[CR] หมดไปเยอะค่ะกับการทำสวย กว่าจะเจอกับวิธีหุ่นดีในอายุเลข 6

บอกไว้ก่อนว่าประสบการณ์ของดิฉันที่เอามาแบ่งปันกันนี้ไม่ได้ต้องการโปรโมทหรือโฆษณาสินค้าหรืออะไรให้กับใคร เพราะถ้าอย่างงั้นดิฉันคงโปรโมทให้เกือบหมดทุกอย่าง เพราะไม่ว่าจะผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ขายๆกันมาแต่ละอย่างดิฉันลองมาเกือบหมดค่ะ ที่มาพิมพ์กระทู้นี้เพราะอยากให้เรื่องราวของดิฉันเป็นวิทยาทานให้กับคนที่เข้ามาอ่านและเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้หญิงทุกคนที่อยากสวยกระชากวัยหุ่นดีแบบไม่สนอายุแบบดิฉันทุกๆคนค่ะ ปีนี้ดิฉันอายุจะครบ 68 ปี หลายคนสงสัยว่าจริงหรือเปล่า แล้วมาเล่นพันทิปได้ไงอายุปูนนี้แล้ว? คือต้องบอกก่อนว่าปกติดิฉันก็เข้ามาหาข้อมูลจากที่นี่อยู่แล้ว และอายุเยอะก็ไม่ได้หมายความว่าต้องตามเทคโนโลยีไม่ทันนะคะ แอพถ่ายรูปบางตัวดิฉันยังต้องเป็นฝ่ายสอนลูกสอนหลานใช้เลยค่ะ เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ

ปัจจุบันดิฉันเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนระดับอนุบาล-ประถมศึกษา ย่านพระราม 2 แห่งหนึ่ง หลายคนเรียกดิฉัน อาจารย์ , ผอ. ,ดร.ตามแต่จะเรียกกัน ดิฉันเป็นคนรักสวยรักงามเหมือนกับผู้หญิงทุกๆคน  อะไรที่ทำให้ดูดี ทำให้สวยขึ้น  ขอให้บอกต้องจ่ายเท่าไหร่ก็ยอมขอเพียงสวยขึ้น (หมดไปแล้วกว่า7หลักค่ะ ไม่ได้โม้) ด้วยความที่ครอบครัว สามีและลูกๆสนับสนุน เป็นผู้หญิงนี่คะ ทำยังไงได้ความสวยของตัวเรา เราก็อยากจะรักษาไว้

ทีนี้ในเรื่องหนึ่งที่ดิฉันค่อนข้างให้ความสำคัญ(และหมดไปกับมันเยอะมาก) ก็คือเรื่องหุ่นของดิฉันนี่แหละค่ะ อย่างที่บอกด้วยความที่อายุของดิฉันเดินทางมาที่ 68 ปีแล้ว รูปร่าง ทรวดทรง ก็เป็นไปตามวัย ทำให้ขาดความมั่นใจไม่น้อย น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเกือบ30 กิโลกรัม จนมาถึง 81 กิโลกรัม  ชุดสวยๆในตู้ก็ต้องสั่งตัดใหม่เรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนเรื่องชุดไม่ใช่ปัญหา แต่น้ำหนักที่มากขึ้นทำให้รู้สึกว่า ตัวเองตัวหนา (ดิฉันเปรียบเทียบหุ่นตัวเองเป็นเหมือนกับหมีเลยละค่ะ) ก็ต้องหาทุกวิถีทางเพื่อให้น้ำหนักลดลงมา
ภาพก่อนลดน้ำหนัก (ขออนุญาตปิดหน้าหน่อยนะคะเห็นช่วงนี้เขาฮิตกัน)***


     วิธีแรกที่ลอง คือ กินยาดักจับไขมัน อันนี้รู้จักระหว่างไปดินเนอร์ล่องเรือที่ต่างประเทศ ก็ซื้อและลองกิน เวลาขับถ่ายออกมาก็จะเหมือนมีไขมันเป็นมันๆเหลืองๆเยิ้มคล้ายน้ำมันออกมาด้วย ตัวดิฉันเองลองแล้วไม่เห็นผลก็เลยเลิก หลังจากนั้นลองมาอีกหลายค่ายเลย ทั้งสั่งจากทีวี ที่โฆษณากันในอินเตอร์เน็ต เฟซบุ๊ค เรียกได้ว่าลองมาเกือบหมด ไม่เคยเห็นผลเลยซักตัว ดีที่ร่างกายดิฉันไม่มีผลข้างเคียง (มีอยู่ตัวหนึ่งที่ออกข่าวว่ามีคนกินแล้วถึงตาย ดิฉันก็เคยลอง แต่ดีนะที่ไม่เป็นอะไร)
    วิธีที่สอง เข้าคอร์สจากสถาบันลดน้ำหนักที่การันตี ว่าน้ำหนักจะลดลง แทบทุกคอร์ส ทุกค่าย แต่ก็.... ไม่ได้ผล
    วิธีที่สาม เข้าคอร์สลดน้ำหนักจากคลินิกชื่อดังย่านประตูน้ำ อันนี้ได้ผลนะคะ ลดลงมาเกือบสิบกิโลกรัม ดีใจมาก แต่รู้สึกทรมานมาก ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงเลยในช่วงนั้น คือไปไหนมาไหนใครก็ทักว่า ไม่สบายหรือเปล่า ช่วงนี้ป่วยใช่ไหม ทักจนเรียกว่าขาดความมั่นใจ เพราะว่าน้ำหนักตัวลดลงแต่หน้าตาผิวพรรณ โทรมอย่างบอกไม่ถูก และสุดท้ายก็ต้องกลับมากินอาหารซึ่งหนักกว่าก่อนเลยทีนี้(หรือที่เขาเรียกกันว่าโยโย่นี่แหละค่ะ) ก็ต้องเลิกวิธีนี้ไปอีก
    วิธีที่สี่ หันมาใช้วิถีธรรมชาติ ออกกำลังกาย ซึ่งก็ค่อนข้างดีเห็นผล หลังโรงเรียนเลิกนักเรียนกลับบ้าน ก็จะเดินเร็ว วิ่งให้ครบ 4-6 กิโลในทุกๆวัน ช่วงนั้นน้ำหนักลดลงจริงแต่ช้ามาก ไม่ทันใจ ลองมาแทบจะทุกวิธีที่ทุกคนเคยลอง แต่ก็ไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้สักที
    แต่ไม่ท้อใจแน่นอนเพราะต้องลดน้ำหนักให้ได้ 20 กิโลกรัม นี่คือเป้าหมายที่ดิฉันตั้งใจเอาไว้ ขอเพียงแค่ น้ำหนักลด ปลอดภัย ไม่โทรม นี่คือโจทย์ที่ต้องทำให้ได้
    

     ไม่กี่วันดิฉันเจอบทความการลดน้ำหนักในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่การันตีเรื่อง น้ำหนักที่ลดลงภายใน 48 สัปดาห์ไม่ต้องอดอาหาร  ปลอดภัย ใช้ชีวิตได้ปกติ มันคือวิธีการลดน้ำหนักด้วยการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร ตอนนั้นไม่รู้เลยค่ะว่าวิธีการลดน้ำหนักด้วยบอลลูนมันคืออะไร ในใจรู้แค่ว่า ต้องลอง เลยตัดสินใจโทรไปที่โรงพยาบาลตามที่เขาลงในไทยรัฐไว้ทันที และนัดวันในการเข้าไปปรึกษาเป็นวันถัดไป
    
    วันแรกที่เข้ามาโรงพยาบาล เพื่อปรึกษากับคุณหมอในการลดน้ำหนักด้วยวิธีทางการแพทย์ด้วยการใส่บอลลูนคุณหมอไม่แนะนำให้ดิฉันใส่ เนื่องจากอายุที่เกินกว่า 60 ปี อาจไม่เหมาะกับการรักษาด้วยวิธีนี้  ดิฉันก็คุยกับคุณหมออย่างเปิดใจว่า สนใจมากเพราะอยากลดน้ำหนัก คุณหมอก็ซักประวัติ ตรวจร่างกายทุกอย่าง ซึ่งดิฉันเป็นคนอายุเลข 6 ที่สุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีโรคภัย คุณหมอพิจารณาจากสุขภาพร่างกาย จึงบอกว่า "ดร.ใส่ได้ครับ แต่ต้องมีวินัย และระเบียบเพราะต้องทำตามโปรแกรมในการรักษาตลอด 48 สัปดาห์ที่ทำการรักษา" ดิฉันไม่รีรอคุยเสร็จ เตรียมตัวเข้ารับการรักษาทันที ซึ่งใช้ระยะเวลาในการนำบอลลูนใส่เข้าไปในกระเพาะ จนแล้วเสร็จประมาณ 30 นาทีหลังจากใส่เสร็จก็นอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ 2 วัน เพราะแน่นอนว่าบอลลูนคือของแปลกปลอมที่ใส่เข้าไป ร่างกายต้องมีการปรับตัว
    วันที่ 3 ดิฉันก็กลับบ้านได้ โดยกินอาหารทุกอย่างได้ปกติ ซึ่งช่วงแรกๆต้องกิน อาหารเหลว หรืออาหารปั่น เพื่อให้ร่างกายปรับตัวและทำตามตารางที่คุยหมอแนะนำในทุกๆวัน
    
        ช่วงหนึ่งเดือนแรกไปหาคุณหมอทุกๆสัปดาห์ เพื่อเช็คสภาพร่างกาย และการปรับตัว หลังจากนั้นก็ห่างเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งนัดทุกครั้งดิฉันไม่เคยเบี้ยวหรือเลื่อนนัด  และทำตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัดน้ำหนักก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จาก 81 ลงมาที่ 58 กิโลกรัม  
        ตั้งแต่วันแรกที่ใส่ จนวันนี้ผ่านมาแล้ว 48 สัปดาห์ ที่ดิฉันได้นำบอลลูนออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภาพหลังลดน้ำหนักด้วยวิธีบอลลูน เป็นยังไงคะหุ่นสวยเลยเห็นมั้ย

บอกเลยว่าประทับใจ และเป็นวิธีที่เหมาะ ตอบโจทย์กับดิฉันเป็นอย่างยิ่ง เพราะ ไม่ต้องอดอาหาร ยังออกกำลังกายแบบเดินหรือวิ่งได้ปกติ น้ำหนักลดลงเห็นได้ชัด และปลอดภัยในส่วนของราคาอันนี้สำหรับส่วนตัวดิฉัน บอกเลยว่าไม่แพง (ถ้าเทียบกับทุกรูปแบบที่ดิฉันเคยไปลองมา)

ก็หวังว่าประสบการณ์ดิฉันที่นำมาแบ่งปันให้ จะมีประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ จะได้ไม่ต้องไปเปลืองเงินเปลืองทองแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ หากเราจะให้เสียเงินทั้งที เอาให้มันดีๆไปเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ หรือใครมีอะไรดีอยากแนะนำก็นำมาแบ่งปันได้นะคะ

**************************************************************************************************************
ชื่อสินค้า:   บอลลูน กระเพาะอาหาร
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่