จากที่เคยโพสไว้เกี่ยวกับเรื่องที่หลายคนชอบไปโฟกัสเรื่องตัวเลข มากกว่ามองผลลัพธ์ที่รูปร่าง ในกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/31027892
ไม่รู้มีคนอ่านบ้างหรือเปล่า แต่ก็เหมือนจะมีคนหลงเข้ามาอยู่ แอบรู้สึกดีนิดๆ อยากให้หลายๆ คนเปลี่ยนความคิดจริงๆ อย่ามัวแต่ให้ความสำคัญกับตัวเลขจนทำให้เราท้อเอง

ทีนี้ก็ยังมีเรื่องที่อยากเล่าอีกหลายเรื่อง เอาที่เป็นแรงบันดาลใจก่อนเลยละกันว่าทำไมถึงตัดสินใจมาออกกำลังกายจริงจังได้
จากที่เคยเล่าว่าผมเคยสมัครสมาชิกฟิตเนสกับแคลิไว้ แต่ก็ไม่ได้วิ่งเบิร์นหรือเล่นเวทอะไร จะมีก็แค่เข้าคลาสเต้นไปเรื่อย
ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ดี ได้ประสบการณ์เยอะมากๆ มีเพื่อนพี่น้องเต็มไปหมด เป็นอะไรที่อบอุ่นมาก
ทีนี้พอแคลิปิดตัวลงผมก็ไม่มีที่เล่น คลาสเต้นก็ไม่มีทีนี้ก็ไม่ได้ออกกำลังอะไรเลยครับ งานก็เข้าเลยทีนี้เพราะปกติก็ไม่ได้คุมอาหารอะไรอยู่แล้ว ที่คุมน้ำหนักได้ก็อาศัยว่าออกกำลังกายไปด้วย
ทีนี้พอไม่ได้ไปเข้าคลาสเต้นอะไรน้ำหนักเจ้ากรรมมันก็เริ่มกลับมาเยี่ยมเยียนสิครับ ผมก็เลยต้องคุมอาหารพยายามจะกินแบบนับแคลดูแต่มันก็ยังไม่ใช่เท่าไหร่ จนสุดท้ายเลยตัดสินใจไปสมัครฟิตเนสเฟิร์สครับ

หลังจากที่สมัครก็ไม่รู้จะเล่นคลาสอะไรเพราะมันไม่มีคลาสให้เต้น ก็เลยได้แค่พยายามไปวิ่งและยกเวท บอกได้เลยว่าน่าเบื่อมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมเป็นคนไม่ชอบวิ่งอยู่บนลู่ ก็ไม่รู้ว่าคนที่วิ่งกัน 40 นาทีขึ้นไปเขาวิ่งกันไปได้ยังไง มีแรงใจอะไรมาวิ่ง ส่วนเวทก็เล่นแบบงูๆ ปลาๆ กล้ามก็คงไม่ได้แบบคนที่เล่นจริงจัง
ซึ่งก็เป็นการเล่นที่เรื่อยเปื่อยดูไม่มีจุดหมายแบบนี้ไปหลายเดือนอยู่ครับ สมัครไปเมื่อ 22 ก.พ. ทีนี้พอต้นเดือน เม.ย. ก็มาลองดูผลครับไปดูรูปเอาดีกว่า



จากรูปครับ ถ้าดูเฉพาะน้ำหนักตัวอย่างเดียว หลายคนคงแบบออกกำลังกายยังไงเนี่ยน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาอีก แต่สำหรับผมพอดูแล้วก็ดีใจเล็กๆ
เพราะถึงน้ำหนักตัวจะเพิ่มมาแต่ไขมันลดลงครับ ถึงจะยังลงไม่มากก็เหอะ ทีนี้ก็เลยเริ่มดีใจครับอยากออกจริงจังแต่ก็ไม่รู้จะเล่นอะไรยังไงดี สุดท้ายก็เลยคิดว่าต้องหาคลาสอะไรเข้าเสียหน่อยแล้ว

ผมก็เลยดูตารางคลาสแล้วก็เจอวันนึงน่าสนใจคือเป็นโยคะแล้วมีคลาสบอดี้แจมต่อ ผมก็จัดการเลยกะว่าเข้าไปเล่นโยคะเบาๆ แล้วเบิร์นด้วยบอดี้แจมต่อ และนี่เองคือจุดเปลี่ยนสำหรับผม
เพราะหลังจากเข้าคลาสโยคะ สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจคือเหงื่อมันออกมาเยอะมาก ซึ่งขัดกับสิ่งที่เราคิดตอนแรกเพราะรู้สึกว่าโยคะเป็นอะไรที่เคลื่อนไหวช้า ยืดๆ ไม่น่าจะมีเหงื่อออกอะไรมากมาย
ที่ไหนได้พอเล่นโยคะแล้วไปเข้าบอดี้แจมต่อ ปรากฏว่าบอดี้แจมเหงื่อออกน้อยมากกว่าอีก (บางคนอาจจะบอกว่าผมเต้นไม่ได้หรือเปล่าหรือว่าตามไม่ทันหรือเปล่าเลยเหงื่อไม่ออก ต้องบอกเลยว่าไม่ครับผมตามทันเต้นทันครูตลอด)
ทีนี้แน่นอนว่าครั้งเดียวมันอาจจะยืนยันอะไรไม่ได้เพราะการทดลองต้องมีการทำซ้ำ ผมก็เลยต้องมีการพิสูจน์ครับ ก็ลองเข้าคลาสแบบเดิมในอาทิตย์ถัดมา ซึ่งผลก็เหมือนเดิมคือโยคะมันทำให้เหงื่อออกเยอะมาก

ทีนี้ผมก็เลยลองหาคลาสจากสาขาที่ผมเดินทางไปได้สะดวกเพื่อที่จะเล่นโยคะครับ เพราะรู้สึกเริ่มสนุกกับการเล่น ถึงแม้จะยังทำอะไรไม่ได้เท่าไหร่ก็ตาม
ประกอบกับผมไปเจอแรงบันดาลใจจากอินสตาแกรมครับ แบบว่าตอนนั้นช่วงที่เล่นฟิตเนสที่เฟิร์สก็มีลงรูปในไอจีแล้วแทคสถานที่ไปบ้าง ก็เลยได้เห็นรูปของคนอื่นๆ ด้วย
ซึ่งก็ไปเจอคนนึงที่เล่นเก่งมาก ทำท่าได้เยอะ ผมก็เลยไปตามเขาครับ แล้วยิ่งพอรู้ว่าเขาลดน้ำหนักจาก 100 นิดๆ เหลือ 70กว่าๆ ได้ มันยิ่งน่าสนใจ ไอจีน้องเขา big_yogafit (ใครกำลังมองหาแรงบันดาลใจลองเข้าไปดูนะครับ)
และแน่นอนว่าในไอจีก็มีการตอบหรือชื่นชมรูปภาพเหมือนกัน ก็เลยทำให้ผมไปเจออีกคนหนึ่งเข้า ไอจี kornosukae ซึ่งเห็นท่าที่เขาทำแล้วก็ยิ่งอยากทำได้บ้างครับ และสองคนนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจและจุดเริ่มต้นในการเริ่มเล่นโยคะของผม
จริงๆ อยากเอารูปในไอจีของสองคนนี้มาโพสให้ดู แต่ว่ายังไม่ได้บอกเจ้าตัว เลยให้ไปดูกันเองดีกว่า ลองดูนะครับตามไอจีที่บอก

ทีนี้ถ้านับจากที่เริ่มเล่นโยคะจนถึงตอนนี้ รวมระยะเวลาที่ฝึกมาก็ได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว เลยอยากชวนเพื่อนๆ ที่กำลังมองหากิจกรรมในการออกกำลังกายมาเล่นโยคะกันดู
เพราะนอกจากมันจะช่วยเบิร์นได้แล้ว ยังช่วยในเรื่องบุคลิกภาพ แก้เรื่องปัญหาปวดเมื่อยได้ด้วยครับ และที่สำคัญโยคะยังให้ข้อคิดในบางเรื่องด้วยครับ ไว้จะมาเล่าให้ฟัง


ทีนี้เอารูปตัวเองมาให้ดูบ้าง บอกไว้ก่อนนะครับว่าไม่ได้เก่งอะไร ยังมือใหม่อยู่ แต่แค่อยากเอามาลงให้หลายๆ คนที่ลองเล่นแล้วท้อดู
เพราะส่วนใหญ่หลายคนที่เริ่มฝึกโยคะ พอฝึกไปได้ครั้งสองครั้งก็เลิก บอกว่ายากบ้างล่ะ ทำไม่ได้บ้างล่ะ มีหลายเหตุผลที่ทำให้ถอดใจและเลิกฝึกไป
เลยอยากเอาประสบการณ์ตัวเองที่เล่นได้ไม่นานมาให้ดูกันว่า ทุกคนๆ ทำได้ ขอแค่ตั้งใจและฝึกไปเรื่อยๆ ครับ ไปดูกันเลยดีกว่า


17 ก.ค. หลังจากที่เริ่มเล่นและเจอแรงบันดาลใจ ก็มีโอกาสได้ไปเล่นกับแรงบันดาลใจคนนึงครับ ก็ได้ฝึก headstand ครั้งแรก ซ้ายล่าง โดยที่มีเพื่อนช่วยจับให้ จะเห็นได้ว่าครั้งแรกยังทำไม่ได้เลย
ส่วนที่น่าจะสัมผัสพื้นก็ยังไม่ถูกแทนที่จะเป็นหัวสัมผัสพื้น ดันกลายเป็นหน้าผากไปซะงั้น ซึ่งอาจจะเกิดการบาดเจ็บได้ อันนี้ต้องระวังครับ


30 ก.ค. อันนี้เป็นครั้งที่สองที่ฝึกกับเพื่อนคนเดิม หลังจากที่กลับไปฝึกเองด้วย คราวนี้ขึ้น headstand เองแต่อาศัยกำแพงช่วยครับ


7 ส.ค. ลองฝึกท่าอื่นเพิ่ม จริงๆ ท่าเดิมยังทำได้ไม่หมด แต่ก็ลองท่าอื่นด้วยเพื่อที่จะได้ไม่เบื่อ อย่างท่าซ้ายบน crane pose ครั้งแรกที่ลองรู้สึกแค่ว่าตัวเองตัวหนัก จะเห็นได้เลยว่าแขนงอมากๆ


21 ส.ค. กับพัฒนาการที่มากขึ้น คราวนี้ขึ้น headstand เอง โดยที่ไม่มีเพื่อนช่วยและไม่ใช้กำแพง ตอนที่ทำได้เป็นอะไรที่รู้สึกดีมากๆ แน่นอนว่ามีลองฝึกท่าใหม่ด้วยอย่าง scorpion ท่าซ้ายล่าง


28 ส.ค. ลองโพสท่ากับเพื่อนที่ช่วยฝึกและแนะนำให้ ท่า crane pose ด้านขวาล่างมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นอีกนิด แขนเริ่มงอน้อยลงแล้ว


5 ก.ย. หลังจากที่เล่นมาสักพักก็มีเพื่อนอยากเล่นโยคะบ้าง ก็ได้มีโอกาสแนะนำเพื่อนลองทำท่า headstand ดู พอตอนค่ำๆ เพื่อนก็ส่งรูปมาให้ดู เห็นแล้วก็ฮึดเข้าไปอีก
เพราะหลังจากแนะนำตอนเช้า ตอนเย็นเพื่อนกลับไปลองทำดูก็ทำได้เลย (อันนี้แอบอิจฉาเพื่อนที่มีกล้ามเป็นทุนนิดๆ เพราะช่วยให้ขึ้นง่ายเลย)


อันนี้เป็นรูปที่เพื่อนส่งให้ดูตอนค่ำ


23 ก.ย. กับท่า crane pose ที่ทำได้มากขึ้น แขนงอน้อยลง


ทีนี้ลองไปดูแรงบันดาลใจจากคนอื่นบ้าง เผื่อใครจะมีข้ออ้างว่าทำไม่ได้หรอก

ถ้าคุณจะอ้างเรื่องอายุ บอกว่าฉันอายุเยอะแล้ว จะให้ทำอะไรที่ตัวอ่อนหรือใช้ความแข็งแรงแบบเด็กหนุ่มสาวคงไม่ได้หรอก










หรือถ้าคุณจะอ้างเรื่องน้ำหนักตัว รูปร่าง บอกว่าฉันตัวใหญ่ อ้วน ทำไม่ได้หรอก





หรือถ้าคุณจะอ้างเรื่องสถานที่ บอกไม่มีที่เล่น ไม่มีสตูจะเล่น










หรือถ้าคุณจะอ้างเรื่องชุดไม่เหมาะ ไม่มีชุดจะใส่ฝึก





ทีนี้คงมีแรงบันดาลใจเล็กๆ สำหรับใครที่คิดจะฝึกโยคะนะครับ ยังไงก็ลองดูครับ แล้วคุณอาจจะหลงรักโยคะเหมือนผมก็ได้ ขอแค่อย่างเดียวครับ ฝึกไปเรื่อย อย่าท้อไปเสียก่อน

แล้วเพื่อนๆ มีแรงบันดาลใจอะไรกันบ้าง เอามาแบ่งปันกันหน่อยครับ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นโยคะนะครับ เป็นอะไรก็ได้ที่ทำให้เราหันมาดูแลตัวเอง หันมาออกกำลังกาย



เครดิตภาพจาก IG: Yoga_digest
           Pinterest: Yoga Yoga Yoga, Yoga Love, Yoga inspired

ปล. ท่าที่ฉีกขาผมฝึกมาตั้งแต่ตอนที่เต้นที่แคลิครับใช้เวลาสามเดือนถึงจะฉีกได้เกือบตรง
ปล.2 อย่างที่บอกครับว่าผมเป็นมือใหม่ อย่าเอาผมไปเทียบกับใครหรือคนที่ฝึกมานานแล้วนะครับ แค่อยากเอามาเล่าให้เห็นว่าถ้าตั้งใจ และพยายาม สักวันก็ต้องทำได้แน่
ปล.3 ถ้าไม่รังเกียจใครกำลังลดน้ำหนักแอดมาคุยเล่นเป็นเพื่อนในเฟสกันได้นะครับ มีเพื่อนลดไปด้วยกันน่าจะดีกว่าลดคนเดียว 555+