนก็ปูเสื่อโลดค่ะ
วิธีการของชะนีคือเริ่มต้นฝึกจากแอฟฯ ชื่อ yoga studio ซึ่งเคยรีวิวไว้แล้ว และติดตามข่าวสาร ข้อมูล ท่าต่างๆจากเพจโยคะ หรือเวปไซต์โยคะต่างๆและมาหัดลองทำเองค่ะ โดยค่อยๆทำจากท่าพื้นฐานที่เราทำได้แล้ว โดยไม่ฝืนร่างกายเราเป็นอันขาดนะคะเพราะอาจจะบาดเจ็บได้ แนะนำว่าหากท่าไหนไม่แน่ใจก็ควรจะมีคนคอยช่วยจับก่อนค่ะ แต่ส่วนตัวไม่เคยมีคนช่วยนะคะเพราะเวลาที่ชะนีฝึกโยคะคือเวลาที่คุณแฟนไปทำงานค่ะ ล้มบ้าง ช้ำบ้าง ถลอกบ้าง แต่อึดค่ะ ล้มท่าไหนก็จะได้รู้และไม่ล้มท่าเดิมอีก แถมล้มจนรู้มุมว่าควรเอาส่วนไหนลงจะไม่เจ็บมากอีกต่างหาก
มาเข้าเรื่องโยคะที่ชะนีฝึกมากันเถอะค่ะ เม้าท์มานานเกินไปแล้วเน๊อะ
ท่าแรกเป็นท่าไหว้พระอาทิตย์สุดจะฮิตของการฝึกโยคะ เซทนี้เป็นท่าที่ต้องทำไปเรื่อยๆจนคล่องค่ะ โดยเท่าที่หาข้อมูลและฝึกมา การไหว้พระอาทิตย์มันมีหลายแบบค่ะ เพราะโยคะมันมีหลายแบบและท่าต่างๆที่พลิกแพลงมาก็มีมากมายเช่นกัน ดังนั้นส่วนตัวคิดว่าการฝึกโยคะมันไม่แบบตายตัวค่ะ
ท่าเริ่ม หรือ forward bend ค่ะ ซึ่งก็มีหลายท่าเช่นกัน ที่เคยทำๆมาก็มี 3 ท่าในรูป ส่วนท่าที่ทำเป็นประจำคือท่าแรกค่ะคือจับข้อเท้าไว้เพราะเราสามารถออกแรงจากแขนให้หน้าผากเราชิดหน้าขาเราได้ค่ะ ท่านี้แรกๆก็ทำไม่ได้ กว่าจะได้ก็เป็นเดือนทีเดียวเชียวแหละ
ท่าพีระมิด และ ฮาฟ มังกี้ ขอเม้าท์ว่ากว่าจะทำได้ก็ตึงๆเหมือนเอ็นด้านหลังขาจะขาดทีเดียวเชียวค่ะ แลดูธรรมดาๆ แต่ 2 ท่านี้ ใช้เวลาราวๆ 3 เดือนแรกในการทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าค่ะ
ท่าส่วนใหญ่ในการฝึกโยคะจะมีท่าแก้ค่ะ และถ้าท่าไหนทำด้านซ้ายแล้วก็จะต้องทำด้านขวาด้วยจะได้เสมอๆกันค่ะ
การรักษาบาลานด์หรือสมดุลก็สำคัญค่ะ ไม่ว่าจะรักษาด้านข้าง ด้านหน้า หรือด้านไหน ซึ่งการรักษาสมดุลนอกจากกายจะพร้อมแล้ว ใจต้องมา สมาธิก็ต้องมีนะคะ เพราะชะนีล้มคว่ำมาหลายทีแล้วเพราะใจมัวแต่ไปจดจ่อกับเรื่องอื่นค่ะ
3 สิ่งที่ชะนีนึกถึงเสมอเวลาฝึกโยคะคือ อ่อนช้อย แข็งแรง สมดุล และ 3 สิ่งนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ชะนีหลงรักในโยคะค่ะ
ท่าแรกๆ ของการกลับหัวค่ะ ท่านี้ใช้เวลา 3 เดือนครึ่งในการฝึกเองจนสำเร็จ ถามว่าแรกล้มมั้ย? ตอบเลยว่า บ่อยมากค่ะ
ที่ต้อง 3 เดือนครึ่งเพราะท่านี้ต้องอาศัยสมาธิ ร่างกายและแกนกลางของลำตัวค่ะ ถ้าเรายังไม่แข็งแรงพอเราก็จะขึ้นไม่ไหวค่ะ
เฮดแสตน ท่าตรงเลข 3 เป็นท่าหลักๆของท่ากลับหัวค่ะ โดยเริ่มฝึกจากท่าเลข 1 และท่าเลข 2 ตามลำดับค่ะ โดยฝึกท่าเลข 1 และ 2 จนคล่องก่อนแล้วค่อยทำท่าเต็มค่ะ ท่านี้ค่อยๆฝึกแบบไม่รีบ ไม่เกิน 6 เดือนก็ทำได้ค่ะ ท่องไว้ว่า ช้าๆ และไม่ฝืนนะคะ
ท่านี้น่าจะเป็นท่าดัดแปลงมานะคะ พอดีเป็นแฟจเพจ เพจโยคะอยู่หลายอัน เห็นเค้าทำกันมาเลยลองทำด้วยค่ะ
3 ภาพแถวบนแรก เป็นการขึ้นของท่าเฮดสแตน และ 3 ท่าของแถวล่างเป็นการค่อยๆขัดสมาธิลงและใช้พลังแขนรับน้ำหนักตัวไว้ในขณะที่เราขัดสมาธิอยู่
โยคะสะหรับชะนี เชื่อว่าถ้าทำได้ 1 ท่าแล้ว เราก็สามารถดัดแปลงไปทำอื่นๆ ได้เรื่อยๆค่ะ เป็นอะไรที่ไม่เบื่อเลยจริงๆ
ไม่เคยคิดเลยว่าแขนชะนีที่แลดูบอบบางจะแข็งแรงได้ขนาดนี้ ดังนั้น อย่ายอมแพ้ นะคะ กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้ค่ะ
อ่อนนอก แข็งในค่ะ จริงๆท่านี้ยังไม่สวยนะคะ แต่อยากให้ดูว่า เราฝึกเองที่บ้าน เราก็ทำได้ และเชื่อว่ามันจะต้องดีขึ้นและท่ามันจะสวยขึ้นได้ในวันนึงแน่ๆค่ะ
การฝึกโยคะ นอกจากจะช่วยให้สุขภาพกาย คือ รูปร่างดีขึ้น ฟิต เฟิร์ม แล้วยังช่วยให้สุขภาพใจดีขึ้นด้วยค่ะ ช่วยให้คนสมาธิสั้นอย่างเรามีสมาธิมากขึ้น สงบ และไม่ฟุ้งซ่าน เพราะเวลาฝึกโยคะ เราได้หายใจยาวๆ มันจะทำให้เราจดจ่ออยู่กับลมหายใจค่ะ และที่สำคัญอีกเรื่องนึงของชะนีที่รักการถ่ายรูปอย่างเราก็คือเราจะได้แอคสวยๆในที่สวยๆ อีกด้วยค่ะ
จากชะนีที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย อ่อนแอ ขี้โรค ก็สามารถแข็งแรงแบบนี้ได้นะคะ แล้วคุณๆที่สนใจจะรอช้าอยู่ใย
*********************
เม้าท์ไป เม้าท์มาก็มาไกลมากแล้ว ดังนั้นชะนีขอจบกระทู้โยคะ เท่าที่รู้ แค่นี้นะคะ หวังว่าจะเป็นกระทู้ที่มีประโยชน์แก่ผู้อ่าน ไม่มากก็น้อย และขอขอบคุณทุกคำติชมล่วงหน้าค่ะ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาดูการตอบรับของเพื่อนๆตอนไหนเพราะช่วงนี้ยุ่งๆกับงานบ้านและครอบครัวมากค่ะ เอาเป็นว่ามีอะไรก็หน้าไมค์ หลังไมค์กันมาตามสบายนะคะ แต่บอกก่อนว่าถ้าตอบช้าก็อย่าว่ากันเน้อ
สวัสดี และราตรีสวัสดิ์ กับรูปสุดท้ายที่ชะนีชวนเพื่อนสาวมาโยคะด้วยกัน@ช้างบุรี เกาะช้าง ค่ะ
ฝึกโยคะเองที่บ้าน 6 เดือน+ ได้ผลยังงัยมาดูกันค่ะ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป สบายดีกันมั้ยคะ
หลังจากชะนี(ขอเรียกแทนตัวเองแบบนี้ละกันนะคะ) หายหน้าหายตาไปนานมากหลังจากรีวิวแอฟฯเล่นโยคะไว้เมื่อปีที่แล้ว
วันนี้มีเวลานิดหน่อยเลยอยากมาอัพเดทชีวิตหลังจากลองผิดลองถูกฝึกสิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า"โยคะ" มาค่ะ
เดือนนี้ เมษายน 57 นับไปนับมาก็ราวๆ 9 เดือน แล้วที่ฝึกโยคะมาด้วยตัวเอง ที่บ้าน ที่โรงแรม ทุกที่ที่เดินทางไป
ทุกวันนี้ถ้าต้องห่างบ้านเกิน 1 สัปดาห์ ก็จะพยายามหอบหิ้วเสื่อโยคะไปด้วยค่ะ
เนื่องจากชะนีไม่ใช่กูรู ครูฝึก หรือผู้เชี่ยวชาญอะไร ดังนั้นผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่สนใจจะฝึกโยคะแต่มีข้อจำกัดเยอะค่ะ ขอบอกว่าแค่คุณมีเวลา 1 ชั่วโมงต่อวัน มีเสื่อโยคะ มีสถานที่ มีแอฟฯหรือวีดีโอโยคะที่คุณชอบ คุณก็เริ่มต้นได้แล้วค่ะ ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหนก็อยู่ที่ "ใจ" ล้วนๆ ค่ะ
เริ่มเม้าท์มอยเลยนะคะ ส่วนตัวชะนีนั้นปีนี้ก็ 28 ขวบหย่อนๆแล้วค่ะ ส่วนสูง 157 เซนติเมตร น้ำหนักตอนนี้ 44-47 กิโลกรัมค่ะ ขึ้นๆลงๆตามใจปาก ลำบากพุง (รึเปล่า?)
ที่เริ่มเล่นโยคะเป็นจริงเป็นจังก็เพราะย้ายไปอยู่กับคุณแฟนที่ ปท หนึ่ง ได้วีซ่ามา 1 ปี และวีซ่าก็ดันห้ามไม่ให้ชะนีทำงานหรือเรียนซะด้วยสิ ชะนีก็สนุกกินสิคะเพราะอาหาร ขนม และเครื่องดื่มมันเย้ายวนซะเหลือเกินค่ะ ถึงปกติจะเป็นชะนีรักโลกชอบกินผัก แต่ไปเจอขนม นม เนยเข้าก็ตะบะแตก
กิจวัตรประจำวันก็น้อยนิดมากค่ะเพราะไม่มีเพื่อนที่ไหนและก็เป็นช่วงปรับตัวกับสภาพอากาศและอะไรๆที่นั่น ทำให้กิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายน้อยมาก ถึงตอนนั้นน้ำหนักจะตัวพุ่งไปที่เลข 5 แต่ยังไม่ตกใจเท่าวันนึงก็มีโอกาสหยิบขาสั้นตัวโปรดมาใส่อีกรอบ
ตกใจค่ะ !!!!! นี่อัลไล???? เซลูไลต์ใช่มั้ย???? ผิวเปลือกส้ม???? มันแบบว่าเด้งได้ โผล่ะ แผล่ะๆๆ
หลังจากนั่งจิตตกไปได้ราวๆ 1 วัน ก็เริ่มคิดแล้วค่ะว่าเราจะทำยังงัยกับมันดี
ตอนอยู่ไทยเคยไปลองฝึกโยคะกับเพื่อนมา 2-3 ครั้ง ฝึกแบบท่าง่ายๆ เลยคิดว่าโยคะนี่แหละที่ชั้นชอบเพราะมันสวยงาม เชื่องช้า และแข็งแกร่ง ที่สำคัญที่เคยลองเล่นมาเหงื่อไม่ออกเลยค่ะ (มารู้ทีหลังว่าการหายใจ ท่าที่เล่น และอุณหภูมิห้องก็เป็นส่วนประกอบสำคัญมากทีเดียวค่ะ)
สัปดาห์แรกของการเริ่มต้นคือวันหยุดคุณแฟน ชะนีก็ปฏิบัติการอ้อนคุณแฟนไปส่งที่คลาสโยคะแห่งหนึ่งใกล้บ้าน โดยขอจ่ายเป็นชั่วโมงไปก่อน เพื่อจะลองดูว่าไหวมั้ย .... ผ่านไป 1 ชั่วโมง .... "ไม่ไหวค่ะ" บอกเลย เพราะมีคนเรียนราวๆ 15 คน+ ครูฝึกดูแลไม่ทั่วถึงค่ะ ส่วนเราก็ทำตามไม่ทันเพราะเค้าพูดชื่อท่าเป็นภาษาอังกฤษและเราก็ไม่เคยศึกษาชื่อท่ามาก่อน ทำให้ทำไม่ทัน ไม่รู้เรื่อง และพอเค้าเริ่มไปท่ายากๆเราก็ยิ่งงงค่ะว่ามันเริ่มจากตรงไหน เราก็ได้แต่ทำๆหยุดๆจนหมดชั่วโมง เดินออกจากคลาส น้ำตาจะไหลค่ะ คิดในใจว่าต้องมีซักวิธีสิที่ชั้นจะต้องเล่นโยคะให้ได้
วันต่อมาหลังจากที่วันแรกล้มเหลวไม่เป็นท่าชะนีก็เริ่มค้นหาและดาวน์โหลดแอฟฯที่เกี่ยวกับโยคะมาเปิดดูทีละอัน จนเจอแอฟฯหนึ่ง ที่เคยรีวิวไป รู้สึกว่าภาพสวย คนทำช้า ภาษาฟังง่าย มีดนตรีคลอเบาๆ เลยลองทำตามดูที่บ้าน โดยเริ่มจากอันที่ง่ายที่สุดค่ะ เริ่มจาก 15 นาที เป็น 30 นาที และ 60 นาที ตามลำดับ
ความรู้สึกวันแรกที่ฝึกโยคะเองที่บ้านมันก็เมื่อยๆตึงๆนะคะ เพราะปกตินอกเหนือจากการเดิน(ช๊อปปิ้ง)แล้วก็เป็นคนไม่ค่อยชอบออกกำลังกายค่ะ ดังนั้นเรื่องตัวอ่อน ยืดตัวได้ดี ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะร่างตึงมากที่สุด จะก้มลงทำท่าเริ่มต้นโดยให้หน้าผากชิดหน้าขายังทำไม่ได้เลยค่ะ แอบคิดในใจว่าหยุดดีมั้ยเพราะชั้นต้องทำไม่ได้แน่ๆเลย แถมไม่มีครูฝึก ไม่มีคนสอน จะทำได้หรอ แต่พอเดินไปส่องกระจกและเปิดดูพุงย้วยๆกับเซลูไลต์ที่ต้นขาอันหนาแน่นก็ต้องฮึดแล้วค่ะ ว่าแล้วก็ลากคุณแฟนให้พาไปซื้อเสื่อโยคะให้ซะดีๆ
เย้!! ได้เสื่อมาแล้ว เสื่อราคาถูกๆที่ซื้อเอาไว้ลองใจก่อนค่ะ เผื่อถอดใจก็จะได้ไม่เสียดายตังค์ทีหลัง
เริ่มฝึกท่าเริ่มต้นแสนง่ายอยู่ร่วมๆเดือน ก็ค่อยๆเขยิบๆขึ้นเป็นท่ากลางๆและยากขึ้นตามลำดับ โดยหลักการของชะนีนั้นมีไม่มากค่ะ แค่ทำสม่ำเสมอ และอย่าฝืนร่างกายตัวเองเป็นอันขาด ต่างคนต่างสรีระ จะให้เป๊ะเว่อร์ภายในครั้งแรกๆมันก็คงไม่สามารถค่ะ
เรื่องเวลาฝึก ส่วนตัวชอบฝึกช่วงหลังจากทานอาหารเช้าไปแล้วราวๆ 2 ชั่วโมง เพราะเป็นช่วงที่ไม่อิ่มเกินไป และไม่หิวเกินไปด้วยค่ะ เคยลองตื่นมาฝึกตอนเช้าๆที่ท้องว่างเพราะอ่านเจอมาว่าดีแต่คงไม่เหมาะกับเรามั้งคะเพราะหน้ามืดมากๆ ก้มทีนี่เงยหน้าขึ้นอีกทีโลกหมุน 3 ตลบค่ะ และการฝึกช่วงตอนเย็นร่างกายเราจะเริ่มยืดหยุ่นได้ดีกว่าแต่กรณีของชะนีคือช่วงเย็นมันคือเวลาของครอบครัวค่ะ
ระยะเวลาฝึก 3 เดือนแรก ครั้งละ 1 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ค่ะ หลังๆมาเริ่มมีอะไรทำเยอะขึ้นก็ยังจะพยายามให้ได้ 45 นาทีเป็นอย่างต่ำค่ะ และไม่ต่ำกว่า 4 วันต่อสัปดาห์
จากวันนั้น ถึงวันนี้ก็ผ่านมาร่วม 9 เดือนแล้ว และตอนนี้ชะนีก็กลับมาอยู่ที่ไทยแบบชั่วคราว ถึงเวลาจะฝึกจะไม่สม่ำเสมอเท่าตอนอยู่ที่โน่นแต่ก็ไม่เคยขาดนะคะ แถมอากาศเมืองไทยร้อนแบบไม่ต้องไปพึง hot yoga ที่ไหนเลยค่ะ แค่ปิดประตู และพัดลม ก็ได้ห้องอุณภูมิแบบ hot yoga แต่ที่บ้านเราเอง สะดวกเวลาไหนก็ปูเสื่อโลดค่ะ
วิธีการของชะนีคือเริ่มต้นฝึกจากแอฟฯ ชื่อ yoga studio ซึ่งเคยรีวิวไว้แล้ว และติดตามข่าวสาร ข้อมูล ท่าต่างๆจากเพจโยคะ หรือเวปไซต์โยคะต่างๆและมาหัดลองทำเองค่ะ โดยค่อยๆทำจากท่าพื้นฐานที่เราทำได้แล้ว โดยไม่ฝืนร่างกายเราเป็นอันขาดนะคะเพราะอาจจะบาดเจ็บได้ แนะนำว่าหากท่าไหนไม่แน่ใจก็ควรจะมีคนคอยช่วยจับก่อนค่ะ แต่ส่วนตัวไม่เคยมีคนช่วยนะคะเพราะเวลาที่ชะนีฝึกโยคะคือเวลาที่คุณแฟนไปทำงานค่ะ ล้มบ้าง ช้ำบ้าง ถลอกบ้าง แต่อึดค่ะ ล้มท่าไหนก็จะได้รู้และไม่ล้มท่าเดิมอีก แถมล้มจนรู้มุมว่าควรเอาส่วนไหนลงจะไม่เจ็บมากอีกต่างหาก
มาเข้าเรื่องโยคะที่ชะนีฝึกมากันเถอะค่ะ เม้าท์มานานเกินไปแล้วเน๊อะ
ท่าแรกเป็นท่าไหว้พระอาทิตย์สุดจะฮิตของการฝึกโยคะ เซทนี้เป็นท่าที่ต้องทำไปเรื่อยๆจนคล่องค่ะ โดยเท่าที่หาข้อมูลและฝึกมา การไหว้พระอาทิตย์มันมีหลายแบบค่ะ เพราะโยคะมันมีหลายแบบและท่าต่างๆที่พลิกแพลงมาก็มีมากมายเช่นกัน ดังนั้นส่วนตัวคิดว่าการฝึกโยคะมันไม่แบบตายตัวค่ะ
ท่าเริ่ม หรือ forward bend ค่ะ ซึ่งก็มีหลายท่าเช่นกัน ที่เคยทำๆมาก็มี 3 ท่าในรูป ส่วนท่าที่ทำเป็นประจำคือท่าแรกค่ะคือจับข้อเท้าไว้เพราะเราสามารถออกแรงจากแขนให้หน้าผากเราชิดหน้าขาเราได้ค่ะ ท่านี้แรกๆก็ทำไม่ได้ กว่าจะได้ก็เป็นเดือนทีเดียวเชียวแหละ
ท่าพีระมิด และ ฮาฟ มังกี้ ขอเม้าท์ว่ากว่าจะทำได้ก็ตึงๆเหมือนเอ็นด้านหลังขาจะขาดทีเดียวเชียวค่ะ แลดูธรรมดาๆ แต่ 2 ท่านี้ ใช้เวลาราวๆ 3 เดือนแรกในการทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าค่ะ
ท่าส่วนใหญ่ในการฝึกโยคะจะมีท่าแก้ค่ะ และถ้าท่าไหนทำด้านซ้ายแล้วก็จะต้องทำด้านขวาด้วยจะได้เสมอๆกันค่ะ
การรักษาบาลานด์หรือสมดุลก็สำคัญค่ะ ไม่ว่าจะรักษาด้านข้าง ด้านหน้า หรือด้านไหน ซึ่งการรักษาสมดุลนอกจากกายจะพร้อมแล้ว ใจต้องมา สมาธิก็ต้องมีนะคะ เพราะชะนีล้มคว่ำมาหลายทีแล้วเพราะใจมัวแต่ไปจดจ่อกับเรื่องอื่นค่ะ
3 สิ่งที่ชะนีนึกถึงเสมอเวลาฝึกโยคะคือ อ่อนช้อย แข็งแรง สมดุล และ 3 สิ่งนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ชะนีหลงรักในโยคะค่ะ
ท่าแรกๆ ของการกลับหัวค่ะ ท่านี้ใช้เวลา 3 เดือนครึ่งในการฝึกเองจนสำเร็จ ถามว่าแรกล้มมั้ย? ตอบเลยว่า บ่อยมากค่ะ
ที่ต้อง 3 เดือนครึ่งเพราะท่านี้ต้องอาศัยสมาธิ ร่างกายและแกนกลางของลำตัวค่ะ ถ้าเรายังไม่แข็งแรงพอเราก็จะขึ้นไม่ไหวค่ะ
เฮดแสตน ท่าตรงเลข 3 เป็นท่าหลักๆของท่ากลับหัวค่ะ โดยเริ่มฝึกจากท่าเลข 1 และท่าเลข 2 ตามลำดับค่ะ โดยฝึกท่าเลข 1 และ 2 จนคล่องก่อนแล้วค่อยทำท่าเต็มค่ะ ท่านี้ค่อยๆฝึกแบบไม่รีบ ไม่เกิน 6 เดือนก็ทำได้ค่ะ ท่องไว้ว่า ช้าๆ และไม่ฝืนนะคะ
ท่านี้น่าจะเป็นท่าดัดแปลงมานะคะ พอดีเป็นแฟจเพจ เพจโยคะอยู่หลายอัน เห็นเค้าทำกันมาเลยลองทำด้วยค่ะ
3 ภาพแถวบนแรก เป็นการขึ้นของท่าเฮดสแตน และ 3 ท่าของแถวล่างเป็นการค่อยๆขัดสมาธิลงและใช้พลังแขนรับน้ำหนักตัวไว้ในขณะที่เราขัดสมาธิอยู่
โยคะสะหรับชะนี เชื่อว่าถ้าทำได้ 1 ท่าแล้ว เราก็สามารถดัดแปลงไปทำอื่นๆ ได้เรื่อยๆค่ะ เป็นอะไรที่ไม่เบื่อเลยจริงๆ
ไม่เคยคิดเลยว่าแขนชะนีที่แลดูบอบบางจะแข็งแรงได้ขนาดนี้ ดังนั้น อย่ายอมแพ้ นะคะ กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้ค่ะ
อ่อนนอก แข็งในค่ะ จริงๆท่านี้ยังไม่สวยนะคะ แต่อยากให้ดูว่า เราฝึกเองที่บ้าน เราก็ทำได้ และเชื่อว่ามันจะต้องดีขึ้นและท่ามันจะสวยขึ้นได้ในวันนึงแน่ๆค่ะ
การฝึกโยคะ นอกจากจะช่วยให้สุขภาพกาย คือ รูปร่างดีขึ้น ฟิต เฟิร์ม แล้วยังช่วยให้สุขภาพใจดีขึ้นด้วยค่ะ ช่วยให้คนสมาธิสั้นอย่างเรามีสมาธิมากขึ้น สงบ และไม่ฟุ้งซ่าน เพราะเวลาฝึกโยคะ เราได้หายใจยาวๆ มันจะทำให้เราจดจ่ออยู่กับลมหายใจค่ะ และที่สำคัญอีกเรื่องนึงของชะนีที่รักการถ่ายรูปอย่างเราก็คือเราจะได้แอคสวยๆในที่สวยๆ อีกด้วยค่ะ
จากชะนีที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย อ่อนแอ ขี้โรค ก็สามารถแข็งแรงแบบนี้ได้นะคะ แล้วคุณๆที่สนใจจะรอช้าอยู่ใย
เม้าท์ไป เม้าท์มาก็มาไกลมากแล้ว ดังนั้นชะนีขอจบกระทู้โยคะ เท่าที่รู้ แค่นี้นะคะ หวังว่าจะเป็นกระทู้ที่มีประโยชน์แก่ผู้อ่าน ไม่มากก็น้อย และขอขอบคุณทุกคำติชมล่วงหน้าค่ะ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาดูการตอบรับของเพื่อนๆตอนไหนเพราะช่วงนี้ยุ่งๆกับงานบ้านและครอบครัวมากค่ะ เอาเป็นว่ามีอะไรก็หน้าไมค์ หลังไมค์กันมาตามสบายนะคะ แต่บอกก่อนว่าถ้าตอบช้าก็อย่าว่ากันเน้อ
สวัสดี และราตรีสวัสดิ์ กับรูปสุดท้ายที่ชะนีชวนเพื่อนสาวมาโยคะด้วยกัน@ช้างบุรี เกาะช้าง ค่ะ