Section 1
ในวัย เกือบ 52 นํ้าหนักพลวดขึ้นมาเป็น 70.4 kg ไม่เคยคิดว่า ตัวเอง จะเห็นเลข 7 บน scale ในชีวิต !!! ทั้งๆๆที่เเต่ก่อน เป็นคนหุ่น นาฬิกาทราย มีหุ่นมากๆๆ
เมื่อมีคนเริ่มพูดเวลาเราเดินให้หลังว่า อ้วน ก้นใหญ่ เหมือนอึ่งอ่าง เพื่อนไม่เจอกันนาน ทักว่าเธอ ภัทรจันทร์ ทำไมเป็นเเบบนี้!! ประกอบกับเดินต้นขาเสียดกัน หนักก้นมากๆๆ เวลานั่งพื้นก็ลุกลำบาก เเถมเวลาเดินเริ่มรู้สึกเหนื่อย ดูเเก่ๆๆ
Section 2
พยายาม ลดด้วยมากมายที่จะสรรหามา
1. ทานวิตามิน ลดนํ้าหนัก พวก block Burn build bla bla bla ลดมาเเค่ 2kg
2. ออกกำลังกายจ้าง personal trainer เเบบ ชม ละ 1200 หมดไปเป็นเเสน ลด 2 kg กล้ามเนื้อก็ขึ้นมาบ้าง
3.สถาบันลดนํ้าหนัก พวก อบ ปั่น รีด ฉีด สลายไขมัน มากมาย หมดไปเป็น หลักเเสน
4. ฝังเข็มเเบบจีน เจ็บ เเละ ต้องไปหาหมอทุกอาทิตย์ ไม่มีเวลาขนาดนั้น
5. คุยกับเพื่อนที่ดูดไขมัน ก็เป็นเเสน เเถม ผิวเป็นรอยดำๆๆ บุ๋มๆๆ เเละ จุดที่ดูดไป ก็กลับมาอ้วน เจ็บอีก
6. กินสูตร เเบบ ประเภท 1 อาทิตย์ กินนี่นะ อาทิตย์นู๋นี่นั้น เออ หากินไม่ได้ตามนั้น เเละบอกตามตรง เป็นคน enjoy eating จนเพื่อน คนใกล้เคียง เเละ ร่วมเตียง บอก เธอ กินเยอะ! เถียงเขาอีก ไม่จริ๊งๆๆๆ กินเเบบ ไม่รู้ตัว จุกจิก
อะไรอีก คิดไม่ออกเเระ เเต่ที่เเน่ๆๆ ที่พิจราณาไม่ทำ คือ ไม่ดูดไขมัน เพราะ เเพง ไม่คุ้ม ผิวเป็นเหมือน ขรุขระ 2. กินยาลดความอ้วน จะเก็บกด เครียด ปากเเห้ง โยโย่ เเน่ๆๆ อารมณ์เหวี่ยงใส่ชาวบ้านเหมือน หมาบ้า
อะไง ก็เลยออกกำลังกาย 3 -4 ครั้งต่อ week บาง week ยุ่งก็ไม่ได้ออก เเต่ออกกำลังกายชอบอยู่เเล้ว โดยเฉพาะ โยคะ class ปั่นจักรยาน burn สุดๆๆ , เต้น zumba เเต่...ในทีสุด ก็ยังอ้วนๆๆๆ เจ็บเช่า
ลูกชายบอก เเม่อ้วนๆๆ เอ เสื้อผ้าก็คับ เดินขึ้นกระไดเริ่มเหนื่ิอย เเล้วเอาไงดีหนอ พยามเเล้วหนอ เรา 51 การเผาผลาญก็เเย่
ทั้งหมดทั้งมวล มาประมวลเเล้ว เรายังทานเหมือนเดิม เอาออก ไป 500 cal เเต่ กินไป 1000 cal ต่อวัน มันก็สะสม เเละยิ่งอายุมาก 51 การเผาผลาญเหมือนคนอายุ เกือบ 60 จนทุกครั้ง ที่วัด scale ที่ fitness จะขึ้นว่า obesity เเปลว่า อ้วน ไขมันช่องท้อง 8% ไขมัน 38 เยอะเเยะ เกินบรรยาย ออกกำลังกายเสร็จมาวัด เหมือนเดิม เออ เลยคิดถึงคำพูด personal trainer ว่า 70% คือ การ กิน 30% คือการ ออกกำลัง
Section 3 พบรักกับ Gastric Balloon
ปกติเป็นคนชอบเรื่อง นวตกรรม ที่มีการยืนยันทางการเเพทย์อยู่เเล้ว ไม่เป็นคนที่เขาว่า bla bla bla
เผอิญมาก ไปอ่านเจอบทความในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่าตอนนี้มีการลดความอ้วนแนวใหม่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ใช้การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร ด้วยการส่องกล้อง ( มีลิ้งค์มาให้ดูกันด้วยนะเผื่อใครอยากได้รายละเอียดเพิ่ม
http://www.thairath.co.th/content/491443 ) จึงสนใจและติดต่อเข้ามายังโรงพยาบาลเพื่อสอบถามข้อมูลและทำนัดในวันนั้นเลย กระทั่งวันนัดจึงมีโอกาสได้เจอ กับนพ. บุญเลิศ .. ตอนเเรกคุณหมอบอกพี่อ้วนตรงไหน (เผอิญเราเป็นคนข้อมือ น่อง เรียว) หมอ คงจะเจอเเต่พวก 100 kg ขึ้น จนตาลายจนต้องขออนุญาต เปิดสัดส่วนที่หุ้มไปด้วยชุดสีดำ คุณหมอ บอกลองทานยาก่อนมะ เอ คุณหมอเป็น หมอ จริงๆๆ he ไม่ up sale เลย บอกหมอ ยาไม่ work ด่าลูกด่าผัว มาเเบบ ถ่ายออกมาเป็นนํ้ามันไม่เอา นํ้าหนัก70 kg มันจะเลยเถิดไปเรื่อยๆๆ ไม่ไหวเเล้ว ก็เลยตัดสินใจทำ
Section 4
ทำ Gastric Balloon package 3 วัน 2 คืน รู้สึกว่าคุ้มค่ามากค่ะ สำหรับเรา ถ้าเทียบ กับความผอมเเบบดัดนิสัยการทาน เป็นระยะเวลา 1ปี แต่ก่อนนี้กับเงินที่เสียไปกับสิ่งต่างๆๆ ที่พยายามสรรหาวิธีการลดน้ำหนักหลากหลายวิธี ทำหมดไปเกือบครึ่งล้านคะ...พี่น้อง
เเต่ต้องบอกก่อนนะว่าคุณอยากนํ้าหนักลงจริงๆๆ อยากมีสุขภาพที่ดีขึ้นจริงๆๆ ถามใจตัวเองก่อน.. ไม่ใช่อ้างนู่นี้นั้น เช่น ฉันยังอยากนู๋นี้นั้น จบ เจ๊ตูไม่คุย ขั้นเเรก หมอจะนัดเช็คกระเพาะก่อน ว่ามีเเผลหรือไม่ ถ้ามี..รักษาก่อนค่อยใส่บัลลูน เวลาทำ.. สลบคะ ใช้เวลาเเค่ ครึ่ง ชม ตื่นมาเสร็จเเล้ว ไม่เจ็บ ไม่ผ่าตัด ส่องกล้องเเค่นั้นจบ ในรายละเอียดให้คุณหมอ บรรยาย เเต่จะบอกว่า ง่าย เเละ ปลอดภัยมากๆๆ( เเต่ต้องทำที่ รพ นะคะ) อย่าไปทำตาม clinic เด็ดขาด (ถ้า มี)
Section 5
หลังจากใส่บัลลูน มา 3 เดือนนํ้าหนักลงมา 10 kg !!! ไม่เคยลดนํ้าหนักเเบบ ไม่โทรมเลย ออกกำลังได้ มากขึ้นมีความคล่องตัว เพราะไขมันลดไขมันหน้าท้องลด การเผาผลาญดีขึ้น ผู้คนทักกันเกรียวกราว ตั้งเเต่ สมาชิก fitness ( คงเห็นออกกำลังกายมานานเเต่ไม่ผอมสักที) ยันสามี (เเอบปลื้ม) ว่าไม่น่าเชื่อ!
ยันลูกชายที่comment ว่า Mama so Fat! ยัน นักการภารโรง ที่ รร Swiss School ขอโทษที่ไม่ทักเพราะจำไม่ได้
มีวันหนึ่งไปรับลูกช่วงผอมใหม่ๆ คุณลูกชาย ไม่ชินกับร่างที่เดินมา บอกจำเเม่ไม่ได้ !
ไม่เวอร์ เเต่จริง !
ช่วง 1เดือนเเรก เป็นช่วงปรัปตัวนะคะ อาการของเเต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนไม่มีอะไรเลย
บางคนเช่น เจ๊ตู จะ ผะอืดผะอม ท้องผูก เพราะร่างกายกำลังปรัปตัว กับการทานน้อย เนื่องจากบัลลูนไปเเทนเนื้อที่ในกระเพาะ เป็นการเริ่มดัดนิสัย ความเคยชินของการทานเยอะ เเละ ไปสั่งที่สมอง ว่า ร่างกายเราไม่ต้องการอาหารมากขนาดนั้น เเต่ถึงเเม้ว่าทานน้อยลงเเต่ออกกำลังกายได้เหมือนเดิมคะ
เเต่ก็เป็นเรื่องของการปรัปตัวช่วง 1-2เดือนเเรก หลังจากนั้นก็ปกติ เเต่ทานน้อยลงมากๆๆ
จน คิดว่าปอป ออกจากร่าง บัลลูนจะอยู่ในกระเพ่าะ1 ปี ซึ่งทางการเเพทย์ ทางต่างประเทศ
พิสูจน์เเล้ว ว่าไม่โยโย่.. เพราะคุณหมอบอกถึงเเม้หลัง 1 ปี (ที่เราฝึกนิสัยการกินที่ดีเเล้ว) ถึงเเม้เอาบัลลูนออกหลังจาก 1ปี นิสัยการทานน้อยก็จะอยู่กับเรา ไปตลอดคะ
รู้สึกดีใจเเละคุ้มค่ากับเส้นทางการลดนํ้าด้วย
Gastric Balloon มาก เห็นผล ไม่โทรม
เเละถาวร จริงๆๆ love you Gastric Balloon ...!!!
ขออ้วนเป็นครั้งสุดท้าย รู้สึกดีใจเเละคุ้มค่ากับเส้นทางการลดนํ้าด้วย บอลลูนลดความอ้วน Gastric Balloon มาก เห็นผล ไม่โทรม
Section 1
ในวัย เกือบ 52 นํ้าหนักพลวดขึ้นมาเป็น 70.4 kg ไม่เคยคิดว่า ตัวเอง จะเห็นเลข 7 บน scale ในชีวิต !!! ทั้งๆๆที่เเต่ก่อน เป็นคนหุ่น นาฬิกาทราย มีหุ่นมากๆๆ
เมื่อมีคนเริ่มพูดเวลาเราเดินให้หลังว่า อ้วน ก้นใหญ่ เหมือนอึ่งอ่าง เพื่อนไม่เจอกันนาน ทักว่าเธอ ภัทรจันทร์ ทำไมเป็นเเบบนี้!! ประกอบกับเดินต้นขาเสียดกัน หนักก้นมากๆๆ เวลานั่งพื้นก็ลุกลำบาก เเถมเวลาเดินเริ่มรู้สึกเหนื่อย ดูเเก่ๆๆ
Section 2
พยายาม ลดด้วยมากมายที่จะสรรหามา
1. ทานวิตามิน ลดนํ้าหนัก พวก block Burn build bla bla bla ลดมาเเค่ 2kg
2. ออกกำลังกายจ้าง personal trainer เเบบ ชม ละ 1200 หมดไปเป็นเเสน ลด 2 kg กล้ามเนื้อก็ขึ้นมาบ้าง
3.สถาบันลดนํ้าหนัก พวก อบ ปั่น รีด ฉีด สลายไขมัน มากมาย หมดไปเป็น หลักเเสน
4. ฝังเข็มเเบบจีน เจ็บ เเละ ต้องไปหาหมอทุกอาทิตย์ ไม่มีเวลาขนาดนั้น
5. คุยกับเพื่อนที่ดูดไขมัน ก็เป็นเเสน เเถม ผิวเป็นรอยดำๆๆ บุ๋มๆๆ เเละ จุดที่ดูดไป ก็กลับมาอ้วน เจ็บอีก
6. กินสูตร เเบบ ประเภท 1 อาทิตย์ กินนี่นะ อาทิตย์นู๋นี่นั้น เออ หากินไม่ได้ตามนั้น เเละบอกตามตรง เป็นคน enjoy eating จนเพื่อน คนใกล้เคียง เเละ ร่วมเตียง บอก เธอ กินเยอะ! เถียงเขาอีก ไม่จริ๊งๆๆๆ กินเเบบ ไม่รู้ตัว จุกจิก
อะไรอีก คิดไม่ออกเเระ เเต่ที่เเน่ๆๆ ที่พิจราณาไม่ทำ คือ ไม่ดูดไขมัน เพราะ เเพง ไม่คุ้ม ผิวเป็นเหมือน ขรุขระ 2. กินยาลดความอ้วน จะเก็บกด เครียด ปากเเห้ง โยโย่ เเน่ๆๆ อารมณ์เหวี่ยงใส่ชาวบ้านเหมือน หมาบ้า
อะไง ก็เลยออกกำลังกาย 3 -4 ครั้งต่อ week บาง week ยุ่งก็ไม่ได้ออก เเต่ออกกำลังกายชอบอยู่เเล้ว โดยเฉพาะ โยคะ class ปั่นจักรยาน burn สุดๆๆ , เต้น zumba เเต่...ในทีสุด ก็ยังอ้วนๆๆๆ เจ็บเช่า
ลูกชายบอก เเม่อ้วนๆๆ เอ เสื้อผ้าก็คับ เดินขึ้นกระไดเริ่มเหนื่ิอย เเล้วเอาไงดีหนอ พยามเเล้วหนอ เรา 51 การเผาผลาญก็เเย่
ทั้งหมดทั้งมวล มาประมวลเเล้ว เรายังทานเหมือนเดิม เอาออก ไป 500 cal เเต่ กินไป 1000 cal ต่อวัน มันก็สะสม เเละยิ่งอายุมาก 51 การเผาผลาญเหมือนคนอายุ เกือบ 60 จนทุกครั้ง ที่วัด scale ที่ fitness จะขึ้นว่า obesity เเปลว่า อ้วน ไขมันช่องท้อง 8% ไขมัน 38 เยอะเเยะ เกินบรรยาย ออกกำลังกายเสร็จมาวัด เหมือนเดิม เออ เลยคิดถึงคำพูด personal trainer ว่า 70% คือ การ กิน 30% คือการ ออกกำลัง
Section 3 พบรักกับ Gastric Balloon
ปกติเป็นคนชอบเรื่อง นวตกรรม ที่มีการยืนยันทางการเเพทย์อยู่เเล้ว ไม่เป็นคนที่เขาว่า bla bla bla
เผอิญมาก ไปอ่านเจอบทความในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่าตอนนี้มีการลดความอ้วนแนวใหม่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ใช้การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร ด้วยการส่องกล้อง ( มีลิ้งค์มาให้ดูกันด้วยนะเผื่อใครอยากได้รายละเอียดเพิ่ม http://www.thairath.co.th/content/491443 ) จึงสนใจและติดต่อเข้ามายังโรงพยาบาลเพื่อสอบถามข้อมูลและทำนัดในวันนั้นเลย กระทั่งวันนัดจึงมีโอกาสได้เจอ กับนพ. บุญเลิศ .. ตอนเเรกคุณหมอบอกพี่อ้วนตรงไหน (เผอิญเราเป็นคนข้อมือ น่อง เรียว) หมอ คงจะเจอเเต่พวก 100 kg ขึ้น จนตาลายจนต้องขออนุญาต เปิดสัดส่วนที่หุ้มไปด้วยชุดสีดำ คุณหมอ บอกลองทานยาก่อนมะ เอ คุณหมอเป็น หมอ จริงๆๆ he ไม่ up sale เลย บอกหมอ ยาไม่ work ด่าลูกด่าผัว มาเเบบ ถ่ายออกมาเป็นนํ้ามันไม่เอา นํ้าหนัก70 kg มันจะเลยเถิดไปเรื่อยๆๆ ไม่ไหวเเล้ว ก็เลยตัดสินใจทำ
Section 4
ทำ Gastric Balloon package 3 วัน 2 คืน รู้สึกว่าคุ้มค่ามากค่ะ สำหรับเรา ถ้าเทียบ กับความผอมเเบบดัดนิสัยการทาน เป็นระยะเวลา 1ปี แต่ก่อนนี้กับเงินที่เสียไปกับสิ่งต่างๆๆ ที่พยายามสรรหาวิธีการลดน้ำหนักหลากหลายวิธี ทำหมดไปเกือบครึ่งล้านคะ...พี่น้อง
เเต่ต้องบอกก่อนนะว่าคุณอยากนํ้าหนักลงจริงๆๆ อยากมีสุขภาพที่ดีขึ้นจริงๆๆ ถามใจตัวเองก่อน.. ไม่ใช่อ้างนู่นี้นั้น เช่น ฉันยังอยากนู๋นี้นั้น จบ เจ๊ตูไม่คุย ขั้นเเรก หมอจะนัดเช็คกระเพาะก่อน ว่ามีเเผลหรือไม่ ถ้ามี..รักษาก่อนค่อยใส่บัลลูน เวลาทำ.. สลบคะ ใช้เวลาเเค่ ครึ่ง ชม ตื่นมาเสร็จเเล้ว ไม่เจ็บ ไม่ผ่าตัด ส่องกล้องเเค่นั้นจบ ในรายละเอียดให้คุณหมอ บรรยาย เเต่จะบอกว่า ง่าย เเละ ปลอดภัยมากๆๆ( เเต่ต้องทำที่ รพ นะคะ) อย่าไปทำตาม clinic เด็ดขาด (ถ้า มี)
Section 5
หลังจากใส่บัลลูน มา 3 เดือนนํ้าหนักลงมา 10 kg !!! ไม่เคยลดนํ้าหนักเเบบ ไม่โทรมเลย ออกกำลังได้ มากขึ้นมีความคล่องตัว เพราะไขมันลดไขมันหน้าท้องลด การเผาผลาญดีขึ้น ผู้คนทักกันเกรียวกราว ตั้งเเต่ สมาชิก fitness ( คงเห็นออกกำลังกายมานานเเต่ไม่ผอมสักที) ยันสามี (เเอบปลื้ม) ว่าไม่น่าเชื่อ!
ยันลูกชายที่comment ว่า Mama so Fat! ยัน นักการภารโรง ที่ รร Swiss School ขอโทษที่ไม่ทักเพราะจำไม่ได้
มีวันหนึ่งไปรับลูกช่วงผอมใหม่ๆ คุณลูกชาย ไม่ชินกับร่างที่เดินมา บอกจำเเม่ไม่ได้ !
ไม่เวอร์ เเต่จริง !
ช่วง 1เดือนเเรก เป็นช่วงปรัปตัวนะคะ อาการของเเต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนไม่มีอะไรเลย
บางคนเช่น เจ๊ตู จะ ผะอืดผะอม ท้องผูก เพราะร่างกายกำลังปรัปตัว กับการทานน้อย เนื่องจากบัลลูนไปเเทนเนื้อที่ในกระเพาะ เป็นการเริ่มดัดนิสัย ความเคยชินของการทานเยอะ เเละ ไปสั่งที่สมอง ว่า ร่างกายเราไม่ต้องการอาหารมากขนาดนั้น เเต่ถึงเเม้ว่าทานน้อยลงเเต่ออกกำลังกายได้เหมือนเดิมคะ
เเต่ก็เป็นเรื่องของการปรัปตัวช่วง 1-2เดือนเเรก หลังจากนั้นก็ปกติ เเต่ทานน้อยลงมากๆๆ
จน คิดว่าปอป ออกจากร่าง บัลลูนจะอยู่ในกระเพ่าะ1 ปี ซึ่งทางการเเพทย์ ทางต่างประเทศ
พิสูจน์เเล้ว ว่าไม่โยโย่.. เพราะคุณหมอบอกถึงเเม้หลัง 1 ปี (ที่เราฝึกนิสัยการกินที่ดีเเล้ว) ถึงเเม้เอาบัลลูนออกหลังจาก 1ปี นิสัยการทานน้อยก็จะอยู่กับเรา ไปตลอดคะ
รู้สึกดีใจเเละคุ้มค่ากับเส้นทางการลดนํ้าด้วย
Gastric Balloon มาก เห็นผล ไม่โทรม
เเละถาวร จริงๆๆ love you Gastric Balloon ...!!!