Fever 4 (F4 THAILAND) โดย Na Patchara #5

เรื่องนี้แต่งขึ้น เป็นเรื่องสมมุติ ตามจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิงใดๆนะคะ

ขอขอบคุณ คุณโยโกะ คามิโอะ ผู้เขียน Hana Yori Dango ต้นฉบับแห่งแรงบันดาลใจ


นายหญิงแห่งเตมีย์กรุ๊ป




ทานตะวัน


เตชินท์ เตมีย์อภิทรัพย์วณิชย์

ณาวา กฤษจาวรนันท์ (Snowman)

คิรินท์ อินทราชัยพิศุทธิ์ หรือนายน้อยรินท์

หม่อมราชวงค์พศวีย์ สิริเมฑาวรกุล ชายวีย์แห่งวังสิริเมฑา

พี่แพร แพรธารา

เดียร์น่า ดิษยา


Fever 4 (F4 THAILAND) #1 http://ppantip.com/topic/30896810
Fever 4 (F4 THAILAND) #2 http://ppantip.com/topic/30922852
Fever 4 (F4 THAILAND) #3 http://ppantip.com/topic/30984872
Fever 4 (F4 THAILAND) #4 http://ppantip.com/topic/31008854

Fever 4 (F4 THAILAND) #5



"กล้าดีนักนะ เก่งให้ได้ตลอด ในเมื่อฉันทำให้เธอเข้ามาเรียนที่นี่ได้ ทำไมฉันจะทำให้เธอออกไปไม่ได้"


                ทานตะวันนั่งเตรียมงานอย่างใจลอยเธอนึกถึงแต่ประโยคนี้ ถึงเธอจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจเตชินท์ แต่ลึกๆแล้วเธอก็แอบหวั่นใจไม่ได้ ดิษยาเห็นสีหน้าของทานตะวันก็เข้าใจความรู้สึก จึงเดินเข้ามาถาม

        "เป็นอะไรหรือเปล่า"

        "เปล่านี่" ทานตะวันตอบ ก่อนจะหันไปทำงานต่อ ดิษยาได้แต่มองภาพนั้นอย่างพอใจเพราะเธอเชื่อว่าทานตะวันต้องออกจากเตมีย์ยูแน่ๆ

                เตชินท์นั่งอารมณ์เสียอยู่ในห้องเรียนซึ่งไม่ต่างอะไรกับห้องทำงานของผู้บริหารระดับสูง กระจกที่กันกระสุนรอบด้าน การรักษาการ
ที่มีความปลอดภัยเทียบเท่ากับระดับสากลเพราะ F4 ไม่ใช่แค่นักศึกษาแต่เป็นทายาทของนักธุรกิจที่เตรียมสืบทอดธุรกิจรุ่นต่อไปในอนาคต

        "น่าเจ็บใจจริงๆ เพราะรู้ว่ามีนายให้ท้าย ยัยนั่นถึงได้กล้าทำแบบนี้" เตชินท์เริ่มเหวี่ยงใส่ณาวา

        "เรื่องของเธอคนนั้น ไม่เกี่ยวกับฉัน และฉันไม่เคยบอกอะไรให้เธอได้รู้ว่า ทำไมถึงได้มาเรียนที่นี่ เหตุผลจริงๆนายน่าจะรู้ว่าเป็นเพราะใคร"

        ณาวาบอกทั้งๆที่ยังอ่านหนังสือที่อยู่ตรงหน้านั้น โดยไม่ได้หันไปมองเตชินท์ ยิ่งเตชินท์เห็นณาวาไม่สนใจ เขาก็ยิ่งโมโห

        "เธอคนนั้น นายเรียกยัยนั่นว่าเธอคนนั้น ฉันนึกว่านายจะให้เกียรติและให้ความสำคัญกับพี่แพรคนเดียวซะอีก" เตชินท์ประชดไม่เลิก

        "พอได้แล้วเตชินท์" ชายวีย์เตือนเพื่อนเพราะรู้นิสัยถึงความดื้อรั้นและไม่ยอมใครของเตชินท์ดี

        "พออย่างนั้นหรอ ถ้ายัยนั่นไม่มาก้มหัวขอโทษฉัน เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่" เตชินท์บอกชายวีย์แต่สายตายังคงมองอยู่ที่ณาวาเหมือนเดิม

        "แค่ขอโทษใช่มั้ย งั้นณาวาก็ไปบอกเธอด้วยแล้วกัน " คิรินท์พูดขึ้นเพื่อยุติเรื่องทั้งหมด แต่กับทำให้ณาวาเริ่มไม่พอใจ

        "พวกนายเลิกยัดเยียดเธอคนนั้นให้ฉันซักทีได้มั้ย และความรู้สึกของฉันมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆเหมือนนายหรอกนะคิรินท์"

        ณาวาบอกอย่างจริงจัง คราวนี้เขาอ่านหนังสือต่อไปไม่ได้แล้ว ณาวาปิดหนังสือก่อนจะลุกขึ้นไปที่ระเบียง คิรินท์เดินตามเพื่อนไปด้วย

        "แค่ล้อเล่น นายคิดเป็นจริงเป็นจังไปได้" คิรินท์บอก ณาวาหันมาบอกเพื่อนอย่างเข้าใจว่า "ช่างมันเถอะ"  คิรินท์โล่งใจขึ้นมาหน่อย

       "ก็ดี ในเมื่อยัยนั่นไม่มีความสำคัญกับนาย ฉันก็จะทำให้ยัยนั่นได้รู้ถึงกฎที่แท้จริงของเตมีย์ยู"

                เตชินท์พูดขึ้นก่อนจะหันไปทางบอดี้การ์ด อีกฝ่ายเข้าใจความหมายที่เจ้านายส่งมาให้ทางสายตาดี บอดี้การ์ดรีบหยิบใบแดง
ที่พกติดตัวอยู่ในเสื้อสูทตลอดเวลา ออกมาให้เตชินท์อย่างรีบร้อน เตชินท์รับมาพร้อมกับโชว์ให้เพื่อนทั้งสามดูใบแดงที่ถืออยู่ในมือ

        ชายวีย์ถึงกับถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นและไม่ยอมใครของเตชินท์

        "พนันกันมั้ย ว่ายัยนั่นจะทนได้ซักกี่วัน" เตชินท์ถาม ก่อนจะหันไปทางคิรินท์ คิรินท์ไม่ค่อยอยากเล่นด้วยสักเท่าไหร่

        "สามวันมั้ง ไม่น่าจะเกินกว่านี้" คิรินท์ตอบอย่างเสียไม่ได้

        "แล้วนายหละชายวีย์" เตชินท์ถามเพื่อนอีกคน

        "มากกว่าสามวันแล้วกัน คิรินท์เลือกไปก่อนแล้วนี่" ชายวีย์ตอบ ก่อนจะหันไปทางคิรินท์ คิรินท์มองเพื่อนอย่างเข้าใจ

        "ณาวา นายจะเล่นด้วยมั้ย" เตชินท์แกล้งถามณาวา ที่ยืนอยู่กับคิรินท์ที่ระเบียง

        ณาวาได้แต่นิ่งก่อนจะหันมาตอบอย่างแน่วแน่ว่า

        "ฉันบอกนายแล้วเตชินท์ ว่าเรื่องนี้ฉันไม่ยุ่ง"

        "ก็ดี นายได้สิทธ์นั้นเดี๋ยวนี้" เตชินท์บอก ก่อนจะหันไปทางบอดี้การ์ดของเขา "จัดการได้เลย" เตชินท์สั่งคนของเขาทันที
        
        ชายวีย์ที่มองเตชินท์อยู่เห็นสีหน้าของเพื่อนเปลี่ยนไปก็อดแซวไม่ได้

        "อารมณ์ดีขึ้นแล้วสิ ที่ได้แกล้งคน"

        "แกล้งที่ไหน ฉันแค่จะสั่งสอนให้ยัยนั่นได้รู้ว่า ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่ ก็อย่ากล้าคิดที่จะลองดีกับฉัน" เตชินท์ตอบ

        "ตลอด เป็นอย่างนี้ตลอด" คิรินท์ได้แต่ส่ายหัวให้กับนิสัยของเตชินท์ ก่อนจะหันไปทางณาวา เขาเห็นท่าทางของณาวาเปลี่ยนไปอย่าง
เห็นได้ชัด สายตาที่ดูเหมือนกำลังกังวลกับเรื่องอะไรสักอย่าง คิรินท์เข้าไปตบบ่าเพื่อนก่อนจะถามด้วยความสงสัย

        "เป็นอะไรไป"

        ณาวาส่ายหัวแทนคำตอบ เขาไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ ถึงเขาจะบอกเพื่อนทั้งสามว่าไม่สนใจทานตะวัน แต่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ที่ทานตะวันต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ เสียงของทานตะวันที่ตะโกนด่าพวก F4 ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขาเพราะมันจริงอย่างที่เธอพูดทุกคำ



                เช้าวันใหม่ ทานตะวันเดินผ่านประตูรั้วของเตมีย์ยูเหมือนปกติ แต่วันนี้เธอรู้สีกได้ถึงความเงียบและความวังเวงตลอดทางเดินที่เธอ
เดินเข้ามา ทานตะวันมองไปข้างหน้าอย่างสงสัยเพราะทางที่ทอดยาวข้างทางกับเต็มไปด้วยแอ่งน้ำและโคลนเปียกๆ

        "เมื่อคืนฝนตกหรอ" ทานตะวันพูดขึ้นอย่างแปลกใจ ไม่ทันขาดคำ รถคันหรูหลายคันขับตามกันเข้ามาด้วยความเร็วสูง ทุกคันพากันขับลงแอ่งน้ำโคลน ทานตะวันพยายามหลบแต่เพราะรถหลายคันต่อให้หลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น ทั้งน้ำ ทั้งโคลนกระเด็นใส่ทานตะวันจนเลอะไปทั้งตัวมีหลายคันที่เปิดกระจกมาดูผลงานของตัวเองอย่างพอใจ ทานตะวันจะตะโกนด่าแต่ก็ไม่ทันเพราะรถเหล่านั้นขับไปไกลเกินกว่าจะได้ยินเสียงของเธอ ทานตะวันมองสภาพตัวเองก็ได้แต่ถอนหายใจและยังงงว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร

        ทานตะวันเดินเข้าอาคารเรียนด้วยสภาพที่เลอะเปรอะเปื้อน นักศึกษาที่ได้เห็นเธอเป็นอย่างนี้ ก็ต่างพากันซุบซิบนินทาแล้วก็พากันหัวเราะ ทานตะวันยังไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น เธอเดินไปที่ตู้เก็บของของเธอเพื่อที่จะเปลี่ยนชุดเป็นชุลพละ แต่ทันทีที่เธอเปิดตูนั้นสิ่งที่เธอได้เห็นคือ
        ใบแดง จากเตชินท์

        ทานตะวันเริ่มเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว และสิ่งที่เธอกังกลได้ก็เกิดขึ้นจริงๆ ทานตะวันดึงใบแดงนั่นออกมาจากแค้นใจ เพราะเธอไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้ แต่เตชินท์ถึงกับอยากให้เธอออกจากเตมีย์ยู

        "นายจะไร้เหตุผลเกินไปแล้วนะ" ทานตะวันได้คิดอย่างเจ็บใจ เธอกำใบแดงไว้แน่น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ภาพของพี่นัทเข้ามาให้หัวสมองเธอทันทีแต่เธอจะไม่ยอมแพ้แน่ จากนี้ไปอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทานตะวันปลอบใจตัวเองก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ทานตะวันเดินจะไปเปิดประตูแต่เปิดไม่ออกเพราะประตูโดนล็อคจากด้านนอก ทานตะวันได้แต่ส่ายหัวให้กับเรื่องบ้าๆ ก่อนที่เธอจะมองไปที่หน้าต่างด้านข้างเพราะนั่นคือทางเดียวที่เธอจะออกมาได้

        เมื่อทานตะวันปีนออกมาทางหน้าต่างก็เป็นไปตามกับดักที่ คนของเตชินท์วางแผนไว้ ทานตะวันจับขอบหน้าต่างไว้แน่นเพราะกลัวตกลงมา เพราะห้องน้ำที่เธอปีนออกมานั้นอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารเรียน ทานตะวันพยามยามขยับตัวเองแล้วเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ แต่ทันใดนั้น

       "ปัง ปังงงง ปัง ปังงงงงงงงๆๆๆๆๆๆ" เสียงประทัดหลายร้อยลูกดังขึ้นอย่างเสียงดัง ทานตะวันตกใจกับเสียงนั้นจนเผลอปล่อยมือตกลงมาจากชั้น 2 ร่างของเธอหล่นลงมากระแทกกับพื้นหญ้าข้างร่างเขาอย่างจัง

      "โอ้ยยยยยยยย" ทานตะวันร้องด้วยความเจ็บ เธอใช้มือกุมข้อเท้าเธอทันทีเพราะส่วนนั้นคือส่วนที่เธอเจ็บที่สุด ลูกน้องของเตชินท์ออกมาจากที่ซ่อนพร้อมกับประทัดที่เหลืออยู่ในมือที่ยังไม่ได้จุด ทานตะวันเห็นอย่างนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าพวกนั้นจะทำอะไรเธอต่อ

       "อย่านะ ม่ายยยยยยยยย" ทานตะวันร้องสุดเสียง เพราะลูกน้องของเตชินท์จุดประทัดแล้วโยนมาใกล้ๆกับที่ที่เธอนั่งอยู่ ทานตะวันได้แต่เอามือปิดหูและก้มหน้าไว้ตลอด เธอได้แต่ภาวนาว่า เมื่อไหร่ประทัดพวกนั้นจะหมดเสียที

        บอร์ดี้การ์ดของเตชินท์กระซิบรายงานผลให้เตชินท์ฟัง เตชินท์ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มให้กับผลงานของตัวเองที่ได้สั่งสอนผู้หญิงกล้าดีคนนั้น

       "เก่งนักใช่มัย ได้เห็นคนเก่งร้องไห้ก็คราวนี้แหละ" เตชินท์พูดขึ้นก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจเป็นอย่างมาก



                ทานตะวันพาร่างกายที่สะบัดสะบอมหลบผู้คนไปอีกทาง เธอรู้สึกเหนื่อยที่ต้องเจอกับศัตรูรอบด้าน ทานตะวันทรุดตัวลงนั่งพิงกับกำแพงอย่างอ่อนแรงและอ่อนใจ ในเวลานี้เธอจะอ่อนแอไม่ได้ ทานตะวันได้ยินเสียงคนเดินมา เธอรีบมองหาที่ซ่อนทันที

        "ตะวัน ตะวัน เธออยู่ที่นี่หรือเปล่า" เสียงของดิษยาเรียกเธอด้วยความเป็นห่วง ทานตะวันเห็นว่าเป็นดิษยาก็รีบออกมาจากที่ซ่อน

        ดิษยาเห็นทานตะวันเดินกะเผลกออกมาก็รู้ทันทีว่า ทานตะวันต้องโดนแกล้งมาอย่างหนักแน่นอน

        "ฉันขอโทษที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย" ดิษนาตีหน้าเศร้า ทานตะวันมองอย่างเห็นใจเธอรู้แล้วว่าพี่นัทรู้สึกเช่นไรเมื่อเธอคิดจะเข้าไปช่วย

        "ไม่เป็นไร เดียร์น่า ถ้าเธอช่วยฉันเธออาจจะโดนไปด้วยก็ได้" ทานตะวันบอกอย่างเข้าใจ

        ดิษยาพยายามใช้มือปัดเสื้อที่เปื้อนของทานตะวันด้วยมือของเธอเอง ทานตะวันมองอย่างซาบซึ้งใจ

       "ขอบใจนะ ขอบใจจริงๆ ที่ยังมีเธออยู่ข้างๆฉัน" ทานตะวันบอกเพื่อนของเธอพร้อมด้วยน้ำตาที่เริ่มซึมออกมา

         ดิษยาพยักหน้ารับรู้ความรู้สึกนั้น เธอใช้มือลูบไหล่ของทานตะวันเพื่อปลอบใจอย่างอ่อนโยน

        "หลังอาคารตึก 2 เป็นห้องสมุดเก่าไปหลบที่นั่นสิตะวัน" ดิษยาบอกด้วยความหวังดี ทานตะวันพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะเดินไปที่อาคารนั้นตามที่ดิษยาบอกอย่างเชื่อใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่