ก็ผมไม่ใช่ ศิษย์สวนโมกข์ นี่ครับ

พักหลังๆ เริ่มเห็นการ ฝลัดกระทู้ แบบโง่ๆ ของไอ้หมอนี่ มากขึ้นเรื่อยๆ มิหนำซ้ำ มันยังได้แสดง "เจตนา" อย่างชัดแจ้งเสียด้วยว่า
มันเข้ามาเพื่อ ฝลัดกระทู้ โดยเฉพาะ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องปราม การกระทำอันอาจก่อให้เกิด "ความรำคาญ" ต่อผู้เสพกระทู้
ผมจึงจำต้อง "สนทนาธรรม" กับมันผู้นี้สักหน่อย อย่างน้อย ก็หวังใจว่า มันจะสามารถ ฝลัดกระทู้ ที่ดู "ไม่โง่" จนเกินไปนัก !



ช่างน่าสมเพช ที่พอเริ่มต้นขึ้นมา ไอ้หมอนี่ ก็ใช้สันดานปากพร่อย กล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อหาที่ "เลื่อนลอย" ไม่ต่างไปจากพวกเม็ดมะขามทั่วๆ ไป
การที่มันกล่าวหา ผม(จ้าวนครเมฆขาว) และคนอื่นๆ ว่าเป็นพวก "เหล่าเดียรถีย์ชน คนตายแล้วสูญ" นั้น ถามว่า เป็นการกล่าวหาด้วยเหตุผลอะไร
และใช้ "สิ่งใด" เป็น "หลักฐาน" ในการสรุปความอย่างนั้น ทั้งนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายพึงทราบว่า
นี่ย่อมมิใช่ การกล่าวหาครั้งแรก และมิได้เป็นการทวงถามเหตุผลและหลักฐาน ครั้งแรก ด้วยเช่นกัน
เพราะได้ปรากฏว่า นางเม็ดมะขามปากเน่า และพวก ก็ได้เคยกล่าวหาผู้อื่นอย่างนี้มาแล้ว



แต่เมื่อถูกทวงถามถึง เหตุผล และหลักฐาน มันก็แกล้งตาย หายหน้าไปเสียดื้อๆ

ดังนั้น ในชั้นต้น ล็อกอิน "ตัวเลข" โนเนม ตนนี้ ก็จงตอบอธิบาย ถึงเหตุผลและหลักฐาน
ในการกล่าวหาผู้อื่นว่าเป็นพวกอุจเฉททิฐิ ได้อย่างไร ซึ่งจะเป็นทั้งกสนอธิบายการกระทำของตนเอง
รวมถึง จะเป็นการ อธิบายความแทน นางเม็ดมะขามปากเน่าและพวกของมัน ไปในคราวเดียวกัน นะครับ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ล็อกอิน "ตัวเลข" โนเนม ตนนี้ จะไม่มี "นิสัย" กล่าวหาผู้อื่นด้วยสันดาน "ปากพล่อย"
เหมือนกันกับที่ นางเม็ดมะขามปากเน่าและพวก ได้เคยทำมาแล้วในอดีต(อันใกล้) นะครับ



ไอ้หมอนี่ มันยังพล่ามต่อไปอีกว่า ผม น่าจะเปลี่ยนศาสนาได้แล้ว ด้วยเหตุผล ๔ ประการ
ซึ่งผมจำต้องอธิบายความ เพื่อปกป้อง "ข้อเท็จจริง" ตามที่มันปรากฏอยู่จริง ดังต่อไปนี้

****************************************************************************************************************
****************************************************************************************************************

ประเด็นที่ ๑

ไอ้หมอนี่อ้างว่า ผม ไม่เคยตั้งกระทู้ ตอบกระทู้ ชื่นชมธรรมะ ปกิณกะธรรมใดๆ เลย ฯ

ประเด็นปัญหา ก็คือ มันอาศัย หลักฐานชนิดใด จึงกล่าวหาผู้อื่นพล่อยๆ เช่นนี้
ไม่ต้องไปดูอื่นไกลที่ไหน กระทู้ ซึ่งผมได้ตั้งเอาไว้ใกล้ๆ นี่เอง เช่น .........

(๑) กระทู้ บุญ บาป และ ศีล โดยท่านปยุตโต ซึ่งเป็นบทความของท่านปยุตโต ล้วนๆ ไม่มีความเห็น(ส่วนตัว)ของผมเจือปนอยู่เลย
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในกระทู้นั้น หาใช่ การอนุโมทนาบุญ ตามปกติวิสัยของชาวพุทธ แต่เป็นการ ฝลัดกระทู้ โดยพวกเม็ดมะขาม !



(๒) กระทู้ เราสนองงานท่านพุทธทาส ก็เท่ากับ .........
กระทู้นี้ ก็เป็น บทความของท่านปยุตโต ล้วนๆ เช่นกัน แต่เป็นเพราะท่านปยุตโต ได้กล่าวยกย่องท่านพุทธทาสอย่างสูง
พวกเม็ดมะขาม มันจึงเกิดอาการ "ทนไม่ได้(ทุกข์)" เข้ามาอาละวาด ฝลัดกระทู้ กันเป็นการใหญ่



ตัวอย่างกระทู้ ที่ผมได้ยกขึ้นอ้างอิงนี้ สามารถเรียกว่าเป็น "กระทู้ ชื่นชมธรรมะ หรือ กระทู้ ปกิณกะธรรม" ได้หรือไม่ ?

ดังนั้น คำถามเพียง ๑ เดียวสำหรับประเด็นนี้ ก็คือ การอ้างเหตุผลอย่างโง่ๆ ว่า ผม(จ้าวนครเมฆขาว) ไม่เคยตั้งหรือตอบ
กระทู้ที่เกี่ยวกับการชื่นชมธรรมะ ปกิณกะธรรมใดๆ เลย จนเป็นเหตุให้ กเฬวราก ซากศพ อย่างแก กล่าวอย่างพล่อยๆ ว่า
ผม(จ้าวนครเมฆขาว) น่าจะเปลี่ยนศาสนาได้แล้วนั้น เป็นการกล่าวที่ถูกต้องชอบธรรมแล้วหรือไม่ ?

"คำถาม" ชัดเจนแล้วนะครับ  
ดังนั้น ผมจึงขอฟัง "คำตอบ" ที่ชัดเจน ด้วยเช่นกัน !

****************************************************************************************************************
****************************************************************************************************************

ประเด็นที่ ๒ และ ๓

การที่ไอ้หมอนี่ กล่าวหาว่า ผม(จ้าวนครเมฆขาว) ปั่นกระทู้จับผิดพระไตรปิฎก และ โจมตีพระอภิธรรมนั้น
มันมีความหมายว่าอย่างไรกันหรือครับ ?

ประการแรก
ถ้ามันหมายถึง คัมภีร์ อภิธัมมัตถสังคหะ มันก็ควรทราบว่า คัมภีร์เล่มนี้ เป็น สาวกพจน์ เป็นคัมภีร์ชั้นหลัง มิได้เป็นส่วนหนึ่ง
ของ "พระไตรปิฎก" เอาเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น หากผม จะไม่ให้ความสำคัญกับคัมภีร์ชั้นหลังแบบนี้มากนัก แล้วมันผิดตรงไหน ?
ก็ในเมื่อ ตามธรรมเนียมของชาวพุทธเถรวาท ย่อมต้องให้ความสำคัญกับ พุทธพจน์ จากพระสูตร และ พระวินัย เป็นอันดับแรก มิใช่หรือ ?

ประการที่ ๒
แต่หากหมายถึง พระอภิธรรมปิฎก คำถาม ก็คือ มันจะผิดอะไรเล่าครับ หากผมจะตั้งข้อสังเกตว่า พระไตรปิฎกบางส่วน
มิได้เป็นของเก่าเมื่อครั้งปฐมสังคายนา เพราะโดยข้อเท็จจริง มันก็เป็นเช่นนั้น ตัวอย่างเช่น ท่านปยุตโต กล่าวว่า คัมภีร์อปทาน
เพิ่งถูกเพิ่มเติม เข้ามาในพระไตรปิฎก เมื่อราว พุทธศตวรรษที่ ๓ นี่เอง เป็นต้น



หรือการที่ผมมีความเห็นแย้ง "มติ" หรือ "เหตุผล" ของพระเถระพวกมากแห่งลังกา ในกรณี คัมภีร์กถาวัตถุ ของท่านโมคคัลลีบุตรติสสะนั้น
ผมก็ไม่เห็นว่า การแสดงเหตุผลและหลักฐานโต้แย้งในเรื่องเหล่านี้ จะเป็นเหตุให้ต้องได้รับข้อกล่าวว่าหาโง่ๆ ในทำนองว่า "จับผิด" พระไตรปิฎก
หรือ "โจมตี" พระอภิธรรม อะไรเลยนี่ครับ ก็ท่านปยุตโต ได้กล่าวเอาไว้เองด้วยซ้ำไปว่า มันเป็นเรื่องที่ "ผู้ศึกษาต้องแยกแยะเอาเอง"



ทั้งนี้ หาก ล็อกอิน "ตัวเลข" โนเนม ตนนี้ ไม่เห็นด้วยกับเหตุผล และหลักฐานที่ผมยกขึ้นแสดง มันก็ย่อมมีสิทธิอย่างเต็มที่
ในการ "คัดค้าน" หรือ "โต้แย้ง" ด้วยเหตุผล และ หลักฐาน ที่มันเห็นว่า "ถูกต้อง" ชอบธรรมยิ่งกว่า !



ดังนั้น หากเห็นว่า "มติ" ของผม ไม่ถูกต้อง ก็เชิญ โต้แย้งได้อย่างเต็มที่ เลยนะครับ  ........... แล้วผมจะรอฟัง(คำอธิบาย)

****************************************************************************************************************
****************************************************************************************************************

ประเด็นที่ ๔

ไอ้หมอนี่ กล่าวหาผมว่า ปั่นกระทู้ซ้ำๆ ว่าปฏิจจสมุปบาทไม่คร่อมภพชาติ เพื่อเอาชนะเรื่องตายแล้วสูญ !

กรณีนี้ ต้องแยกอธิบายเป็น ๒ ประเด็น นะครับ กล่าวคือ

(๑) ปฏิจจสมุปบาท ของพระพุทธเจ้า ตามหลักฐานในชั้นพระไตรปิฎก ไม่มีคำอธิบายแบบข้ามภพชาติ นี่คือข้อเท็จจริง ตัวอย่างเช่น



กรุณา อ่านเพิ่มเติมได้จาก
กระทู้ ปฏิจจสมุปบาท เป็นธรรมอันลึก ประกอบด้วย สุญญตา หรือไม่ ? http://ppantip.com/topic/30923043
กระทู้ อะไร ? ในปฏิจจสมุปบาท ที่ข้ามภพข้ามชาติ(แบบตายเข้าโลง) http://ppantip.com/topic/30923033

จบไหมครับ ?

(๒) การที่ไม่มี ปฏิจจสมุปบาทข้ามภพชาติ(แบบตายเข้าโลง) ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็น ตายแล้วสูญ เลยแม้สักนิด !
สมดังคำอธิบายของท่านปยุตโต ที่อธิบาความเอาไว้ว่า .......

(๒.๑) มิจฉาทิฐิ ทั้ง ๒ พวก มีจุดร่วมทางทิฐิ ที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ เชื่อว่า สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นของจริงของแท้ โดยพวกหนึ่งเห็นว่า สัตว์ บุคคล นั้นเที่ยงแท้ตลอดไป
แต่อีกพวกเห็นว่า เที่ยง ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อกายแตก ก็ขาดสูญ สิ้นไป



(๒.๒) แต่สัมมาทิฐิในพระพุทธศาสนา ไม่เห็นว่า สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ไม่ใช่ของจริงของแท้มาแต่แรก
โดยมีความเข้าใจอย่างถูกต้องว่า มันเป็นเพียงแค่ สมมุติ แต่เนื้อแท้แล้ว เป็นเพียงแค่ "กระบวนธรรม"
คือ สังขาร ที่หมุนกลิ้งไปตามเหตุปัจจัย  ก็ในเมื่อ ไม่มี สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มาแต่แรกแล้ว
ยังจะเอา สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ที่ไหนมา เที่ยง หรือ ขาดสูญ ได้อีก จึงเป็นอันปฏิเสธ ทั้ง สัสสตทิฐิ และ อุจเฉททิฐิ ทั้งหมด !



จบไหมครับ ?

****************************************************************************************************************
****************************************************************************************************************

ประเด็นสุดท้าย

ไอ้หมอนี่ เขาสรุปในท้ายที่สุดว่า .........

"ร้องไห้๑) เชื่อว่าเหล่าเดียรถีย์ชน เหล่านี้คงจะไม่ใช่พุทธแล้ว (๒)ไม่เคยเห็นศิษย์สวนโมกข์คนอื่นกระทำแบบนี้เลย"

ข้อแรก ที่กล่าวว่า คนนั้นคนนี้ ใช่ หรือ ไม่ใช่พุทธนั้น ผมกลับมีความเห็นแย้งว่า ทางที่ดี ล็อกอิน "ตัวเลข" โนเนม ตนนี้
ควรสำรวจ "ตนเอง" ให้แจ่มชัดเสียก่อนเถิดว่า ด้วย ทิฐิ โง่ๆ ตามที่ แก ได้แสดงให้เห็นอยู่ในบัดนี้
แก ยังจะมี "น้ำหน้า" อ้างตัวอ้างตน ว่าเป็นชาวพุทธเถรวาท อยู่อีกละหรือ ?

ส่วนในข้อที่ ๒ นั้น ขอแถลงให้ทราบอีกครั้งว่า "ก็ผมไม่ใช่ ศิษย์สวนโมกข์ นี่ครับ" และเท่าที่ทราบ ผมก็ยังไม่เห็นว่า
คนที่แก เอ่ยชื่อมาทั้ง ๓ ล็อกอินนี้ มีใครเคยกล่าวอ้างว่าเป็นศิษย์สวนโมกข์ เลยสักคน (ถ้ามีหลักฐาน กรุณา ยกขึ้นแสดงด้วย)
โดยส่วนตัวของผมเองนั้น ก็ได้เคยกล่าวแสดงเอาไว้อย่างเปิดเผยมาแล้วว่า "ผมมิได้เป็นศิษย์ท่านพุทธทาส"

ดังนั้น ทุกสิ่งอย่าง ที่ผมได้กระทำไปแล้วนั้น หากมีความขาดตกบกพร่อง ย่อมเป็นความรับผิดชอบของผมเอง
มิได้เกี่ยวกับท่านพุทธทาส สวนโมกข์ หรือ ศิษย์สวนโมกข์ แต่อย่างใดทั้งสิ้น ....... ชัดเจนแล้วนะครับ



สุดท้ายนี้ ที่แก ทำเป็นมาขออนุญาต ฝลัดกระทู้ นั้น ผมขอกล่าวตามตรงว่า อย่า "บ้า" ให้มันมากนักเลย
ประการแรก แกได้ทำการฝลัดกระทู้มาสักพักแล้ว โดยที่มิได้ขออนุญาตใคร นี่ครับ แล้วจะมาทำกระแดะ ขออนุญาต ทำไม ?

ประการที่ ๒ เอาเข้าจริง ถึงแกขออนุญาต แล้วใครเขาจะออกปากอนุญาต ให้กับ แก เล่าครับ ?
ก็ในเมื่อ ไม่ว่าใครก็ตาม ย่อมไม่มีอำนาจที่แท้จริง ในการอนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใด สามารถ ฝลัดกระทู้ ผู้อื่น ได้อย่างเสรี เสียหน่อย
การที่คนแต่ละคน จะทราบว่า ตนสมควร "ฝลัดกระทู้" ของผู้อื่นหรือไม่ จึงขึ้นอยู่กับ "สามัญสำนึก" ของตน

ปัญหามันจึงมีอยู่ว่า แก พอจะมี สามัญสำนึกที่ดี หลงเหลืออยู่บ้างหรือไม่ เท่านั้นเอง

หรือมิใช่ ?

สำหรับผมนั้น ถ้าหาก แก สามารถ แก้ข้อสงสัยทั้งหมดในกระทู้นี้ ได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ปราศจากข้อสงสัยใดๆ ทั้งปวง
ผมย่อมมีความยินดีอย่างยิ่ง ถ้าหากแกต้องการจะเข้ามาฝลัดกระทู้ของผม

แต่ถ้าหาก แก "แกล้งตาย" หรือ เพียงเข้ามา แถกแถ ข้างๆ คูๆ เหมือนอย่างที่พวกเม็ดมะขามกระทำตามๆ กันมา
ผมย่อมมีความเสียใจที่จะแจ้งให้ แก ทราบว่า อย่างได้ "สะเออะ" เข้ามาในกระทู้ของผม น่าจะเป็นการดีที่สุด
เพราะผมมิได้มีความต้องการจะเสวนากับ "คนโง่" ที่เอาแต่ "ฝลัดกระทู้" เพียงเพื่อยืนยัน "อัตโนมัติ" ของตนเท่านั้น

หาก แก และพวก ต้องการแสดงความเห็น หรือความเชื่อใน "อัตโนมัติ" ของตน แต่เพียงอย่างเดียว
ก็จงไปตั้งกระทู้เอาเองเถิด เสรีภาพของ แกและพวก อยู่ที่ตรงนั้น หาได้มีอยู่ในกระทู้ของผู้อื่นไม่

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บรรดา กเฬวราก ซากศพ ทั้งหลาย จะมีความเข้าใจในเรื่องของ สิทธิและเสรีภาพ ได้ดีพอสมควร นะครับ

สวัสดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่