อกหัก มารักมรรคผล

หลายครั้งที่คนเราในยามที่อกหัก จะใช้คืนวันที่ผ่านไป จมอยู่กับความทรมาน คำถาม การทำร้ายตัวเอง การตัดพ้อ และความคาดหวังใหม่ ๆ ที่ไร้ผล แต่กับบางคน กลับเลือกทีจะใช้ช่วงเวลานั้น สร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง

สมัยพุทธกาล มีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอแต่งงานกินอยู่กับสามี แต่สามีของเธอ ไม่เอาใจใส่ไยดีกับเธอเลย มีเธออยู่ก็เหมือนไม่มี ทำตัวเหมือนว่าเธอไม่มีความหมาย

ด้วยความที่นางเป็นบัณฑิต ทำให้ปฏิกิริยาของนางต่างจากผู้หญิงทั่วไป ที่จะร้อนใจ หรือเสียใจเพราะการที่สามีไม่สนใจ ไปมีคนอื่น

เป็นผู้หญิงคนอื่นคงทรมานกระวนกระวาย แต่นางกลับเห็นว่า จะประโยชน์อะไรด้วยสามีเยี่ยงนี้

นางไม่คร่ำครวญเสียใจ แต่กลับใช้เวลาถวายทานรักษาศีล บำรุงพระสงฆ์และพระศาสดา และนางไม่ห่างจากกรรมฐานเลย  

ภายในเวลาไม่นาน นางได้บรรลุโสดาบัน จากนั้นนางจึงใช้เวลาเสพสุขในผลสมาบัติตลอดวันทุก ๆ วัน

ผลสมาบัติ เป็นสมาธิชั้นพิเศษ ที่คนที่สัมผัสนิพพานเท่านั้น จะเข้าสมาธิอย่างนี้ได้

(ที่วัดอัมพวัน อุบาสิกาบางท่าน เข้าผลสมาบัติได้เป็นวัน ๆ )


นาง เข้าสมาบัติได้ จนนางพิจารณาเห็นว่า ชีวิตนางไม่ได้มีภาระอะไร สามีก็ไม่ใส่ใจไยดี ไม่จำเป็นต้องครองเรือนให้เสียเวลา ถ้าสามีนางดี ก็ยังพอให้อยากครองเรือนอยู่บ้าง แต่นี่ไม่ดี เห็นโทษปรากฎแล้ว นางจึงออกบวช

บวชได้ไม่กั้วันนางก็บรรลุอรหันต์

การกระทำของนาง ปรากฎในหมฟุ่พระภิกษุ เป็น talk of the temple

พระพุทธเจ้าทรงเห็นพระภิกษุจับกลุ่มสนทนากันถึงเรื่องนาง ว่าเป็นไปได้อย่างไร ที่ผู้หญิงคนนึง พอรู้ว่าสามีไม่ไยดี แต่กลับไม่ทิ้งเวลา ทำประโยชน์ตนเองให้สำเร็จได้ ได้ตรัสสอนว่ ตรัสว่า ไม่ใช่เพียงชาตินี้เท่านั้นที่นางเป็นบัณฑิต แต่ในอดีตชาติ นางก็บรนลุประโยชน์ของตนเองจากสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ได้มาแล้วเหมือนกัน และทรงนำชาดกมาตรัสเล่าต่อไปนี้


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่