กสท.-ทีโอที...หมดยุค"เสือนอนกิน"...

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ภาคธุรกิจมีการปรับตัวรับการแข่งขันที่รุงแรง เพราะในอีก 2 ปีข้างหน้าประเทศไทยต้องก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำให้ทุกภาคส่วนต้องตื่นตัว เรียนรู้ พัฒนาองค์กร พัฒนาบุคคลากรให้พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งในส่วนภาคเอกชนเตรียมตัวมาสักพักและตอนนี้ดูเหมือนจะไปได้ดี  ดูจากการรุกคืบเข้าไปขยายธุรกจในประเทศอาเซียนของกิจขนาดใหญ่ของไทย ทั้ง ปตท. ปูนซิเมนต์ไทย เซ็ลทรัล ซี.พี.ฯลฯ

เป็นห่วงแต่ก็แต่รัฐวิสาหกิจไทย..เช่น  บริษัท กสท โทรคมนาคม และ บริษัท ทีโอที...เสือนอนกิน สัมปทานมานาน เลยไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำทุกวิถีทางที่จะไม่ยอมเสียรายได้สัมปทาน...ยกตัวอย่างการประท้วงชุมนุมเรียกร้องให้  กสทช. ยุติบทบาทการทำหน้าที่ อ้างเหตุผลว่า  กสทช. ออกกฎระเบียบประมูลทีวีดิจิตอล และจัดสรรคลื่นโทรคมนาคมไม่เป็นธรรม ส่งผลกระทบต่อรายได้ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ

เช่น สัญญาสัมปทานบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ บนคลื่นความถี่ 1800 MHz  จะสิ้นสุดลง วันที่ 15 กันยายน 2556... (สัมปทานบริษัท กสท โทรคมนาคม กับ บริษัท ทรู มูฟ   และกับบริษัท ดิจิตอล โฟน)  และของ  ดีแทค ที่ได้รับสัญญาสัมปทานบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จาก กสท โทรคมนาคม ที่จะสิ้นสุดลงปี 2561  และ เอไอเอส ที่ได้รับสัญญาสัมปทานบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จาก บริษัท ทีโอที จะหมดสัญญาสัมปทาน ในปี 2558

คลื่นความถี่เหล่านี้เป็นสมบัติของชาติ และเรามีองค์กรอิสระ คือ คณะกรรมการการกำกิจการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ...เป็นผู้บริหารจัดการสมบัติของชาติเหล่านี้...จึงต้องถุกต้อต้านจากคนที่กำลังเสียผลประโยชน์...

ว่ากันตามจริง กสทช.มีอำนาจตามกฎหมาย ที่ร่างขึ้นมาเพื่อวางกติกาใหม่ของสังคม ในเรื่องการบริหารจัดการคลื่นโทรคมนาคม... และเมื่อโลกเปลี่ยน กสท. และ ทีโอที  ต้องรู้จักเปลี่ยน ต้องปรับตัวรองรับกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่เปลี่ยนไปตามเงื่อนไขใหม่ที่เกิดขึ้น...

อดีตที่มีสถานะเป็น Regulator  หรือ ผู้ควบคุม นอนกอดรายได้จำนวนมหาศาลจากสัญญาสัมปทาน เปรียเสมือน “เสือนอนกิน” …หมดยุคไปแล้ว...ต่อไปนี้ จะต้องปรับตัวเอง...ให้อยุ่ในสถานะ  Operato หรือ ผู้ให้บริการโครงข่าย ... ต้องเร่งปรับตัว ปรับกลยุทธ์ การทำงาน รับการแข่งขัน  ไม่ใช่ค้านหัวชนฝาใช้วิธีชุมนุมประท้วง ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ที่ไม่ต้องการเสียผลประโยชน์ส่วนตัว และไม่ต้องการให้ประเทศเดินหน้า

กสทช.มีหน้าที่ทำตามกฎหมาย( พ.ร.บ องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ. 2553) ที่ กำหนดให้ต้องนำคลื่นไปจัดสรรโดยการประมูล และสร้างความแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม

รัฐวิสาหกิจทั้งหลายที่ใหญ่ จน”อุ้นอ้าย”...ถึงเวลาต้องเปลียน และทั่วโลกเขาก็เปลี่ยนกันหมดแล้ว...ซึ่ว่ากันตามจริงความได้เปรียบทีสั่งสมมานานก่อนหน้านี้ น่าจะนำเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ แต่ทว่าที่ผ่านมาเคย”นอนกิน”กันแบบสบาย ทำธุรกิจผูกขาดกันมานาน จนเคยตัว พอจะมีคนเข้าไปปรับเปลี่ยนก็เดือดร้อน อ้างเอาประเทศชาติมาเป็นข้ออ้าง ซึ่งอันที่จริการทำตัวแบบนันต่างหากที่เป็นตัวการทำลายประเทศชาติ...

ยังมีรัฐวิสาหกิจอื่นๆอีกมานอกจาก 2 หน่วยที่ว่ามาข้างต้น...ผ่านเข้าไปดูเนื้อในก็เละเหมือนกัน บางแห่งสะสมหนี้มหาศาล เป็นภาระงบประมาณของชาติ...ไม่เช่นนั้น..คงไม่มีแนวคิดที่จะมีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจกันหรอก...ซ.งเรองนี้เขาคิดกันมาทุกรัฐบาล และก็คิดกันหลายรัฐบาลมาแล้วด้วย...

ที่มา : http://www.naewna.com/business/columnist/8523
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่