Fever 4 (F4 THAILAND) โดย Na Patchara #3

เรื่องนี้แต่งขึ้น เป็นเรื่องสมมุติ ตามจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิงใดๆนะคะ

ขอขอบคุณ คุณโยโกะ คามิโอะ ผู้เขียน Hana Yori Dango ต้นฉบับแห่งแรงบันดาลใจ


นายหญิงแห่งเตมีย์กรุ๊ป




เตชินท์ เตมีย์อภิทรัพย์วณิชย์

ณาวา กฤษจาวรนันท์ (Snowman)

คิรินท์ อินทราชัยพิศุทธิ์ หรือนายน้อยรินท์

หม่อมราชวงค์พศวีย์ สิริเมฑาวรกุล ชายวีย์แห่งวังสิริเมฑา

พี่แพร แพรธารา


Fever 4 (F4 THAILAND) #1 http://ppantip.com/topic/30896810
Fever 4 (F4 THAILAND) #2 http://ppantip.com/topic/30922852

Fever 4 (F4 THAILAND) #3

             หนึ่งเดือนผ่านไป ชายวีย์ คิรินท์ และ ณาวา นัดกันมาที่คฤหาสน์ของเตชินท์ตามปกติ ทั้ง 4 คุยเล่นกันตามประสาลูกผู้ชาย
พลันสายตาของเตชินท์ เหลือบไปเห็น ปิติ เลขาใหญ่ของเตมีย์กรุ๊ป เดินหน้าเครียดมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของเตมีย์ยู ก่อนจะหายเข้าไปในห้องประชุม ด้วยความสงสัยของเขาเหมือนเช่นเคย

        "ไปสืบมาให้หน่อย มีเรื่องอะไรกัน แต่แค่ห้านาทีเท่านั้นนะ" เตชินท์สั่งการ์ดของเขา

        "อยากรู้ไปซะทุกเรื่องเลยนะ นายน้อยแห่งเตมีย์กรุ๊ป" ชายวีย์แซวเพื่อน

        "สร้างภาพ หวังให้นายหญิงตายใจหละสิไม่ว่า" คิรินท์บอกชายวีร์อย่างรู้ทันเตชินท์
          
        เตชินท์ได้แต่มองค้อนเพราะนายหญิงที่ว่าหมายถึงแม่ของเขาเอง  ไม่นานนักเตชินท์ได้ข้อมูลทุกอย่างที่เขาอยากรู้ผ่านทาง iPad ที่เขาถืออยู่

        "ไม่น่าเชื่อ ปีนี้มีคนสอบชิงทุนได้ที่1 ตั้งสองคน" เตชินท์พูดขึ้นก่อนจะหันไปทาง ณาวา

        "นายไม่อยากรู้หรอว่าหนึ่งในสองนี้เป็นใคร" เตชินท์แกล้งถามณาวา

        "ไม่เห็นอยากรู้" ณาวาตอบอย่างไม่ได้สนใจอะไรตามสไตล์ของเขา

        "คนที่สอบได้ เกี่ยวอะไรกับณาวา" คิรินท์มองหน้าเตชินท์อย่างสงสัย

        "นี่เราสองคนพลาดข่าวอะไรไปหรือเปล่า" ชายวีย์ถาม เตชินท์ได้แต่ยิ้ม แล้วหันไปทางณาวาอีกครั้ง ก่อนจะเปิดรูปให้เพื่อนของเขาดู

        "นายจำคนนี้ได้มั้ย" เตชินท์ขยายภาพ ทานตะวัน ให้ณาวาดู

        "น่ารักด้วย ฉลาดด้วย....หายากนะเนี่ย" คิรินท์ออกความคิดเห็น

        "แต่อีกคนที่สอบได้น่ารักกว่านะ" เตชินท์บอกก่อนจะเปิดภาพของอีกคนให้ดู

        "อ๋อ น้องเดียร์น่า ดิษยา ตัวเก็งของปีนี้อยู่แล้ว คนนี้เห็นว่าเป็นเด็กฝากด้วยนี่" ชายวีย์บอกก่อนจะหันไปทางปิติ ปิติได้แต่พยักหน้าตอบ



        "หรอ น่าเสียดาย งั้นอีกคน คงต้องแพ้คะแนนพิษสวาทแล้วสินะ" เตชินท์พูดอย่างขำๆ แต่ ณาวา กลับไม่ขำด้วย

        "ยังไงคนที่ได้ทุนนี้ก็ต้องมีคนเดียวเท่านั้นครับ" ปิติ เลขาของนายหญิงบอกตามความเป็นจริง

        "ไม่ยุติธรรม ทำไมไม่สอบใหม่" ณาวาออกความคิดเห็นที่ขัดแย้ง เพื่อนทั้งสามมองหน้ากัน ทั้งคิรินท์และชายวีย์ เริ่มเข้าใจความหมายของเตชินท์แล้ว

        "ฉันพูดอย่างเป็นกลาง ถึงเป็นอีกคน ฉันก็พูด" ณาวาแก้ตัวให้กับตัวเอง

        "หรออออออ" เตชินท์ลากเสียงประชด ก่อนจะพูดต่อ  

        "อำนาจตัดสินใจอยู่ที่คุณใช่มั้ย ปิติ" เตชินท์ถามอย่างจริงจัง

        "คุณจะเลือกใคร" คิรินท์ถามด้วยความอยากรู้

        "ดิษยา" ปิติตอบ ชายวีย์ดีดนิ้วขึ้นทันทีหลังจากได้ยินชื่อ

        "ผมกะไว้แล้วเชียว" ชายวีย์บอกกับปิติ ก่อนที่เพื่อนทั้งสามต่างหันมาทาง ณาวา

ณาวาเริ่มรู้สึกแปลก....แปลก เขาแค่สงสารผู้หญิงคนนั้น แต่เพื่อน.....เพื่อน ของเขาตีความหมายผิดไป


        "เป็นอะไรไปณาวา" เตชินท์ถาม

        "เปล่านี่" ณาวาตอบก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกทที่เขาไม่เคบซ่อนมันไว้ได้ เพื่อนทั้งสามมองหน้ากัน

        "ถ้าปีนี้มีคนได้ทุนสองคนจะเป็นยังไง" เตชินท์หันมาถามลูกน้องของเขา

        "เป็นไปไม่ได้ครับ" ปิติตอบอย่างไม่ต้องคิด

        "แล้วถ้าผมบอกว่าเป็นไปได้หละ" เตชินท์ถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

        "ก็ต้องเป็นไปตามนั้นครับ" ปิติตอบได้โดยไม่ต้องคิดอีกเช่นกัน เพราะตำแหน่งนายน้อยแห่งเตมีย์กรุ๊ป สั่งอะไรก็ย่อมได้เสมอ

        "เอายังไงดีณาวา ช่วยคิดหน่อยสิ ครั้งนี้ฉันอยากให้นายช่วยตัดสินใจ" เตชินท์ถามทั้งที่รู้คำตอบของอีกฝ่ายอยู่แล้ว

        "อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่เห็นเกี่ยวกับฉัน" ณาวาพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึก แต่ท่าทีของเขามีหรอที่เพื่อนทั้งสามจะอ่านไม่ออก

        "งั้นปีนี้จะมีคนได้ทุนสองคนทั้งดิษยาและทานตะวัน" เตชินท์สั่งปิติแต่มองไปที่ณาวา ปิติตอบรับคำสั่งก่อนเดินออกไป

        "ทานตะวัน สมัยนี้ยังมีคนชื่อนี้อยู่อีกหรอ" คิรินท์ถามชายวีย์อย่างสงสัย ชายวีย์ได้แต่ส่ายหน้าเพราะเขาก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรเช่นกัน

        "ยิ้มอะไรณาวา" เตชินท์ถามอย่างจับผิด

        "เปล่า" ณาวาตอบก่อนจะปิดหนังสือและวางลง เขาลุกขึ้นพร้อมกับชวนเพื่อนทั้งสามไปหาอะไรทานข้างนอกกันดีกว่า

        "เลี้ยงฉลองให้ใครบางคนหรือไง" เตชินท์พูดประชดพร้อมกับยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินนำออกไป

        "นายเลี้ยงนะครั้งนี้" คิรินท์บอก ชายวีย์พยักหน้าเห็นด้วย

        "อืม ก็ได้" ณาวาตอบอย่างเซ็งๆ พอๆกับสีหน้าของเขาเลยในตอนนี้




***   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ***
  
             ทานตะวันเลิกงานกลับมาบ้านครั้งนี้เธอไม่เห็นเจ้าตัวแสบรออยู่หน้าบ้านเหมือนเคยก็อดแปลกใจไม่ได้  ทานตะวันเปิดประตูบ้านเข้าไปก็ต้องตกใจ เพราะทั้งพ่อ แม่ และเจ้าตัวแสบต่างอยู่กันครบ ทั้งสามนั่งหน้าเศร้าอยู่ที่ห้องนั่งเล่นของพื้นที่เล็กๆในบ้าน

        "มีอะไรกันหรือเปล่า เจ้าหนี้มาทวงเงินหรอค่ะพ่อ" ทานตะวันถามพ่อ แต่พ่อได้แต่ก้มหน้าไม่ตอบ ทานตะวันเลยหันมาทางแม่บ้าง

        "เรามีเงินไม่พอจ่ายค่าเทอมต้นกล้าใช่มั้ยค่ะแม่" ทานตะวันถามในสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุด ยิ่งเห็นหน้าน้องชาย เธอยิ่งหวั่นใจขึ้นไปอีก

        "อ่านเอาเองเถอะลูก" แม่บอกก่อนจะยื่นซองขาวให้ทานตะวัน

        ทานตะวันรับมาเปิดอ่านอย่างมือสั่น ลุ้นว่าเป็นใบทวงหนี้จากที่ไหน แต่เมื่อเธอได้อ่านเนื้อความในจดหมายทำให้เธอแทบไม่อยากจะเชื่อ เพราะในจดหมายนั้นเป็นผลการสอบชิงทุนของ เตมีย์ยู
        
        "พี่ตะวันสอบเข้าเตมีย์ยูได้แล้ววววว เย้ " เจ้าตัวแสบเก็บอาการไม่อยู่ ก่อนจะดึงประทัดสายรุ้ง เพื่อแสดงความยินดีกับพี่สาว  ทานตะวันโผเข้ากอดพ่อด้วยความดีใจ แม่เข้ามากอดด้วย เจ้าตัวแสบก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน ทั้งสี่กอดกันกลมด้วยความดีใจสุดๆ

                หนึ่งเดือนผ่าานไป ทานตะวันนั่งกอดเข่ามองยูนิฟอร์มของเตมีย์ยูอย่างไม่ค่อยมั่นใจว่าจากนี้อีก 4 ปีข้างหน้าเธอจะเป็นเช่นไร พ่อเดินออกมาเห็นลูกสาวก็เข้าใจในความรู้สึก พ่อนั่งลงข้างๆทานตะวัน ทานตะวันใช้ศีรษะซบลงบนบ่าของพ่ออย่างคุ้นเคย

        "รู้มั้ยทำไมหนูถึงชื่อทานตะวัน"

        "แม่ชอบดอกทานตะวันหรอค่ะ"

        "เปล่า พ่อกับแม่ชอบความหมายของมันมากกว่า"

        "ยังไงค่ะ"

        "ดอกทานตะวันถ้าคนรักมอบให้กันมันหมายถึงรักที่มั่นคงและภักดีต่อกันเสมอ แต่ถ้าวันนี้พ่อให้ลูกแบบนี้" พ่อบอกก่อนที่จะส่งดอกทานตะวันเซรามิทให้กับลูกสาว พร้อมกับพูดต่อว่า

        "จะหมายความว่า พ่อเชื่อมั่นในความเข้มแข็งอดทนของตะวัน และเชื่อว่าตะวันต้องทำได้จนประสบความสำเร็จ"

        ทานตะวันมองหน้าพ่อของเธออย่างซึ้งใจ ก่อนจะก้มมองของขวัญที่พ่อเธอให้ ถึงมันจะไม่มีราคา แต่กับความรู้สึกของเธอมันมีค่าากมายเลยเกิน



                ในที่สุดวันที่ทานตะวันรอคอยก็มาถึง วันที่เธอก้าวเข้ามาเป็นนักศึกษาของเตมีย์ยูอย่างเต็มตัว ทางเดินที่ทอดยาว จากวันนี้เป็นต้นไปเธอคงคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี เพราะทั้งมหาวิทยาลัยคงมีเธอคนเดียวหละมั้งที่ต้องเดินเข้าไป นี่ถ้าไม่มีป้ายเตมีย์ยูติดอยู่ที่หน้าทางเข้า เธอคงคิดว่า กำลังเดินเข้าสู่งานมอเตอร์โชว์ เพราะรถคันหรูต่างขับสวนกันไปมา ทานตะวันได้แต่มองจนเพลิน จนลืมไปแล้วว่าตลอดทาง ที่เธอเดินเข้ามานั้นมันไกลแค่ไหน เมื่อเธอเดินมาถึงหน้าอาคารเรียน เธอกำลังเดินเข้าไป แต่ได้มีนักศึกษากลุ่มใหญ่พากันกรูออกมา เหมือนว่ามารอดูอะไรบางอย่างด้านหน้าอาคาร ทานตะวันอดสงสัยไม่ได้ จึงเดินตามออกมาดูด้วยเช่นกัน

        "F4 มา แก F4 กำลังมา" คนในกลุ่มนั้นพูดขึ้น ทานตะวันแอบได้ยิน เธอเริ่มรับรู้และรู้สึกได้แล้วว่ากระแส F4 นั้นแรงแค่ไหนในเตมีย์ยู
      
        "หูววววววว รุ่นใหม่" เสียงอุธานดังขึ้นในกลุ่ม ทันทีที่รถของเตชินท์มาจอดหน้าอาคาร เขาเดินลงมาพร้อมบอร์ดี้การ์ด ตามมาติดๆ
ด้วยรถของ ณาวา เสียงกร๊ดดังขึ้นไม่ขาดสาย ณาวาขับรถมาเอง เตชินท์เห็นณาวามาแล้วจึงหยุดรอ ณาวา มองหาคิรินท์ส่วนชายวีย์ตัดทิ้ง
ไปได้เลย เพราะสายเสมอ ไม่นานนักรถของคิรินท์ก็มาถึง

        "นึกว่าขี่ม้ามาจากเขาใหญ่ซะอีก" เตชินท์อดแซวคิรินทร์ไม่ได้ ทั้งสามกำลังจะเดินเข้าอาคาร เพราะคิดว่ายังไงซะ
ชายวีย์ต้องมาสายเหมือนเดิมแน่

        หม่อมราชวงค์พศวีย์ เสียงเรียกชื่อชายวีย์ดังขึ้นจากในกลุ่มที่มายืนรอพร้อมๆกับเสียงกรี๊ดอีกตามเคย

        เตชินท์ ณาวา และ คิรินท์ ยืนรอเพื่อน ทั้งสามได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอากับนิสัยที่สายเป็นประจำของ ชายวีย์ รถของวังสิริเมฑา มาจอดที่หน้าอาคาร ความคาดหวังของหญิงสาวคือคนที่นั่งอยู่ด้านหลังเพื่อรอดูว่าชายวีย์เดินลงจากรถจะเท่ห์ขนาดไหน แต่แล้วคนที่ออกมาจากด้านหลังกลายเป็น สมบูรณ์ คนรถของทางวังซะอย่างนั้น ชายวีย์ กลับกลายเป็นคนขับรถคันนั้นแทน

        สมบูรณ์ ลงมาจากรถก็รีบล้วงยาดมในกระเป๋าออกมาดมทันที คนที่เห็นภาพนั้นคงไม่ต้องอธิบายก็รู้ได้ว่า ชายวีย์ ขับรถมาเร็วแค่ไหน

        "ค่าปิดปาก เรื่องฉันขับรถมาเองในวันนี้" ชายวีย์ บอกก่อนจะเสียบสินน้ำใจลงในกระเป๋าเสื้อคนรถของเขาก่อนเดินไป

        สมบูรณ์ได้แต่บ่นลับหลังนายของตน

        "คุณชายวีน เอ้ย คุณชายวีย์นะคุณชายวีย์ ขืนทำแบบนี้ตลอด สมบูรณ์ได้ถูกไล่ออกจากงานแน่"

        ชายวีย์ รีบเดินไปสมทบ กับเพื่อนทั้งสามที่รออยู่ เมื่อทั้ง 4 อยู่ด้วยกันเสียงกร๊ดยิ่งดังขึ้นมากกว่าเดิม ทานตะวันพยายามแวกฝูงชนเข้ามา
เพื่อที่จะดูความเป็นไปด้านหน้า เพราะเธอโดนบังมาตลอด สิ่งแรกที่เธอเห็น คือ หน้าของ ณาวา ทำให้เธอยิ้มออกโดยทันที ส่วนสามคนที่เหลือนั้น เธอได้แต่มองผ่านๆ แทบจะไม่สนใจว่าใครจะเป็นอย่างไรเลย นอกจาก ณาวา เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่อยู่ในสายตาของเธอในตอนนี้

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่