JJNY : ของเซ่นไหว้ ‘สารทจีน’ แพง│ชี้เผชิญความเสี่ยงหลากมิติ│อย่าเป็นไก่ในเล้า ตีกันเอง.│ห่วงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน

ชาวบ้านโอด ของเซ่นไหว้ ‘สารทจีน’ แพงขึ้นเกือบเท่าตัว หันมาใช้หมูหยองแทนสามชั้น
https://www.matichon.co.th/region/news_4741858
 
 
บรรยากาศสารทจีนโคราชประชาชนใช้หมูหยองแทนหมูสามชั้นหลังของเซ่นไหว้ราคาสูง หวังรัฐบาลใหม่แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
 
วันที่ 18 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในวันสารทจีนว่า ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม ได้มีประชาชนชาวโคราชที่มีเชื้อสายจีนต่างนำของเซ่นไหว้ต่างๆ อาทิ หัวหมู เป็ด ไก่ ผลไม้มงคล ขนมเทียน ขนมเข่ง รวมไปถึงกระดาษเงินกระดาษทอง มาเส้นไหว้ย่าโมเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วตามความเชื่อของชาวจีน นอกจากนี้ ที่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อไฟก็ยังเป็นสถานที่ที่ประชาชนนิยมนำของเซ่นไหว้เข้ากราบไหว้สักการบูชาในช่วงเทศกาลสารทจีนรวมไปถึงเทศกาลอื่นๆ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลสารทจีนปีนี้บรรดาของเซ่นไหว้ต่างมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ทั้งหัวหมู ไก่ เป็ด ผลไม้ รวมไปถึงกระดาษไหว้ ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนนั้นจำเป็นต้องลดปริมาณของไหว้ลงรวมไปถึงปรับเปลี่ยนชนิดของเซ่นไหว้ เช่น เปลี่ยนจากหมูสามชั้น มาเป็นหมูหยองแทน
 
โดยนายชัยชนะ ประพฤทธิพงษ์ ชาวโคราช บอกว่า ในปีนี้ตนนั้นได้ไปซื้อของเซ่นไหว้เองทำให้ได้ทราบถึงราคาของเซ่นไหว้ที่มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นทุกอย่างเกือบหนึ่งเท่าตัว ทำให้ตนนั้นต้องมีการปรับลดปริมาณของเซ่นไหว้ลงรวมไปถึงมีการปรับเปลี่ยนใช้อย่างอื่นมาใช้แทน เช่น ได้ใช้หมูหยองแทนหมูสามชั้น และได้มีการใช้ปลาเส้นแทนปลาจริงๆ
 
นายชัยชนะบอกต่อว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างที่กล่าวไปแล้วนั้น ในโอกาสนี้ที่ทางคณะรัฐบาลนั้นได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่มาแล้วนั้น ตนในฐานะประชาชนอยากให้ทางนายกรัฐมนตรีคนใหม่เร่งแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจโดยไม่ต้องมองไปถึงภาพใหญ่เอาแค่เรื่องการลดราคา การลดราคาค่าน้ำมันลงก็ถือว่าเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระประชาชนลงได้แล้ว นอกจากนี้ สำหรับโครงการแจกเงินดิจิตอลวอลเล็ทนั้น อยากให้ปรับเปลี่ยนมาแจกเป็นเงินสดแทน เพราะตนมองว่าสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง



สื่อนอกตีข่าว ‘แพทองธาร’ รับตำแหน่งนายกฯ ชี้เผชิญความเสี่ยงหลากมิติ
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4741930

สื่อนอกตีข่าว ‘แพทองธาร’ รับตำแหน่งนายกฯ ชี้เผชิญความเสี่ยงหลากมิติ
 
สำนักข่าวต่างประเทศหลักๆ พากันเสนอข่าวน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 สิงหาคม

รอยเตอร์ระบุว่า การล่มสลายของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หลังดำรงตำแหน่งได้เพียงไม่ถึงปีเป็นเครื่องเตือนใจถึงความเสี่ยงของประเทศไทยที่ติดอยู่ในวังวนรัฐประหาร และคำตัดสินของศาลที่ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ถูกยุบ รวมถึงการโค่นรัฐบาลหลายชุดและนายกรัฐมนตรีหลายคน
 
แพรทองธารยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการรับมือกับมรดกและอนาคตทางการเมืองของตระกูลมหาเศรษฐีพันล้านอย่างตระกูลชินวัตร ซึ่งครั้งหนึ่งเคยตระกูลที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ แต่ประสบกับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปีเมื่อปีที่ผ่านมา จนต้องหันไปจับมือกับศัตรูตัวฉกาจในกองทัพเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

รอยเตอร์ยังชี้ด้วยว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมายังบ่งชี้ถึงความล้มเหลวในการสงบศึกระหว่างทักษิณ ชินวัตร กับคู่ต่อสู้ในฝ่ายอนุรักษ์นิยมอีกด้วย

เอเอฟพีรายงานว่า นางสาวแพทองธารเป็นทายาททางการเมืองของครอบครัวชินวัตร ที่นอกจากจะเป็นครอบครัวที่ครองอำนาจทางการเมืองมาอย่างยาวนานแล้ว ยังเผชิญกับการประท้วงและรัฐประหารอีกด้วย อย่างไรก็ดี แพทองธารจะพยายามหลีกเลี่ยงการมีโชคชะตาทางการเมืองที่เหมือนกับพ่อและอาของเธอ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งจบด้วยการถูกรัฐประหาร
 
ประเทศไทยถูกครอบงำโดยการแย่งชิงอำนาจระหว่างทักษิณและพันธมิตรกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่สนับสนุนกองทัพมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี ในอดีตแม้ว่าพรรคการเมืองของทักษิณจะชนะการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง แต่กลับพบว่ารัฐบาลของเขาถูกโค่นล้มจากการรัฐประหารและศาล
 
แพทองธารร่วมรณรงค์หาเสียงอย่างแข็งขันแม้ว่าเธอจะตั้งครรถ์ และเปรียบเทียบบุตรของเธอว่าเป็น “อาวุธลับ” ทั้งนี้ เธอพ่ายแพ้ต่อพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พรรคที่นำโดยตระกูลชินวัตรพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง โดยเธอเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ภายใต้ยุทธศาสตร์ของพรรคในการดึงดูดเยาวชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การที่เธอมีอายุน้อยและรสนิยมของเธอในการใส่ของแบรนด์เนม ทำให้เธอโดดเด่นจากนักการเมืองไทยคนอื่นๆ ซึ่งมีอายุมากและเป็นผู้ชาย

ทั้งนี้ แพรทองธารจำเป็นต้องพยายามอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ภายใต้เงาพ่อของเธอ ท่ามกลางข้อครหาที่ว่า ทักษิณจะเขามาก้าวก่ายการบริหารประเทศภายใต้การนำของลูกสาว โดยในอดีตเธอเคยกล่าวว่า เธอเป็น “เด็กน้อย” ของพ่อและการสนับสนุนและคำแนะนำของทักษิณช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในกับเธอ
 
ปฎิเสธไม่ได้ว่าแพรทองธารจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าพ่อของเธอจะเข้ามามีอิทธิพลมากเพียงใด ในฐานะที่นายทักษิณเป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลมากที่สุด แต่ก็ทำให้เกิดข้อโต้แย้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยยุคใหม่
 
อย่างไรก็ดี ทักษิณปฏิเสธเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ว่า เขาไม่จำเป็นต้องเป็นที่ปรึกษาของเธอและเขามีอายุถึง 75 ปีแล้ว แต่แพทองธารจะขอคำแนะนำจากเขาเมื่อไรก็ได้
 
ด้านเอพีรายงานว่า แพรทองธารเป็นสมาชิกคนที่ 3 ในตระกูลชินวัตรที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อจากบิดาและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้าสาว แต่ทั้งคู่ถูกปลดออกจากตำแหน่งและถูกบีบให้ลี้ภัยหลังการรัฐประหาร แม้ว่าที่สุดแล้วนายทักษิณจะได้กลับไทยเมื่อปี 2566 ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยแพรทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของไทย และยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดของประเทศด้วยวัย 37 ปีอีกด้วย


 
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร : เพื่อไทย – ประชาชน อย่าเป็นไก่ในเล้า ตีกันเอง.
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4741456

รายการมีเรื่องมาเคลียร์ By ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ คุยกับ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร แกนนำพรรคประชาชน หลังสภาโหวต แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ชี้ เพื่อไทย-ประชาชน จับมือแก้เงื่อนไขที่ไม่เป็นประชาธิปไตยได้ อย่าเป็นไก่ในเล้าส่งโรงชำแหละ ที่ยังมัวตีกันเอง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่