โจ๋งครึ่มเกินควร
เพิ่งลาออกจากประธานศาลรัฐธรรมนูญไปแหม็บๆ ยังไม่ทันได้เลือก ประธานคนใหม่อย่างเป็นทางการ
นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญคนดัง ก็ไปขึ้นเวทีอภิปรายปะฉะดะรัฐบาลระเบิดเถิดเทิง
เปิดฉากกล่าวหารัฐบาลว่ากระทำการขัดรัฐธรรมนูญถึง 3 ประเด็น
1,ไม่แถลงผลงานรัฐบาลปีละ 1 ครั้งต่อรัฐสภา
2,โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเข้าข่ายเป็นการผูกขาดตัดตอนการค้าข้าวเสียเอง
3,ออก พ.ร.ก.กู้เงินลงทุนแก้ปัญหาน้ำ 3.5 แสนล้านบาทผ่านไปแล้ว 1 ปี ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำ
แถมยังกระชุ่นเตือนธนาคารว่าไม่ควรปล่อยเงินกู้ให้กระทรวงการคลังเพราะอาจไม่ได้เงินคืน??
โอ้แม่เจ้า...
เก็บอาการไม่อยู่ซะแล้วพระเดชพระคุณ
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า
คนที่เป็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีตำแหน่งสูงสุดในสถาบันตุลาการ ควรมีวุฒิภาวะ มีความสำรวม มีความสุขุมรอบคอบ รักษาความเป็นกลาง เพื่อให้สังคมไทยศรัทธาเชื่อถือขบวนการยุติธรรม
ไม่ใช่ไปขึ้นเวทีวิจารณ์การเมืองเอะอะโครมคราม
ข้อสำคัญ การออกมาฟันธงว่ารัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญอย่างโน้นอย่างนี้
เท่ากับท่านใช้ความเป็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญพูดชี้นำให้สังคมคล้อยตาม
ซึ่ง
อาจเกิดความเสียหายต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด??
ซึ่ง
พฤติกรรมอย่างนี้ไม่ใช่วิสัยของคนที่เคยเป็นถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญ
“แม่ลูกจันทร์” ยอมรับว่ามนุษย์ปุถุชนก็ต้องมีรักมีชอบมีเกลียดมีชังเป็นเรื่องธรรมดา
คนที่ไม่เลือกพรรคเพื่อไทยก็มีตั้ง 12 ล้านคน
แต่ประเด็นอยู่ที่ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์
เป็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินคดีสำคัญทางการเมืองทุกคดี
นายวสันต์ ควรเก็บงำความรู้สึกส่วนตัวไว้ในใจ ไม่ควรออกมาพูดโจ๋งครึ่มเกินความจำเป็น
นี่คือเหตุผลที่ผู้พิพากษาตุลาการส่วนใหญ่จะไม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตัวเอง
“แม่ลูกจันทร์” ไม่เคยเห็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญคนไหน ไปขึ้นเวทีวิพากษ์นโยบายรัฐบาล หรือวิจารณ์ประเด็นร้อนทางการเมืองแม้แต่คนเดียว
เพราะอะไร? เพราะกรอบจริยธรรมตุลาการมีความเคร่งครัดสูงกว่าคนทั่วไป
อนึ่ง นอกจากออกมาฟันธงว่ารัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญ 3 ประเด็น อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยังเลเพลาดพาดไปวิจารณ์ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยว่าเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญเหมือนกัน
เพราะไม่แสดงรายละเอียดชัดเจน ส่อเจตนาหลีกเลี่ยงการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน
“แม่ลูกจันทร์” ประหลาดใจเพราะร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ยังไม่ทันได้เข้าสภาฯ
ก็โดนขาใหญ่ชี้เป้าล่วงหน้าว่าขัดรัฐธรรมนูญ
ส่วนการออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ จะมีเจตนาชี้ช่องให้กลุ่มขาประจำนำประเด็นไปร้องศาลรัฐธรรมนูญเช็กบิลรัฐบาลหรือไม่
“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตไม่วิจารณ์
แต่ที่ “แม่ลูกจันทร์” รับไม่ได้จริงๆ คือการที่อดีตประธานศาลรัฐธรรม-นูญ วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ไปพูดแขวะมือกฎหมายของรัฐบาลว่ามีแต่พวกคุยโม้โอ้อวดไม่ได้เรื่องได้ราว
ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ระดับนี้แล้วไม่ควรไปพูดดูแคลนนักกฎหมายด้วยกันเอง
ถ้าเด็กมันศอกกลับเอาบ้างระวังหน้าแตกหมอไม่รับเย็บนะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”
ไทยรัฐออนไลน์ 11 กันยายน 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/368879
???????????????????????????????????????????
".......
เป็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินคดีสำคัญทางการเมืองทุกคดี
นายวสันต์
ควรเก็บงำความรู้สึกส่วนตัวไว้ในใจ ....."
"......
“แม่ลูกจันทร์” ไม่เคยเห็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญคนไหน ไปขึ้นเวทีวิพากษ์นโยบายรัฐบาล หรือวิจารณ์ประเด็นร้อนทางการเมืองแม้แต่คนเดียว......."
มันก็เป็นไปเช่นนั้น.....
เหตุการณ์ที่สังคมเคยเชื่อว่าผู้รักษาความเป็นธรรมบางคนนั้นเลือกข้าง เลือกปฏิบัติ
แล้วมันจริงอย่างที่เขาเคยตราหน้าไว้หรือไม่......
พฤติกรรมของ"อดีตตลก"ที่ไล่ให้คนไทยไปอ่านคำแปลภาษาอังกฤษออกมาชัดเจนจนสื่อนำไปลากไส้ประจานถึงเพียงนี้แล้ว
สลิ่ม - แมงสาบ......ตัวใดใครจะยังสงสัยอยู่อีกไหมว่า
"ผู้รักษาความเป็นธรรม"บางตัวของระบบ "
เลือกข้าง"...?????
แม่ลูกจันทร์วิจารณ์พฤติกรรมของอดีตตลกวสันต์ที่เก็บอาการไม่อยู่จน"โจ๋งครึ่มเกินควร"..ไส้มีกี่ขดก็ลากออกมาประจานตัวเองสิ้น
เพิ่งลาออกจากประธานศาลรัฐธรรมนูญไปแหม็บๆ ยังไม่ทันได้เลือก ประธานคนใหม่อย่างเป็นทางการ
นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญคนดัง ก็ไปขึ้นเวทีอภิปรายปะฉะดะรัฐบาลระเบิดเถิดเทิง
เปิดฉากกล่าวหารัฐบาลว่ากระทำการขัดรัฐธรรมนูญถึง 3 ประเด็น
1,ไม่แถลงผลงานรัฐบาลปีละ 1 ครั้งต่อรัฐสภา
2,โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเข้าข่ายเป็นการผูกขาดตัดตอนการค้าข้าวเสียเอง
3,ออก พ.ร.ก.กู้เงินลงทุนแก้ปัญหาน้ำ 3.5 แสนล้านบาทผ่านไปแล้ว 1 ปี ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำ
แถมยังกระชุ่นเตือนธนาคารว่าไม่ควรปล่อยเงินกู้ให้กระทรวงการคลังเพราะอาจไม่ได้เงินคืน??
โอ้แม่เจ้า...เก็บอาการไม่อยู่ซะแล้วพระเดชพระคุณ
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าคนที่เป็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีตำแหน่งสูงสุดในสถาบันตุลาการ ควรมีวุฒิภาวะ มีความสำรวม มีความสุขุมรอบคอบ รักษาความเป็นกลาง เพื่อให้สังคมไทยศรัทธาเชื่อถือขบวนการยุติธรรม
ไม่ใช่ไปขึ้นเวทีวิจารณ์การเมืองเอะอะโครมคราม
ข้อสำคัญ การออกมาฟันธงว่ารัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญอย่างโน้นอย่างนี้เท่ากับท่านใช้ความเป็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญพูดชี้นำให้สังคมคล้อยตาม
ซึ่งอาจเกิดความเสียหายต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด??
ซึ่งพฤติกรรมอย่างนี้ไม่ใช่วิสัยของคนที่เคยเป็นถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญ
“แม่ลูกจันทร์” ยอมรับว่ามนุษย์ปุถุชนก็ต้องมีรักมีชอบมีเกลียดมีชังเป็นเรื่องธรรมดา
คนที่ไม่เลือกพรรคเพื่อไทยก็มีตั้ง 12 ล้านคน
แต่ประเด็นอยู่ที่ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินคดีสำคัญทางการเมืองทุกคดี
นายวสันต์ ควรเก็บงำความรู้สึกส่วนตัวไว้ในใจ ไม่ควรออกมาพูดโจ๋งครึ่มเกินความจำเป็น
นี่คือเหตุผลที่ผู้พิพากษาตุลาการส่วนใหญ่จะไม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตัวเอง
“แม่ลูกจันทร์” ไม่เคยเห็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญคนไหน ไปขึ้นเวทีวิพากษ์นโยบายรัฐบาล หรือวิจารณ์ประเด็นร้อนทางการเมืองแม้แต่คนเดียว
เพราะอะไร? เพราะกรอบจริยธรรมตุลาการมีความเคร่งครัดสูงกว่าคนทั่วไป
อนึ่ง นอกจากออกมาฟันธงว่ารัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญ 3 ประเด็น อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยังเลเพลาดพาดไปวิจารณ์ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยว่าเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญเหมือนกัน
เพราะไม่แสดงรายละเอียดชัดเจน ส่อเจตนาหลีกเลี่ยงการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน
“แม่ลูกจันทร์” ประหลาดใจเพราะร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ยังไม่ทันได้เข้าสภาฯ
ก็โดนขาใหญ่ชี้เป้าล่วงหน้าว่าขัดรัฐธรรมนูญ
ส่วนการออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ จะมีเจตนาชี้ช่องให้กลุ่มขาประจำนำประเด็นไปร้องศาลรัฐธรรมนูญเช็กบิลรัฐบาลหรือไม่
“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตไม่วิจารณ์
แต่ที่ “แม่ลูกจันทร์” รับไม่ได้จริงๆ คือการที่อดีตประธานศาลรัฐธรรม-นูญ วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ไปพูดแขวะมือกฎหมายของรัฐบาลว่ามีแต่พวกคุยโม้โอ้อวดไม่ได้เรื่องได้ราว
ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ระดับนี้แล้วไม่ควรไปพูดดูแคลนนักกฎหมายด้วยกันเอง
ถ้าเด็กมันศอกกลับเอาบ้างระวังหน้าแตกหมอไม่รับเย็บนะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”
ไทยรัฐออนไลน์ 11 กันยายน 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/368879
???????????????????????????????????????????
"....... เป็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินคดีสำคัญทางการเมืองทุกคดี
นายวสันต์ ควรเก็บงำความรู้สึกส่วนตัวไว้ในใจ ....."
"......
“แม่ลูกจันทร์” ไม่เคยเห็นอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญคนไหน ไปขึ้นเวทีวิพากษ์นโยบายรัฐบาล หรือวิจารณ์ประเด็นร้อนทางการเมืองแม้แต่คนเดียว......."
มันก็เป็นไปเช่นนั้น.....
เหตุการณ์ที่สังคมเคยเชื่อว่าผู้รักษาความเป็นธรรมบางคนนั้นเลือกข้าง เลือกปฏิบัติ
แล้วมันจริงอย่างที่เขาเคยตราหน้าไว้หรือไม่......
พฤติกรรมของ"อดีตตลก"ที่ไล่ให้คนไทยไปอ่านคำแปลภาษาอังกฤษออกมาชัดเจนจนสื่อนำไปลากไส้ประจานถึงเพียงนี้แล้ว
สลิ่ม - แมงสาบ......ตัวใดใครจะยังสงสัยอยู่อีกไหมว่า
"ผู้รักษาความเป็นธรรม"บางตัวของระบบ "เลือกข้าง"...?????