สวัสดีค่ะ อ่านเรื่องราวของเพื่อนๆหลายคนเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก วันนี้เลยอยากจะเเชร์ การลดความอ้วนเเบบผิดๆ ที่เป็นประสบการ์ณชีวิตที่ไม่มีวันลืมให้ฟังค่ะ
ครอบครัวของเรา มีโครงสร้างที่ค่อนข้างใหญ่ทั้งครอบครัวค่ะ เเม่เราหนักเกือบ 100 กิโล สูง 178 เซนติเมตร พี่ชาย พี่สาวก็มีโครงสร้างใหญ่กันทั้งบ้าน ก่อนที่เราจะตัดสินใจใช้ยาลดน้ำหนัก นน.เราอยู่ประมาณ 68-69 ค่ะ เราสูง 165 ซม.
อันนี้เป็นภาพก่อนทานยาลดน้ำหนักค่ะ ขออนุญาติเซนเซอร์หน้านะคะ อายค่ะ ><
พอเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อนๆในมหาลัยก็มีเเต่ผอมๆ สวยๆ กันทั้งนั้น พอปิดเทอมปี 1 เราก็เลยลองหาข้อมูลเรื่องยาลดน้ำหนักที่ไหนได้ผล
เเละก็ไปเจอค่ะ เป็นโรงพยาบาลความสวยชื่อดัง ย่านจรัญ เป็นที่รู้จักเเน่นอนคะ เรากับเพื่อนก็ลองไปกันดูค่ะ เพราะชื่อเสียงของ รพ.ด้วย
เราไปกับเพื่อนเเละหลานค่ะ มีการกำชับหลานด้วยว่า ห้ามบอกที่บ้าน ก็ทำบัตร ตรวจความดันอะไรเรื่อย จนหมอเรียกเข้าพบ หมอก็ถามๆ เคยกินยามาไหม ก็ไม่เคยทานค่ะ หมอก็จดๆ เสร็จเเล้วก็ให้ยามาทาน 1 เดือน หมอบอกว่า หากทานจนน้ำหนักลงจนพอใจเเล้ว ให้หยุดยา เเละเข้ามาเอายาหยุด เพื่อล็อคน้ำหนักให้ไม่เด้งกลับมาค่ะ
วันเเรกที่ทาน รู้สึกหิวน้ำบ่อยๆ คอเเห้งมาก กลางคืนก็นอนไม่หลับ ตอนนั้น ไม่คิดว่า จะเกี่ยวกับยาหรอกค่ะ คิดเเค่ว่า อากาศร้อน
จนวันที่ 3 ลองชั่งน้ำหนักดู ลดลงไป 1 กิโลเเล้วค่ะ ก็รู้สึกดีใจนะคะ ก็เลยทานต่อมาเรื่อยๆ เเต่ระหว่างทานนั้นมีอาการหลายอย่างมากค่ะ ภายในระยะเวลา 3 อาทิตย์ที่ทานไป
อาการเเรก หงุดหงิด เจ้าอารมณ์ ขี้น้อยใจ ชอบเก็บตัว คิดมาก น่าจะเป็นผลที่ยามีส่วนของยากดประสาท เลยทำให้เกิดอาการพวกนี้ ทำให้เราไม่อยากทานข้าวด้วยค่ะ อันนี้คิดเอาเองนะ ขนาดพี่สาวบอกว่า จะเเต่งงาน ก็โทรไปว่าพี่สาว ว่าเเต่งงานจะไม่รักเราเเล้วใช่ไหม พอเจอหน้ากันก็ปาของใส่พี่สาวด้วยค่ะ นิสัยเเบบเเย่มาก มองอะไรก็หมดอาลัยตายอยากไปหมด ทะเลาะกับเเฟนทีก็อยากฆ่าตัวตาย ประมาณนี้
อาการที่ 2 เหนื่อยง่ายมากค่ะ เวลาเหนื่อยที ใจเต้นเเรง ตุ๊บๆๆๆๆ เเบบมองเเล้วเห็นได้ชัดมากค่ะ เดินไม่กี่ก้าว ก็เหนื่อยค่ะ
อาการที่ 3 วูบบ่อยค่ะ วูบครั้งเเรกหลังจากทานยาได้ประมาณอาทิตย์นึง ลุกขึ้นจากเตียงเเละหน้ามืด พาดกับโต๊ะ ตอนนั้น ตาแตกเลยค่ะ วูบครั้งที่ 2 ที่จำได้ คือ หน้าฟาดกับพื้น คางเเตก โหนกเเก้มเเตก หน้าช้ำเลยค่ะ พี่ชายบอกว่า ล้มเเรงมาก เเละก็มีไปวูบกลางห้างด้วยค่ะ
อาการที่ 4 เบลอค่ะ ที่เราบอกว่าเราไปกับเพื่อนอะค่ะ วันนั้นเรากับเพื่อนจะเดินข้ามถนนกัน เห็นนะคะ ว่ารถมันวิ่งมา เเต่เราก็ยังเดินข้ามกันทั้งคู่ค่ะ พอข้ามมาถึงคิดได้ว่า ทำไมไม่หยุดให้รถไปก่อน
อาการที่ 5 ขอบตาคล้ำ หน้าโทรม สิวเขรอะ ค่ะ
คือมีอาการประมาณนี้ทุกวันตลอดระยะเวลาประมาณ 3 อาทิตย์ที่ทานไป น้ำหนักลง 68 ลงไปอยู่ที่ 52 ภายใน 3 อาทิตย์ค่ะ ที่บ้านทราบเเล้วว่าเเอบทานยาลดน้ำหนัก เค้าก็เตือนให้หยุดค่ะ
สังเกตุนะค่ะ ว่ามันดูโทรมมากๆ ผิวพรรณก็ไม่สดใส ตอนนี้เหลือประมาณ 52-54 จำไม่ได้เเล้วค่ะ
ตอนนั้นพออาการมันเริ่มหนักมากๆ เราเริ่มกลัวตายเเล้วค่ะ เพราะพี่ข้างบ้านบอกว่า เพื่อนเค้าช็อคเพราะทานยาที่ รพ. นี้เหมือนกัน เราเลยหยุดทาน เเต่ใช่ว่าพวกอาการพวกนี้จะหายไปนะคะ เเค่ดีขึ้นนิดหน่อย เน้นว่านิดหน่อยค่ะ
เรากลายเป็นคนทานกาแฟไม่ได้ ออกกำลังกายไม่ได้ เพราะถ้าทานกาแฟหรือออกกำลังกาย หัวใจเราจะเต้นเเรงๆๆๆๆ มากๆ สมองคิดช้า เวลาคุยกับใครก็ไม่เข้าใจค่ะ ต้องให้เค้าพูดอีกที เพื่อเราคิดตามอีกครั้ง เเละจู่ๆวันนึง อันนี้น่ากลัวนิดนึง คือเลิกทานยาไปประมาณ 2 เดือน วันนั้นเราเข้าห้องน้ำตกใจมาก กกน.เรามีน้ำเหลืองๆๆๆ เราก็คิดว่าเราอึราดหรอ พอล้างมันเป็นมันๆอะคะ ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ มันคืออะไร มันน่าจะเกี่ยวกับยาลดนน. อ่ะคะ จากเราสันนิฐาน
ว่ากันต่อด้วยเรื่อง โยโย่ เอฟเฟค ค่ะ หลังจากเราหยุดทานยา น้ำหนักเราพุ่งกระฉูดเลยค่ะ ปีเเรก ขึ้นมา 10 กิโล ปีที่ 2 อีก 10 กิโล เเละปีที่ 3 อีก 10 กิโล ตัวเลขจำง่ายค่ะ T_T เราไปหาหมอ หมอยังตกใจ ว่าเราคงมีปัญหากับระบบท่ออะไรสักอย่าง ที่ทำให้น้ำหนักเราขึ้นไม่หยุดเเบบนี้
อันนี้เป็นรูปเราปัจจุบัน เครียดมากค่ะ ที่น้ำหนักขึ้นไม่หยุด ได้เเต่ยอมรับชะตากรรมที่ตัวเองก่อ ที่ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ตอนนี้เราลดน้ำหนักอีกครั้ง ควบคู่กับการออกกำลังกาย โชคดีค่ะ ได้กำลังใจจากแฟน ว่าถ้าสามารถลดน้ำหนักได้ 20 กิโล เเฟนจะพอไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนก็ได้ตามใจเรา เราเลยกลับมาฮึดอีกครั้ง แฟนไม่ได้ต้องการให้เราผอมนะคะ เค้าอยากให้เราสุขภาพดี อยากให้เราเเข็งเเรง เราเองก็อยากมีลูก เคยได้ยินมาว่า หากอ้วนมากๆ ตอนท้องจะเเย่ เอาตรงนี้เป็นเเรงบันดาลใจด้วยคะ
สาวๆที่คิดจะลดน้ำหนักเเบบทางลัด ก็ดูเราเป็นกรณีตัวอย่างนะคะ มันไม่คุ้มกับสุขภาพที่เสียไปจริงๆ ควบคุมอาหารเเละออกกำลังกายดีกว่าเยอะค่ะ
อันนี้เล่าคร่าวๆ ให้สั้น เข้าใจง่ายนะคะ ใครยังสงสัยเรื่อง อาการต่างๆ ก็ทิ้งข้อความไว้ได้เลยค่ะ
เตือนภัย!!! สาวๆ ที่อยากผอมทางลัด ที่คิดจะใช้ยาลดน้ำหนัก
ครอบครัวของเรา มีโครงสร้างที่ค่อนข้างใหญ่ทั้งครอบครัวค่ะ เเม่เราหนักเกือบ 100 กิโล สูง 178 เซนติเมตร พี่ชาย พี่สาวก็มีโครงสร้างใหญ่กันทั้งบ้าน ก่อนที่เราจะตัดสินใจใช้ยาลดน้ำหนัก นน.เราอยู่ประมาณ 68-69 ค่ะ เราสูง 165 ซม.
อันนี้เป็นภาพก่อนทานยาลดน้ำหนักค่ะ ขออนุญาติเซนเซอร์หน้านะคะ อายค่ะ ><
พอเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อนๆในมหาลัยก็มีเเต่ผอมๆ สวยๆ กันทั้งนั้น พอปิดเทอมปี 1 เราก็เลยลองหาข้อมูลเรื่องยาลดน้ำหนักที่ไหนได้ผล
เเละก็ไปเจอค่ะ เป็นโรงพยาบาลความสวยชื่อดัง ย่านจรัญ เป็นที่รู้จักเเน่นอนคะ เรากับเพื่อนก็ลองไปกันดูค่ะ เพราะชื่อเสียงของ รพ.ด้วย
เราไปกับเพื่อนเเละหลานค่ะ มีการกำชับหลานด้วยว่า ห้ามบอกที่บ้าน ก็ทำบัตร ตรวจความดันอะไรเรื่อย จนหมอเรียกเข้าพบ หมอก็ถามๆ เคยกินยามาไหม ก็ไม่เคยทานค่ะ หมอก็จดๆ เสร็จเเล้วก็ให้ยามาทาน 1 เดือน หมอบอกว่า หากทานจนน้ำหนักลงจนพอใจเเล้ว ให้หยุดยา เเละเข้ามาเอายาหยุด เพื่อล็อคน้ำหนักให้ไม่เด้งกลับมาค่ะ
วันเเรกที่ทาน รู้สึกหิวน้ำบ่อยๆ คอเเห้งมาก กลางคืนก็นอนไม่หลับ ตอนนั้น ไม่คิดว่า จะเกี่ยวกับยาหรอกค่ะ คิดเเค่ว่า อากาศร้อน
จนวันที่ 3 ลองชั่งน้ำหนักดู ลดลงไป 1 กิโลเเล้วค่ะ ก็รู้สึกดีใจนะคะ ก็เลยทานต่อมาเรื่อยๆ เเต่ระหว่างทานนั้นมีอาการหลายอย่างมากค่ะ ภายในระยะเวลา 3 อาทิตย์ที่ทานไป
อาการเเรก หงุดหงิด เจ้าอารมณ์ ขี้น้อยใจ ชอบเก็บตัว คิดมาก น่าจะเป็นผลที่ยามีส่วนของยากดประสาท เลยทำให้เกิดอาการพวกนี้ ทำให้เราไม่อยากทานข้าวด้วยค่ะ อันนี้คิดเอาเองนะ ขนาดพี่สาวบอกว่า จะเเต่งงาน ก็โทรไปว่าพี่สาว ว่าเเต่งงานจะไม่รักเราเเล้วใช่ไหม พอเจอหน้ากันก็ปาของใส่พี่สาวด้วยค่ะ นิสัยเเบบเเย่มาก มองอะไรก็หมดอาลัยตายอยากไปหมด ทะเลาะกับเเฟนทีก็อยากฆ่าตัวตาย ประมาณนี้
อาการที่ 2 เหนื่อยง่ายมากค่ะ เวลาเหนื่อยที ใจเต้นเเรง ตุ๊บๆๆๆๆ เเบบมองเเล้วเห็นได้ชัดมากค่ะ เดินไม่กี่ก้าว ก็เหนื่อยค่ะ
อาการที่ 3 วูบบ่อยค่ะ วูบครั้งเเรกหลังจากทานยาได้ประมาณอาทิตย์นึง ลุกขึ้นจากเตียงเเละหน้ามืด พาดกับโต๊ะ ตอนนั้น ตาแตกเลยค่ะ วูบครั้งที่ 2 ที่จำได้ คือ หน้าฟาดกับพื้น คางเเตก โหนกเเก้มเเตก หน้าช้ำเลยค่ะ พี่ชายบอกว่า ล้มเเรงมาก เเละก็มีไปวูบกลางห้างด้วยค่ะ
อาการที่ 4 เบลอค่ะ ที่เราบอกว่าเราไปกับเพื่อนอะค่ะ วันนั้นเรากับเพื่อนจะเดินข้ามถนนกัน เห็นนะคะ ว่ารถมันวิ่งมา เเต่เราก็ยังเดินข้ามกันทั้งคู่ค่ะ พอข้ามมาถึงคิดได้ว่า ทำไมไม่หยุดให้รถไปก่อน
อาการที่ 5 ขอบตาคล้ำ หน้าโทรม สิวเขรอะ ค่ะ
คือมีอาการประมาณนี้ทุกวันตลอดระยะเวลาประมาณ 3 อาทิตย์ที่ทานไป น้ำหนักลง 68 ลงไปอยู่ที่ 52 ภายใน 3 อาทิตย์ค่ะ ที่บ้านทราบเเล้วว่าเเอบทานยาลดน้ำหนัก เค้าก็เตือนให้หยุดค่ะ
สังเกตุนะค่ะ ว่ามันดูโทรมมากๆ ผิวพรรณก็ไม่สดใส ตอนนี้เหลือประมาณ 52-54 จำไม่ได้เเล้วค่ะ
ตอนนั้นพออาการมันเริ่มหนักมากๆ เราเริ่มกลัวตายเเล้วค่ะ เพราะพี่ข้างบ้านบอกว่า เพื่อนเค้าช็อคเพราะทานยาที่ รพ. นี้เหมือนกัน เราเลยหยุดทาน เเต่ใช่ว่าพวกอาการพวกนี้จะหายไปนะคะ เเค่ดีขึ้นนิดหน่อย เน้นว่านิดหน่อยค่ะ
เรากลายเป็นคนทานกาแฟไม่ได้ ออกกำลังกายไม่ได้ เพราะถ้าทานกาแฟหรือออกกำลังกาย หัวใจเราจะเต้นเเรงๆๆๆๆ มากๆ สมองคิดช้า เวลาคุยกับใครก็ไม่เข้าใจค่ะ ต้องให้เค้าพูดอีกที เพื่อเราคิดตามอีกครั้ง เเละจู่ๆวันนึง อันนี้น่ากลัวนิดนึง คือเลิกทานยาไปประมาณ 2 เดือน วันนั้นเราเข้าห้องน้ำตกใจมาก กกน.เรามีน้ำเหลืองๆๆๆ เราก็คิดว่าเราอึราดหรอ พอล้างมันเป็นมันๆอะคะ ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ มันคืออะไร มันน่าจะเกี่ยวกับยาลดนน. อ่ะคะ จากเราสันนิฐาน
ว่ากันต่อด้วยเรื่อง โยโย่ เอฟเฟค ค่ะ หลังจากเราหยุดทานยา น้ำหนักเราพุ่งกระฉูดเลยค่ะ ปีเเรก ขึ้นมา 10 กิโล ปีที่ 2 อีก 10 กิโล เเละปีที่ 3 อีก 10 กิโล ตัวเลขจำง่ายค่ะ T_T เราไปหาหมอ หมอยังตกใจ ว่าเราคงมีปัญหากับระบบท่ออะไรสักอย่าง ที่ทำให้น้ำหนักเราขึ้นไม่หยุดเเบบนี้
อันนี้เป็นรูปเราปัจจุบัน เครียดมากค่ะ ที่น้ำหนักขึ้นไม่หยุด ได้เเต่ยอมรับชะตากรรมที่ตัวเองก่อ ที่ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ตอนนี้เราลดน้ำหนักอีกครั้ง ควบคู่กับการออกกำลังกาย โชคดีค่ะ ได้กำลังใจจากแฟน ว่าถ้าสามารถลดน้ำหนักได้ 20 กิโล เเฟนจะพอไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนก็ได้ตามใจเรา เราเลยกลับมาฮึดอีกครั้ง แฟนไม่ได้ต้องการให้เราผอมนะคะ เค้าอยากให้เราสุขภาพดี อยากให้เราเเข็งเเรง เราเองก็อยากมีลูก เคยได้ยินมาว่า หากอ้วนมากๆ ตอนท้องจะเเย่ เอาตรงนี้เป็นเเรงบันดาลใจด้วยคะ
สาวๆที่คิดจะลดน้ำหนักเเบบทางลัด ก็ดูเราเป็นกรณีตัวอย่างนะคะ มันไม่คุ้มกับสุขภาพที่เสียไปจริงๆ ควบคุมอาหารเเละออกกำลังกายดีกว่าเยอะค่ะ
อันนี้เล่าคร่าวๆ ให้สั้น เข้าใจง่ายนะคะ ใครยังสงสัยเรื่อง อาการต่างๆ ก็ทิ้งข้อความไว้ได้เลยค่ะ