สวัสดีครับเพื่อนๆ เพื่อนๆเคยเป็นเหมือนกันมั้ยครับ อารมณ์ว่าซื้อหนังสือ 10 เล่ม แต่อ่านจบแค่ 2 เล่ม! ส่วนที่เหลือโดนอัญเชิญขึ้นหิ้ง ...
credit ภาพ: Evelian Deconinck flickr
ถ้าตอบว่าใช่ก็ไม่แปลกครับ เพราะผมเชื่อว่ามีคนอีกจำนวนมากที่เป็นแบบเดียวกับคุณ
วันนี้ผมได้ลองวิเคราะห์หาสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจซื้อหนังสือของพวกเค้าเหล่านั้นดูครับ
*ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วย ณ ครับ เป็นเด็กน้อยหัดตั้งกระทู้ เพิ่งเล่น Pantip วันแรก
ขอบคุณครับ ^^
------------------------------------------------------
หลายครั้งที่เราซื้อหนังสือมา เปิดอ่านไปสัก 2-3 chapter จากนั้นก็วางมันทิ้งไว้บนโต๊ะไม้แสนสวยในห้องอ่านหนังสือของคุณ แล้วบอกตัวเองว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่านต่อให้จบสัปดาห์หน้า ปรากฎว่าสัปดาห์ถัดมา คุณก็ได้ไปพบกับหนังสือเล่มใหม่ที่วางอยู่หน้าร้านหนังสือโดดเด่นดูดีน่าอ่านเกินกว่าจะอดใจซื้อไหว แล้วหนังสือเล่มเดิมบนโต๊ะของคุณก็ได้รับการเลื่อนขั้น อัญเชิญไปอยู่บนหิ้งหนังสือที่เรียงรายไปด้วยหนังสือสุดคูลของคุณราวกับเป็นห้องสมุดย่อมๆ
ผมสังเกตและรวบรวมข้อมูลพบว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะคุณอาจอยู่ในสภาวะใดสภาวะหนึ่งหรือหลายสภาวะเหล่านี้รวมกันก็ได้ครับ
สภาวะแรก - สภาวะ "มันต้องมีประโยชน์กับชีวิตเราแน่ๆ" สภาวะนี้มักเกิดขึ้นตอนเรามีไฟ หรือกำลังหาแรงบันดาลใจบางอย่างให้กับชีวิตเรา เรามักจะเดินดิ่งเข้าไปในโซนหนังสือที่เรามองหา ไล่ดูหนังสือทีละเล่ม เริ่มถูกสะกดจิตด้วยหน้าปกอันสวยงาม ชื่อหนังสือที่เย้ายวล โดนใจ และตัดสินใจเลือกไม่ถูกสักที สุดท้ายรู้ตัวอีกทีเดินออกจากร้านพร้อมหนังสือ 8 เล่ม
สภาวะ "ดูดีมีรสนิยม เหมาะสมกับตัวเรา" สภาวะนี้มันเกิดขึ้นตอนเรากำลังสแกนดูหนังสืออยู่ แล้วไปสะดุดเข้ากับหนังสือที่มันช่างออกแบบมาได้ดูดีเหลือเกิน ทั้งหน้าปก ฟอนท์ วิธีการจัดเรียง วัสดุ การเย็บเล่ม เป็นต้น กรณีคุณกำลังมองหนังสือเล่มนั้นเป็นดั่งงานศิลปะ จิตใต้สำนึกของคุณเชื่อมโยงประสบการณ์ในอดีตและรสนิยมส่วนตัวหัวคุณ กับ Essence ต่างๆของหนังสือโดยไม่รู้ตัว เปรียบเสมือนคุณกำลังจะซื้องานศิลปะสักชิ้นที่ใช้ Emotion เยอะมากในการตัดสินใจซื้อ
สภาวะ "ใครๆก็อ่าน เราก็ต้องอ่านบ้าง" เป็นสภาวะคล้ายๆกับตอนที่เราโดนสะกดจิตโดนเทรนด์แฟชั่นมาแรง อารมณ์ว่าเค้ามีเราก็ต้องมีบ้าง ไม่อ่านเดี๋ยวไปคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง
สภาวะ "ปลื้มนักเขียน" สภาวะนี้คล้ายๆกับการปลื้มดารา คนดังต่างๆ อยากอ่านผลงานเค้า หรือบางครั้งแค่อยากอุดหนุนเป็นกำลังใจให้เค้า อยากไปเอาลายเซ็นเค้าในงาน อยากสะสม อยากไปโผล่หน้าให้นักเขียนคนนั้นเห็นว่า "ชั้นซื้อของเธอตลอดเลยน้า ติดตามตลอดเลยน้า"
สภาวะ "ซื้อเพื่อความคูล" สภาวะนี้เป็นการซื้อหนังสือ เพื่อจงใจทำ Personal Branding อ่านไม่อ่านอีกเรื่องหนึ่ง โดยผู้ซื้อแต่ละคนก็ทำ Personal Branding ให้ตัวเองต่างๆกันไปเช่น วัยรุ่นที่ซื้อนิตยสารแฟชั่นชื่อดังเพื่อให้ตัวเองดูเป็น fashion people, เด็กเนิร์ดที่ซื้อ text วิทยาศาสตร์เล่มใหญ่ถือไปถือมาให้ตัวเองดูฉลาดล้ำตลอดเวลา, วัยรุ่นที่ซื้อนิตยสารนอกกระแส เพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองเป็นคนไม่ชอบตามใคร เป็นต้น
สภาวะ "หนังสือไม่ได้หมดอายุไวเหมือนนม ซื้อไปเดี๋ยวก็ได้อ่าน"สภาวะนี้เป็นสภาวะที่ผู้ซื้อให้เหตุผลกับตัวเอง เพื่อทำให้จิตใจรู้สึกสบายขึ้นในการตัดสินใจซื้อหนังสือสักเล่ม หรือพูดง่ายๆคือทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นนั่นเอง เพราะคิดว่าซื้อไปก่อน หนังสือมันดีไม่ได้อ่านตอนนี้ วันหน้าก็ได้อ่าน แต่จริงๆแล้วอาจจะไม่ได้อ่านเลยก็ได้ ฮ่าๆ
สภาวะ "ขยันชั่วคราว" เป็นสภาวะที่ตัวเองถูกสะกดจิตโดยหนังสือจำนวนมาก โดยบรรยากาศในร้านหนังสือ หรือถ้าจะให้ใหญ่กว่านั้นคือบรรยากาศในเทศกาลหนังสือ/ในสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ทุกๆอย่างที่รายล้อมตัวคุณภายในงานกำลังสะกดจิตใต้สำนึกของคุณให้เชื่อมโยงกับความขยัน ความใฝ่รู้ จนเกิดความอยากจะอ่าน เกิดความขยันขึ้นชั่วคราว และคว้าหนังสือแบบไม่ยั้ง จนมารู้สึกตัวอีกทีก็นั่งอ่านหนังสือไม่ทัน มีหนังสือขึ้นหิ้งมากมายไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่มีส่วนในการสะกดจิตให้คุณซื้อหนังสือหลายเล่มได้โดยไม่รู้ตัวดังต่อไปนี้ เช่น เรื่องราคา ราคาของหนังสือนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถเอื้อมถึงได้ ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่าย ต่างจากสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ที่เป็นสินค้า High Involvement ตัดสินใจซื้อได้ยากกว่ามาก หรือ อาจเป็นโปรโมชั่นลด 40% ซื้อสองเล่มแถม 1 เล่ม หรือแม้แต่ ป้ายแนะนำ Best Seller, Must Have, Sold Out ต่างๆ ก็มีส่วนในการตัดสินใจทั้งสิ้นครับ
ว่าแต่เพื่อนๆเคยตกอยู่ในสภาวะไหนกันบ้างเอ่ย? ^^
---------------------------------------------------------------------------------------
เคยเป็นมั้ย? ซื้อหนังสือมายังอ่านไม่หมด แต่ก็ยังซื้อเล่มใหม่มาอีกเรื่อยๆ
credit ภาพ: Evelian Deconinck flickr
ถ้าตอบว่าใช่ก็ไม่แปลกครับ เพราะผมเชื่อว่ามีคนอีกจำนวนมากที่เป็นแบบเดียวกับคุณ
วันนี้ผมได้ลองวิเคราะห์หาสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจซื้อหนังสือของพวกเค้าเหล่านั้นดูครับ
*ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วย ณ ครับ เป็นเด็กน้อยหัดตั้งกระทู้ เพิ่งเล่น Pantip วันแรก
ขอบคุณครับ ^^
------------------------------------------------------
หลายครั้งที่เราซื้อหนังสือมา เปิดอ่านไปสัก 2-3 chapter จากนั้นก็วางมันทิ้งไว้บนโต๊ะไม้แสนสวยในห้องอ่านหนังสือของคุณ แล้วบอกตัวเองว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่านต่อให้จบสัปดาห์หน้า ปรากฎว่าสัปดาห์ถัดมา คุณก็ได้ไปพบกับหนังสือเล่มใหม่ที่วางอยู่หน้าร้านหนังสือโดดเด่นดูดีน่าอ่านเกินกว่าจะอดใจซื้อไหว แล้วหนังสือเล่มเดิมบนโต๊ะของคุณก็ได้รับการเลื่อนขั้น อัญเชิญไปอยู่บนหิ้งหนังสือที่เรียงรายไปด้วยหนังสือสุดคูลของคุณราวกับเป็นห้องสมุดย่อมๆ
ผมสังเกตและรวบรวมข้อมูลพบว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะคุณอาจอยู่ในสภาวะใดสภาวะหนึ่งหรือหลายสภาวะเหล่านี้รวมกันก็ได้ครับ
สภาวะแรก - สภาวะ "มันต้องมีประโยชน์กับชีวิตเราแน่ๆ" สภาวะนี้มักเกิดขึ้นตอนเรามีไฟ หรือกำลังหาแรงบันดาลใจบางอย่างให้กับชีวิตเรา เรามักจะเดินดิ่งเข้าไปในโซนหนังสือที่เรามองหา ไล่ดูหนังสือทีละเล่ม เริ่มถูกสะกดจิตด้วยหน้าปกอันสวยงาม ชื่อหนังสือที่เย้ายวล โดนใจ และตัดสินใจเลือกไม่ถูกสักที สุดท้ายรู้ตัวอีกทีเดินออกจากร้านพร้อมหนังสือ 8 เล่ม
สภาวะ "ดูดีมีรสนิยม เหมาะสมกับตัวเรา" สภาวะนี้มันเกิดขึ้นตอนเรากำลังสแกนดูหนังสืออยู่ แล้วไปสะดุดเข้ากับหนังสือที่มันช่างออกแบบมาได้ดูดีเหลือเกิน ทั้งหน้าปก ฟอนท์ วิธีการจัดเรียง วัสดุ การเย็บเล่ม เป็นต้น กรณีคุณกำลังมองหนังสือเล่มนั้นเป็นดั่งงานศิลปะ จิตใต้สำนึกของคุณเชื่อมโยงประสบการณ์ในอดีตและรสนิยมส่วนตัวหัวคุณ กับ Essence ต่างๆของหนังสือโดยไม่รู้ตัว เปรียบเสมือนคุณกำลังจะซื้องานศิลปะสักชิ้นที่ใช้ Emotion เยอะมากในการตัดสินใจซื้อ
สภาวะ "ใครๆก็อ่าน เราก็ต้องอ่านบ้าง" เป็นสภาวะคล้ายๆกับตอนที่เราโดนสะกดจิตโดนเทรนด์แฟชั่นมาแรง อารมณ์ว่าเค้ามีเราก็ต้องมีบ้าง ไม่อ่านเดี๋ยวไปคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง
สภาวะ "ปลื้มนักเขียน" สภาวะนี้คล้ายๆกับการปลื้มดารา คนดังต่างๆ อยากอ่านผลงานเค้า หรือบางครั้งแค่อยากอุดหนุนเป็นกำลังใจให้เค้า อยากไปเอาลายเซ็นเค้าในงาน อยากสะสม อยากไปโผล่หน้าให้นักเขียนคนนั้นเห็นว่า "ชั้นซื้อของเธอตลอดเลยน้า ติดตามตลอดเลยน้า"
สภาวะ "ซื้อเพื่อความคูล" สภาวะนี้เป็นการซื้อหนังสือ เพื่อจงใจทำ Personal Branding อ่านไม่อ่านอีกเรื่องหนึ่ง โดยผู้ซื้อแต่ละคนก็ทำ Personal Branding ให้ตัวเองต่างๆกันไปเช่น วัยรุ่นที่ซื้อนิตยสารแฟชั่นชื่อดังเพื่อให้ตัวเองดูเป็น fashion people, เด็กเนิร์ดที่ซื้อ text วิทยาศาสตร์เล่มใหญ่ถือไปถือมาให้ตัวเองดูฉลาดล้ำตลอดเวลา, วัยรุ่นที่ซื้อนิตยสารนอกกระแส เพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองเป็นคนไม่ชอบตามใคร เป็นต้น
สภาวะ "หนังสือไม่ได้หมดอายุไวเหมือนนม ซื้อไปเดี๋ยวก็ได้อ่าน"สภาวะนี้เป็นสภาวะที่ผู้ซื้อให้เหตุผลกับตัวเอง เพื่อทำให้จิตใจรู้สึกสบายขึ้นในการตัดสินใจซื้อหนังสือสักเล่ม หรือพูดง่ายๆคือทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นนั่นเอง เพราะคิดว่าซื้อไปก่อน หนังสือมันดีไม่ได้อ่านตอนนี้ วันหน้าก็ได้อ่าน แต่จริงๆแล้วอาจจะไม่ได้อ่านเลยก็ได้ ฮ่าๆ
สภาวะ "ขยันชั่วคราว" เป็นสภาวะที่ตัวเองถูกสะกดจิตโดยหนังสือจำนวนมาก โดยบรรยากาศในร้านหนังสือ หรือถ้าจะให้ใหญ่กว่านั้นคือบรรยากาศในเทศกาลหนังสือ/ในสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ทุกๆอย่างที่รายล้อมตัวคุณภายในงานกำลังสะกดจิตใต้สำนึกของคุณให้เชื่อมโยงกับความขยัน ความใฝ่รู้ จนเกิดความอยากจะอ่าน เกิดความขยันขึ้นชั่วคราว และคว้าหนังสือแบบไม่ยั้ง จนมารู้สึกตัวอีกทีก็นั่งอ่านหนังสือไม่ทัน มีหนังสือขึ้นหิ้งมากมายไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่มีส่วนในการสะกดจิตให้คุณซื้อหนังสือหลายเล่มได้โดยไม่รู้ตัวดังต่อไปนี้ เช่น เรื่องราคา ราคาของหนังสือนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถเอื้อมถึงได้ ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่าย ต่างจากสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ที่เป็นสินค้า High Involvement ตัดสินใจซื้อได้ยากกว่ามาก หรือ อาจเป็นโปรโมชั่นลด 40% ซื้อสองเล่มแถม 1 เล่ม หรือแม้แต่ ป้ายแนะนำ Best Seller, Must Have, Sold Out ต่างๆ ก็มีส่วนในการตัดสินใจทั้งสิ้นครับ
ว่าแต่เพื่อนๆเคยตกอยู่ในสภาวะไหนกันบ้างเอ่ย? ^^
---------------------------------------------------------------------------------------