พระพุทธเจ้าเป็นใคร ก็ได้ !

เป็นเพราะ คำกล่าวของ ล็อกอิน เอิงเอย แท้ๆ ผมจึงได้ อุตส่าห์ เสียเวลา อธิบาย ข้อกล่าวหาโง่ๆ อันนี้
ดังนั้น ผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มันผู้นั้น จะมีความรับผิดชอบในคำพูดของตน บ้างตามสมควร นะครับ



หลังจากที่ ล็อกอิน เอิงเอย ได้กล่าววาจา อย่าง ยโสโอหัง ความว่า

"หากการแสดงความคิดเห็นหรือข้อมูล ที่ใดผิด ดิฉันก็ยินดีขอโทษ"

นางคนนี้ ก็ได้โพสต์ข้อความให้ร้ายท่านพุทธทาส ในทันที ดังนี้



ที่จริงแล้ว นี่มิได้เป็นครั้งแรก ที่ มัน ยกหลักฐานนี้ขึ้นมากล่าวหา ท่านพุทธทาส นะครับ
มันทำมาหลายครั้งแล้ว และยิ่งไม่มีใคร ตอบโต้ หรือ อธิบาย มันกลับยิ่งได้ใจ กล่าวหาพระซ้ำๆ ซากๆ อย่างไม่อายชั่วกลัวบาป
ก็ในเมื่อ มัน มีเจตนา ทำบาปกรรมซ้ำซาก มากถึงเพียงนี้ ผมจึงจำเป็นต้องทำเรื่องนี้ให้จบ นะครับ

ทั้งนี้ หาก ท่านทั้งหลาย พิจารณา ข้อความของ ท่านพุทธทาส ให้ดีๆ ก็จะพบว่า ไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติเลย
เว้นไว้ก็แต่ ความโง่เขลาเบาปัญญา ของผู้ที่ยกความข้อนี้ขึ้นมากล่าวร้าย ท่านพุทธทาส เท่านั้นเอง !

ท่านพุทธทาส กล่าวว่า ........................

(๑) อาศัยหลักกาลามสูตรเป็นหลักแล้ว
(๒) พระพุทธเจ้าจะเป็นใครก็ได้ เป็นขอทาน หรือคนป่า ก็ได้
(๓) เราอาจเลือกเอาส่วนที่ดับทุกข์ได้ ก็พอได้

ผมขออนุญาตสรุปความให้เข้าใจง่าย ดังนี้ว่า

แท้ที่จริงแล้ว ความข้อนี้ ท่านพุทธทาส กำลังกล่าวถึงเรื่อง "โยนิโสมนสิการ" คือการพิจารณาโดยแยบคายในใจ
ดังนั้น ความหมายของความข้อนี้ ก็คือ ถ้าหากเราเป็นผู้มี "โยนิโสมนสิการ" เสียแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น คนป่า คนบ้า หรือ คนเมา ก็สามารถเป็น "ปรโตโฆสะ" สำหรับเรา ได้ทั้งนั้น

ผมเข้าใจ(เอาเอง)ว่า คนที่ยกหลักฐานนี้มา โจมตี ท่านพุทธทาส ก็เนื่องจาก อ่านหนังสือไม่แตก
คือเข้าใจผิดไปว่า ความข้อนี้ หมายถึง ท่านพุทธทาส กำลัง "ดูหมิ่น" พระพุทธเจ้า ว่าเป็นเพียงแค่ ขอทาน หรือ คนป่า
แต่ที่จริงแล้ว ท่านพุทธทาส ได้กล่าวในความหมายที่ตรงข้าม คือท่านกล่าวว่า จะเป็น ขอทาน หรือ คนป่า ก็ตาม
ย่อมสามารถเป็นพระพุทธเจ้า(ในความหมายว่า กัลยาณมิตร หรือ ปรโตโฆสะ) สำหรับผู้ที่ประกอบด้วย "โยนิโสมนสิการ" ได้เสมอ !

เรื่องราว ข้อเท็จจริง ทั้งหมด มันก็มีอยู่เพียงแค่นี้เอง นะครับ
ซึ่ง ท่านทั้งหลาย จะเห็นได้อย่างชัดเจนทีเดียวว่า มันก็เป็นแค่เพียง ข้อกล่าวหาโง่ๆ ของคนชั่วๆ เท่านั้น จริงๆ
ดังนั้น ก็จงอย่างแปลกใจไปเลย ที่คนอย่างผม หรือว่าใครๆ ก็ตาม จะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ ข้อกล่าวหาโง่ๆ เช่นนี้มากนัก

จบไหมครับ ?

**************************************************************************************

แต่ถ้าหาก ยังไม่อยาก "จบ"  ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะโดยวิสัยแล้ว ผมย่อมไม่กล่าวอะไรลอยๆ ด้วย อัตตโนมัติ(ของตน)
แต่ย่อมมี หลักฐาน หรือ ข้ออ้างอิง สำหรับใช้ พิจารณา เทียบเคียง ประกอบการทำความเข้าใจ เสมอ

จริงไหมครับ ?

ต่อกรณีนี้ ขออนุญาตเสนอ "หลักฐาน" จาก ตำรา พุทธธรรม ของ ท่านปยุตโต
ซึ่งกล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ ด้วย "อรรถ" อย่างเดียวกัน ดังต่อไปนี้ ..................

(๑) อ้างจาก ตำรา พุทธธรรม ของ ท่านปยุตโต หน้า ๕๘๒ ระบุว่า

"แม้แต่คนโง่เขลา หรือคนบ้า จำถ้อยคำมีสาระจากคนอื่นมาท่องหรือมาบ่นว่าอะไร มีแง่ให้คิด
คนมีโยนิโสมนสิการได้ฟัง ก็อาจเกิดความแจ่มแจ้งหยั่งรู้สัจธรรมได้เหมือนกัน"



(๒) อ้างจาก ตำรา พุทธธรรม ของ ท่านปยุตโต  หน้า ๖๗๙ ระบุว่า

"แม้ตลอดกระทั่งอย่างที่มีเรื่องเล่าในคัมภีร์ว่า
บางท่านได้ยินคำพูดของคนบ้าแล้ว เกิดความเห็นแจ้งสัจธรรม ดับกิเลสหมดไปได้ ก็มี"



(๓) อ้างจาก ตำรา พุทธธรรม ของ ท่านปยุตโต  หน้า ๘๗๘ ระบุว่า

"ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"



เป็นอย่างไรบ้างครับ กับหลักฐานจาก ตำรา พุทธธรรม ของ ท่านปยุตโต ที่ผมยกขึ้นแสดง
เพื่อพิจารณา "เทียบเคียง" กับข้อความหลักฐานของท่านพุทธทาสแล้ว แตกต่างกันหรือไม่ครับ ?

ก็เอาเป็นว่า ถ้าหาก ล็อกอิน เอิงเอย ยังเชื่อมั่นว่า แก อ่านหนังสือ "แตกฉาน"
มิได้มีความเข้าใจผิดในสำนวนภาษา(โลก) ก็จงเร่งอธิบายความให้ชัดแจ้งด้วยเถิด

แต่ถ้าหาก อธิปรายโต้แย้งแล้ว "ฟังไม่ขึ้น" จริงๆ
นั่นย่อมเป็นเรื่องของ สำนึกรับผิดชอบ ที่คนอย่าง แก จะพึงมี นั้นแล ฯ

สุดท้ายนี้ ขออนุญาต กล่าวเตือน "ซ้ำ" อีกครั้งหนึ่งว่า ท่านพุทธทาส ได้เคยกล่าวถึง ข้อความ จากสมุดโน้ตของท่านเอาไว้แล้วว่า

"แต่คนอื่นอ่านไม่รู้เรื่อง อ่านได้คนเดียว"

ดังนั้น จึงไม่มีความชอบธรรมใดๆ เลย ที่คนนอก ซึ่ง "เสร่อ" แอบอ้างตนว่าเป็น "ศิษย์" อย่างไม่รู้จักอาย
จะมา "ปล่อยไก่" ในการกล่าวตู่ใส่ร้ายท่าน(พุทธทาส) อย่างโง่ๆ ด้วยสาเหตุคือ อ่านหนังสือไม่แตก !



สวัสดี


ปล.

(แต่กับคน เก้อยาก อย่างนั้น คนอย่างผม จะไปทำอะไรได้  ..........จริงไหม ?)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่