พิษรัก ตอนจบ

กระทู้สนทนา
“หายไปจากโลกใบนี้ซิทำให้ตัวเองไม่มีตัวตนอยู่จริง หายไปจากความทรงจำของทุกๆคนที่รักเธอและหายไปจากใจของแบงค์ด้วย อย่าให้เขาจำได้แม้แต่หน้าของเธอถ้าหากเธอทำได้ฉันจะยกโทษให้เธอ”
ปูนตะคอกใส่น้ำตาลแววตาที่จ้องมองเธอมีเพียงแค่ความเกลียดชัง
“พอเถอะปูน......ออกไปได้ไหมน้ำตาล”
แบงค์เข้าคั่นกลางระหว่างผู้หญิงสองคนที่รักเขาก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปกว่านี้
“ได้.......ถ้าเธออยากให้ฉันตายนักฉันก็จะตายให้เธอดู”
น้ำตาลไม่พูดปล่าวคว้ามีดผลไม้ในจานหวังจะกรีดข้อมือตัวเอง
“อย่านะน้ำตาล”
แบงค์ตะโกนเสียงลั่นผวาเข้าแย่งมีดในมือน้ำตาลก่อนที่คมมีดจะทำอันตรายกับเธอมากกว่ารอยกรีดเลือดซิบๆ
“ปล่อยฉันนะ.....ฉันไม่อยากอยู่ต่อไปแล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วย ทำไมฉันถึงทำร้ายทุกคนโดยที่ฉันไม่รู้ตัวเลยทำไมมันถึงได้อยากขนาดนี้สำหรับความรักของฉัน ทำไมฉันถึงต้องเจ็บปวดถึงขนาดนี้.......ทำไมกัน”
น้ำตาลร้องไห้โฮจ้องมองแบงค์ด้วยแววตาที่ปวดร้าว
“อย่าทำแบบนี้ได้ไหมน้ำตาลอย่าทำให้เราต้องเจ็บปวดไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้ อย่าทำร้ายตัวเองเพียงเพราะว่าเราไม่ได้อยู่ข้างๆเธอ.......ถ้าเธอทำแบบนั้นถ้าเธอทำร้ายตัวเองอีกคนโลกใบนี้ก็คงไม่มีที่ให้เรายืนแล้วจริงๆ”
แบงค์อ้อนวอนยังคงจับข้อมือน้ำตาลไว้อย่างกลัวว่าน้ำตาลจะทำร้ายตัวเองอีก
“มันน่าเศร้าใจจริงๆทำไมเรื่องมันถึงได้น่าอนาถขนาดนี้”
ปูนพูดทรุดกายลงนั่งบนพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรงทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าน้ำตาลกับแบงค์รักกันแต่เธอก็ไม่อาจปล่อยเขาไปได้
“หยุดเถอะหยุดทุกอย่างไว้ตรงนี้พอซะทีสำหรับความปวดร้าว มันมากเกินกว่าที่ฉันจะรับได้อีกแล้ว”แบงค์พูดโอบร่างบางของน้ำตาลไว้ในอ้อมแขนเพื่อบอกลาเธอ
“ฉันรักเธอ.....รักเธอคนเดียว”
น้ำตาลกระซิบของหูแบงค์แผ่วนี่เป็นประโยคบอกรักที่เธอจะบอกเขาครั้งสุดท้ายเช่นกัน
“ฉันก็รักเธอ............รักเธอคนเดียว”
แบงค์กระซิบข้างหูน้ำตาลแม้รู้ดีว่าคำบอกรักของเขาจะทำให้น้ำตาลปวดร้าวเช่นเดียวกับคำว่ารักของน้ำตาลที่ทำให้เขาเจ็บร้าวไปทั้งใจ
                       งานแต่งของแบงค์และปูนถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายในโรงแรมหรูแห่ง หนึ่งแขกที่ถูกเชิญมาในงานมีเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้น เสียงเพลงแต่งงานที่ดังคลออยู่ทั่วบริเวณงานทำให้เจ้าสาวแสนสวยในชุดสีขาวบริสุทธิอย่างปูนกลั้นน้ำตาแห่งความปิติไว้ไม่ได้ ทุกถ้อยคำที่แบงค์ให้สัญญากับเธอต่อหน้าแขกทุกคนในงานยิ่งทำให้ปูนร้องไห้หนักขึ้นไปอีก
“อย่าร้องไห้เลยนะคนดี”
แบงค์ส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้เจ้าสาวของเขาก่อนจะโอบกอดร่างไร้ที่ติไว้ในอ้อมแขน
“ขอบคุณนะขอบคุณที่อยู่ตรงนี้”
ปูนร้องไห้โฮโอบกอดร่างของเจ้าบ่าวอันเป็นที่รักของเธอไว้ด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอรักและเสียงปรบมือนั้น ไม่มีใครรู้ว่าสาวสวยในชุดราตรีสีชมพูหวานแหววอย่างน้ำตาลกำลังร้องไห้อย่างไม่อาจกลั้นหยดน้ำตาเอาไว้ได้ เธออยากจะยิ้มและอวยพรให้แบงค์มีความสุขแต่เธอกำลังร้องไห้เพราะเสียเขาไป
“เธอสมควรเจ็บแบบนี้แล้ว”
น้ำเสียงเรียบเฉยดังขึ้นพร้อมร่างสูงโปร่งของ
พันธการที่นั่งลงข้างๆน้ำตาล แม้คำพูดยังคงเชือดเฉือนหัวใจให้เจ็บแปลบแต่ฝ่ามือใหญ่โตของเขากลับเกาะกุมมือน้ำตาลไว้มั่น
“ฉันขอโทษ.....ขอโทษสำหรับทุกๆอย่างที่ฉันทำไว้กับทุกๆคน”
น้ำตาลร้องไห้โฮโผลกอดพันธการอย่างต้องการที่พึ่ง น่าแปลกที่วันนี้เขาเต็มใจที่จะกอดเธออย่าง
ถนุถนอม
“ฉันจะอยู่ข้างๆเธอเองจะเป็นฉันที่ทำให้เธอหัวเราะและร้องไห้”
พันธการพูดประโยคที่ทำให้น้ำตาลรับรู้ว่าเขากำลังจะเปิดใจรับเธอในฐานะภรรยาของเขา
“ขอบคุณนะที่คุณไม่ทิ้งฉัน.....ขอบคุณ”
“มันอาจจะมากพอแล้วจริงๆสำหรับความเจ็บปวดที่เธอได้รับ”
พันธการพูดเสียงเรียบในวันนี้เขายอมรับแล้วว่ากำลังหลงรักน้ำตาลจนถอนตัวไม่ขึ้นซะแล้ว
“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเจ้าสาวคนสวยที่ดังลั่นขึ้นทำให้ทุกคนหันมามองด้วยความสนใจ
“ออกไปให้พ้นนะ......ออกไป”
ปูนเดินตรงมาหาน้ำตาลตะโกนไล่เธอด้วยความโมโหที่ควบคุมไม่อยู่
“ฉันแค่อยากจะมายินดีกับพวกคุณ.....ฉันมาเพื่ออวยพรให้คุณ”
น้ำตาลพูดขึ้นน้ำเสียงราบเรียบลุกขึ้นเผชิญหน้ากับปูน
“ขอบคุณที่มางานนะครับคุณพันธการและภรรยา”
แบงค์ตัดบทคว้าเอวบางของปูนไว้เพื่อควบคุมเธอ
“อวยพรด้วยหยดน้ำตาอย่างนั้นเหรอเธอมันน่ารังเกลียดที่สุด เธอมีสิทธิอะไรถึงมาร้องไห้ที่ฉันแต่งงานกับแบงค์เธอมีสิทธิอะไร”
เพราะคำพูดที่ไร้ซึ่งไมตรีของปูนทำให้น้ำตาลพูดอะไรไม่ออกทำได้เพียงจ้องมองเธอด้วยแววตาอ้อนวอนร้องขอการให้อภัยสุดท้ายเพื่อปลดปล่อยเธอจากวังวนนี้
“พอได้แล้วนะครับคุณผู้หญิงอย่าหยาบคายกับภรรยาของผมให้มากนัก”
พันธการพูดโอบเอวน้ำตาลไว้เช่นกันเมื่อเห็นแบงค์ยืนนิ่งให้ปูนต่อว่าน้ำตาล
“ช่วยพาภรรยาคุณออกไปได้ไหมครับเจ้าสาวผมไม่ชอบเธอ”
แบงค์พูดตัดบทด้วยน้ำเสียงที่แสนเย็นชา
“เธอไม่ต้องห่วงหรอกฉันกำลังจะไปจากเธอแล้วจริงๆ......ไปจากเธอชั่วนิรันดร์”
น้ำตาลพูดทั้งน้ำตาจ้องมองแบงค์ด้วยแววตาปวดร้าวก่อนจะผลุนผลันออกไปจากห้องจัดเลี้ยง
“จริงๆแล้วคุณไม่ได้เลือดเย็นน้อยไปกว่าเธอเลย”
พันธการพูดจ้องมองแบงค์ตาขวาง
“ส่วนคุณคุณผู้หญิงไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกนะที่เจ็บปวด คุณคงไม่รู้สินะว่าในขณะที่คุณร้องไห้น้ำตาลเองก็ยิ้มไม่ออกและไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกที่รักเขาจนหมดหัวใจ........ความรักที่น้ำตาลมีให้เขาไม่น้อยกว่าคุณแน่นอนเพราะฉะนั้นอย่าเกลียดเธอเพียงเพราะว่าเธอรักเขาเหมือนๆกับคุณ”
พันธการพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินตามน้ำตาลออกไป
“ฉันใจร้ายมากใช่ไหมที่ไม่ให้อภัยเธอ”
ปูนพูดขึ้นเสียงเรียบ
“ถ้าคิดจะเริ่มต้นใหม่ก็ลืมทุกอย่างให้หมด.....เจ้าสาวของฉันผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างฉันคืนนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นเธอ”
แบงค์พูดเสียงเรียบจูงมือน้ำตาลออกไปจากงาน
                       “การเวลากำลังหมุนผ่านไปอย่างเชื่องช้ากว่าสามปีที่ฉันเคยคิดว่าจะต้องฝังตัวเองไว้กับความรวดร้าว ความเจ็บปวดที่เคยอัดแน่นอยู่ในหัวใจกำลังเลือนหายไปตามกาลเวลา เรื่องราวใหม่ๆที่เกิดขึ้นในทุกวันที่หายใจกำลังบรรเทาความเจ็บปวดให้หัวใจ ใครบางคนกำลังกลายเป็นที่รักและทำให้ความรวดร้าวจางหายไป ฉันได้เรียนรู้ว่าความสุขอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือถึงพียงแค่เราเลือกที่จะก้าวออกมาจากอดีตที่แสนปวดร้าว เมื่อไม่อาจฝืนความเป็นจริงสิ่งที่ต้องทำคือยอมรับและอยู่ต่อไปเพื่อวันข้างหน้าและเลือกที่จะไม่เจ็บปวดเพราะอดีตแม้ว่ามันจะผิดบาป”
“คุณแม่ครับ.....คุณแม่”
น้ำเสียงใสดังขึ้นพร้อมปรากฏร่างเล็กของเด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มที่ค่อยๆเดินเข้ามาหาคุณแม่ยังสาวอย่าง “น้ำตาล”ที่กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการเขียนบันทึกหน้าคอมพิวเตอร์
“ว่าไงครับน้องการมีอะไรจะพูดกับคุณแม่น้ำตาลครับ”
น้ำตาลส่งรอยยิ้มให้ลูกชายพร้อมโอบอุ้มร่างเล็กไว้กับอ้อมอก
“พ่อการให้ตามแม่น้ำตาลไปกินข้าวครับ”
เด็กชายช่างพูดส่งเสียงใสแจ๋ว
“ตกลงครับเราไปทานข่าวฝีมือพ่อการกัน”
น้ำตาลพูดอุ้มลูกชายลงมาที่โต๊ะอาหารซึ่งถูกพันธการจัดเตรียมอาหารไว้ครบครัน
“ขืนคุณทำอาหารน่าทานแบบนี้ทุกวันภรรยาสุดที่รักของคุณกลายเป็นหมูพะโล้ไม่รู้ด้วยนะ”
น้ำตาลพูดขณะวางลูกชายลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง
“ใครบอกว่าผมรักคุณผมรักลูกชายผมคนเดียวต่างหาก”
พันธการรีบแก้ตัวก้มลงหอมแก้มลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“ไม่รักก็อย่ารักซิ......พรุ่งนี้ฉันจะไปสัมนาต่างจังหวัดอย่าเอาสารพัดยามาแพ็คใส่กระเป๋าฉันนะ แล้วไม่ต้องโทรเช็คทั้งวันนะว่าฉันอยู่ที่ไหนกับใครกินข้าวหรือยัง อย่าโทรไปบอกให้ล็อคประตูก่อนนอนนะ แล้วที่สำคัญอย่าไปรับฉันกลางดึกอีกนะถ้าคุณเหงา”
น้ำตาลใส่พันธการเป็นชุดส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เขา
“ก็เธอเป็นภรรยาฉันนี่ไม่ห่วงเธอแล้วจะให้เป็นห่วงภรรยาคนข้างบ้านหรือไง”
พันธการยังปากแข็งไม่เลิก
“ถ้าอย่างงั้นคืนนี้ฉันแพ็คกระเป๋าเองคุณไม่ต้องยุ่ง”
น้ำตาลยื่นคำขาด
“ไม่ต้องเลยเดี๋ยวก็ลืมนู้นลืมนี่ให้ผมเอาไปให้อีก”
พันธการพูดเสียงเข้มก่อนจะลุกเดินขึ้นไปบนห้องเพื่อจัดกระเป๋าให้น้ำตาล
“ปากแข็งยังกะหินคุณพ่อใครก็ไม่รู้”
น้ำตาลหันไปพูดกับลูกชายก่อนจะป้อนข้าวใส่ปากเขา
                       ในสนามบินสุดหรูแห่งหนึ่งปูนเดินเคียงข้างมากับแบงค์สามีสุดที่รักของเธอ ทุกครั้งที่แบงค์เดินทางไปสัมนาที่ต่างจังหวัดเธอจะมาส่งเขาที่นี่และต้องเสียน้ำตาทุกครั้งไป
“นี่แม่คุณทูนหัวจะร้องไห้ทำไมจ๊ะผมไปสัมมนาต่างจังหวัดออกจะบ่อยคุณยังไม่ชินอีกเหรอ”
แบงค์พูดยกมือขึ้นลูบผมภรรยาคนสวยที่ตั้งท่าจะร้องไห้
“ก็ปูนเป็นห่วงคุณนี่ไปถึงภูเก็ตใครจะคอยดูแลคุณแทนฉันล่ะ ไปเที่ยวสนุกอยู่ที่อื่นกลับมาก็หน้าชื่นตาบานจะรู้บางไหมว่าใครเขาตั้งตาคอย”
เพราะคำพูดของปูนทำให้แบงค์ถึงกับซึมเพราะความรู้สึกผิดที่ซ่อนอยู่ลึกๆในใจ
“ผมไปแค่สามวันเองแล้วผมจะกลับมาหาคุณ”
แบงค์พูดก้มลงจูบหน้าผากปูนเป็นการกล่าวลา
“รีบกลับมานะปูนจะคอย”
ปูนพูดเสียงอ่อยยืนมองสามีของเธอเดินห่างออกไปจนลับสายตา
“ขอโทษนะคะเที่ยวบินภูเก็ตออกไปหรือยังคะ”
น้ำเสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นทำให้ปูนหันไปหาต้นเสียงด้วยจังหวะหัวใจที่รัวเร็วขึ้นจนผิดปกติ ปูนเฝ้าภวนาให้เธอไม่ใช่น้ำตาลแต่เมื่อหันไปมองภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้ปูนแทบล้มทั้งยืน เธอไม่มีวันลืมผู้หญิงที่งามสง่าอย่างน้ำตาลได้จนถึงตอนนี้เธอก็ยังดูสวยจนหาที่ติไม่ได้ ภาพของน้ำตาลที่กำลังเดินเข้าไปในเครื่องทำให้ปูนเจ็บร้าวไปทั้งใจแต่นั้นยังไม่เท่าวินาทีต่อมาที่เธอต้องหัวใจแหลกสลายจนไม่เหลือชิ้นดี ร่างบางไม่อาจหยัดยืนให้ตรงอยู่ได้ต้องล้มลงกองกับพื้นไม่เป็นท่า
“ผมคิดถึงคุณ”
แบงค์กล่าวด้วยน้ำเสียงลิงโลดใบหน้าคมเข้มส่งรอยยิ้มหวานให้น้ำตาลก่อนจะก้มลงหอมแก้มเธออย่างสนิทสนม เขาโอบกอดเธอเข้าไปในเครื่องอย่างไม่มีวี่แววของความละอายใจแม้แต่น้อย
“เพราะฉันไม่ยอมปล่อยเธอไปใช่ไหมเพราะแบบนั้นเธอถึงได้ทำร้ายฉันแบบนี้”
ปูนร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้นเธอทำได้เพียงแค่ยอมรับชะตากรรมอันแสนปวดร้าวที่เธอเป็นคนขีดขึ้นเองกับมือ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ยอมเจ็บปวดเพื่อรั้งแบงค์เอาไว้ข้างกายทั้งที่รู้ว่าเขาไม่รักเธอ เขาผิดที่ไม่ซื่อสัตย์กับเธอแต่เธอจะทำอย่างไรได้เมื่อเป็นเธอเองที่ไม่ยอมปล่อยมือจากเขาเพราะความรัก คงเป็นเพราะความรักเช่นกันที่ทำให้แบงค์และน้ำตาลไม่อาจปล่อยมือจากกันได้เช่นนี้ เพราะความรักทำให้เธอต้องยอมรับเรื่องนี้ให้ได้ และเพราะความรักทำให้แบงค์ยอมทรยศหักหลังเธอ และเพราะความรักอีกเช่นกันที่ทำให้น้ำตาลยอมตกนรกไปพร้อมกับคำสาปแช่งของผู้คน   
จบบริบูรณ์

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่