ศุกร์ลั้ลลา ..... สวัสดีคะ อภิมหามวลมหาประชาชิมชาวก้นครัวทุกท่าน
บ่งบ๊งศรีมาชวนเพื่อน ๆ หิวข้าวยามเช้า คงจะเรียบร้อยมื้อเช้ากันไปแล้ว
วันนี้อากาศเปลี่ยนแปลงอีกแล้วคะพี่น้อง เมื่อเช้านี้ตื่นมาอากาศครึ้ม ๆ
เดินออกไปท้ายบ้านลมหนามเย็นมาปะทะผิวกาย อากาศเย็นสบายสดชื่น
แต่พอตกบ่ายแดดเปรี้ยง ร้อนอบอ้าวเหมือนเดิม แว่วว่าอากาศจะเย็นขึ้นอีก
หลายวันก่อนไปขุดพบซากฟอสซิลปลาคังที่อัดน้ำแข็งอยู่ในห้องดับจิต
หลงลืมไปสนิทว่าเราได้ซื้อเนื้อปลาคังสดมาจากแหล่งใหญ่ที่เมืองกาญจน์
ซื้อมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ แต่โชคดีที่ตอนซื้อมาเป็นปลาสด ๆ ตัวเป็น ๆ
น้องปลายังแหวกว่ายไหว ๆ ในอ่างใหญ่ ให้เขาแล่เนื้อมาให้เบ็ดเสร็จเลย
ถ้าเป็นปลาสด หรือของทะเลที่คุณซื้อมาในขณะที่ยังมีชีวิต ตัวเป็นเต้นได้
แม้นคุณจะเก็บไว้นานแรมเดือน สภาพของเนื้อสัตว์เหล่านั้นยังคงสดคะ
อย่างเนื้อปลาคังที่บ่งบ๊งซื้อมานี้ นานสองเดือนสภาพยังแจ๋วมาก ยังคงสด
บ่งบ๊งเอ๋ย ไม่ต้องพล่ามน้ำลายแตกฟอง มาลงมือแกงเขียวหวานปลาคัง
เอาให้ทันรับประทานกันในมื้อเที่ยงนี้น่าจะดีนะ ตามมาคะน้องพี่คนก้นครัว
เขียวหวานปลาคังใส่สะตอ
เนื้อปลาคังจะคล้าย ๆ ปลาบึก เนื้อปลาจะมีความกรุบ
แกงเขียวหวานน้ำขลุกขลิกครั้งนี้บ่งบ๊งเลือกใส่ลูกสะตอแทนมะเขือ
สูตรพริกแกงเขียวหวานสำหรับท่านที่ไม่ชอบพริกแกงสูตรสำเร็จ
ท่านก็คงต้องออกแรงโขลกพริกแกงเอง แต่ได้รสชาติอร่อยสมใจคะ
แกงเขียวหวานปลาคัง
พริกแกงเขียวหวาน
ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนคาว
ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
พริกไทยขาว 5 เม็ด
พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30-50 เม็ด
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ช้อนคาว
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
กระเทียม 9 กลีบ
หอมแดงซอย 3 หัว
กะปิ 1 ช้อนชา
วิธีทำน้ำพริกแกง
โขลกลูกผักชี, ยี่หร่า, และพริกไทยเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้
โขลกพริกขี้หนูสีเขียวกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด
ใส่ข่าหั่น, ตะไคร้ซอย, ผิวมะกรูดหั่น, รากผักชี หั่น แล้วโขลกรวมกันให้ละเอียด
ใส่กระเทียมสับ, หอมแดงซอย โขลกรวมกันให้ละเอียด
ใส่เครื่องเทศที่โขลกไว้ และกะปิ โขลกให้เข้ากันดี ตัดใส่ถ้วยพักไว้
บ่งบ๊งเลือกใช้พริกแกงสำเร็จรูปที่มาวางขายที่ตลาด อตก. พริกแกงจากยะลา
เป็นแกงของคนใต้ แต่ราคาค่อนข้างสูง แต่รสชาตินั้นเด็ดขาดมากคะพี่น้อง
ส่วนประกอบอื่น ๆ
เนื้อปลาคังสด 500 กรัม
มะเขือชนิดต่าง ๆ 300 กรัม
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนคาว
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนคาว
น้ำมันพืช 1 ช้อนคาว
ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
กระชายซอย 100 กรัม
พริกชี้ฟ้าแดง-เขียว-เหลือง-ใบโหระพา
พริกชี้ฟ้าเหลืองและหัวกระชายจะขาดไม่ได้สำหรับตู้เย็นที่บ้านเรา
สิ่งที่ต้องเตรียม
เนื้อปลา – ล้างเนื้อปลาด้วยเกลือหรือน้ำมะขามเปียกให้สะอาด น้ำมะขามช่วยลดกลิ่นคาวปลา
พริกแกง – นำส่วนผสมน้ำพริกแกงทั้งหมดใส่ในครก โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด แล้วพักไว้
มะเขือ – ล้างทำความสะอาด หั่นเป็นชิ้น แล้วล้างผ่านน้ำอีกรอบเพื่อล้างยางออก ทำให้สีไม่หมอง
กระชาย – ล้างทำความสะอาด ขูดเปลือกออกนิดหน่อยแล้วซอยฝอย ๆ พักไว้
ใบโหระพา – ล้างทำความสะอาด แล้วเด็ดเป็นใบ ๆ พักไว้
พริกชี้ฟ้าแดง / เขียว / เหลือง – ล้างทำความสะอาดแล้วหั่นแฉลบ ๆ พักไว้
วิธีทำ
* ตั้งกระทะใส่น้ำมัน นำพริกแกงผัดกับน้ำมันให้หอม
* แบ่งหัวกะทิ 1 ถ้วยใส่ลงไป เคี่ยวเล็กน้อยเพื่อให้หัวกะทิแตกมัน
* ใส่เนื้อปลาที่พักไว้ลงผัดให้สุก แล้วเติมหางกะทิ 1 ถ้วยลงไป
* ปรุงรสด้วยน้ำปลา / เกลือ, น้ำตาลปีบ, ใส่มะเขือ ต้มต่อสักครู่จนมะเขือสุกดี
* ก่อนดับไฟ ฉีกใบมะกรูดใส่ไป ใส่พริกชี้ฟ้าสามสี
* ใส่ใบโหระพา ต้องใส่ตอนที่แกงยังร้อนและเดือด
ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป 1 ช้อนคาว
ใส่พริกแกงลงผัดกับหัวกะทิให้แตกมันเล็กน้อย
ใส่เนื้อปลา หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ลงผัดกับพริกแกง
ถ้าเนื้อปลาสดเวลาผัดไม่ต้องกลัวว่าเนื้อปลาจะเละ
ใส่มะเขือ [เราใส่ลูกสะตอ] ใส่พริกเหลืองหั่น ใส่กระชายซอย
แบ่งใส่ใบโหระพาบางส่วนลงไป ใกล้ดับไฟใส่ส่วนที่เหลือ
โหระพาถ้าใส่ไปตอนปิดไฟเตาแล้วจะทำให้ใบผักสีหมองคล้ำไม่สวย
ใส่ใบโหระพาไปแล้วคนผสมเบา ๆ ให้เข้ากันดี เสร็จแล้วดับไฟเตา
บ่งบ๊งจะแบ่งหัวกะทิไว้ส่วนหนึ่งแล่วเทใส่ไปในตอนท้ายสุดก่อนดับไฟ
วิธีการแบบนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบให้กะทิในแกงแตกมันลอยเอ่อขึ้นมา
พริกแกงสมัยนี้เขามักใส่สีผสมอาหาร หรือใบพริก ใบกระท้อนเข้าไปด้วย
ใส่เพื่อให้ได้น้ำแกงที่ออกมามีสีสันสวยงาม เขียวจัด แดงเวอร์
บางคนก็โขลกก้านพริกขี้หนูใส่เข้าไปด้วยเพื่อให้พริกแกงมีกลิ่นหอม
ดูลายเส้นเนื้อปลาคังกันให้ชัด ๆ เนื้อปลาสดมาก ผัดแล้วไม่เละ
บ่งบ๊งชอบมากแกงเขียวหวาน แกงเผ็ด แกงพะแนง เพิ่มพริกขี้หนูสด
โดยโขลกไปในน้ำพริกแกงแล้ว ยังต้องใส่เพิ่มในแกงแบบนี้ด้วย
เคี้ยวข้าวราดแกงแล้วเคี้ยวพริกขี้หนูสวนทั้งเม็ดไปด้วยได้อรรถรสมาก
เป็นอย่างไรบ้างคะ แกงเขียวหวานปลาคังกระทะนี้ของบ่งบ๊งศรี
หน้าตาเข้าตากรรมการท่านใดบ้าง ขอเสียงคอมเม้นท์หน่อยนะคะ
เพื่อนหลานชายมาทานข้าวด้วย นางชอบแกงเขียวหวานใส่สะตอแบบนี้มาก
กินไปเป่าปากไปด้วยความเผ็ดของแกงบวกกับความมันของลูกสะตอ ซี๊ดดดด
หน้าตาแกงเขียวหวานเนื้อปลา สู้กับแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลาได้หรือไม่คะ
อ๊ะ อ๊ะ เค้าเห็นน๊า ท่านที่แวะมาเยี่ยมชมแอบน้ำลายไหลเยิ้ม
555 666 หิวข้าวเที่ยงกันแล้ว ใช่หรือไม่คะพี่น้อง คิกคิก
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม แวะมาให้กำลังใจ
ส่วนมื้อเที่ยงวันนี้มองหาแกงเขียวหวานแถวที่ทำงานประทังไปก่อน
วันหนุดนี้หากท่านมีเวลาลองทำแกงเขียวหวานพริกสดรับประทานกัน
อิ่มคาวแล้วอย่าลืมล้างปากด้วยของหวาน แบบนี้ถึงจะเรียกว่าครบถ้วนคะ
ขอให้วันนี้เป็นวันศุกร์ที่มีแต่ความสุขและรอยยิ้ม มีความสุขทุกท่านคะ
[CR] +*""*+ บ่งบ๊งชวนชม > แกงเขียวหวานปลาคัง-สะตอ < ขอเชิญมามุง +*""*+
ศุกร์ลั้ลลา ..... สวัสดีคะ อภิมหามวลมหาประชาชิมชาวก้นครัวทุกท่าน
บ่งบ๊งศรีมาชวนเพื่อน ๆ หิวข้าวยามเช้า คงจะเรียบร้อยมื้อเช้ากันไปแล้ว
วันนี้อากาศเปลี่ยนแปลงอีกแล้วคะพี่น้อง เมื่อเช้านี้ตื่นมาอากาศครึ้ม ๆ
เดินออกไปท้ายบ้านลมหนามเย็นมาปะทะผิวกาย อากาศเย็นสบายสดชื่น
แต่พอตกบ่ายแดดเปรี้ยง ร้อนอบอ้าวเหมือนเดิม แว่วว่าอากาศจะเย็นขึ้นอีก
หลายวันก่อนไปขุดพบซากฟอสซิลปลาคังที่อัดน้ำแข็งอยู่ในห้องดับจิต
หลงลืมไปสนิทว่าเราได้ซื้อเนื้อปลาคังสดมาจากแหล่งใหญ่ที่เมืองกาญจน์
ซื้อมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ แต่โชคดีที่ตอนซื้อมาเป็นปลาสด ๆ ตัวเป็น ๆ
น้องปลายังแหวกว่ายไหว ๆ ในอ่างใหญ่ ให้เขาแล่เนื้อมาให้เบ็ดเสร็จเลย
ถ้าเป็นปลาสด หรือของทะเลที่คุณซื้อมาในขณะที่ยังมีชีวิต ตัวเป็นเต้นได้
แม้นคุณจะเก็บไว้นานแรมเดือน สภาพของเนื้อสัตว์เหล่านั้นยังคงสดคะ
อย่างเนื้อปลาคังที่บ่งบ๊งซื้อมานี้ นานสองเดือนสภาพยังแจ๋วมาก ยังคงสด
บ่งบ๊งเอ๋ย ไม่ต้องพล่ามน้ำลายแตกฟอง มาลงมือแกงเขียวหวานปลาคัง
เอาให้ทันรับประทานกันในมื้อเที่ยงนี้น่าจะดีนะ ตามมาคะน้องพี่คนก้นครัว
เขียวหวานปลาคังใส่สะตอ
เนื้อปลาคังจะคล้าย ๆ ปลาบึก เนื้อปลาจะมีความกรุบ
แกงเขียวหวานน้ำขลุกขลิกครั้งนี้บ่งบ๊งเลือกใส่ลูกสะตอแทนมะเขือ
สูตรพริกแกงเขียวหวานสำหรับท่านที่ไม่ชอบพริกแกงสูตรสำเร็จ
ท่านก็คงต้องออกแรงโขลกพริกแกงเอง แต่ได้รสชาติอร่อยสมใจคะ
แกงเขียวหวานปลาคัง
พริกแกงเขียวหวาน
ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนคาว
ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
พริกไทยขาว 5 เม็ด
พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30-50 เม็ด
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ช้อนคาว
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
กระเทียม 9 กลีบ
หอมแดงซอย 3 หัว
กะปิ 1 ช้อนชา
วิธีทำน้ำพริกแกง
โขลกลูกผักชี, ยี่หร่า, และพริกไทยเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้
โขลกพริกขี้หนูสีเขียวกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด
ใส่ข่าหั่น, ตะไคร้ซอย, ผิวมะกรูดหั่น, รากผักชี หั่น แล้วโขลกรวมกันให้ละเอียด
ใส่กระเทียมสับ, หอมแดงซอย โขลกรวมกันให้ละเอียด
ใส่เครื่องเทศที่โขลกไว้ และกะปิ โขลกให้เข้ากันดี ตัดใส่ถ้วยพักไว้
บ่งบ๊งเลือกใช้พริกแกงสำเร็จรูปที่มาวางขายที่ตลาด อตก. พริกแกงจากยะลา
เป็นแกงของคนใต้ แต่ราคาค่อนข้างสูง แต่รสชาตินั้นเด็ดขาดมากคะพี่น้อง
ส่วนประกอบอื่น ๆ
เนื้อปลาคังสด 500 กรัม
มะเขือชนิดต่าง ๆ 300 กรัม
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนคาว
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนคาว
น้ำมันพืช 1 ช้อนคาว
ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
กระชายซอย 100 กรัม
พริกชี้ฟ้าแดง-เขียว-เหลือง-ใบโหระพา
พริกชี้ฟ้าเหลืองและหัวกระชายจะขาดไม่ได้สำหรับตู้เย็นที่บ้านเรา
สิ่งที่ต้องเตรียม
เนื้อปลา – ล้างเนื้อปลาด้วยเกลือหรือน้ำมะขามเปียกให้สะอาด น้ำมะขามช่วยลดกลิ่นคาวปลา
พริกแกง – นำส่วนผสมน้ำพริกแกงทั้งหมดใส่ในครก โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด แล้วพักไว้
มะเขือ – ล้างทำความสะอาด หั่นเป็นชิ้น แล้วล้างผ่านน้ำอีกรอบเพื่อล้างยางออก ทำให้สีไม่หมอง
กระชาย – ล้างทำความสะอาด ขูดเปลือกออกนิดหน่อยแล้วซอยฝอย ๆ พักไว้
ใบโหระพา – ล้างทำความสะอาด แล้วเด็ดเป็นใบ ๆ พักไว้
พริกชี้ฟ้าแดง / เขียว / เหลือง – ล้างทำความสะอาดแล้วหั่นแฉลบ ๆ พักไว้
วิธีทำ
* ตั้งกระทะใส่น้ำมัน นำพริกแกงผัดกับน้ำมันให้หอม
* แบ่งหัวกะทิ 1 ถ้วยใส่ลงไป เคี่ยวเล็กน้อยเพื่อให้หัวกะทิแตกมัน
* ใส่เนื้อปลาที่พักไว้ลงผัดให้สุก แล้วเติมหางกะทิ 1 ถ้วยลงไป
* ปรุงรสด้วยน้ำปลา / เกลือ, น้ำตาลปีบ, ใส่มะเขือ ต้มต่อสักครู่จนมะเขือสุกดี
* ก่อนดับไฟ ฉีกใบมะกรูดใส่ไป ใส่พริกชี้ฟ้าสามสี
* ใส่ใบโหระพา ต้องใส่ตอนที่แกงยังร้อนและเดือด
ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป 1 ช้อนคาว
ใส่พริกแกงลงผัดกับหัวกะทิให้แตกมันเล็กน้อย
ใส่เนื้อปลา หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ลงผัดกับพริกแกง
ถ้าเนื้อปลาสดเวลาผัดไม่ต้องกลัวว่าเนื้อปลาจะเละ
ใส่มะเขือ [เราใส่ลูกสะตอ] ใส่พริกเหลืองหั่น ใส่กระชายซอย
แบ่งใส่ใบโหระพาบางส่วนลงไป ใกล้ดับไฟใส่ส่วนที่เหลือ
โหระพาถ้าใส่ไปตอนปิดไฟเตาแล้วจะทำให้ใบผักสีหมองคล้ำไม่สวย
ใส่ใบโหระพาไปแล้วคนผสมเบา ๆ ให้เข้ากันดี เสร็จแล้วดับไฟเตา
บ่งบ๊งจะแบ่งหัวกะทิไว้ส่วนหนึ่งแล่วเทใส่ไปในตอนท้ายสุดก่อนดับไฟ
วิธีการแบบนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบให้กะทิในแกงแตกมันลอยเอ่อขึ้นมา
พริกแกงสมัยนี้เขามักใส่สีผสมอาหาร หรือใบพริก ใบกระท้อนเข้าไปด้วย
ใส่เพื่อให้ได้น้ำแกงที่ออกมามีสีสันสวยงาม เขียวจัด แดงเวอร์
บางคนก็โขลกก้านพริกขี้หนูใส่เข้าไปด้วยเพื่อให้พริกแกงมีกลิ่นหอม
ดูลายเส้นเนื้อปลาคังกันให้ชัด ๆ เนื้อปลาสดมาก ผัดแล้วไม่เละ
บ่งบ๊งชอบมากแกงเขียวหวาน แกงเผ็ด แกงพะแนง เพิ่มพริกขี้หนูสด
โดยโขลกไปในน้ำพริกแกงแล้ว ยังต้องใส่เพิ่มในแกงแบบนี้ด้วย
เคี้ยวข้าวราดแกงแล้วเคี้ยวพริกขี้หนูสวนทั้งเม็ดไปด้วยได้อรรถรสมาก
เป็นอย่างไรบ้างคะ แกงเขียวหวานปลาคังกระทะนี้ของบ่งบ๊งศรี
หน้าตาเข้าตากรรมการท่านใดบ้าง ขอเสียงคอมเม้นท์หน่อยนะคะ
เพื่อนหลานชายมาทานข้าวด้วย นางชอบแกงเขียวหวานใส่สะตอแบบนี้มาก
กินไปเป่าปากไปด้วยความเผ็ดของแกงบวกกับความมันของลูกสะตอ ซี๊ดดดด
หน้าตาแกงเขียวหวานเนื้อปลา สู้กับแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลาได้หรือไม่คะ
อ๊ะ อ๊ะ เค้าเห็นน๊า ท่านที่แวะมาเยี่ยมชมแอบน้ำลายไหลเยิ้ม
555 666 หิวข้าวเที่ยงกันแล้ว ใช่หรือไม่คะพี่น้อง คิกคิก
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม แวะมาให้กำลังใจ
ส่วนมื้อเที่ยงวันนี้มองหาแกงเขียวหวานแถวที่ทำงานประทังไปก่อน
วันหนุดนี้หากท่านมีเวลาลองทำแกงเขียวหวานพริกสดรับประทานกัน
อิ่มคาวแล้วอย่าลืมล้างปากด้วยของหวาน แบบนี้ถึงจะเรียกว่าครบถ้วนคะ
ขอให้วันนี้เป็นวันศุกร์ที่มีแต่ความสุขและรอยยิ้ม มีความสุขทุกท่านคะ