น้ำตาลนอนซึมอยู่บนเตียงในห้องของเธอเพราะเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้นทำให้น้ำตาลต้องเป็นไข้ทุกครั้งที่นึกถึง
“ที่รักจ๋าลุกขึ้นมากินโจ๊กก่อนแล้วค่อยนอนต่อนะเราอุตสาห์ลงไปซื้อมาให้เชียวนะ”
แบงค์พูดพยายามประคองน้ำตาลให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียง
“เธอไปมหาลัยเถอะเราไม่เป็นไรหรอกนอนพักสักหน่อยก็คงหาย”
“เป็นไข้กินยานอนพักเดี๋ยวก็หายแต่ไข้ใจนี่ซิน่าเป็นห่วง”
แบงค์พูดมองหน้าน้ำตาลด้วยความสงสาร
“ไปเถอะนะเราจะได้นอนพักสักที”
น้ำตาลส่งเสียงอ้อนแบงค์แสร้งส่งยิ้มให้เขา
“ไล่กันเลยนะยอดยาหยี........ไปก็ได้”
แบงค์พูดก้มลงหอมหน้าผากน้ำตาลก่อนจะเดินออกไปที่ประตู
“นี่แบงค์ฝากไปขอบคุณผู้หญิงคนสวยๆที่เจอกันที่ร้านอาหารด้วยนะ ถ้าไม่ได้เธอเข้ามาช่วยฉันต้องแย่กว่านี้แน่ๆ”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่น
“ว่าไงนะน้ำตาลเธอหมายถึงปูนเหรอ”
แบงค์หันกลับมาถามเสียงตื่น
“ก็คนที่สวยๆนั้นแหละมีอยู่คนเดียวที่ทำให้เราโมโหได้”
“จ๊ะแล้วจะบอกให้”
แบงค์รับปากเสียงอ่อยก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
“ปูน” แบงค์ส่งเสียงเรียกเพื่อนสาวที่กำลังจะเดินเข้าห้องเพื่อเรียนวิชาแรก
“ถ้าจะมาต่อว่าฉันละก็ไม่ต้องแล้วเพราะว่าฉันรู้ตัวเองดี”
ปูนพูดเสียงเรียบ
“เมื่อวานนี้ขอโทษที่ผมเข้าใจคุณผิด”
แบงค์พูดประโยคสั้นๆสายตาจ้องมองใบหน้าและลำตัวของปูนที่มีแต่รอยฟกช้ำด้วยความรู้สึกผิด
“คนไม่รู้ก็คือคนโง่ฉันไม่ถือหรอก”
ปูนยอมยกโทษให้และส่งยิ้มหวานให้แบงค์ด้วยความเต็มใจ
“คุณไม่จำเป็นต้องยิ้มให้ผมก็ได้นะถ้ามันยากเกินไปเพราะสิ่งที่ผมทำไว้กับคุณ”
“ฉันลืมมันไปหมดแล้วแหละเรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้วด้วยแล้วฉันก็ไม่เคยโกรธนายได้สักทีเลย”
ปูนพูดความจริงที่อยู่ในใจของเธอทำให้แบงค์รู้สึกอึดอัดไม่น้อย
“ผมว่าเรามีเรื่องต้องพูดกันนะปูน”
แบงค์พูดขึ้นจูงมือปูนออกไปที่มุมตึก
“ฉันรู้ว่าคุณจะพูดอะไรแต่ฉันอยากให้คุณทำความเข้าใจบางอย่างเหมือนกัน ว่าฉันเองไม่เคยขอร้องให้คุณรักหรือแม้แต่หันมามองฉัน”
“คุณจะทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนปูนคุณลืมไปแล้วอย่างนั้นเหรอว่าผมเคยทำอะไรคุณไว้บ้าง”
“แล้วคุณล่ะคุณลืมหรือยังว่าฉันเคยทำอะไรไว้กับฉัน”
ปูนเอ่ยถามคำถามที่ทำให้แบงค์ต้องทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเองไม่เคยจดจำว่าเคยทำร้ายใครมาบ้างกับการล้อเล่นกับความรักของเขา
“นึกให้ออกซิเผื่อว่าคุณจะนึกสงสารฉันขึ้นมาบ้าง”
“ผมไม่เคยจดจำเรื่องที่มันไม่น่าจดจำแบบนั้นหรอก แต่เพราะคุณทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมพนันเงินสามพันบาทกับเพื่อนโดยมีคุณเป็นเดิมพัน”
แบงค์พูดขึ้นอย่างไม่เหลือเยื่อใย
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เวทนาฉันเลยสักนิดแต่ไม่เป็นไรหรอกเพราะว่าฉันไม่เคยหวังอะไรจากคุณอยู่แล้ว”
ปูนพูดอย่างพยายามจะเข้มแข็งแต่เธอก็ทำได้แค่เดินหนีแบงค์เพราะกลัวว่าเขาจะเห็นน้ำตาของเธอ
“เลิกยุ่งกับชีวิตผมได้แล้ว”
แบงค์ตะโกนเสียงลั่น
“ฉันเคยทำแบบนั้นอย่างงั้นเหรอ”
ปูนกล่าวประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินแยกออกไป
“ทำไมมายืนทำหน้างออยู่ตรงนี้วะไอ้แบงค์”
ต่อเอ่ยถามเพื่อนด้วยความข้องใจเพราะน้อยครั้งที่แบงค์จะมีเรื่องกลุ่มใจ
“กูรำคาญพวกผู้หญิงอะดิทำไมไม่รู้จักรักตัวเองก็ไม่รู้”
“ถ้ากูมีแฟนสวยหยาดเยิ้มอย่างน้องน้ำตาลกูก็คงรำคาญเหมือนนั่นแหละ”
“อย่างเพิ่งเล่นไอ้ต่อกูมีเรื่องจะปรึกษา”
แบงค์กล่าวเสียงเครียด
“อะไรว่ะไหนลองเล่าดิ”
ต่อเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าตรึงเครียดของเพื่อนรักแต่เมื่อได้ยินเรื่องราวจากปากแบงค์ก็ทำให้ต่อเริ่มจะเครียดขึ้นมาอีกคน
“ไม่น่าเชื่อว่ะว่าสาวสวยอย่างน้องน้ำตาลจะเจอเรื่องแบบนี้จนกลายเป็นนางเสือร้าย”
“แล้วว่ากูควรทำไงว่ะกูเข้าใกล้เขาจริงๆจังๆทีไรกลัวจนรนรานทุกทีแล้วพอกูรู้ความจริงกูก็ไม่กล้าเข้าใกล้เขาเลยกูสงสารว่ะ”
แบงค์เอ่ยถามเพื่อนอย่างคิดไม่ตก
“ไหนบอกกูว่าเคยมีอะไรกับเขาไง......โม้เหรอ”
“ไม่ได้โม้โว๊ยแต่ว่ากูทำตอนเขาเมา”
แบงค์ตอบเสียงแผ่วอย่างกลัวเสียเชิงชาย
“แล้วกี่ครั้งว่ะ”
ต่อเอ่ยถามพยายามกลั้นขำ
“สอง”
“เมาทั้งสอง”
“อือ”
แบงค์ตอบคำถามใบหน้าแดงกร่ำด้วยความเขินอาย
“ทางแก้มีทางเดียว......ต้องทำให้เขามั่นใจในตัวว่ารักเขาแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองแหละ ค่อยๆใช้เวลาไปเรื่อยๆพยายามทำให้เขารู้สึกถึงความอ่อนโยนและอ่อนหวาน ห้ามจู่โจมแบบถึงพริกถึงขิงเด็ดขาดไม่อย่างนั้นน้องน้ำตาลของอาจจะกลัวเซ็กจนถึงขั้นวิกฤตก็ได้”
“กูจะพยายามทำให้ได้.....กูเป็นห่วงเขาวะกูไม่อยากให้น้ำตาลยิ้มไม่ออกแบบนี้”
แบงค์พูดเสียงเครียด
“ไอ้แบงค์เป็นมากนะเนี๊ยะนี่ตกลงหลงรักเขาจริงๆใช่ไหมแล้วมันไม่ใช่รักธรรมดานะรักมากๆเลยด้วย”
“เออกูรักแล้วจะทำไม”
“ก็ไม่ทำไมหรอกแต่ว่ากำลังละเมิดกดของผู้ชายสาธารณะอย่างพวกเรา เราทำคนอื่นร้องไห้มาเยอะขืนรักใครจริงๆเข้าโดนกรรมตามทันแน่ๆ”
ต่อเตือนสติ
“กูคงต้องยอมเจ็บแล้วล่ะ”
แบงค์พูดสั่นๆก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง
“กูขอให้โชคดีนะแบงค์อย่าได้เจอฟ้าสาปแบบรุ่นพี่เราเลย”
หกโมงตรงน้ำตาลยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงเพราะเรื่องราวในอดีตทำให้เธอไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้เลยตั้งแต่เช้า แต่เพราะเสียงฝีเท้าที่ดังใกล้ประตูเข้ามาเรื่อยๆทำให้น้ำตาลต้องแกล้งปิดเปลือกตาลง
“อย่าเป็นแบบนี้เลยนะน้ำตาลอย่าเจ็บปวดเพราะเรื่องที่เธอควรจะลืมไปตั้งนานแล้วแบบนี้เลย”
แบงค์พูดก่อนจะก้มลงหอมหน้าผากน้ำตาลแผ่วเบา
“ขอโทษนะที่เราทำให้เธอเป็นห่วง”
น้ำตาลลืมตาโพล่งขึ้นเพราะเสียงเศร้าๆของแบงค์
“ถ้าไม่อยากให้เราเป็นห่วงก็อย่าเศร้าใจแบบนี้ซิ เรื่องบางเรื่องที่มันไม่มีอะไรให้หน้าจดจำก็ทิ้งมันไปเถอะ อย่าเก็บไว้ให้มันบั่นทอนหัวใจตัวเองเลย”
“เราไม่เคยอยากจำมันแต่ว่าเราลืมมันไม่ได้ ยิ่งเราพยายามที่จะลืมเท่าไหร่มันก็จะตามมาหลอกหลอนเรามากขึ้นเท่านั้น”
น้ำตาลร้องไห้โฮโอบกอดร่างของแบงค์ไว้ในอ้อมแขน
“เราจะทำให้เธอลืมมันเองแต่เธอต้องสัญญาว่าจะพยายามลบมันไปจากหัวใจ เธอต้องไม่เก็บมันไว้ในใจของเธออีก ต่อไปนี้ในใจของเธอต้องมีแต่เราคนเดียวเท่านั้นเราจะเป็นคนเดียวที่เธอจะจดจำไว้ในใจตลอดไป”
แบงค์พูดด้วยความมั่นใจโอบกอดร่างของน้ำตาลไว้เช่นกัน
เช้าวันใหม่น้ำตาลตื่นขึ้นพร้อมกับหัวใจที่สดใสกว่าเดิมเพราะกำลังใจจากแบงค์ทำให้เธอเข้มเข็งขึ้นและส่งรอยยิ้มให้เขาอีกครั้ง
“ตื่นแต่เช้าเชียวนะคุณน้ำตาล”
แบงค์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้ำตาลแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกบานใหญ่
“เราชงโอวัลตินและก็ทำแซนวิสไว้ให้บนโต๊ะอาหารกินด้วยนะ”
น้ำตาลออกคำสั่งขณะเตรียมใส่รองเท้าจะออกไปมหาวิทยาลัย
“ทำไมไปเช้าจังล่ะวันนี้”
แบงค์เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“อ๋อ...พี่แนทมารับน่ะจะไปทานข้าวกันก่อน”
น้ำตาลพูดหน้าตาเฉยในขณะที่แบงค์โมโหจนหน้าแดง
“ไปนะ”
น้ำตาลหันมายิ้มให้แบงค์แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ออกจากห้องแบงค์ก็เดินมาขวางหน้าไว้ซะก่อน
“มีอะไรเหรอแบงค์”
“ไม่ออกไปกลับเขาได้ไหม”
“หมายความว่าไง…..เราตกลงกันเรื่องนี้แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ใช่เราตกลงกันแล้วแต่ว่าตอนนั้นเรายังไม่ได้รักเธอแต่ว่าตอนนี้เรารัก เธอบอกให้เราเลิกวุ่นวายกับผู้หญิงคนอื่นแต่เธอกลับไปกับใครต่อใครแทบทุกวัน มันทำให้เราเริ่มทนไม่ได้”
แบงค์ระเบิดอารมณ์ใส่น้ำตาลอย่างสุดที่จะทน
“เธออย่าทำแบบนี้ได้ไหมเธอก็รู้ว่าเพราะอะไรเราถึงเป็นแบบนี้”
“แล้วเธอล่ะเลิกทำแบบนี้ได้ไหมอย่าเอาแต่ขอร้องเราฝ่ายเดียวซิ”
แบงค์สวนกลับอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยเธอกำลังทำให้เราอึดอัดนะ”
“แล้วเธอล่ะรู้บ้างไหมว่าเรารู้สึกยังไงที่เธอไปกับผู้ชายคนอื่น เราต้องมานั่งเป็นห่วงเธอทุกครั้งที่เธอกลับบ้านดึกเพราะเรากลัวว่าเธอจะถูกทำร้าย วันๆเราได้แต่อยู่กับความหวาดกลัวว่าเธอจะรักคนอื่นกลัวว่าเธอจะทิ้งเราไปเมื่อเราเห็นว่าเธอคบกับไอ้หน้าหล่อพ่อรวยนั่น”
“พอได้แล้วแบงค์สิ่งที่เธอกำลังพูดมาทั้งหมดมันเป็นเพราะว่าเธอไม่เชื่อใจเราเลย”
น้ำตาลตะโกนใส่แบงค์บ้างเมื่อเขาไม่ยอมหยุดโวยวาย
“ถ้าระหว่างเรามีความเชื่อใจอยู่เธอเองก็คงไม่บอกให้เราเลิกยุ่งกับผู้หญิงพวกนั้นเธอคงจะไม่โกรธเราแค่เพราะเราไปกินข้าวกับปูนเหมือนกันนั่นแหละ”
“นี่ตกลงเธอจะทะเลาะกับเราให้ได้ใช่ไหมแบงค์”
น้ำตาลเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นอีกเพราะความโมโห
“เราไม่ได้อยากทะเลาะกับเธอแต่เราไม่อยากให้เธอไปกับคนอื่น”
“เราไม่อยากพูดกับคนพูดไม่รู้เรื่องแบบเธอแล้วนะแบงค์”น้ำตาลไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตไปกว่านี้หมุนตัวจะออกจากห้องแต่แบงค์ก็ตามไปขวางไว้ที่หน้าประตู
“ถอยไปนะแบงค์”
น้ำตาลตะหวาดอีกครั้งเพราะความโมโห
“วันนี้ยังไงเราก็ไม่ยอมให้เธอออกไปกับไอ้บ้านั่นหรอก”
แบงค์ยืนยันหนักแน่น
“ถอยเดี๋ยวนี้นะ”
น้ำตาลเริ่มหมดความอดทนตรงเข้ากระชากแบงค์อย่างแรงแต่เขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่หน้าประตูไม่ขยับเขยื้อน
“เป็นบ้าไปแล้วหรือไง.......ถอยไปนะ......ถอย”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นทั้งทุบทั้งข่วนแบงค์แต่เขาก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“เธอมันบ้า.............บ้าที่สุด”
น้ำตาลตะคอกใส่แบงค์ก่อนจะถอยไปนั่งบนโซฟาเพื่อรับสายโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
“ฮัลโหลพี่.......”
ยังไม่ทันที่น้ำตาลจะพูดจบประโยคแบงค์ก็คว้าโทรศัพท์ในมือเธอเขวี้ยงลงพื้นจนแตกกระจาย
“มากไปแล้วนะแบงค์”
น้ำตาลหวี๊ดขึ้นเสียงลั่น
“เราขอร้องเธอดีๆแล้วแต่เธอไม่ฟังเราเอง”
แบงค์ตอบก่อนจะฉุดแขนน้ำตาลให้นั่งลงบนโซฟากับเขา
"ไม่มีเหตุผลเลยนะที่เธอทำแบบนี้”
“แล้วเธอล่ะมีเหตุผลมากเลยใช่ไหมที่ทำกับเราแบบนี้”
แบงค์สวนกลับทันควัน
“เธอทำแบบนี้มันกำลังจะทำให้เราอยู่ด้วยกันไม่ได้”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้แบงค์นั่งนิ่งงันอย่างคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้จากปากน้ำตาลอีกครั้ง หยดน้ำตาที่ไหลรินจากนัยน์ตาเศร้าๆบอกได้ดีว่าเขากำลังเสียใจแค่ไหน
“เธอบังคับให้เราต้องพูดมันเองนะแบงค์”
“เธอไม่ลังเลสักนิดเลยนะที่จะพูดประโยคนี้ออกมา ทั้งที่เราเคยขอร้องเธอมาแล้วครั้งนึงว่าอย่าพูดอีกแต่เธอก็พูดมันออกมาได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่เธอแค่อยู่ข้างๆเราแล้วไม่ต้องไปกับเขาทุกอย่างก็จบแต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น เธอเลือกที่จะพูดประโยคนั้นกับเราโดยไม่ลังเลแม้วินาทีเดียว”
แบงค์พูดทั้งน้ำตาสายตาคมเข้มจ้องน้ำตาลด้วยความผิดหวังและเสียใจ
“จะไปที่ไหนไปกับใครหรือจะไปทำอะไรกันก็เชิญเลย เราจะไม่ห้ามเธออีกแล้วในเมื่อหัวใจเธอมันเรียกร้อง”
แบงค์พูดประโยคสุดท้ายก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวสวยและปิดเปลือกตาลงทั้งที่หยดน้ำตายังคงไหลริน
“ระหว่างเรามันไม่เคยมีความเชื่อใจอยู่เลยจริงๆ”
น้ำตาลพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
พิษรัก ตอนที่ 4
น้ำตาลนอนซึมอยู่บนเตียงในห้องของเธอเพราะเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้นทำให้น้ำตาลต้องเป็นไข้ทุกครั้งที่นึกถึง
“ที่รักจ๋าลุกขึ้นมากินโจ๊กก่อนแล้วค่อยนอนต่อนะเราอุตสาห์ลงไปซื้อมาให้เชียวนะ”
แบงค์พูดพยายามประคองน้ำตาลให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียง
“เธอไปมหาลัยเถอะเราไม่เป็นไรหรอกนอนพักสักหน่อยก็คงหาย”
“เป็นไข้กินยานอนพักเดี๋ยวก็หายแต่ไข้ใจนี่ซิน่าเป็นห่วง”
แบงค์พูดมองหน้าน้ำตาลด้วยความสงสาร
“ไปเถอะนะเราจะได้นอนพักสักที”
น้ำตาลส่งเสียงอ้อนแบงค์แสร้งส่งยิ้มให้เขา
“ไล่กันเลยนะยอดยาหยี........ไปก็ได้”
แบงค์พูดก้มลงหอมหน้าผากน้ำตาลก่อนจะเดินออกไปที่ประตู
“นี่แบงค์ฝากไปขอบคุณผู้หญิงคนสวยๆที่เจอกันที่ร้านอาหารด้วยนะ ถ้าไม่ได้เธอเข้ามาช่วยฉันต้องแย่กว่านี้แน่ๆ”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่น
“ว่าไงนะน้ำตาลเธอหมายถึงปูนเหรอ”
แบงค์หันกลับมาถามเสียงตื่น
“ก็คนที่สวยๆนั้นแหละมีอยู่คนเดียวที่ทำให้เราโมโหได้”
“จ๊ะแล้วจะบอกให้”
แบงค์รับปากเสียงอ่อยก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
“ปูน” แบงค์ส่งเสียงเรียกเพื่อนสาวที่กำลังจะเดินเข้าห้องเพื่อเรียนวิชาแรก
“ถ้าจะมาต่อว่าฉันละก็ไม่ต้องแล้วเพราะว่าฉันรู้ตัวเองดี”
ปูนพูดเสียงเรียบ
“เมื่อวานนี้ขอโทษที่ผมเข้าใจคุณผิด”
แบงค์พูดประโยคสั้นๆสายตาจ้องมองใบหน้าและลำตัวของปูนที่มีแต่รอยฟกช้ำด้วยความรู้สึกผิด
“คนไม่รู้ก็คือคนโง่ฉันไม่ถือหรอก”
ปูนยอมยกโทษให้และส่งยิ้มหวานให้แบงค์ด้วยความเต็มใจ
“คุณไม่จำเป็นต้องยิ้มให้ผมก็ได้นะถ้ามันยากเกินไปเพราะสิ่งที่ผมทำไว้กับคุณ”
“ฉันลืมมันไปหมดแล้วแหละเรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้วด้วยแล้วฉันก็ไม่เคยโกรธนายได้สักทีเลย”
ปูนพูดความจริงที่อยู่ในใจของเธอทำให้แบงค์รู้สึกอึดอัดไม่น้อย
“ผมว่าเรามีเรื่องต้องพูดกันนะปูน”
แบงค์พูดขึ้นจูงมือปูนออกไปที่มุมตึก
“ฉันรู้ว่าคุณจะพูดอะไรแต่ฉันอยากให้คุณทำความเข้าใจบางอย่างเหมือนกัน ว่าฉันเองไม่เคยขอร้องให้คุณรักหรือแม้แต่หันมามองฉัน”
“คุณจะทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนปูนคุณลืมไปแล้วอย่างนั้นเหรอว่าผมเคยทำอะไรคุณไว้บ้าง”
“แล้วคุณล่ะคุณลืมหรือยังว่าฉันเคยทำอะไรไว้กับฉัน”
ปูนเอ่ยถามคำถามที่ทำให้แบงค์ต้องทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเองไม่เคยจดจำว่าเคยทำร้ายใครมาบ้างกับการล้อเล่นกับความรักของเขา
“นึกให้ออกซิเผื่อว่าคุณจะนึกสงสารฉันขึ้นมาบ้าง”
“ผมไม่เคยจดจำเรื่องที่มันไม่น่าจดจำแบบนั้นหรอก แต่เพราะคุณทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมพนันเงินสามพันบาทกับเพื่อนโดยมีคุณเป็นเดิมพัน”
แบงค์พูดขึ้นอย่างไม่เหลือเยื่อใย
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เวทนาฉันเลยสักนิดแต่ไม่เป็นไรหรอกเพราะว่าฉันไม่เคยหวังอะไรจากคุณอยู่แล้ว”
ปูนพูดอย่างพยายามจะเข้มแข็งแต่เธอก็ทำได้แค่เดินหนีแบงค์เพราะกลัวว่าเขาจะเห็นน้ำตาของเธอ
“เลิกยุ่งกับชีวิตผมได้แล้ว”
แบงค์ตะโกนเสียงลั่น
“ฉันเคยทำแบบนั้นอย่างงั้นเหรอ”
ปูนกล่าวประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินแยกออกไป
“ทำไมมายืนทำหน้างออยู่ตรงนี้วะไอ้แบงค์”
ต่อเอ่ยถามเพื่อนด้วยความข้องใจเพราะน้อยครั้งที่แบงค์จะมีเรื่องกลุ่มใจ
“กูรำคาญพวกผู้หญิงอะดิทำไมไม่รู้จักรักตัวเองก็ไม่รู้”
“ถ้ากูมีแฟนสวยหยาดเยิ้มอย่างน้องน้ำตาลกูก็คงรำคาญเหมือนนั่นแหละ”
“อย่างเพิ่งเล่นไอ้ต่อกูมีเรื่องจะปรึกษา”
แบงค์กล่าวเสียงเครียด
“อะไรว่ะไหนลองเล่าดิ”
ต่อเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าตรึงเครียดของเพื่อนรักแต่เมื่อได้ยินเรื่องราวจากปากแบงค์ก็ทำให้ต่อเริ่มจะเครียดขึ้นมาอีกคน
“ไม่น่าเชื่อว่ะว่าสาวสวยอย่างน้องน้ำตาลจะเจอเรื่องแบบนี้จนกลายเป็นนางเสือร้าย”
“แล้วว่ากูควรทำไงว่ะกูเข้าใกล้เขาจริงๆจังๆทีไรกลัวจนรนรานทุกทีแล้วพอกูรู้ความจริงกูก็ไม่กล้าเข้าใกล้เขาเลยกูสงสารว่ะ”
แบงค์เอ่ยถามเพื่อนอย่างคิดไม่ตก
“ไหนบอกกูว่าเคยมีอะไรกับเขาไง......โม้เหรอ”
“ไม่ได้โม้โว๊ยแต่ว่ากูทำตอนเขาเมา”
แบงค์ตอบเสียงแผ่วอย่างกลัวเสียเชิงชาย
“แล้วกี่ครั้งว่ะ”
ต่อเอ่ยถามพยายามกลั้นขำ
“สอง”
“เมาทั้งสอง”
“อือ”
แบงค์ตอบคำถามใบหน้าแดงกร่ำด้วยความเขินอาย
“ทางแก้มีทางเดียว......ต้องทำให้เขามั่นใจในตัวว่ารักเขาแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองแหละ ค่อยๆใช้เวลาไปเรื่อยๆพยายามทำให้เขารู้สึกถึงความอ่อนโยนและอ่อนหวาน ห้ามจู่โจมแบบถึงพริกถึงขิงเด็ดขาดไม่อย่างนั้นน้องน้ำตาลของอาจจะกลัวเซ็กจนถึงขั้นวิกฤตก็ได้”
“กูจะพยายามทำให้ได้.....กูเป็นห่วงเขาวะกูไม่อยากให้น้ำตาลยิ้มไม่ออกแบบนี้”
แบงค์พูดเสียงเครียด
“ไอ้แบงค์เป็นมากนะเนี๊ยะนี่ตกลงหลงรักเขาจริงๆใช่ไหมแล้วมันไม่ใช่รักธรรมดานะรักมากๆเลยด้วย”
“เออกูรักแล้วจะทำไม”
“ก็ไม่ทำไมหรอกแต่ว่ากำลังละเมิดกดของผู้ชายสาธารณะอย่างพวกเรา เราทำคนอื่นร้องไห้มาเยอะขืนรักใครจริงๆเข้าโดนกรรมตามทันแน่ๆ”
ต่อเตือนสติ
“กูคงต้องยอมเจ็บแล้วล่ะ”
แบงค์พูดสั่นๆก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง
“กูขอให้โชคดีนะแบงค์อย่าได้เจอฟ้าสาปแบบรุ่นพี่เราเลย”
หกโมงตรงน้ำตาลยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงเพราะเรื่องราวในอดีตทำให้เธอไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้เลยตั้งแต่เช้า แต่เพราะเสียงฝีเท้าที่ดังใกล้ประตูเข้ามาเรื่อยๆทำให้น้ำตาลต้องแกล้งปิดเปลือกตาลง
“อย่าเป็นแบบนี้เลยนะน้ำตาลอย่าเจ็บปวดเพราะเรื่องที่เธอควรจะลืมไปตั้งนานแล้วแบบนี้เลย”
แบงค์พูดก่อนจะก้มลงหอมหน้าผากน้ำตาลแผ่วเบา
“ขอโทษนะที่เราทำให้เธอเป็นห่วง”
น้ำตาลลืมตาโพล่งขึ้นเพราะเสียงเศร้าๆของแบงค์
“ถ้าไม่อยากให้เราเป็นห่วงก็อย่าเศร้าใจแบบนี้ซิ เรื่องบางเรื่องที่มันไม่มีอะไรให้หน้าจดจำก็ทิ้งมันไปเถอะ อย่าเก็บไว้ให้มันบั่นทอนหัวใจตัวเองเลย”
“เราไม่เคยอยากจำมันแต่ว่าเราลืมมันไม่ได้ ยิ่งเราพยายามที่จะลืมเท่าไหร่มันก็จะตามมาหลอกหลอนเรามากขึ้นเท่านั้น”
น้ำตาลร้องไห้โฮโอบกอดร่างของแบงค์ไว้ในอ้อมแขน
“เราจะทำให้เธอลืมมันเองแต่เธอต้องสัญญาว่าจะพยายามลบมันไปจากหัวใจ เธอต้องไม่เก็บมันไว้ในใจของเธออีก ต่อไปนี้ในใจของเธอต้องมีแต่เราคนเดียวเท่านั้นเราจะเป็นคนเดียวที่เธอจะจดจำไว้ในใจตลอดไป”
แบงค์พูดด้วยความมั่นใจโอบกอดร่างของน้ำตาลไว้เช่นกัน
เช้าวันใหม่น้ำตาลตื่นขึ้นพร้อมกับหัวใจที่สดใสกว่าเดิมเพราะกำลังใจจากแบงค์ทำให้เธอเข้มเข็งขึ้นและส่งรอยยิ้มให้เขาอีกครั้ง
“ตื่นแต่เช้าเชียวนะคุณน้ำตาล”
แบงค์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้ำตาลแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกบานใหญ่
“เราชงโอวัลตินและก็ทำแซนวิสไว้ให้บนโต๊ะอาหารกินด้วยนะ”
น้ำตาลออกคำสั่งขณะเตรียมใส่รองเท้าจะออกไปมหาวิทยาลัย
“ทำไมไปเช้าจังล่ะวันนี้”
แบงค์เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“อ๋อ...พี่แนทมารับน่ะจะไปทานข้าวกันก่อน”
น้ำตาลพูดหน้าตาเฉยในขณะที่แบงค์โมโหจนหน้าแดง
“ไปนะ”
น้ำตาลหันมายิ้มให้แบงค์แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ออกจากห้องแบงค์ก็เดินมาขวางหน้าไว้ซะก่อน
“มีอะไรเหรอแบงค์”
“ไม่ออกไปกลับเขาได้ไหม”
“หมายความว่าไง…..เราตกลงกันเรื่องนี้แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ใช่เราตกลงกันแล้วแต่ว่าตอนนั้นเรายังไม่ได้รักเธอแต่ว่าตอนนี้เรารัก เธอบอกให้เราเลิกวุ่นวายกับผู้หญิงคนอื่นแต่เธอกลับไปกับใครต่อใครแทบทุกวัน มันทำให้เราเริ่มทนไม่ได้”
แบงค์ระเบิดอารมณ์ใส่น้ำตาลอย่างสุดที่จะทน
“เธออย่าทำแบบนี้ได้ไหมเธอก็รู้ว่าเพราะอะไรเราถึงเป็นแบบนี้”
“แล้วเธอล่ะเลิกทำแบบนี้ได้ไหมอย่าเอาแต่ขอร้องเราฝ่ายเดียวซิ”
แบงค์สวนกลับอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยเธอกำลังทำให้เราอึดอัดนะ”
“แล้วเธอล่ะรู้บ้างไหมว่าเรารู้สึกยังไงที่เธอไปกับผู้ชายคนอื่น เราต้องมานั่งเป็นห่วงเธอทุกครั้งที่เธอกลับบ้านดึกเพราะเรากลัวว่าเธอจะถูกทำร้าย วันๆเราได้แต่อยู่กับความหวาดกลัวว่าเธอจะรักคนอื่นกลัวว่าเธอจะทิ้งเราไปเมื่อเราเห็นว่าเธอคบกับไอ้หน้าหล่อพ่อรวยนั่น”
“พอได้แล้วแบงค์สิ่งที่เธอกำลังพูดมาทั้งหมดมันเป็นเพราะว่าเธอไม่เชื่อใจเราเลย”
น้ำตาลตะโกนใส่แบงค์บ้างเมื่อเขาไม่ยอมหยุดโวยวาย
“ถ้าระหว่างเรามีความเชื่อใจอยู่เธอเองก็คงไม่บอกให้เราเลิกยุ่งกับผู้หญิงพวกนั้นเธอคงจะไม่โกรธเราแค่เพราะเราไปกินข้าวกับปูนเหมือนกันนั่นแหละ”
“นี่ตกลงเธอจะทะเลาะกับเราให้ได้ใช่ไหมแบงค์”
น้ำตาลเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นอีกเพราะความโมโห
“เราไม่ได้อยากทะเลาะกับเธอแต่เราไม่อยากให้เธอไปกับคนอื่น”
“เราไม่อยากพูดกับคนพูดไม่รู้เรื่องแบบเธอแล้วนะแบงค์”น้ำตาลไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตไปกว่านี้หมุนตัวจะออกจากห้องแต่แบงค์ก็ตามไปขวางไว้ที่หน้าประตู
“ถอยไปนะแบงค์”
น้ำตาลตะหวาดอีกครั้งเพราะความโมโห
“วันนี้ยังไงเราก็ไม่ยอมให้เธอออกไปกับไอ้บ้านั่นหรอก”
แบงค์ยืนยันหนักแน่น
“ถอยเดี๋ยวนี้นะ”
น้ำตาลเริ่มหมดความอดทนตรงเข้ากระชากแบงค์อย่างแรงแต่เขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่หน้าประตูไม่ขยับเขยื้อน
“เป็นบ้าไปแล้วหรือไง.......ถอยไปนะ......ถอย”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นทั้งทุบทั้งข่วนแบงค์แต่เขาก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“เธอมันบ้า.............บ้าที่สุด”
น้ำตาลตะคอกใส่แบงค์ก่อนจะถอยไปนั่งบนโซฟาเพื่อรับสายโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
“ฮัลโหลพี่.......”
ยังไม่ทันที่น้ำตาลจะพูดจบประโยคแบงค์ก็คว้าโทรศัพท์ในมือเธอเขวี้ยงลงพื้นจนแตกกระจาย
“มากไปแล้วนะแบงค์”
น้ำตาลหวี๊ดขึ้นเสียงลั่น
“เราขอร้องเธอดีๆแล้วแต่เธอไม่ฟังเราเอง”
แบงค์ตอบก่อนจะฉุดแขนน้ำตาลให้นั่งลงบนโซฟากับเขา
"ไม่มีเหตุผลเลยนะที่เธอทำแบบนี้”
“แล้วเธอล่ะมีเหตุผลมากเลยใช่ไหมที่ทำกับเราแบบนี้”
แบงค์สวนกลับทันควัน
“เธอทำแบบนี้มันกำลังจะทำให้เราอยู่ด้วยกันไม่ได้”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้แบงค์นั่งนิ่งงันอย่างคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้จากปากน้ำตาลอีกครั้ง หยดน้ำตาที่ไหลรินจากนัยน์ตาเศร้าๆบอกได้ดีว่าเขากำลังเสียใจแค่ไหน
“เธอบังคับให้เราต้องพูดมันเองนะแบงค์”
“เธอไม่ลังเลสักนิดเลยนะที่จะพูดประโยคนี้ออกมา ทั้งที่เราเคยขอร้องเธอมาแล้วครั้งนึงว่าอย่าพูดอีกแต่เธอก็พูดมันออกมาได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่เธอแค่อยู่ข้างๆเราแล้วไม่ต้องไปกับเขาทุกอย่างก็จบแต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น เธอเลือกที่จะพูดประโยคนั้นกับเราโดยไม่ลังเลแม้วินาทีเดียว”
แบงค์พูดทั้งน้ำตาสายตาคมเข้มจ้องน้ำตาลด้วยความผิดหวังและเสียใจ
“จะไปที่ไหนไปกับใครหรือจะไปทำอะไรกันก็เชิญเลย เราจะไม่ห้ามเธออีกแล้วในเมื่อหัวใจเธอมันเรียกร้อง”
แบงค์พูดประโยคสุดท้ายก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวสวยและปิดเปลือกตาลงทั้งที่หยดน้ำตายังคงไหลริน
“ระหว่างเรามันไม่เคยมีความเชื่อใจอยู่เลยจริงๆ”
น้ำตาลพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว