สล่าปู่อาจเคยเสนอเรื่องของลาบเมืองเหนือมาบ้างแล้ว แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่เคย
จัดได้สมบูรณ์แบบเท่าครั้งนี้ (จะบอกว่าฟูลอ๊อฟชั่น ก็กลัวโดนแซว)
ลาบเหนือ ถ้ามองลึก ๆ แล้วไม่ได้จำกัดความเพียงเอาหมูหรือเนื้อมาบดๆ สับ ๆ
ผัดน้ำพริกแล้วเอาหมูลงผัดด้วย ถือว่าเป็นลาบ แค่นี้ไม่ใช่ครับ
มันเป็นวัฒนธรรม มีความเป็นมายาวนานจะว่าเป็นแบบแผน เป็นการสื่อถึงความเป็นลูกผู้ชาย
ก็สามารถว่าได้โดยไม่ผิดมากนัก
วันนี้ด้วยความตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่จะขอบันทึกว่ากว่าจะเป็นลาบดิบหรือลาบคั่ว เขาจะมี
ข้นตอนในการทำพอสมควรเลยทีเดียว
ลาบหมูสเปเชียล
หมูที่นิยมใช้ทำลาบจะใช้ส่วนสะโพก เพราะเนื้อตรงนี้จะแน่นมาก ๆ ล้างให้สะอาดสะเด็ดน้ำแล้ว
นำมาซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ
เตรียมเครื่องประกอบ เครื่องปรุง
เครื่องใน ประกอบด้วยหัวใจ กระเพาะ มันแข็ง ไส้หวาน นำไปต้มให้สุก ซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ บาง ๆ
ตับและเซ่งจี้ ซอยบางเช่นกัน ตับนำไปลวกในน้ำร้อนเกือบสุก เซ่งจี้แช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชูเจือจาง
แล้วเอามารวมกัน เหยาะน้ำปลาแช่เก็บไว้ในตู้เย็น
มันติดหนัง ซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาลงทอดในกระทะเตรียมทำเป็นกรอบ
จะให้กรอบเคี้ยวง่าย ควรทอด 2 จังหวะ ครั้งแรกทอดแค่ออกเหลืองแล้วตักมาพักไว้
ระหว่างรอหนังเย็น เจียวหอมแดงขัดตาทัพไปก่อน
เจียวหอมแดงเสร็จ เอาหนังที่ตักไว้ลงทอดจังหวะ 2 อีกที ส่วนที่เป็นหนังจะฟูพองขึ้นมา
จะเรียกว่าแคบหมูจิ๋วก็ว่าได้ แต่มันจะกรอบกว่าแคบหมูเยอะทีเดียว และฟูน้อยกว่า
คำว่า "ลาบ" ในภาษาเหนือ คือการนำวัตุถใดก็ตามจากชิ้นใหญ่ มาสับให้ละเอียดเป็นชิ้นเล็ก ๆ
ลาบเมืองเหนือ นิยมที่จะใส่เลือดลงไปด้วยระหว่างสับ เพื่อให้เนื้อหมูเปลี่ยนไปมีสีแดงของเลือด
และเขาจะใส่ผักไผ่ลงไปตอนสับด้วยเพื่อใช้กลิ่นของผักไผ่ไปดับคาวบางอย่าง เกลือป่นจะใส่
ลงไปด้วย ว่ากันว่าจะทำให้เนื้อแน่นขึ้นและเข้ารส
ขั้นตอนนี้ สับเหมือนกัน ผมขออนุญาตใช้เครื่องสับนะครับ จะไม่ออริจินอล ก็ตรงนี้ตอนเดียวแหละครับ
ไม่น่าเกิน 2 นาที เป็นอย่างนี้ครับ
ทุกอย่างพร้อม ก็ถึงขั้นตอนการ
"ยำลาบ"
การคลุกผสมให้เข้ากัน ทางเหนือจะเรียกยำลาบครับ บางท้องถิ่น
ก็อาจเรียกว่า
"กนลาบ" หมายถึงคนนั่นเอง
น้ำพริกดำสำหรับยำลาบ เป็นน้ำพริกที่ปรุงขึ้นเพื่อใช้กับการยำเมือง ๆ ทั้งหลาย เช่นยำไก่
ยำเห็ด ยำกบ ยำปลาแห้ง ยำจิ๊นแห้ง ซะปะยำใช้ได้หมดละครับ
ผมเคยพูดถึงน้ำพริกดำยำลาบไว้ที่นี่ครับ ถ้าสนใจลองแวะเข้าไปชมได้เลยครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=salapoo35&month=09-2012&date=27&group=6&gblog=8
เทใส่ลงไปในลาบ พร้อมเครื่องในต้ม ใช้ช้อนหรือทัพพีคนตามสะดวก
คนจนเข้ากันดี เข้าพริกเข้าเกลือ โรยด้วยต้นหอมผักชี แล้วคลุกอีกครั้ง
อย่าหาว่าผมทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำเป็นเรื่องจุกจิก คือผมอยากจะบอกว่า
ลาบเป็นวัฒนธรรม ถ้าทำจริง ๆ เขาทำแบบนี้ คือก่อนจะคั่วเขาจะยำก่อนแล้วนำไปคั่ว
ในกระทะ ไม่ใช่เอาลงผัดเหมือนทำน้ำพริกอ่อง ไม่ใช่ครับ
ใช้น้ำที่ต้มเครื่องใน เทใส่ให้ข้นขลุกขลิก
ตั้งกะทะ น้ำมันนิดหน่อย เจียวกระเทียมให้เหลือง เอาลาบลงผัด ซึ่งเราจะเรียกว่า "คั่วลาบ"
คั่วอย่านาน เพราะถ้านานหมูจะแข็ง และความหวานจากหมูจะหายไป ควรให้มีน้ำขลุกขลิกด้วย
ผมถึงบอกว่าเป็นลาบคั่วสเปเชียล ค่อนข้างจุกจิก แต่เป็นการตั้งใจนำเสนออย่างเต็มรูปแบบเท่านั้นเอง
และหน้าตาที่ออกมาก็คุ้มกับการรอคอยนะ
ผักสมุนไพรกลิ่นหอมหลาย ๆ ชนิด นิยมมากินคู่กับลาบ คนเมืองเรียก "ผักกับลาบ"
และที่ถูกคู่กับลาบที่สุด ตอบโดยไม่ต้องคิด ข้าวนึ่งอุ่น ๆ ครับ สวัสดีครับ
"ลาบหมูคั่ว" ลาบเมืองเหนือที่มาแบบสเปเชียล
จัดได้สมบูรณ์แบบเท่าครั้งนี้ (จะบอกว่าฟูลอ๊อฟชั่น ก็กลัวโดนแซว)
ลาบเหนือ ถ้ามองลึก ๆ แล้วไม่ได้จำกัดความเพียงเอาหมูหรือเนื้อมาบดๆ สับ ๆ
ผัดน้ำพริกแล้วเอาหมูลงผัดด้วย ถือว่าเป็นลาบ แค่นี้ไม่ใช่ครับ
มันเป็นวัฒนธรรม มีความเป็นมายาวนานจะว่าเป็นแบบแผน เป็นการสื่อถึงความเป็นลูกผู้ชาย
ก็สามารถว่าได้โดยไม่ผิดมากนัก
วันนี้ด้วยความตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่จะขอบันทึกว่ากว่าจะเป็นลาบดิบหรือลาบคั่ว เขาจะมี
ข้นตอนในการทำพอสมควรเลยทีเดียว
ลาบหมูสเปเชียล
หมูที่นิยมใช้ทำลาบจะใช้ส่วนสะโพก เพราะเนื้อตรงนี้จะแน่นมาก ๆ ล้างให้สะอาดสะเด็ดน้ำแล้ว
นำมาซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ
เตรียมเครื่องประกอบ เครื่องปรุง
เครื่องใน ประกอบด้วยหัวใจ กระเพาะ มันแข็ง ไส้หวาน นำไปต้มให้สุก ซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ บาง ๆ
ตับและเซ่งจี้ ซอยบางเช่นกัน ตับนำไปลวกในน้ำร้อนเกือบสุก เซ่งจี้แช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชูเจือจาง
แล้วเอามารวมกัน เหยาะน้ำปลาแช่เก็บไว้ในตู้เย็น
มันติดหนัง ซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาลงทอดในกระทะเตรียมทำเป็นกรอบ
จะให้กรอบเคี้ยวง่าย ควรทอด 2 จังหวะ ครั้งแรกทอดแค่ออกเหลืองแล้วตักมาพักไว้
ระหว่างรอหนังเย็น เจียวหอมแดงขัดตาทัพไปก่อน
เจียวหอมแดงเสร็จ เอาหนังที่ตักไว้ลงทอดจังหวะ 2 อีกที ส่วนที่เป็นหนังจะฟูพองขึ้นมา
จะเรียกว่าแคบหมูจิ๋วก็ว่าได้ แต่มันจะกรอบกว่าแคบหมูเยอะทีเดียว และฟูน้อยกว่า
คำว่า "ลาบ" ในภาษาเหนือ คือการนำวัตุถใดก็ตามจากชิ้นใหญ่ มาสับให้ละเอียดเป็นชิ้นเล็ก ๆ
ลาบเมืองเหนือ นิยมที่จะใส่เลือดลงไปด้วยระหว่างสับ เพื่อให้เนื้อหมูเปลี่ยนไปมีสีแดงของเลือด
และเขาจะใส่ผักไผ่ลงไปตอนสับด้วยเพื่อใช้กลิ่นของผักไผ่ไปดับคาวบางอย่าง เกลือป่นจะใส่
ลงไปด้วย ว่ากันว่าจะทำให้เนื้อแน่นขึ้นและเข้ารส
ขั้นตอนนี้ สับเหมือนกัน ผมขออนุญาตใช้เครื่องสับนะครับ จะไม่ออริจินอล ก็ตรงนี้ตอนเดียวแหละครับ
ไม่น่าเกิน 2 นาที เป็นอย่างนี้ครับ
ทุกอย่างพร้อม ก็ถึงขั้นตอนการ"ยำลาบ"
การคลุกผสมให้เข้ากัน ทางเหนือจะเรียกยำลาบครับ บางท้องถิ่น
ก็อาจเรียกว่า "กนลาบ" หมายถึงคนนั่นเอง
น้ำพริกดำสำหรับยำลาบ เป็นน้ำพริกที่ปรุงขึ้นเพื่อใช้กับการยำเมือง ๆ ทั้งหลาย เช่นยำไก่
ยำเห็ด ยำกบ ยำปลาแห้ง ยำจิ๊นแห้ง ซะปะยำใช้ได้หมดละครับ
ผมเคยพูดถึงน้ำพริกดำยำลาบไว้ที่นี่ครับ ถ้าสนใจลองแวะเข้าไปชมได้เลยครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=salapoo35&month=09-2012&date=27&group=6&gblog=8
เทใส่ลงไปในลาบ พร้อมเครื่องในต้ม ใช้ช้อนหรือทัพพีคนตามสะดวก
คนจนเข้ากันดี เข้าพริกเข้าเกลือ โรยด้วยต้นหอมผักชี แล้วคลุกอีกครั้ง
อย่าหาว่าผมทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำเป็นเรื่องจุกจิก คือผมอยากจะบอกว่า
ลาบเป็นวัฒนธรรม ถ้าทำจริง ๆ เขาทำแบบนี้ คือก่อนจะคั่วเขาจะยำก่อนแล้วนำไปคั่ว
ในกระทะ ไม่ใช่เอาลงผัดเหมือนทำน้ำพริกอ่อง ไม่ใช่ครับ
ใช้น้ำที่ต้มเครื่องใน เทใส่ให้ข้นขลุกขลิก
ตั้งกะทะ น้ำมันนิดหน่อย เจียวกระเทียมให้เหลือง เอาลาบลงผัด ซึ่งเราจะเรียกว่า "คั่วลาบ"
คั่วอย่านาน เพราะถ้านานหมูจะแข็ง และความหวานจากหมูจะหายไป ควรให้มีน้ำขลุกขลิกด้วย
ผมถึงบอกว่าเป็นลาบคั่วสเปเชียล ค่อนข้างจุกจิก แต่เป็นการตั้งใจนำเสนออย่างเต็มรูปแบบเท่านั้นเอง
และหน้าตาที่ออกมาก็คุ้มกับการรอคอยนะ
ผักสมุนไพรกลิ่นหอมหลาย ๆ ชนิด นิยมมากินคู่กับลาบ คนเมืองเรียก "ผักกับลาบ"
และที่ถูกคู่กับลาบที่สุด ตอบโดยไม่ต้องคิด ข้าวนึ่งอุ่น ๆ ครับ สวัสดีครับ