เมื่อวานมีโอกาสได้ไปทานอาหารญี่ปุ่นที่ Kitchen Hush ร้านดังอีกร้านนึงของเมืองเชียงใหม่มาค่ะ เล็งไว้นานแล้ว ได้โอกาสเลยจัดไป 1 มื้อ

ร้าน Kitchen Hush อยู่ในซอยนวรัฐ 2 ตรงข้ามโรงเรียนปรินซ์ฯ ซอยเดียวกับโรงเรียนอนุบาลวารีค่ะ เปิด 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า 11.30 - 14.00 น. กับช่วงเย็น 18.00 - 22.00 น. เราเลือกไปช่วงเย็น เพราะว่าช่วงเช้าไม่มีปลาดิบค่ะ ถ้าใครจะไปลองทานปลาดิบที่นี่ให้ไปช่วงเย็นเท่านั้นนะคะ และทางที่ดีควรโทรไปจองโต๊ะไว้ก่อนด้วย (เบอร์ร้าน 053-247-731) เพราะร้านเป็นแนวเปิดในบ้าน ที่นั่งมีค่อนข้างจำกัดค่ะ ถ้าไม่จองไว้ก่อนอาจจะได้ไปยืนรอหรือไม่มีที่ให้เลยก็ได้ เราไปคนเดียวเลยจองที่นั่งตรงเคาน์เตอร์ค่ะ

เข้าไปนั่งปุ๊บก็จะมีอุปกรณ์พร้อมผ้าเย็นมาให้เตรียมทานค่ะ


มีอาหารว่างมาให้เคี้ยวเล่นด้วย มีหมูยอ (มั้ง) ผักดอง แล้วก็แครอท เราไม่ได้แตะเลยค่ะ มัวแต่เลือกรายการอาหารที่จะสั่งอยู่


สั่งอาหารเสร็จก็ลองสำรวจรอบๆตัวดู เห็นคุณเชฟซึ่งเป็นเจ้าของร้านชาวญี่ปุ่นกำลังแล่ปลาอย่างขะมักเขม้น


เซ็ทแรกมาแล้วค่ะ สั่งข้าวหน้าปลาไหลชุดเล็ก (240 บาท) ไป ได้มาหน้าตาแบบนี้ค่ะ มีเครื่องเคียงมาครบ 4 มุมเลยทีเดียว


เครื่องเคียงที่ให้มีอันนี้ แตงกว่าดองรึป่าวไม่แน่ใจ ไม่ได้ทานค่ะ


แล้วก็มีผักดอง ไม่ทานอีกเหมือนกัน


ซุปมิโสะค่ะ ไม่เคยเจอซุปมิโสะที่ไหนใส่หอมใหญ่ ทานแล้วรสชาติแปลกๆ สำหรับเราถือว่าไม่ผ่านเพราะไม่ถูกปากเท่าไหร่


สุดท้ายก็ถั่วแดง อร่อยดีค่ะ ไม่หวานเวอร์จนเกินไป แต่ออกจะแข็งๆไปนิดนึง


มาที่จานหลักอีกที สั่งชุดเล็กเลยได้ปลาไหลมาแค่นี้ค่ะ ใจจริงอยากซัดชุดใหญ่ที่ปลาไหลแทบจะล้นชามเลย แต่เกรงว่าจะอิ่มก่อนได้ชิมปลาดิบ (รูปเบลอไปนิดขอโทษด้วยค่ะ) ปริมาณที่ให้มาก็ถือว่าเหมาะสำหรับคนที่มาทานคนเดียวค่ะ แอบคิดว่าให้ข้าวน้อยมานิดนึง แต่ก็ไม่ได้น้อยจนน่าเกลียดค่ะ ถือว่าพอดีๆ แต่เราทานจุเลยคิดว่าน้อยไปนิด อันนี้โทษตัวเองไม่โทษร้านค่ะ รสชาติถือว่าอร่อยใช้ได้เลยค่ะ แต่ถามว่าอร่อยที่สุดที่เคยทานมามั๊ยคงไม่ใช่ เนื้อปลาหนานุ่มดี ซอสที่ราดมาก็อร่อยกลมกล่อมดีค่ะ


จานต่อไปที่สั่งก็คือ มะเขือทอดราดซอสมิโสะ (95 บาท) มะเขือทอดได้ดีค่ะ ส่วนซอสก็รสชาติดี ไม่เค็ม ไม่หวานจนเกินไป แต่เคยทานที่อร่อยกว่านี้มาแล้ว (ที่ไหนเดี๋ยวจะมารีวิวเร็วๆนี้) เลยค่อนข้างเฉยๆค่ะ


จานต่อไปที่สั่งคือชุดปลาดิบรวมเล็ก (330 บาท) ซึ่งเท่าที่ดูในเมนูจะมีปลาตะคองเหลือง ปลากะรังแดง ปลาหมึกโป๊ะ หนวดปลาหมึกยักษ์ ปลาแซลมอน ปลา โอ กุ้งหวาน รอนานค่ะจานนี้ ขาดตอนจากจานที่แล้วประมาณ 15 นาทีได้ เข้าใจว่าคนเยอะ ส่วนเชฟที่แล่ปลาก็มีแค่เจ้าของร้านคนเดียว เลยนั่งรอไปชิลๆ ไม่ซีเรียสค่ะ

รอสักพักก็ได้มาหน้าตาแบบนี้ค่ะ ไม่มีหนวดปลาหมึกกับกุ้งหวาน (แอบเฟลนิดหน่อย อยากลองทานกุ้งหวาน) ส่วนปลาอื่นๆที่ให้มานอกจากแซลมอนกับปลาโอเราแยกไม่ค่อยออกเท่าไหร่ว่าชิ้นไหนเป็นปลาอะไร (ความรู้น้อย สักแต่ทานอย่างเดียว แหะๆ) แต่เรื่องความสดถือว่าเยี่ยมมากค่ะ หั่นมาให้ชิ้นพอดีคำ มีใหญ่บ้างเป็นบางชิ้น


ทานกับวาซาบิสดที่ให้มา...ฟินค่ะ


พอซัดปลาดิบหมดก็อิ่มพอดีค่ะ เรียกเช็คบิลพนักงานก็เอาของหวานมาเสิร์ฟปิดท้าย จะเรียกว่าของหวานก็ไม่ได้เพราะมันไม่หวาน เรียกว่าเป็นของล้างปากแล้วกัน เป็นน้ำแข็งใสรสมะนาวค่ะ ทานแล้วเย็นสดชื่นสุดๆ


มื้อนี้จ่ายไป 680 บาทสำหรับอาหารด้านบน + น้ำเปล่า 1 ขวด ไม่มี Service Charge ค่ะ  รับเงินสดเท่านั้นนะคะ ไม่รับบัตรเครดิต/เดบิตใดๆทั้งสิ้น

สรุป...สำหรับเราๆคิดว่าคุณภาพอาหารกับราคาถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ ข้าวหน้าปลาไหลรสชาติดีๆแบบนี้ ปริมาณเท่านี้ ถ้าไปทานที่อื่นคงไม่ได้ทานในราคา 240 บาทแน่ๆ แถมปลาดิบคุณภาพดีๆสดๆ ที่ยัดมาให้เกือบ 20 ชิ้นในราคา 330 บาท เราว่าไม่ได้หาทานง่ายๆ ส่วนเรื่องการบริการก็ถือว่าดีค่ะ พนักงานคอยเทคแคร์ดี มีขอโทษที่อาหารมาช้า หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสกับลูกค้าดีค่ะ คิดว่าคงมีรอบสองแน่นอนสำหรับที่นี่ จะลองไปทานเมนูอื่นดูอีกแน่นอน

จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

* แก้ไขคำผิดนิดนึงค่ะ