โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ราคาหุ้นรับเหมาร่วงยกแผง รับข่าวศาลรธน.ปัดตกโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ประเมินกระทบระยะสั้น หันพึ่งงานเอกชน ลดความเสี่ยง
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้ร่างพ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และให้ร่างกฎหมายนี้ตกไป ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาปรับตัวลดลง ทั้ง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น โดยราคาหุ้นปิดที่ 16.10 บาท ปรับตัวลดลง 1.23 % บริษัท ช.การช่าง ปิดที่ 16.40 บาท ปรับตัวลดลง 0.61% บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ ราคาหุ้นปิดที่ 2.02 บาท ปรับตัวลดลง 2.88% ราคาหุ้นอิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ ปิดที่ 3.76 บาท หรือลดลง 3.59 %
นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้ร่างพ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และให้ร่างกฎหมายนี้ตกไป เชื่อว่าจะส่งผลกระทบกับผู้รับเหมา ที่เน้นรับงานภาครัฐโดยตรง จากการชะลอตัวของโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ และจะเป็นผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น
"การที่กฎหมายดังกล่าวถูกปัดให้ตกไป จะส่งผลกับผู้รับเหมาที่เน้นโครงการรัฐบาล แต่เชื่อว่าจะเป็นผลระยะสั้น เพราะหลายฝ่ายประเมินกันอยู่แล้วว่า โครงการรัฐบาลจะล่าช้า หรือมีปัญหา ซึ่งผู้รับเหมาจึงปรับตัวเพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าว"
เขาเชื่อว่าในระยะสั้น ผู้รับเหมาจะหันมาเน้นโครงการลงทุนของภาคเอกชนมากขึ้น ชดเชยโครงการรัฐบาลที่หายไป ส่วนระยะยาวถือว่าเป็นโอกาสดี เพราะการที่โครงการรัฐบาลล่าช้าออกไป จะส่งผลให้โครงการในอนาคตที่จะออกมาพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้มีการแข่งขันราคาที่น้อยลง ทำให้ผู้รับเหมาได้ประโยชน์ที่ต้นทุนจะปรับตัวลดลง
การปรับตัวของบริษัท เชื่อว่า จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะบริษัทได้ปรับนโยบายธุรกิจ จากปีก่อนที่เน้นรับงานภาครัฐบาล ส่งผลให้งานในมือที่รอรับรู้รายได้มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นงานรัฐบาล 70% และงานเอกชน 30% การทำธุรกิจปีนี้ บริษัทจึงหันพึ่งพิงงานเอกชนมากขึ้น โดยงานใหม่ที่จะเข้ามา บริษัทจะเน้นงานเอกชน 80% โดยผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทยังคาดว่ารายได้จะเติบโต 5%
ส่วนนายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกร ไทย เปิดเผยว่า สำหรับหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะปรับให้พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทตกไป แต่ราคาก็ไม่ได้ปรับตัวลดลงแรง เพราะราคาหุ้นได้สะท้อนกับปัจจัยเสี่ยงนี้มาระยะหนึ่งแล้ว
แม้ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาจะปรับตัวร่วงลงไปแรง ก็ยังไม่มีความน่าสนใจในการลงทุน เพราะราคาหุ้นรับเหมาแพงกว่าหุ้นในกลุ่มอื่นๆ ที่มีพื้นฐานดี มีเงินปันผลสูง และมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีกว่า ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จะอยู่ในลักษณะของการทรงตัว และมีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก อีกทั้งสภาพคล่องอาจลดลง เพราะไม่มีความน่าสนใจให้นักลงทุนมาลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ จึงแนะนำให้นักลงทุน เปลี่ยนหุ้นไปเล่นในกลุ่มอื่นที่มีความน่าสนใจมากกว่า
บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า ได้ลดน้ำหนักการลงทุนเป็น ลงทุนมากกว่าปกติ แม้พ.ร.บ. 2 ล้านล้านจะขัดรธน. โครงการที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.จะกลับไปใช้งบประมาณปกติ หรือใช้งบกลาง สิ่งสำคัญคือต้องมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะอยู่ช่วงครึ่งปีหลัง เพื่ออนุมัติโครงการต่างๆ การประมูลงานใหม่จึงจะเกิดขึ้น ส่วนงานประมูลที่จะเกิดปีนี้จะมีเพียง 3 โครงการที่รัฐบาลอนุมัติก่อนยุบสภา คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว รถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 มองการลงทุนจากภาครัฐปีนี้ไม่เติบโต
หุ้นรับเหมาร่วงรับ2ล้านล้านขัดรธน.
ราคาหุ้นรับเหมาร่วงยกแผง รับข่าวศาลรธน.ปัดตกโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ประเมินกระทบระยะสั้น หันพึ่งงานเอกชน ลดความเสี่ยง
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้ร่างพ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และให้ร่างกฎหมายนี้ตกไป ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาปรับตัวลดลง ทั้ง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น โดยราคาหุ้นปิดที่ 16.10 บาท ปรับตัวลดลง 1.23 % บริษัท ช.การช่าง ปิดที่ 16.40 บาท ปรับตัวลดลง 0.61% บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ ราคาหุ้นปิดที่ 2.02 บาท ปรับตัวลดลง 2.88% ราคาหุ้นอิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ ปิดที่ 3.76 บาท หรือลดลง 3.59 %
นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้ร่างพ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และให้ร่างกฎหมายนี้ตกไป เชื่อว่าจะส่งผลกระทบกับผู้รับเหมา ที่เน้นรับงานภาครัฐโดยตรง จากการชะลอตัวของโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ และจะเป็นผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น
"การที่กฎหมายดังกล่าวถูกปัดให้ตกไป จะส่งผลกับผู้รับเหมาที่เน้นโครงการรัฐบาล แต่เชื่อว่าจะเป็นผลระยะสั้น เพราะหลายฝ่ายประเมินกันอยู่แล้วว่า โครงการรัฐบาลจะล่าช้า หรือมีปัญหา ซึ่งผู้รับเหมาจึงปรับตัวเพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าว"
เขาเชื่อว่าในระยะสั้น ผู้รับเหมาจะหันมาเน้นโครงการลงทุนของภาคเอกชนมากขึ้น ชดเชยโครงการรัฐบาลที่หายไป ส่วนระยะยาวถือว่าเป็นโอกาสดี เพราะการที่โครงการรัฐบาลล่าช้าออกไป จะส่งผลให้โครงการในอนาคตที่จะออกมาพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้มีการแข่งขันราคาที่น้อยลง ทำให้ผู้รับเหมาได้ประโยชน์ที่ต้นทุนจะปรับตัวลดลง
การปรับตัวของบริษัท เชื่อว่า จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะบริษัทได้ปรับนโยบายธุรกิจ จากปีก่อนที่เน้นรับงานภาครัฐบาล ส่งผลให้งานในมือที่รอรับรู้รายได้มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นงานรัฐบาล 70% และงานเอกชน 30% การทำธุรกิจปีนี้ บริษัทจึงหันพึ่งพิงงานเอกชนมากขึ้น โดยงานใหม่ที่จะเข้ามา บริษัทจะเน้นงานเอกชน 80% โดยผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทยังคาดว่ารายได้จะเติบโต 5%
ส่วนนายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกร ไทย เปิดเผยว่า สำหรับหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะปรับให้พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทตกไป แต่ราคาก็ไม่ได้ปรับตัวลดลงแรง เพราะราคาหุ้นได้สะท้อนกับปัจจัยเสี่ยงนี้มาระยะหนึ่งแล้ว
แม้ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาจะปรับตัวร่วงลงไปแรง ก็ยังไม่มีความน่าสนใจในการลงทุน เพราะราคาหุ้นรับเหมาแพงกว่าหุ้นในกลุ่มอื่นๆ ที่มีพื้นฐานดี มีเงินปันผลสูง และมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีกว่า ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จะอยู่ในลักษณะของการทรงตัว และมีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก อีกทั้งสภาพคล่องอาจลดลง เพราะไม่มีความน่าสนใจให้นักลงทุนมาลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ จึงแนะนำให้นักลงทุน เปลี่ยนหุ้นไปเล่นในกลุ่มอื่นที่มีความน่าสนใจมากกว่า
บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า ได้ลดน้ำหนักการลงทุนเป็น ลงทุนมากกว่าปกติ แม้พ.ร.บ. 2 ล้านล้านจะขัดรธน. โครงการที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.จะกลับไปใช้งบประมาณปกติ หรือใช้งบกลาง สิ่งสำคัญคือต้องมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะอยู่ช่วงครึ่งปีหลัง เพื่ออนุมัติโครงการต่างๆ การประมูลงานใหม่จึงจะเกิดขึ้น ส่วนงานประมูลที่จะเกิดปีนี้จะมีเพียง 3 โครงการที่รัฐบาลอนุมัติก่อนยุบสภา คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว รถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 มองการลงทุนจากภาครัฐปีนี้ไม่เติบโต