ขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของดอกไม้ - Where Have All the Flowers Gone?

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของพีท ซีเกอร์ (Pete Seeger) นักร้องนักประพันธ์เพลงแนวเพลงอเมริกันพื้นบ้านระดับตำนาน เจ้าของบทเพลงสนับสนุนการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชนอันโด่งดังเช่น  “Where Have all the Flowers Gone” และ “If I had a Hammer”

พีท ซีเกอร์ (Pete Seeger) นักร้องนักประพันธ์เพลงแนวเพลงอเมริกันพื้นบ้านระดับตำนาน เป็นที่รู้จักจากบทเพลงสนับสนุนการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชนอันโด่งดังเช่น “If I had a Hammer” “Where Have all the Flowers Gone” “We Shall Overcome” และ "Turn! Turn! Turn!" ที่เป็นผู้ประพันธ์เอง หรือมีส่วนร่วมในการประพันธ์ ได้ถึงแก่กรรมแล้วขณะมีอายุ 94 ปี นิวยอร์กไทม์สรายงานอ้างคำกล่าวของหลานชายซึ่งยืนยันการเสียชีวิตของซีเกอร์ ว่า ปู่ของเขาเสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อวันจันทร์ (27) ที่โรงพยาบาลนิวยอร์ก-เพรสไบทีเรียน หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนาน 1 สัปดาห์
      
เพลงที่ซีเกอร์ประพันธ์มีความยืนยง ได้รับความนิยมเป็นเวลานานหลายทศวรรษ หลายเพลงในนั้นได้กลายเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ของผู้ถูกกดขี่ หรือการต่อต้านสงคราม แต่ละบทเพลงมีความโดดเด่นในเนื้อหาที่เรียบง่าย ให้จังหวะที่อ่อนหวานแต่มีพลังปลุกเร้า กับการเรียบเรียงดนตรีที่ไพเราะกินใจ และเป็นกำลังใจให้แก่นักต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหงทุกมุมโลกในช่วงทศวรรษที่ 1960-1970 รวมทั้งในช่วงปีแห่งสงครามเวียดนามด้วย เพลงของซีเกอร์ถูกนำเอาไปร้องและแสดงต่อโดยวงดนตรีโฟล์คและโฟล์คร็อกชั้นนำอีกหลายวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Peter, Paul and Mary ซึ่งทำให้เพลงเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก
      
ในช่วงทศวรรษที่ 1980-1990 และในต้นทศรรษใหม่ ซีเกอร์ ยังคงออกร่วมคอนเสิร์ต หรือร่วมปรากฏตัวกับนักร้องเพลงโฟล์คหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปีเตอร์ ยาร์โรว์ พอล สตูเกอร์ และแมรี ทราเวอร์ (Peter Paul & Mary) ซึ่งเคยกล่าวว่า ซีเกอร์ เป็นแรงบันดาลใจให้แก่พวกเขาและเธอ ปีเตอร์ พอล กับแมรี ยังคงออกแสดงคอนเสิร์ต หรือเปิดการแสดงตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการต่อสู้เรียกร้องเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือการปราบปรามกดขี่ข่มเหงจากรัฐบาล ทั้งในยุโรป แอฟริกา และอเมริกาใต้ จนกระทั่งแมรี ถึงแก่กรรมในปี 2552 ในขณะที่สมาชิกอีก 2 คน ของวงล้วนอยู่ในวัย 80

ซีเกอร์ เล่นกีตาร์ 12 สาย หรือแบนโจ 5 สาย ร้องเพลงที่มีคำร้องเป็นประเด็นเฉพาะ และมีทำนองง่ายๆ และมักชักชวนให้ผู้ฟังร่วมร้องเพลงไปกับเขาด้วย ในวัยหนุ่มในช่วงทศวรรษ 1940 และ 1950 เขาขับร้องเพลงเพื่อขบวนการเคลื่อนไหวแรงงาน ต่อมาได้ขับร้องเพลงเพื่อสิทธิพลเมือง และต่อต้านสงครามเวียดนามในช่วงทศวรรษ 1960 และร้องเพลงเพื่อสิ่งแวดล้อมและต่อต้านสงครามในช่วงทศวรรษ 1970 เขายังเป็นที่ปรึกษาให้แก่นักร้องเพลงโฟล์ค และเพลงเพื่อชีวิตคนอื่นๆ ในยุค 50 และ 60 เช่น บ็อบ ดีแลน และดอน แมคลีน
      
บรูซ สปริงสทีน ได้นำผลงานของซีเกอร์บรรจุลงในอัลบั้มปี 2549 ในชื่อว่า “We Shall Overcome : The Seeger Sessions” และในงานคอนเสิร์ตฉลองอายุครบ 90 ปี ของซีเกอร์ สปริงสทีนได้กล่าวถึงซีเกอร์ ว่า เป็นแหล่งข้อมูลที่มีชีวิตแห่งความนึกคิด และดนตรีอเมริกัน เป็นข้อพิสูจน์ของพลังแห่งเสียงเพลง และวัฒนธรรมที่สะกิดเตือนประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน
      
ตามรายงานของรอยเตอร์ ซีเกอร์ เป็นนักนิยมการเมืองแบบเสรีนิยม ได้ชื่อเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติตัวยงคนหนึ่ง รณรงค์ต่อต้านสงครามมาชั่วชีวิตจากเวียดนาม จนถึงอิรัก เคยถูกลงโทษจำคุกฐานไม่ยอมไปให้ปากคำต่อรัฐสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับบทบาทในพรรคคอมมิวนิสต์ นั่นคือเหตุการณ์ในช่วงทศวรรษที่ 1950 ที่มีนักร้องศิลปิน กระทั่งนักแสดงแห่งฮอลลีวูดหลายคนถูกกล่าวหาเป็นคอมมิวนิสต์
      
ซีเกอร์ ได้ร่วมแสดงคอนเสิร์ตยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามา สมัยแรกเมื่อปี 2552 และเมื่อปีที่แล้วด้วยวัย 93 ปี ยังไปร่วมคอนเสิร์ต Live at Farm Aid 2013 ร่วมกับศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคน เป็นคอนเสิร์ตสุดท้ายของเขา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่