พิษรัก ตอนที่ 8

กระทู้สนทนา
ในสนามบินสุดหรูพนักงานกว่าห้าสิบคนถูกจัดขบวนให้มาต้อนรับคุณหนู “น้ำตาล”ลูกสาวคนเดียวของท่านประธานที่เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศหลังจากเพิ่งเรียนจบมา
“น่าเบื่อที่สุดเลยแค่นี้ก็ต้องให้พวกเรามาต้อนรับ”พนักงานคนนึงเอ่ยขึ้นเสียงเครียด
“เอาเหอะน่ายังไงมันก็เวลางานของเราอยู่ดีแค่เปลี่ยนงานเท่านั้นเอง”น้ำเสียงทุ่มของหัวหน้าสุดหล่ออย่าง “แบงค์”ดังขึ้น ทำให้สาวๆที่ตั้งท่าจะบ่นอีกยืนสงบนิ่งอย่างอดทนเพราะเจ้านาย
“น่าโมโหจังเว้ย”แบงค์แอบบ่นเล็กๆเพราะตัวเองก็เซ็งเช่นกันที่ต้องมาทำเรื่องงี่เง่าอะไรแบบนี้
“นั้นไงคุณหนูมาแล้ว”น้ำเสียงแม่บ้านที่มารับน้ำตาลกลับบ้านดังขึ้นทำให้ทุกคนขยับตัวเองให้ยืนให้เรียบร้อยเตรียมช่อดอกไม้ให้น้ำตาล
“แม่เจ้า”พนักงานหนุ่มๆที่มายืนรอรับพากันอุทานเมื่อเห็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่พวกเขามารอรับ ทุกคนมองดูเธอด้วยความชื่นชมในความสวยโดดเด่นของน้ำตาลยกเว้นแบงค์ที่ยืนอึ้งหน้าซีดเพราะความตกใจ

เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าคุณหนูน้ำตาลที่ใครๆพากันพูดถึงก็คือน้ำตาล ผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาแทบคลั่งเมื่อสามปีก่อน เธอยังคงสวย น่ารักและเซ็กซี่เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“ผมขอตัวนะครับมีธุระด่วนต้องไปทำ”แบงค์พูดไม่รอช้าเดินออกจากสนามบินไปเฉยๆปล่อยให้ลูกน้องเป็นคนต้อนรับน้ำตาล
                      “การันต์”นักธุรกิจวัยกลางคนผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในด้านการทำงาน เขาใช้เวลากว่าค่อนชีวิตเพื่อนำตัวเองไปสู่การเป็นประธานบริษัทหลากหลายรูปแบบ แต่ทว่าสำหรับหน้าที่พ่อและสามีเขากลับทำล้มเหลวไม่เป็นท่า
“คุณพ่อขา”น้ำตาลส่งเสียงทักทายผู้เป็นพ่อด้วยความดีใจและโอบกอดเขาไว้ในอ้อมแขน
“ทำไมไม่กลับบ้านล่ะลูกมาที่ทำงานพ่อทำไม”เพราะคำพูดของผู้เป็นพ่อทำให้น้ำตาลคลายกอดเขาด้วยความน้อยใจ
“คุณพ่อไม่ดีใจเหรอคะที่น้ำตาลแวะมาหาคุณพ่อเพราะว่าคิดถึง”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นก็เลิกบ่นเถอะคะเพราะว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปน้ำตาลจะมาทำงานที่นี่คะ คุณพ่อจะได้เห็นหน้าน้ำตาลทุกวันแน่”น้ำตาลกล่าวส่งรอยยิ้มจ้าเล่ห์ให้ผู้เป็นพ่อ
“ลูกคิดว่ามันเป็นเรื่องเล่นเหรอลูกน้ำตาลลูกไม่เคยทำงานจริงๆเลยแม้แต่ครั้งเดียว ลูกมีแค่หลักการที่มันอยู่ในหนังสือมันไม่พอหรอกนะลูกมันต้องมีประสบการณ์ก่อนพ่อถึงจะไว้ใจให้ลูกทำงานได้”
“ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อจะให้หนูทำยังไงคะ”น้ำตาลเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ลูกต้องทำงานตำแหน่งเล็กๆไปก่อน”
“งั้นตกลงพรุ่งนี้เจอกันนะคะท่านประธาน”น้ำตาลพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้องประธานบริษัท
                      “นี่คุณทำงานกันยังไงเนี๊ยซื้อของขาดมากขนาดนี้ใครจะรับผิดชอบถ้างานเย็นนี้เสร็จไม่ทันกำหนด พวกคุณมีปัญญารับผิดชอบกันหรือไงถ้าเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวแต่งงานกันไม่ได้”น้ำเสียงโวยวายที่ดังขึ้นจากห้องจัดเลี้ยงทำให้น้ำตาลเดินเข้าไปดูด้วยความสนใจ
“เย็นนี้ถ้างานยังไม่เรียบร้อยห้ามพวกคุณกลับบ้านแม้แต่คนเดียว”แบงค์ตะหวาดลูกน้องเสียงลั่นโดยไม่รู้เลยว่าน้ำตาลยืนแน่นิ่งอยู่ข้างหลังเขาเธอพยายามอธิฐานให้ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่แบงค์ แม้ว่าน้ำเสียงและท่าทางจะเหมือนกันไม่มีผิด
“คุณ”น้ำตาลเอ่ยเรียกแบงค์เสียงแผ่วฝ่ามือเรียวบางแตะลงบนบ่าเขาเบาๆเพื่อให้แบงค์หันกลับมาด้านหลัง

“น้ำตาล/แบงค์”น้ำเสียงอุทานที่ดังขึ้นบอกได้อย่างดีว่าเขาและเธอตกใจแค่ไหนเมื่อได้พบกันมีเพียงความเงียบงันและแววตาเศร้าๆเท่านั้นที่ส่งให้แก่กัน
“ฉันเกลียดเธอ”น้ำตาลตกใจจนทำอะไรไม่ถูกยกมือขึ้นตบหน้าแบงค์อย่างลืมตัว ท่ามกลางผู้คนนับร้อยที่มองดูพวกเขาด้วยความตกใจเช่นกัน  
“ฉัน......ฉัน......”น้ำตาลพูดอะไรไม่ออกอีกเธอทำได้แค่วิ่งออกไปจากตรงนั้น
“ทำงานต่อไปซิจะดูอะไรกัน”แบงค์หันไปตะวาดลูกน้องก่อนจะเดินออกไปอีกคน
“เดี๋ยวน้ำตาล”แบงค์ส่งเสียงเรียกก่อนจะวิ่งไปคว้าข้อมือน้ำตาลไว้มั่น
“ปล่อยฉันนะฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ”น้ำตาลกล่าวเสียงเข้มดวงตากลมโตเต็มไปด้วยหยดน้ำตาที่ไหลรินให้แบงค์ได้เห็นอย่างคาดไม่ถึง ว่าน้ำตาลจะเสียน้ำตาเพียงเพราะได้พบหน้าเขา
“เอ่อผม....”แบงค์พูดไม่ออกได้แต่ยืนมองหน้าน้ำตาลด้วยความรู้สึกที่สับสนเต็มที
“นายอยากตายใช่ไหม”น้ำตาลตะวาดฝ่ามือเรียวบางฝาดลงบนใบหน้าแบงค์อีกครั้งจนเขาต้องยอมปล่อยมือเธอ
“ถ้านายอยากจะอยู่ที่นี่อย่างเป็นสุขอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”น้ำตาลประกาศกร้าวก่อนจะเดินหนีแบงค์ไปด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา ที่แบงค์เองก็ไม่เข้าใจว่าด้วยเหตุผลอะไร
                      เพราะการได้พบน้ำตาลอย่างไม่คาดคิดทำให้แบงค์เลือกที่จะมานั่งดื่มเบียร์เย็นๆในคลับที่เขามาเป็นประจำ ไม่ง่ายเลยจริงๆที่เขาจะมองหน้าเธอให้เหมือนคนไม่รู้จักเมื่อหัวใจยังคงเจ็บเมื่อได้พบเธอ
“นั่งหน้ายุ่งเชียวนะ”ต่อเอ่ยถามเพื่อนที่นานๆทีจะแสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า
“กูไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องเจ็บแบบวันนี้อีก”แบงค์กล่าวกระดกเบียร์เข้าปาก
“ทำไมทะเลาะกับว่าที่เจ้าสาวมาเหรอ”
“ปล่าว........ปูนไม่เคยทำให้กูไม่สบายใจเลยสักครั้ง”
“แล้วเรื่องอะไรที่ทำให้คุณชายหน้าตายอย่างแสดงอารมณ์ออกมาได้ขนาดนี้”ต่อเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าแบงค์ทุกข์ใจอย่างหนัก
“กูได้พบคนคนนึงที่ชาตินี้กูไม่คิดว่ากูจะได้พบเขาอีก กูเพิ่งรู้วันนี้เองว่ากูไม่เคยลืมเขาความรู้สึกที่มีมันยิ่งชัดเจนเมื่อกูพบเขาอีกครั้ง และมันเลวร้ายตรงที่กูเจ็บข้างในใจเหมือนเมื่อครั้งที่เขาทำร้ายกู ทั้งที่กูเกือบจะลืมเขาได้อยู่แล้วแต่เขาก็กลับมา”
“น้ำตาลเหรอ”พลเอ่ยถามเมื่อเห็นแบงค์กระดกเบียร์อย่างไม่รู้สึกรู้สา
“เขาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้กูประสาทแบบนี้.....มีเขาคนเดียวเท่านั้น”
“ทำแบบนี้ไม่ได้นะเว้ยแบงค์กำลังจะแต่งงานกับปูน เขาอยู่ข้างๆมาตลอดในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นมีแต่ทำให้ช้ำใจจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด”
“ไม่ต้องห่วงหรอกถ้ากูคิดจะให้อภัยเขากูคงไม่เดินจากมาตั้งแต่แรก กูคงไม่ปล่อยเขาไปทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองอาจจะทนไม่ไหว กูไม่มีวันทำร้ายปูนอีกเป็นครั้งที่สองเพราะว่าเขารักกูทั้งที่กูทำกับเขาทุกอย่าง”แบงค์พูดประโยคสุดท้ายก่อนที่เขาจะฟุบลงกับโต๊ะเพราะฤทธิเหล้าและแรงใจที่เหือดหายไปจนแทบไม่มีเหลือ
                      ตำแหน่งงานแรกที่น้ำตาลได้รับมอบหมายให้ทำก็คือผู้ช่วยผู้จัดการงานจัดเลี้ยง ทำให้เธอต้องพบกับแบงค์อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เลย
“คุณพ่อนะคุณพ่ออยากให้ลูกสาวตัวเองช้ำใจตายหรือไง ทำไมต้องเป็นแผนกนี้ด้วยไม่เอาหรอก......ยังไงก็ไม่เอา”น้ำตาลโวยวายกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจโดยไม่รู้เลยว่าแบงค์กำลังจ้องมองเธออยู่
“คอยดูนะถ้านายมาทำให้ฉันเจ็บจนฉันลืมนายไม่ลงอีกครั้งฉันจะฆ่านาย แค่นี้ฉันก็กระอักเลือดแล้วนะเวลาสามปีมันพอที่ไหนกัน สำหรับการลบลืมใครสักคนที่ฉันรัก”
“นี่คุณมายืนพร่ำอะไรน่ารำคาญแถวนี้”แบงค์พูดขึ้นเสียงลั่นก่อนที่คำพูดของน้ำตาลจะทำให้เขาหวั่นไหวจนเรียกหัวใจกลับคืนมาไม่ได้
“คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้บังอาจมาว่าฉัน....ไอ้คนยิ้ม”น้ำตาลโวยขึ้นบ้างเมื่อเห็นว่าแบงค์ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอ
“ผมก็เป็นเจ้านายคุณนะซิถึงคุณจะเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านประธาน แต่ตามตำแหน่งที่คุณมีอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้แค่ลูกน้องผมเท่านั้นแหละ.....อย่ามัวแต่ยืนอ้าปากอย่างนั้นไปทำงานได้แล้ว”แบงค์พูดวางฟร์อมหัวหน้าเดินนำน้ำตาลเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง
“มันจะมากไปแล้วนะคุณคิดว่าแน่มาจากไหนถึงมาออกคำสั่งกับฉัน รู้ไว้เลยนะว่าคุณเป็นคนคนเดียวที่ฉันไม่มีวันก้มหัวให้ เพราะว่าฉันเกลียดคุณ”น้ำตาลพูดค้อนใส่แบงค์ก่อนจะเดินนำหน้าเขาเพื่อเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง
“ผมไม่รู้นะว่าสำหรับคุณคุณคิดยังไงกับผมแต่สำหรับผมคุณไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เพราะฉะนั้นกรุณาอย่าใส่อารมณ์กับผมเพราะเรื่องเก่าๆที่ผมจำเกือบไม่ได้”
“นายมันทุเรศที่สุดเลย”น้ำตาลหันกลับมาต่อว่าแบงค์เงื้อฝ่ามือจะตบเขาอีกแต่กลับถูกแบงค์จับไว้มั่นทั้งสองข้าง
“อย่าได้ทำอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณยังลืมผมไม่ได้ซิมันน่าขำนะคุณหนูน้ำตาล”แบงค์กล่าวส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้น้ำตาล
“อย่าเอาความรู้สึกของฉันมาเล่นแบบนี้....นายมีวันรู้หรอกว่าฉันเจ็บแค่ไหนที่ถูกทิ้งแบบนั้น”เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้แบงค์ยิ้มไม่ออกต้องยอมปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ
“เลิกเพ้อเจ้อแล้วตามผมมา”แบงค์พูดเดินนำน้ำตาลอีกครั้ง
“ฉันเกลียดนาย”น้ำตาลย้ำประโยคเดิมก่อนจะพลักหลังแบงค์จนเขาเกือบหน้าทิ่มและวิ่งเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงอย่างผู้ชนะ แต่เพราะไม่อาจพูดดีๆกันได้ทำให้แบงค์และน้ำตาลเถียงกันตลอดเพราะความคิดเห็นที่มักขัดแย้งกัน
“คุณจะบ้าเหรอลูกค้าส่งให้เอากุหลาบแดงแต่คุณกลับสั่งกุหลาบขาว”แบงค์โวยเสียงลั่นเพราะความเอาแต่ใจของน้ำตาล
“ก็คุณใช้โทนสีร้อนแรงขนาดนั้นขืนเอากุหลาบสีแดงอีกก็เป็นงานไว้เจ้ากันพอดี”น้ำตาลเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ผมขอถามคุณนะคุณน้ำตาลคุณเป็นเจ้าสาวหรือไงถึงได้ยุ่งออกหน้าออกตาขนาดนี้ ในเมื่อเจ้าสาวอยากได้สีแดงก็ต้องแดงไม่ใช่เอาตามใจคนนอกอย่างคุณ”
“นี่นายหาว่าฉันแซ่เหรอไอ้คนบ้า”น้ำตาลนึกโมโหแบงค์จนสุดทนคว้ากระเป๋าฝาดแบงค์ไม่ยั้งที่เขาไม่ยอมลงให้เธอเลย
“คุณจะบ้าหรือไงเนี๊ยะ เลิกบ้าได้แล้ว”แบงค์ตะวาดเสียงลั่นพลักน้ำตาลจนเธอเซ
“นี่นายกล้ารังแกผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ......นายมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย.....ไอ้บ้า..ไอ้....ไอ้”น้ำตาลฝาดไม่ยั้งเมื่อเห็นว่าแบงค์รุนแรงกับเธออย่างที่เขาไม่เคยทำ
“ผมขอเตือนคุณนะอย่าพยายามทำให้ผมโกรธจะดีกว่า”
“ทำไมนายจะทำไมฉัน...จะชกฉันหรือไง….นายมันไม่ใช่ลูกผู้ชายอยู่แล้วนี่”น้ำตาลตะคอกแบงค์ด้วยความแค้นเคืองฝาดเขาไม่คิดชีวิต
“ผมเตือนคุณแล้วนะ”แบงค์ตะวาดเสียงลั่นเหวี่ยงน้ำตาลลงพื้นอย่างแรงจนเธอนั่งนิ่งเพราะความจุก หยดน้ำใสๆแทบจะล้นเอ่อจากสองนัยน์ตากลมโตที่จ้องมองแบงค์ด้วยความโกรธเคือง
“ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณจะเจ็บหรือปล่าวไม่ใช่เพราะว่าผมไม่ใช่ลูกผู้ชายอย่างที่คุณพูดแต่เพราะผมไม่แคร์คุณ..........แล้วอีกอย่างคุณรู้ดีว่าผมน่ะลูกผู้ชายตัวจริง”แบงค์พูดเสียงเข้มก่อนจะเดินหนีน้ำตาลเพราะรู้จักนิสัยเธอดี
                      เพราะความอับอายที่ถูกแบงค์ทำหยาบคายต่อหน้าผนักงานจำนวนมากทำให้น้ำตาลคิดเอาคืนแบงค์ด้วยการแกล้งเอากุ้งใส่ไปในสุกี้ทะเลที่แบงค์สั่งทานเพราะรู้ดีแก่ใจว่าแบงค์แพ้กุ้ง

“นายเสร็จฉันแน่”น้ำตาลนั่งอมยิ้มขณะที่นั่งมองแบงค์ที่กินข้าวอยู่โต๊ะตรงข้าม
“จ้องอะไรไม่ทราบ”แบงค์เงยหน้าขึ้นถามน้ำตาลที่เอาแต่จ้องหน้าเขาไม่วางสายตา
“ฉันพอใจจะมองมีไรไหมล่ะ”น้ำตาลนั่งมองแบงค์ยิ้มกริ่มอย่างผิดวิสัย
“คนอื่นมองไม่มีปัญหาแต่คุณไม่ได้เพราะว่าผมไม่ค่อยชอบขี้หน้าคุณ”
“ไอ้บ้านี่.........”น้ำตาลโวยเพราะความโมโหยกข้าวในชามตัวเองเทใส่ชามแบงค์
“คุณมันบ้า”แบงค์นั่งจ้องหน้าน้ำตาลอย่างสุดเซ็งที่เธอเอาแต่คอยหาเรื่องเขา
“นายนั่นแหละบ้ากินกุ้งไปตั้งหลายตัวเดี๋ยวได้คันทั้งตัวแน่....ไอ้บ้า”
“ว่าไงนะ...นี่เธอ….เธอ....”
“ใช่ฉันเองมีไรไหมล่ะ.....ฉันเป็นคนเอากุ้งใส่ให้นายกินเองแหละ...ฮ่าๆๆ”น้ำตาลหัวเราะเยาะแบงค์ด้วยความสะใจ
“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”แบงค์บอกน้ำตาลก่อนจะรีบร้อนออกไปจากโรงอาหาร
“นี่คือโทษฐานที่นายบังอาจกับฉัน”น้ำตาลตะโกนไล่หลังแบงค์ไปเสียงลั่น
“เอ่อ...คือ..คือ”น้ำตาลอ้ำอ้ำอึ้งๆเพราะสายตาของผู้คนในโรงอาหารที่เอาแต่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่ร้ายกาจจนเธอต้องรีบออกมาจากโรงอาหาร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่