เรื่องนี้แต่งขึ้น เป็นเรื่องสมมุติ ตามจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิงใดๆนะคะ
ขอขอบคุณ คุณโยโกะ คามิโอะ ผู้เขียน Hana Yori Dango ต้นฉบับแห่งแรงบันดาลใจ
นายหญิงแห่งเตมีย์กรุ๊ป
ทานตะวัน
เตชินท์ เตมีย์อภิทรัพย์วณิชย์
ณาวา กฤษจาวรนันท์ (Snowman)
คิรินท์ อินทราชัยพิศุทธิ์ หรือนายน้อยรินท์
หม่อมราชวงค์พศวีย์ สิริเมฑาวรกุล ชายวีย์แห่งวังสิริเมฑา
พี่แพร แพรธารา
เดียร์น่า ดิษยา
Fever 4 (F4 THAILAND) #1
http://ppantip.com/topic/30896810
Fever 4 (F4 THAILAND) #2
http://ppantip.com/topic/30922852
Fever 4 (F4 THAILAND) #3
http://ppantip.com/topic/30984872
Fever 4 (F4 THAILAND) #4
http://ppantip.com/topic/31008854
Fever 4 (F4 THAILAND) #5
"กล้าดีนักนะ เก่งให้ได้ตลอด ในเมื่อฉันทำให้เธอเข้ามาเรียนที่นี่ได้ ทำไมฉันจะทำให้เธอออกไปไม่ได้"
ทานตะวันนั่งเตรียมงานอย่างใจลอยเธอนึกถึงแต่ประโยคนี้ ถึงเธอจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจเตชินท์ แต่ลึกๆแล้วเธอก็แอบหวั่นใจไม่ได้ ดิษยาเห็นสีหน้าของทานตะวันก็เข้าใจความรู้สึก จึงเดินเข้ามาถาม
"เป็นอะไรหรือเปล่า"
"เปล่านี่" ทานตะวันตอบ ก่อนจะหันไปทำงานต่อ ดิษยาได้แต่มองภาพนั้นอย่างพอใจเพราะเธอเชื่อว่าทานตะวันต้องออกจากเตมีย์ยูแน่ๆ
เตชินท์นั่งอารมณ์เสียอยู่ในห้องเรียนซึ่งไม่ต่างอะไรกับห้องทำงานของผู้บริหารระดับสูง กระจกที่กันกระสุนรอบด้าน การรักษาการ
ที่มีความปลอดภัยเทียบเท่ากับระดับสากลเพราะ F4 ไม่ใช่แค่นักศึกษาแต่เป็นทายาทของนักธุรกิจที่เตรียมสืบทอดธุรกิจรุ่นต่อไปในอนาคต
"น่าเจ็บใจจริงๆ เพราะรู้ว่ามีนายให้ท้าย ยัยนั่นถึงได้กล้าทำแบบนี้" เตชินท์เริ่มเหวี่ยงใส่ณาวา
"เรื่องของ
เธอคนนั้น ไม่เกี่ยวกับฉัน และฉันไม่เคยบอกอะไรให้เธอได้รู้ว่า ทำไมถึงได้มาเรียนที่นี่ เหตุผลจริงๆนายน่าจะรู้ว่าเป็นเพราะใคร"
ณาวาบอกทั้งๆที่ยังอ่านหนังสือที่อยู่ตรงหน้านั้น โดยไม่ได้หันไปมองเตชินท์ ยิ่งเตชินท์เห็นณาวาไม่สนใจ เขาก็ยิ่งโมโห
"เธอคนนั้น นายเรียกยัยนั่นว่าเธอคนนั้น ฉันนึกว่านายจะให้เกียรติและให้ความสำคัญกับพี่แพรคนเดียวซะอีก" เตชินท์ประชดไม่เลิก
"พอได้แล้วเตชินท์" ชายวีย์เตือนเพื่อนเพราะรู้นิสัยถึงความดื้อรั้นและไม่ยอมใครของเตชินท์ดี
"พออย่างนั้นหรอ ถ้ายัยนั่นไม่มาก้มหัวขอโทษฉัน เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่" เตชินท์บอกชายวีย์แต่สายตายังคงมองอยู่ที่ณาวาเหมือนเดิม
"
แค่ขอโทษใช่มั้ย งั้นณาวาก็ไปบอกเธอด้วยแล้วกัน " คิรินท์พูดขึ้นเพื่อยุติเรื่องทั้งหมด แต่กับทำให้ณาวาเริ่มไม่พอใจ
"พวกนายเลิกยัดเยียดเธอคนนั้นให้ฉันซักทีได้มั้ย และความรู้สึกของฉันมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆเหมือนนายหรอกนะคิรินท์"
ณาวาบอกอย่างจริงจัง คราวนี้เขาอ่านหนังสือต่อไปไม่ได้แล้ว ณาวาปิดหนังสือก่อนจะลุกขึ้นไปที่ระเบียง คิรินท์เดินตามเพื่อนไปด้วย
"แค่ล้อเล่น นายคิดเป็นจริงเป็นจังไปได้" คิรินท์บอก ณาวาหันมาบอกเพื่อนอย่างเข้าใจว่า "ช่างมันเถอะ" คิรินท์โล่งใจขึ้นมาหน่อย
"ก็ดี ในเมื่อยัยนั่นไม่มีความสำคัญกับนาย ฉันก็จะทำให้ยัยนั่นได้รู้ถึงกฎที่แท้จริงของเตมีย์ยู"
เตชินท์พูดขึ้นก่อนจะหันไปทางบอดี้การ์ด อีกฝ่ายเข้าใจความหมายที่เจ้านายส่งมาให้ทางสายตาดี บอดี้การ์ดรีบหยิบใบแดง
ที่พกติดตัวอยู่ในเสื้อสูทตลอดเวลา ออกมาให้เตชินท์อย่างรีบร้อน เตชินท์รับมาพร้อมกับโชว์ให้เพื่อนทั้งสามดูใบแดงที่ถืออยู่ในมือ
ชายวีย์ถึงกับถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นและไม่ยอมใครของเตชินท์
"พนันกันมั้ย ว่ายัยนั่นจะทนได้ซักกี่วัน" เตชินท์ถาม ก่อนจะหันไปทางคิรินท์ คิรินท์ไม่ค่อยอยากเล่นด้วยสักเท่าไหร่
"สามวันมั้ง ไม่น่าจะเกินกว่านี้" คิรินท์ตอบอย่างเสียไม่ได้
"แล้วนายหละชายวีย์" เตชินท์ถามเพื่อนอีกคน
"มากกว่าสามวันแล้วกัน คิรินท์เลือกไปก่อนแล้วนี่" ชายวีย์ตอบ ก่อนจะหันไปทางคิรินท์ คิรินท์มองเพื่อนอย่างเข้าใจ
"ณาวา นายจะ
เล่นด้วยมั้ย" เตชินท์แกล้งถามณาวา ที่ยืนอยู่กับคิรินท์ที่ระเบียง
ณาวาได้แต่นิ่งก่อนจะหันมาตอบอย่างแน่วแน่ว่า
"ฉันบอกนายแล้วเตชินท์ ว่าเรื่องนี้ฉันไม่ยุ่ง"
"ก็ดี นายได้สิทธ์นั้นเดี๋ยวนี้" เตชินท์บอก ก่อนจะหันไปทางบอดี้การ์ดของเขา
"จัดการได้เลย" เตชินท์สั่งคนของเขาทันที
ชายวีย์ที่มองเตชินท์อยู่เห็นสีหน้าของเพื่อนเปลี่ยนไปก็อดแซวไม่ได้
"อารมณ์ดีขึ้นแล้วสิ ที่ได้แกล้งคน"
"แกล้งที่ไหน ฉันแค่จะสั่งสอนให้ยัยนั่นได้รู้ว่า ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่ ก็อย่ากล้าคิดที่จะลองดีกับฉัน" เตชินท์ตอบ
"ตลอด เป็นอย่างนี้ตลอด" คิรินท์ได้แต่ส่ายหัวให้กับนิสัยของเตชินท์ ก่อนจะหันไปทางณาวา เขาเห็นท่าทางของณาวาเปลี่ยนไปอย่าง
เห็นได้ชัด สายตาที่ดูเหมือนกำลังกังวลกับเรื่องอะไรสักอย่าง คิรินท์เข้าไปตบบ่าเพื่อนก่อนจะถามด้วยความสงสัย
"เป็นอะไรไป"
ณาวาส่ายหัวแทนคำตอบ เขาไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ ถึงเขาจะบอกเพื่อนทั้งสามว่าไม่สนใจทานตะวัน แต่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ที่ทานตะวันต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ เสียงของทานตะวันที่ตะโกนด่าพวก F4 ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขาเพราะมันจริงอย่างที่เธอพูดทุกคำ
เช้าวันใหม่ ทานตะวันเดินผ่านประตูรั้วของเตมีย์ยูเหมือนปกติ แต่วันนี้เธอรู้สีกได้ถึงความเงียบและความวังเวงตลอดทางเดินที่เธอ
เดินเข้ามา ทานตะวันมองไปข้างหน้าอย่างสงสัยเพราะทางที่ทอดยาวข้างทางกับเต็มไปด้วยแอ่งน้ำและโคลนเปียกๆ
"เมื่อคืนฝนตกหรอ" ทานตะวันพูดขึ้นอย่างแปลกใจ ไม่ทันขาดคำ รถคันหรูหลายคันขับตามกันเข้ามาด้วยความเร็วสูง ทุกคันพากันขับลงแอ่งน้ำโคลน ทานตะวันพยายามหลบแต่เพราะรถหลายคันต่อให้หลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น ทั้งน้ำ ทั้งโคลนกระเด็นใส่ทานตะวันจนเลอะไปทั้งตัวมีหลายคันที่เปิดกระจกมาดูผลงานของตัวเองอย่างพอใจ ทานตะวันจะตะโกนด่าแต่ก็ไม่ทันเพราะรถเหล่านั้นขับไปไกลเกินกว่าจะได้ยินเสียงของเธอ ทานตะวันมองสภาพตัวเองก็ได้แต่ถอนหายใจและยังงงว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร
ทานตะวันเดินเข้าอาคารเรียนด้วยสภาพที่เลอะเปรอะเปื้อน นักศึกษาที่ได้เห็นเธอเป็นอย่างนี้ ก็ต่างพากันซุบซิบนินทาแล้วก็พากันหัวเราะ ทานตะวันยังไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น เธอเดินไปที่ตู้เก็บของของเธอเพื่อที่จะเปลี่ยนชุดเป็นชุลพละ แต่ทันทีที่เธอเปิดตูนั้นสิ่งที่เธอได้เห็นคือ
ใบแดง จากเตชินท์
ทานตะวันเริ่มเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว และสิ่งที่เธอกังกลได้ก็เกิดขึ้นจริงๆ ทานตะวันดึงใบแดงนั่นออกมาจากแค้นใจ เพราะเธอไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้ แต่เตชินท์ถึงกับอยากให้เธอ
ออกจากเตมีย์ยู
"
นายจะไร้เหตุผลเกินไปแล้วนะ" ทานตะวันได้คิดอย่างเจ็บใจ เธอกำใบแดงไว้แน่น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ภาพของพี่นัทเข้ามาให้หัวสมองเธอทันทีแต่เธอจะไม่ยอมแพ้แน่ จากนี้ไปอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทานตะวันปลอบใจตัวเองก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ทานตะวันเดินจะไปเปิดประตูแต่เปิดไม่ออกเพราะประตูโดนล็อคจากด้านนอก ทานตะวันได้แต่ส่ายหัวให้กับเรื่องบ้าๆ ก่อนที่เธอจะมองไปที่หน้าต่างด้านข้างเพราะนั่นคือทางเดียวที่เธอจะออกมาได้
เมื่อทานตะวันปีนออกมาทางหน้าต่างก็เป็นไปตามกับดักที่ คนของเตชินท์วางแผนไว้ ทานตะวันจับขอบหน้าต่างไว้แน่นเพราะกลัวตกลงมา เพราะห้องน้ำที่เธอปีนออกมานั้นอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารเรียน ทานตะวันพยามยามขยับตัวเองแล้วเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ แต่ทันใดนั้น
"ปัง ปังงงง ปัง ปังงงงงงงงๆๆๆๆๆๆ" เสียงประทัดหลายร้อยลูกดังขึ้นอย่างเสียงดัง ทานตะวันตกใจกับเสียงนั้นจนเผลอปล่อยมือตกลงมาจากชั้น 2 ร่างของเธอหล่นลงมากระแทกกับพื้นหญ้าข้างร่างเขาอย่างจัง
"โอ้ยยยยยยยย" ทานตะวันร้องด้วยความเจ็บ เธอใช้มือกุมข้อเท้าเธอทันทีเพราะส่วนนั้นคือส่วนที่เธอเจ็บที่สุด ลูกน้องของเตชินท์ออกมาจากที่ซ่อนพร้อมกับประทัดที่เหลืออยู่ในมือที่ยังไม่ได้จุด ทานตะวันเห็นอย่างนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าพวกนั้นจะทำอะไรเธอต่อ
"อย่านะ ม่ายยยยยยยยย" ทานตะวันร้องสุดเสียง เพราะลูกน้องของเตชินท์จุดประทัดแล้วโยนมาใกล้ๆกับที่ที่เธอนั่งอยู่ ทานตะวันได้แต่เอามือปิดหูและก้มหน้าไว้ตลอด เธอได้แต่ภาวนาว่า เมื่อไหร่ประทัดพวกนั้นจะหมดเสียที
บอร์ดี้การ์ดของเตชินท์กระซิบรายงานผลให้เตชินท์ฟัง เตชินท์ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มให้กับผลงานของตัวเองที่ได้สั่งสอนผู้หญิงกล้าดีคนนั้น
"เก่งนักใช่มัย ได้เห็นคนเก่งร้องไห้ก็คราวนี้แหละ" เตชินท์พูดขึ้นก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจเป็นอย่างมาก
ทานตะวันพาร่างกายที่สะบัดสะบอมหลบผู้คนไปอีกทาง เธอรู้สึกเหนื่อยที่ต้องเจอกับศัตรูรอบด้าน ทานตะวันทรุดตัวลงนั่งพิงกับกำแพงอย่างอ่อนแรงและอ่อนใจ ในเวลานี้เธอจะอ่อนแอไม่ได้ ทานตะวันได้ยินเสียงคนเดินมา เธอรีบมองหาที่ซ่อนทันที
"ตะวัน ตะวัน เธออยู่ที่นี่หรือเปล่า" เสียงของดิษยาเรียกเธอด้วยความเป็นห่วง ทานตะวันเห็นว่าเป็นดิษยาก็รีบออกมาจากที่ซ่อน
ดิษยาเห็นทานตะวันเดินกะเผลกออกมาก็รู้ทันทีว่า ทานตะวันต้องโดนแกล้งมาอย่างหนักแน่นอน
"ฉันขอโทษที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย" ดิษนาตีหน้าเศร้า ทานตะวันมองอย่างเห็นใจเธอรู้แล้วว่าพี่นัทรู้สึกเช่นไรเมื่อเธอคิดจะเข้าไปช่วย
"ไม่เป็นไร เดียร์น่า ถ้าเธอช่วยฉันเธออาจจะโดนไปด้วยก็ได้" ทานตะวันบอกอย่างเข้าใจ
ดิษยาพยายามใช้มือปัดเสื้อที่เปื้อนของทานตะวันด้วยมือของเธอเอง ทานตะวันมองอย่างซาบซึ้งใจ
"ขอบใจนะ ขอบใจจริงๆ ที่ยังมีเธออยู่ข้างๆฉัน" ทานตะวันบอกเพื่อนของเธอพร้อมด้วยน้ำตาที่เริ่มซึมออกมา
ดิษยาพยักหน้ารับรู้ความรู้สึกนั้น เธอใช้มือลูบไหล่ของทานตะวันเพื่อปลอบใจอย่างอ่อนโยน
"หลังอาคารตึก 2 เป็นห้องสมุดเก่าไปหลบที่นั่นสิตะวัน" ดิษยาบอกด้วยความหวังดี ทานตะวันพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะเดินไปที่อาคารนั้นตามที่ดิษยาบอก
อย่างเชื่อใจ
Fever 4 (F4 THAILAND) โดย Na Patchara #5
Fever 4 (F4 THAILAND) #1 http://ppantip.com/topic/30896810
Fever 4 (F4 THAILAND) #2 http://ppantip.com/topic/30922852
Fever 4 (F4 THAILAND) #3 http://ppantip.com/topic/30984872
Fever 4 (F4 THAILAND) #4 http://ppantip.com/topic/31008854
Fever 4 (F4 THAILAND) #5
ทานตะวันนั่งเตรียมงานอย่างใจลอยเธอนึกถึงแต่ประโยคนี้ ถึงเธอจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจเตชินท์ แต่ลึกๆแล้วเธอก็แอบหวั่นใจไม่ได้ ดิษยาเห็นสีหน้าของทานตะวันก็เข้าใจความรู้สึก จึงเดินเข้ามาถาม
"เป็นอะไรหรือเปล่า"
"เปล่านี่" ทานตะวันตอบ ก่อนจะหันไปทำงานต่อ ดิษยาได้แต่มองภาพนั้นอย่างพอใจเพราะเธอเชื่อว่าทานตะวันต้องออกจากเตมีย์ยูแน่ๆ
เตชินท์นั่งอารมณ์เสียอยู่ในห้องเรียนซึ่งไม่ต่างอะไรกับห้องทำงานของผู้บริหารระดับสูง กระจกที่กันกระสุนรอบด้าน การรักษาการ
ที่มีความปลอดภัยเทียบเท่ากับระดับสากลเพราะ F4 ไม่ใช่แค่นักศึกษาแต่เป็นทายาทของนักธุรกิจที่เตรียมสืบทอดธุรกิจรุ่นต่อไปในอนาคต
"น่าเจ็บใจจริงๆ เพราะรู้ว่ามีนายให้ท้าย ยัยนั่นถึงได้กล้าทำแบบนี้" เตชินท์เริ่มเหวี่ยงใส่ณาวา
"เรื่องของเธอคนนั้น ไม่เกี่ยวกับฉัน และฉันไม่เคยบอกอะไรให้เธอได้รู้ว่า ทำไมถึงได้มาเรียนที่นี่ เหตุผลจริงๆนายน่าจะรู้ว่าเป็นเพราะใคร"
ณาวาบอกทั้งๆที่ยังอ่านหนังสือที่อยู่ตรงหน้านั้น โดยไม่ได้หันไปมองเตชินท์ ยิ่งเตชินท์เห็นณาวาไม่สนใจ เขาก็ยิ่งโมโห
"เธอคนนั้น นายเรียกยัยนั่นว่าเธอคนนั้น ฉันนึกว่านายจะให้เกียรติและให้ความสำคัญกับพี่แพรคนเดียวซะอีก" เตชินท์ประชดไม่เลิก
"พอได้แล้วเตชินท์" ชายวีย์เตือนเพื่อนเพราะรู้นิสัยถึงความดื้อรั้นและไม่ยอมใครของเตชินท์ดี
"พออย่างนั้นหรอ ถ้ายัยนั่นไม่มาก้มหัวขอโทษฉัน เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่" เตชินท์บอกชายวีย์แต่สายตายังคงมองอยู่ที่ณาวาเหมือนเดิม
"แค่ขอโทษใช่มั้ย งั้นณาวาก็ไปบอกเธอด้วยแล้วกัน " คิรินท์พูดขึ้นเพื่อยุติเรื่องทั้งหมด แต่กับทำให้ณาวาเริ่มไม่พอใจ
"พวกนายเลิกยัดเยียดเธอคนนั้นให้ฉันซักทีได้มั้ย และความรู้สึกของฉันมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆเหมือนนายหรอกนะคิรินท์"
ณาวาบอกอย่างจริงจัง คราวนี้เขาอ่านหนังสือต่อไปไม่ได้แล้ว ณาวาปิดหนังสือก่อนจะลุกขึ้นไปที่ระเบียง คิรินท์เดินตามเพื่อนไปด้วย
"แค่ล้อเล่น นายคิดเป็นจริงเป็นจังไปได้" คิรินท์บอก ณาวาหันมาบอกเพื่อนอย่างเข้าใจว่า "ช่างมันเถอะ" คิรินท์โล่งใจขึ้นมาหน่อย
"ก็ดี ในเมื่อยัยนั่นไม่มีความสำคัญกับนาย ฉันก็จะทำให้ยัยนั่นได้รู้ถึงกฎที่แท้จริงของเตมีย์ยู"
เตชินท์พูดขึ้นก่อนจะหันไปทางบอดี้การ์ด อีกฝ่ายเข้าใจความหมายที่เจ้านายส่งมาให้ทางสายตาดี บอดี้การ์ดรีบหยิบใบแดง
ที่พกติดตัวอยู่ในเสื้อสูทตลอดเวลา ออกมาให้เตชินท์อย่างรีบร้อน เตชินท์รับมาพร้อมกับโชว์ให้เพื่อนทั้งสามดูใบแดงที่ถืออยู่ในมือ
ชายวีย์ถึงกับถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นและไม่ยอมใครของเตชินท์
"พนันกันมั้ย ว่ายัยนั่นจะทนได้ซักกี่วัน" เตชินท์ถาม ก่อนจะหันไปทางคิรินท์ คิรินท์ไม่ค่อยอยากเล่นด้วยสักเท่าไหร่
"สามวันมั้ง ไม่น่าจะเกินกว่านี้" คิรินท์ตอบอย่างเสียไม่ได้
"แล้วนายหละชายวีย์" เตชินท์ถามเพื่อนอีกคน
"มากกว่าสามวันแล้วกัน คิรินท์เลือกไปก่อนแล้วนี่" ชายวีย์ตอบ ก่อนจะหันไปทางคิรินท์ คิรินท์มองเพื่อนอย่างเข้าใจ
"ณาวา นายจะเล่นด้วยมั้ย" เตชินท์แกล้งถามณาวา ที่ยืนอยู่กับคิรินท์ที่ระเบียง
ณาวาได้แต่นิ่งก่อนจะหันมาตอบอย่างแน่วแน่ว่า
"ฉันบอกนายแล้วเตชินท์ ว่าเรื่องนี้ฉันไม่ยุ่ง"
"ก็ดี นายได้สิทธ์นั้นเดี๋ยวนี้" เตชินท์บอก ก่อนจะหันไปทางบอดี้การ์ดของเขา "จัดการได้เลย" เตชินท์สั่งคนของเขาทันที
ชายวีย์ที่มองเตชินท์อยู่เห็นสีหน้าของเพื่อนเปลี่ยนไปก็อดแซวไม่ได้
"อารมณ์ดีขึ้นแล้วสิ ที่ได้แกล้งคน"
"แกล้งที่ไหน ฉันแค่จะสั่งสอนให้ยัยนั่นได้รู้ว่า ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่ ก็อย่ากล้าคิดที่จะลองดีกับฉัน" เตชินท์ตอบ
"ตลอด เป็นอย่างนี้ตลอด" คิรินท์ได้แต่ส่ายหัวให้กับนิสัยของเตชินท์ ก่อนจะหันไปทางณาวา เขาเห็นท่าทางของณาวาเปลี่ยนไปอย่าง
เห็นได้ชัด สายตาที่ดูเหมือนกำลังกังวลกับเรื่องอะไรสักอย่าง คิรินท์เข้าไปตบบ่าเพื่อนก่อนจะถามด้วยความสงสัย
"เป็นอะไรไป"
ณาวาส่ายหัวแทนคำตอบ เขาไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ ถึงเขาจะบอกเพื่อนทั้งสามว่าไม่สนใจทานตะวัน แต่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ที่ทานตะวันต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ เสียงของทานตะวันที่ตะโกนด่าพวก F4 ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขาเพราะมันจริงอย่างที่เธอพูดทุกคำ
เช้าวันใหม่ ทานตะวันเดินผ่านประตูรั้วของเตมีย์ยูเหมือนปกติ แต่วันนี้เธอรู้สีกได้ถึงความเงียบและความวังเวงตลอดทางเดินที่เธอ
เดินเข้ามา ทานตะวันมองไปข้างหน้าอย่างสงสัยเพราะทางที่ทอดยาวข้างทางกับเต็มไปด้วยแอ่งน้ำและโคลนเปียกๆ
"เมื่อคืนฝนตกหรอ" ทานตะวันพูดขึ้นอย่างแปลกใจ ไม่ทันขาดคำ รถคันหรูหลายคันขับตามกันเข้ามาด้วยความเร็วสูง ทุกคันพากันขับลงแอ่งน้ำโคลน ทานตะวันพยายามหลบแต่เพราะรถหลายคันต่อให้หลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น ทั้งน้ำ ทั้งโคลนกระเด็นใส่ทานตะวันจนเลอะไปทั้งตัวมีหลายคันที่เปิดกระจกมาดูผลงานของตัวเองอย่างพอใจ ทานตะวันจะตะโกนด่าแต่ก็ไม่ทันเพราะรถเหล่านั้นขับไปไกลเกินกว่าจะได้ยินเสียงของเธอ ทานตะวันมองสภาพตัวเองก็ได้แต่ถอนหายใจและยังงงว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร
ทานตะวันเดินเข้าอาคารเรียนด้วยสภาพที่เลอะเปรอะเปื้อน นักศึกษาที่ได้เห็นเธอเป็นอย่างนี้ ก็ต่างพากันซุบซิบนินทาแล้วก็พากันหัวเราะ ทานตะวันยังไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น เธอเดินไปที่ตู้เก็บของของเธอเพื่อที่จะเปลี่ยนชุดเป็นชุลพละ แต่ทันทีที่เธอเปิดตูนั้นสิ่งที่เธอได้เห็นคือ
ใบแดง จากเตชินท์
ทานตะวันเริ่มเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว และสิ่งที่เธอกังกลได้ก็เกิดขึ้นจริงๆ ทานตะวันดึงใบแดงนั่นออกมาจากแค้นใจ เพราะเธอไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้ แต่เตชินท์ถึงกับอยากให้เธอออกจากเตมีย์ยู
"นายจะไร้เหตุผลเกินไปแล้วนะ" ทานตะวันได้คิดอย่างเจ็บใจ เธอกำใบแดงไว้แน่น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ภาพของพี่นัทเข้ามาให้หัวสมองเธอทันทีแต่เธอจะไม่ยอมแพ้แน่ จากนี้ไปอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทานตะวันปลอบใจตัวเองก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ทานตะวันเดินจะไปเปิดประตูแต่เปิดไม่ออกเพราะประตูโดนล็อคจากด้านนอก ทานตะวันได้แต่ส่ายหัวให้กับเรื่องบ้าๆ ก่อนที่เธอจะมองไปที่หน้าต่างด้านข้างเพราะนั่นคือทางเดียวที่เธอจะออกมาได้
เมื่อทานตะวันปีนออกมาทางหน้าต่างก็เป็นไปตามกับดักที่ คนของเตชินท์วางแผนไว้ ทานตะวันจับขอบหน้าต่างไว้แน่นเพราะกลัวตกลงมา เพราะห้องน้ำที่เธอปีนออกมานั้นอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารเรียน ทานตะวันพยามยามขยับตัวเองแล้วเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ แต่ทันใดนั้น
"ปัง ปังงงง ปัง ปังงงงงงงงๆๆๆๆๆๆ" เสียงประทัดหลายร้อยลูกดังขึ้นอย่างเสียงดัง ทานตะวันตกใจกับเสียงนั้นจนเผลอปล่อยมือตกลงมาจากชั้น 2 ร่างของเธอหล่นลงมากระแทกกับพื้นหญ้าข้างร่างเขาอย่างจัง
"โอ้ยยยยยยยย" ทานตะวันร้องด้วยความเจ็บ เธอใช้มือกุมข้อเท้าเธอทันทีเพราะส่วนนั้นคือส่วนที่เธอเจ็บที่สุด ลูกน้องของเตชินท์ออกมาจากที่ซ่อนพร้อมกับประทัดที่เหลืออยู่ในมือที่ยังไม่ได้จุด ทานตะวันเห็นอย่างนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าพวกนั้นจะทำอะไรเธอต่อ
"อย่านะ ม่ายยยยยยยยย" ทานตะวันร้องสุดเสียง เพราะลูกน้องของเตชินท์จุดประทัดแล้วโยนมาใกล้ๆกับที่ที่เธอนั่งอยู่ ทานตะวันได้แต่เอามือปิดหูและก้มหน้าไว้ตลอด เธอได้แต่ภาวนาว่า เมื่อไหร่ประทัดพวกนั้นจะหมดเสียที
บอร์ดี้การ์ดของเตชินท์กระซิบรายงานผลให้เตชินท์ฟัง เตชินท์ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มให้กับผลงานของตัวเองที่ได้สั่งสอนผู้หญิงกล้าดีคนนั้น
"เก่งนักใช่มัย ได้เห็นคนเก่งร้องไห้ก็คราวนี้แหละ" เตชินท์พูดขึ้นก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจเป็นอย่างมาก
ทานตะวันพาร่างกายที่สะบัดสะบอมหลบผู้คนไปอีกทาง เธอรู้สึกเหนื่อยที่ต้องเจอกับศัตรูรอบด้าน ทานตะวันทรุดตัวลงนั่งพิงกับกำแพงอย่างอ่อนแรงและอ่อนใจ ในเวลานี้เธอจะอ่อนแอไม่ได้ ทานตะวันได้ยินเสียงคนเดินมา เธอรีบมองหาที่ซ่อนทันที
"ตะวัน ตะวัน เธออยู่ที่นี่หรือเปล่า" เสียงของดิษยาเรียกเธอด้วยความเป็นห่วง ทานตะวันเห็นว่าเป็นดิษยาก็รีบออกมาจากที่ซ่อน
ดิษยาเห็นทานตะวันเดินกะเผลกออกมาก็รู้ทันทีว่า ทานตะวันต้องโดนแกล้งมาอย่างหนักแน่นอน
"ฉันขอโทษที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย" ดิษนาตีหน้าเศร้า ทานตะวันมองอย่างเห็นใจเธอรู้แล้วว่าพี่นัทรู้สึกเช่นไรเมื่อเธอคิดจะเข้าไปช่วย
"ไม่เป็นไร เดียร์น่า ถ้าเธอช่วยฉันเธออาจจะโดนไปด้วยก็ได้" ทานตะวันบอกอย่างเข้าใจ
ดิษยาพยายามใช้มือปัดเสื้อที่เปื้อนของทานตะวันด้วยมือของเธอเอง ทานตะวันมองอย่างซาบซึ้งใจ
"ขอบใจนะ ขอบใจจริงๆ ที่ยังมีเธออยู่ข้างๆฉัน" ทานตะวันบอกเพื่อนของเธอพร้อมด้วยน้ำตาที่เริ่มซึมออกมา
ดิษยาพยักหน้ารับรู้ความรู้สึกนั้น เธอใช้มือลูบไหล่ของทานตะวันเพื่อปลอบใจอย่างอ่อนโยน
"หลังอาคารตึก 2 เป็นห้องสมุดเก่าไปหลบที่นั่นสิตะวัน" ดิษยาบอกด้วยความหวังดี ทานตะวันพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะเดินไปที่อาคารนั้นตามที่ดิษยาบอกอย่างเชื่อใจ