วาระจำเป็น
แผนการลงทุนอภิมหาเมกะโปรเจกต์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศยุครัฐบาลบิ๊กตู่ มูลค่า 3 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 8 ปี
เพิ่มขึ้นจากรัฐบาลก่อน 50 เปอร์เซ็นต์
กำลังเป็นเรื่องปวดกะโหลกไม่รู้จะหาแหล่งเงิน 3 ล้านล้านบาทจากไหนเอามาใช้ลงทุน??
1, ถ้าจะใช้วิธีออก พ.ร.บ.กู้เงิน 3 ล้านล้านบาทแบบรัฐบาลเจ๊ปู (ที่โดนศาลรัฐธรรมนูญล้มไป) ก็เท่ากับก่อหนี้ก้อนโตมโหฬารต้องผ่อนชำระหนี้เงินกู้ไปอีกกว่า 50 ปี
2, ถ้าจะใช้งบประมาณประจำปีไปลงทุน ชาติหน้าตอนบ่ายๆก็สร้างไม่เสร็จ เพราะงบประมาณประเทศติดลบตัวแดงตะบี้ตะบัน
3, ถ้าจะให้เอกชนร่วมลงทุนก็เจอทางตัน เพราะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไม่สามารถสร้างกำไรให้เอกชนได้อย่างรวดเร็ว
การหาแหล่งเงินลงทุน 3 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยจึงเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาล
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ถ้าท่านเห็นความจำเป็นต้องเร่งลงทุนพัฒนาโครงข่ายระบบคมนาคมประเทศครบวงจร
ท่านต้องกล้าตัดสินใจกู้เงินลงทุน
ไม่มีทางเลือกอื่น...นอกจากต้องกู้ลูกเดียว
“แม่ลูกจันทร์” ขอให้รัฐบาลเปิดหูฟังคำแนะนำด้วยความปรารถนาดีจาก ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว. คมนาคม ซึ่งเป็นผู้ผลักดันแผนการลงทุนฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานประเทศ 2 ล้านล้านบาทมากับมือ
ดร.ชัชชาติ ชี้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้งบประมาณประจำปีไปลงทุนโครงการขนาดใหญ่ๆของรัฐบาล
เพราะงบประมาณรายจ่ายประจำปีมีภาระต้องแบกรับอยู่แล้วบานตะไท
ฉะนั้น ถ้าตัดสินใจลงทุนโครงการใหญ่ โปรดอย่ากลัวการกู้เงิน
เหมือนเราอยากมีบ้าน ก็ต้องกู้เงินมาสร้างบ้าน แล้วก็ค่อยผ่อนชำระหนี้คืน ซึ่งเป็นหลักการลงทุนปกติที่ทั้งโลกทำกัน
ดร.ชัชชาติ ย้ำว่า รถไฟไทยที่ใช้กันมาร้อยกว่าปี “ในหลวงรัชกาลที่ 5” ทรงโปรดให้ออกพันธบัตรกู้เงินมูลค่า 9 ล้านปอนด์ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.5 ต่อปี มาลงทุนก่อสร้างทางรถไฟ
ทรงมีพระเนตรยาวไกล ทรงเล็งเห็นความจำเป็นว่าประเทศไทยต้องพัฒนาให้มีการเดินรถไฟเพื่อประโยชน์ในระยะยาว
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการออกพันธบัตรกู้เงิน 9 ล้านปอนด์ เมื่อ 123 ปีก่อนถือเป็นการลงทุนมหาศาล ต้องใช้เวลาผ่อนชำระหนี้ถึง 40 ปี
บัดนี้ อดีตได้พิสูจน์อนาคตว่าการกู้เงินพัฒนาประเทศไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
ถ้าเป็นโครงการลงทุนที่จะเกิดประโยชน์ระยะยาว....
เราต้องกล้ากู้เงินมาลงทุน
“ดร.ชัชชาติ” ชี้ว่าปัจจุบัน ประเทศ ไทยมีถนนยาวกว่า 2 แสน กม. แต่มีเส้นทางรถไฟสั้นจู๋เพียง 4,037 กม.
ทั้งๆที่ต้นทุนค่าขนส่งทางถนน แพงกว่าต้นทุนค่าขนส่งทางรถไฟกว่าเท่าตัว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ รางรถไฟทั่วประเทศ ที่ใช้ในปัจจุบัน 4,037 กม. ได้ก่อสร้างใช้งานมาก่อน พ.ศ.2494 (ยุครัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม) ถึง 3,368 กม.
แสดงว่า 64 ปีที่ผ่านไป ประเทศไทยขยายเส้นทางรถไฟเพิ่มขึ้นเพียง 666 กม. เท่านั้นเอง
ดร.ชัชชาติ สรุปว่าการที่ประเทศ ไทยหยุดลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศมา 10 ปี ทำให้ผลการจัดอันดับโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยตกรูดไปอยู่อันดับ 61 ของโลกในปัจจุบัน
โดนมาเลเซีย (อันดับ 29) แซงหน้าไปหลายช่วงตัว
ศาลรัฐธรรมนูญที่เคารพท่านยังมีความสุขดีนะโยม.
วันนี้ คนดีของกะลาแลนด์ เป่าสากอีกแล้ว 5555555555
เอาไงครับท่านจะกู้ หรือ จะแก้ เพื่อนสลิ่มผมรออยู่
*** วันนี้พิสูจน์แล้วแนวคิด ดร.ชัชชาติ ถูกและมองอนาคตไกล " โดยแม่ลูกจันท์ การันตี อีกแล้ว" 555 ****
วาระจำเป็น
แผนการลงทุนอภิมหาเมกะโปรเจกต์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศยุครัฐบาลบิ๊กตู่ มูลค่า 3 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 8 ปี
เพิ่มขึ้นจากรัฐบาลก่อน 50 เปอร์เซ็นต์
กำลังเป็นเรื่องปวดกะโหลกไม่รู้จะหาแหล่งเงิน 3 ล้านล้านบาทจากไหนเอามาใช้ลงทุน??
1, ถ้าจะใช้วิธีออก พ.ร.บ.กู้เงิน 3 ล้านล้านบาทแบบรัฐบาลเจ๊ปู (ที่โดนศาลรัฐธรรมนูญล้มไป) ก็เท่ากับก่อหนี้ก้อนโตมโหฬารต้องผ่อนชำระหนี้เงินกู้ไปอีกกว่า 50 ปี
2, ถ้าจะใช้งบประมาณประจำปีไปลงทุน ชาติหน้าตอนบ่ายๆก็สร้างไม่เสร็จ เพราะงบประมาณประเทศติดลบตัวแดงตะบี้ตะบัน
3, ถ้าจะให้เอกชนร่วมลงทุนก็เจอทางตัน เพราะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไม่สามารถสร้างกำไรให้เอกชนได้อย่างรวดเร็ว
การหาแหล่งเงินลงทุน 3 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยจึงเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาล
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ถ้าท่านเห็นความจำเป็นต้องเร่งลงทุนพัฒนาโครงข่ายระบบคมนาคมประเทศครบวงจร
ท่านต้องกล้าตัดสินใจกู้เงินลงทุน
ไม่มีทางเลือกอื่น...นอกจากต้องกู้ลูกเดียว
“แม่ลูกจันทร์” ขอให้รัฐบาลเปิดหูฟังคำแนะนำด้วยความปรารถนาดีจาก ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว. คมนาคม ซึ่งเป็นผู้ผลักดันแผนการลงทุนฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานประเทศ 2 ล้านล้านบาทมากับมือ
ดร.ชัชชาติ ชี้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้งบประมาณประจำปีไปลงทุนโครงการขนาดใหญ่ๆของรัฐบาล
เพราะงบประมาณรายจ่ายประจำปีมีภาระต้องแบกรับอยู่แล้วบานตะไท
ฉะนั้น ถ้าตัดสินใจลงทุนโครงการใหญ่ โปรดอย่ากลัวการกู้เงิน
เหมือนเราอยากมีบ้าน ก็ต้องกู้เงินมาสร้างบ้าน แล้วก็ค่อยผ่อนชำระหนี้คืน ซึ่งเป็นหลักการลงทุนปกติที่ทั้งโลกทำกัน
ดร.ชัชชาติ ย้ำว่า รถไฟไทยที่ใช้กันมาร้อยกว่าปี “ในหลวงรัชกาลที่ 5” ทรงโปรดให้ออกพันธบัตรกู้เงินมูลค่า 9 ล้านปอนด์ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.5 ต่อปี มาลงทุนก่อสร้างทางรถไฟ
ทรงมีพระเนตรยาวไกล ทรงเล็งเห็นความจำเป็นว่าประเทศไทยต้องพัฒนาให้มีการเดินรถไฟเพื่อประโยชน์ในระยะยาว
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการออกพันธบัตรกู้เงิน 9 ล้านปอนด์ เมื่อ 123 ปีก่อนถือเป็นการลงทุนมหาศาล ต้องใช้เวลาผ่อนชำระหนี้ถึง 40 ปี
บัดนี้ อดีตได้พิสูจน์อนาคตว่าการกู้เงินพัฒนาประเทศไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
ถ้าเป็นโครงการลงทุนที่จะเกิดประโยชน์ระยะยาว....
เราต้องกล้ากู้เงินมาลงทุน
“ดร.ชัชชาติ” ชี้ว่าปัจจุบัน ประเทศ ไทยมีถนนยาวกว่า 2 แสน กม. แต่มีเส้นทางรถไฟสั้นจู๋เพียง 4,037 กม.
ทั้งๆที่ต้นทุนค่าขนส่งทางถนน แพงกว่าต้นทุนค่าขนส่งทางรถไฟกว่าเท่าตัว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ รางรถไฟทั่วประเทศ ที่ใช้ในปัจจุบัน 4,037 กม. ได้ก่อสร้างใช้งานมาก่อน พ.ศ.2494 (ยุครัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม) ถึง 3,368 กม.
แสดงว่า 64 ปีที่ผ่านไป ประเทศไทยขยายเส้นทางรถไฟเพิ่มขึ้นเพียง 666 กม. เท่านั้นเอง
ดร.ชัชชาติ สรุปว่าการที่ประเทศ ไทยหยุดลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศมา 10 ปี ทำให้ผลการจัดอันดับโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยตกรูดไปอยู่อันดับ 61 ของโลกในปัจจุบัน
โดนมาเลเซีย (อันดับ 29) แซงหน้าไปหลายช่วงตัว
ศาลรัฐธรรมนูญที่เคารพท่านยังมีความสุขดีนะโยม.
วันนี้ คนดีของกะลาแลนด์ เป่าสากอีกแล้ว 5555555555
เอาไงครับท่านจะกู้ หรือ จะแก้ เพื่อนสลิ่มผมรออยู่